ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1642 ยังมีอีกสองกระเป๋า

แสงแดดยามบ่ายส่องเข้ามาในห้องรับแขก ฉินสือโอวนั่งบนโซฟาคลาสสิกสไตล์ในวังอันกว้างขวางพร้อมกาแฟหอมกรุ่นในมือ เบื้องหน้าของเขาคือชายร่างใหญ่ที่สามารถทำให้เกิดการสั่นคลอนได้เพียงการย่ำเท้าของเขาในอุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือยในสหรัฐอเมริกา คนที่ช่วยเขาชงกาแฟคือผู้ประสบความสำเร็จในโลกสุดหรูที่นิวยอร์ก ทุกอย่างราวกับฝัน เพียงแค่แสงอาทิตย์ร้อนเกินไป…
นิวยอร์กในเดือนมิถุนายนร้อนกว่าเซนต์จอห์นมาก ฉินสือโอวยังคงสวมสูทและเสื้อเชิ้ตในวันนี้ แม้ว่าจะมีเครื่องปรับอากาศส่วนกลางช่วยในการปรับอุณหภูมิ แต่ก็มีแสงแดดส่องถึงด้านหลังเขาโดยตรง แผดเผามาก
ยังดีว่าเวลาที่เขาอยู่ที่ห้องรับแขกไม่ถือว่านาน ลีฟเคาะประตูแล้วเดินเข้ามา หลังจากนั้นก็พาคาสเซิลและวินเซนต์จากไป ฉินสือโอวเดาว่าการประเมินอันดับของไข่มุกดำได้ออกมาแล้ว และพวกเขาก็ไปคุยเรื่องราคา
หลังจากที่ทั้งสามจากไป ฉินสือโอวก็เรียกนีลเซ็นและเบิร์ดเข้ามา ชี้ไปที่เมล็ดกาแฟอวบอ้วนเหล่านั้นพร้อมพูดขึ้นว่า “นั่นเป็นกาแฟบลูเมาท์เทน เคยดื่มกันหรือยัง?”
นีลเซ็นยิ้มอย่างงี่เง่า “ทุกครั้งที่ผมไปในเมือง ก็มักจะไปหาฮิวจ์และดื่มแก้วหนึ่งทุกครั้ง กาแฟรสชาติไม่เลวจริงๆ”
ฉินสือโอวถาม “ร้านของฮิวจ์ก็มีกาแฟบลูเมาท์เทนด้วยเหรอ?”
นีลเซ็นกล่าวด้วยความมั่นใจ “แน่นอนครับ ยังมีกาแฟขี้แมว กาแฟกัวเตมาลา รสชาติดีหมดเลยครับแต่ก็สู้บลูเมาท์เทนไม่ได้”
ฉินสือโอวอดไม่ได้ที่จะลอบถอนใจออกมา ช่างน่าเศร้าจริงๆ น่าเป็นห่วงไอคิวของลูกน้องพวกนี้ของเขาจริงๆ กาแฟบลูเมาท์เทนที่ร้านทิฟฟานี่เตรียมไว้จะไปเทียบกับร้านสะดวกซื้อในเมืองได้อย่างไร? แต่สิ่งนี้ก็บ่งบอกกลายๆ ว่ากาแฟบลูเมาท์เทนตอนนี้แพร่หลายไปทั่วโลก แล้วใครบอกว่าจีนอุดมไปด้วยสินค้าลอกเลียนแบบกัน? ที่แคนาดาก็ไม่น้อยเหมือนกันเถอะ
ในกายังมีกาแฟเหลืออยู่ครึ่งหนึ่ง เขาเทกาแฟครึ่งถ้วยให้ทั้งสองคน นีลเซ็นลองดมดูแล้วคิ้วก็ขมวดขึ้นมา หลังจากนั้นเมื่อชิมไปคำหนึ่ง ตาก็สุกสกาว “เชี่ย บอส กาแฟนี่อร่อยมาก!”
ฉินสือโอวยิ้มเยาะ “แน่ล่ะ เพราะนี่คือกาแฟบลูเมาท์เทนขนานแท้ ไปเลย นีลเซ็น ไปบดเพิ่มอีกหน่อย วันนี้พวกเราดื่มให้พอแล้วค่อยไป”
นีลเซ็นตอบว่า “อย่าเลยบอส ตอนนี้บอสรวยสุดๆ ถ้าคำพูดนี้หลุดออกไปจะถูกหัวเราะเยาะได้ครับ คุณลองคิดดู มีเศรษฐีและเจ้าชายหลายท่านมาร่วมงานแต่งบอส คุณเป็นคนสังคมระดับสูงแล้ว ความหมายที่ผมจะสื่อก็คือ ผมจะไปบดเพิ่มอีกหน่อย แต่ให้ผมกับเบิร์ดดื่มก็พอแล้ว”
ขณะที่พูดไป เขาก็โกยเมล็ดกาแฟขึ้นมาหนึ่งกำมือใส่เข้าไปในเครื่องบดเมล็ดกาแฟ มือขวายังถือกระเป๋าอยู่จึงไม่ค่อยสะดวก เขาจึงใช้มือขวาประคองไว้แล้วใช้มือซ้ายหมุน เมื่อเป็นเช่นนี้การปฏิบัติงานด้วยสองมือสลับไปมาก็คล่องตัวเช่นกัน
ฉินสือโอวคิดทบทวนดู ก็จริง ตอนนี้เขาเป็นถึงสมาชิกคณะกรรมการของบอมบาร์เดียร์ เจ้าของฟาร์มปลาที่ใหญ่ที่สุดในแคนาดา ประธานพันธมิตรการประมงนิวฟันด์แลนด์ และยังเป็นเจ้าของบริษัทกู้ซากในมหาสมุทรในนามด้วย เป็นบุคคลชนชั้นสูงอย่างแท้จริง แต่ทำไมในบางครั้งเขาเองยังทำตัวจนอย่างนี้นะ?
แล้วเบิร์ดก็พูดขึ้นว่า “ผมว่า ทำไมพวกเราต้องบดเมล็ดกาแฟที่นี่ด้วย? เอากลับไปก็จบแล้วไม่ใช่เหรอ?”
ฉินสือโอวส่ายศีรษะไปมาอย่างจริงจัง “ไม่ได้ นี่เป็นการกระทำของขโมย”
“ไม่อย่างนั้นคุณก็ไปหาคุณทิฟฟานี่ก็จบแล้วไม่ใช่เหรอ ผมกล้าพนันเลยว่าเขาต้องยินดีมากๆ ที่เห็นฉากนี้”
ฉินสือโอวส่ายศีรษะอย่างจริงจังต่อ “ไม่ได้ ฉันจะมาทำเป็นจนไม่ได้ละ นีลเซ็นพูดถูก ฉันเป็นถึงเศรษฐีแล้ว วันหลังฉันต้องใกล้ชิดกับบุคคลชนชั้นสูง นีลเซ็น บดให้ไวหน่อย อาศัยโอกาสที่พวกเขาไม่อยู่ดื่มเยอะหน่อย”
เบิร์ด “…”
เมื่อกลับมาอีกครั้ง วินเซนต์และคาสเซิลเชิญฉินสือโอวเข้าไปในห้องทำงานของผู้จัดการ ลีฟรออยู่ในนั้นแล้ว ข้างๆ เธอยังมีกล่องที่เต็มไปด้วยไข่มุกดำ รอจนเขาเข้าไป ลีฟก็เชิญเขาให้เช็กดูสภาพของไข่มุกดำ ฉินสือโอวโบกมือบอกว่าไม่ต้อง ยังคงมีความเชื่อใจในร้านทิฟฟานี่อยู่
วินเซนต์ถามว่า “คุณฉิน ตอนนี้ผมขอถามคุณอย่างจริงจังเลยว่า คุณสามารถพิสูจน์ความเป็นมาของไข่มุกดำพวกนี้ได้ไหม?”
ฉินสือโอวแอบเบะปากในใจ คนพวกนี้สนใจที่จะพิสูจน์ความเป็นมาของพวกนี้อยู่จริงๆ เหรอ? ถ้าคุณสนใจจริงๆ ทำไมคุณถึงนำไข่มุกดำออกมาในลักษณะลักลอบด้วย? แต่นี่ก็คิดได้เพียงในใจ พูดออกมาตามที่คิดไม่ได้จริงๆ เขาบอกว่า “ที่มาของไข่มุกดำไม่มีปัญหา”
“ถ้าอย่างนั้นคุณแน่ใจนะว่าจะขายต่อให้พวกเรา?” วินเซนต์ถามต่อทันที
ฉินสือโอวพยักหน้า “แน่ใจครับ”
หน้าวินเซนต์เผยให้เห็นรอยยิ้มออกมา เขายื่นมือออกมาเพื่อบอกเป็นนัยๆ คาสเซิลจึงยื่นรายงานฉบับหนึ่งให้ฉินสือโอว ซึ่งมีการวิเคราะห์และใบเสนอราคาของผู้เชี่ยวชาญด้านไข่มุกของทิฟฟานี่เกี่ยวกับไข่มุกดำ ถือว่าเป็นเอกสารเบื้องต้นของไข่มุกดำ
ฉินสือโอวเห็นใบเสนอราคา ราคาของไข่มุกดำเหล่านี้มีตั้งแต่ 50,000 ดอลลาร์ถึง 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ ใบเสนอราคาของไข่มุกดำลำไยสูงที่สุดคือ 350,000 และราคารวมทั้งหมดของไข่มุกดำ 108 เม็ดคือ สิบแปดล้านดอลลาร์
ราคานี้ค่อนข้างต่ำไปหน่อย เห็นได้ชัดเลยว่าพ่อค้าวินเซนต์คิดจะแสวงหากำไรจากเขา แต่ทว่าหลังจากพิจารณาอยู่พักหนึ่ง ฉินสือโอวพูดขึ้น “ราคาทั้งหมดยี่สิบล้าน แต่ผมจะเพิ่มไข่มุกดำอีก 10 เม็ดให้ซึ่งแต่ละเม็ดมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 10 มิลลิเมตร คุณคิดว่าไง?”
คาสเซิลและลีฟต่างมองไปทางวินเซนต์ วินเซนต์พยักหน้าแล้วกล่าวว่า “โอเค ราคานี้ผมรับได้ ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้นะ?”
ลีฟออกไปสักพักแล้วเดินกลับมาพร้อมสัญญาสามฉบับ หลังจากที่ฉินสือโอวและวินเซนต์เซ็นชื่อเรียบร้อย ฝ่ายหลังก็ถามขึ้นว่า “ขอถามหน่อยครับว่าเมื่อไรจะเอาไข่มุกดำที่เหลืออีก 10 เม็ดมาให้?”
ฉินสือโอวดีดนิ้ว เบิร์ดและนีลเซ็นที่อยู่หน้าประตูเดินเข้ามา เบิร์ดปลดกุญแจมือออก เปิดกระเป๋าเดินทางเผยให้เห็นโครงนุ่มๆ ก่อนหนึ่งชั้น ด้านบนฝังไข่มุกดำที่มีจำนวนมากกว่ากล่องที่อยู่ข้างลีฟเอาไว้
เมื่อเห็นไข่มุกดำเหล่านี้เปล่งประกายแวววาวดูลึกลับ ดวงตาของวินเซนต์พลันเบิกกว้าง ลีฟก็ตะลึงเช่นกัน ไม่ทันเก็บอาการและท่วงท่าที่สง่างามที่ฝึกฝนมาหลายปี ได้แต่อ้าปากแล้วพูดว่า “เชี่ย!”
ฉินสือโอวเลือกไข่มุกดำออกมา 10 เม็ดแล้ววางไว้บนโต๊ะ ท่าทางของฉินสือโอวชิลล์มาก ราวกับว่าสิ่งที่อยู่ในมือเขาไม่ใช่ไข่มุกดำแต่เป็นลูกแก้ว ลูกกระเดือกของคาสเซิลสั่นเล็กน้อย แววตามีความตื่นตระหนก
วินเซนต์พยายามเก็บอาการให้นิ่งไว้ แต่เสียงที่สั่นเทาของเขาก็แสดงให้เห็นถึงความตื่นเต้นที่อยู่ภายในใจ “คุณยังมีไข่มุกดำอีกเยอะเลยเหรอเนี่ย? ในลังนี้อย่างน้อยก็ต้องมีไข่มุกดำราว 200 เม็ดได้ใช่ไหมครับ?”
กระเป๋าเดินทางที่เบิร์ดและนีลเซ็นล็อกไว้กับข้อมือ ยังเม็ดใหญ่กว่าของฉินสือโอวอีกมาก
ฉินสือโอวดีดนิ้วอีกครั้ง เบิร์ดดึงโครงนุ่มๆ ออกมาจึงเผยให้เห็นโครงนุ่มอีกชั้นหนึ่ง  ทำแบบนี้ซ้ำๆ ถึงสี่ครั้ง โครงนุ่มทั้งหมดสี่ชั้นถูกดึงออกมาหมด ซึ่งบนโครงนั้นเป็นไข่มุกดำกลมแวววาวใสราวกับคริสตัลทั้งนั้น!
“โอ้ว เชี่ยเอ๊ย!” วินเซนต์ส่งเสียงราวกับ** เขาอาจจะเจตนาที่ส่งเสียงออกมาแบบนี้ เพราะอย่างไรเขาก็เป็นคนที่ผ่านอะไรมามาก แต่ทว่าเมื่อมีไข่มุกดำมากมายขนาดนี้ปรากฏตรงหน้าเขา ก็สามารถทำให้เขารู้สึกตกใจจริงๆ
ที่สำคัญยิ่งกว่าคือ เขามองไปที่กระเป๋าเดินทางสีดำอีกใบในมือนีลเซ็น แล้วถามขึ้น “อย่าบอกผมนะว่า ด้านในนั่นก็เป็นไข่มุกดำเหมือนกัน”
ฉินสือโอวยักไหล่แล้วกล่าวว่า “ใช่ครับ นอกจากที่ขายให้พวกคุณแล้ว ผมยังมีไข่มุกดำอีกสองกระเป๋า”
……………………….
Related

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset