ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1659 ช่วยเหลือปลาโลมา

แต่ที่แย่ยิ่งกว่าคือ กรีนแลนด์ในฐานะประเทศอธิปไตยได้ยื่นฟ้องบริษัท กู้ซาก ดีพโอเชี่ยน ฟิช จำกัด โดยอ้างว่าเรือที่จมอยู่ในน่านน้ำของประเทศตนและสมบัติที่อยู่ภายในเป็นของพวกเขาและเรียกร้องให้ส่งคืน
สหรัฐฯเฝ้าดูฉากนี้อย่างกระตือรือร้นโดยอยู่ห่างเพียงมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ พวกเขาก็อยากเข้าไปมีส่วนร่วมเอี่ยวด้วยสักหน่อย แต่น่าเสียดายที่สมบัติเหล่านี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับพวกเขาเลย เรือโจรสลัดไม่ได้เป็นของพวกเขา ตำแหน่งของเรืออับปางไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขา สมบัติไม่ได้เป็นของพวกเขา ไม่มีแม้แต่คนอเมริกันบนเรือโจรสลัด แน่นอนว่า ตอนนั้นสหรัฐอเมริกายังเป็นอาณานิคมของอังกฤษอยู่
อย่างนี้ก็นับว่าโชคดีแล้ว เพราะถ้ายังมีส่วนเกี่ยวข้องกับสหรัฐอเมริกาด้วย เช่นนั้นคงเรียกว่าโชคร้าย เพราะพ่ออาณาจักรอเมริกาคงไม่มาพูดกับคุณด้วยเหตุผล แย่งได้ก็แย่ง จะไปสนใจอะไรกับกฎหมายประเทศ กฎหมายทะเล กฎหมายการกู้ซากเรืออับปางพวกนั้น
คนที่โกรธที่สุดก็ยังคงเป็นบิลลี่ เขาเป็นนายน้อยคนที่สองของบริษัทโอดิสซีย์ มารีน เอ็กซ์โพลเรชั่น ไม่กี่ปีก่อนครอบครัวของเขาเคยบังคับขู่เข็ญรัฐบาลสเปนเรื่องกรรมสิทธิ์ทั้งหมดในเหรียญเงินและทองที่อยู่บนเรือเมอร์เซเดสที่กู้ซากออกมาได้ ในเวลานั้นมีการต่อสู้คดีเป็นเวลา 5 ปี แต่ในที่สุดพวกเขาก็แพ้คดี
หลังถูกฟ้องร้อง บิลลี่กับเบลคก็บินมาที่เกาะแฟร์เวลทันที มาหาฉินสือโอวเพื่อปรึกษาว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไรก่อนเลย แบรนดอนที่ตอนนี้กำลังเตรียมงานแต่งงานก็ไม่เตรียมต่อแล้ว เขารีบมาโดยใช้ทางที่เร็วที่สุด ครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่โตจริงๆ!
เมื่อเจอฉินสือโอว บิลลี่ก็เริ่มก่นด่า “ไอ้สเปนสมควรตาย ทำไมถึงยังมีประเทศขี้โกงแบบนี้อยู่บนโลกใบนี้อีกวะ? เชี่ย เชี่ย เชี่ยเอ๊ย! ตอนนั้นถ้าไม่ได้สมุดบันทึกเรือดังเคิลออสเตียสของตระกูลเฟอร์ดินัน คลาวด์ จากนายล่ะก็ ป่านนี้พวกเราขาดทุนย่อยยับแล้วเนี่ย!”
เดือนกุมภาพันธ์ ปี พ.ศ.2555 ศาลสูงสุดสหรัฐอเมริกาได้ทำการตัดสินคดีเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของสมบัติบนเรือเมอซี่ ระหว่างรัฐบาลสเปนและบริษัทโอดิสซีย์ ผลสุดท้ายปรากฏว่า บริษัทโอดิสซีย์ต้องนำเงินจากการกู้ซากคืนทั้งหมด สเปนได้รับชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่!
ในเวลานั้นหลังจากที่คดีนี้ถูกตัดสินออกมา ตระกูลสเต็มเมอร์ของบิลลี่ทั้งตระกูลเกือบแทบกระอักเลือด สมบัติบนเรือเมอซี่กู้ออกมาได้เท่าไรนะหรือ? พูดแค่อันที่สำคัญก็พอ มีเหรียญเงินและทองน้ำหนักรวม 49,000 ปอนด์ รวม 594,000 เหรียญ และมีเครื่องประดับรวมถึงรูปปั้นทางศาสนาอีก มูลค่ารวมกันมหาศาล!
ถ้าตอนนั้นสมบัติเหล่านี้เป็นของตระกูลสเต็มเมอร์ ตอนนี้บิลลี่จะมาทำงานให้เหนื่อยทำไม เงินที่แบ่งก็ทำให้เขาใช้สบายไปตลอดทั้งชีวิตแล้ว
อย่างไรก็ตามจากสมุดบันทึกของเรือดังเคิลออสเตียสที่ฉินสือโอวได้มาทั้งหมด ตระกูลสเต็มเมอร์ได้ทำการเจรจาลับกับรัฐบาลสเปน ท้ายสุดจึงได้สมบัติมาส่วนหนึ่ง แต่ทว่าตอนนั้นพวกเขาไม่ได้กำไรอะไรมาก เพราะพวกเขาเสียทั้งเงินและเวลาไปมากกับการกู้เรือเมอซี่ขึ้นมา
ตอนนี้รัฐบาลสเปนใช้กลอุบายเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วคนที่โชคร้ายก็ยังคงเป็นบิลลี่ แบบนี้จะไม่ให้เขาโกรธได้อย่างไร?
ปริมาณสมบัติบนเรือโจรสลัดขวานดำน้อยกว่าเรือเมอซี่มาก เพราะอย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นแค่หนึ่งในบรรดาเรือโจรสลัดมากมายที่ปล้นของมาจากเมืองท่า ทว่าหากคำนวณจากมูลค่าสมบัติก็ไม่ได้แพ้ให้กับเรือเมอซี่เลย เพราะสมบัติที่นี่มีการเก็บรักษาอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และใหม่เอี่ยม ไม่เพียงแต่มีมูลค่าในการสะสมแต่ยังมีมูลค่าในการสำรวจทางประวัติศาสตร์ด้วย!
เบลคก็เคยบอกไว้ตั้งแต่ต้นว่า สมบัติเหล่านี้เอามาจัดงานประมูลในหัวข้อพิเศษได้ ไม่เพียงแต่สามารถดึงดูดนักสะสมและเศรษฐี แต่ยังสามารถดึงดูดนักวิจัยประวัติศาสตร์ยุโรปจากประเทศต่างๆ ซึ่งสิ่งนี้ล้วนเป็นเหตุผลที่ทั้งสเปนและกรีนแลนด์ต่างถูกล่อลวง
เรื่องต่างๆ เกี่ยวข้องกับทางด้านกฎหมาย ฉินสือโอวจึงต้องรับมืออย่างระมัดระวัง เขาบอกบิลลี่และทั้งสามว่าอย่าเพิ่งร้อนใจไป เรื่องนี้ต้องขอให้เออร์บักชี้แนะ คุณปู่คงต้องออกโรงอีกครั้ง
ฉินสือโอวคิดจะหาปู่เออร์บัก แต่ปรากฏว่าเขาวิ่งรอบฟาร์มปลาสองรอบแล้วก็ยังไม่เจอ เขาจึงทำได้เพียงไปถามหู่จือและเป้าจือ “คุณปู่ไปไหนแล้ว?”
หู่จือและเป้าจือที่กำลังพักผ่อนหลบร้อนอยู่ใต้ร่มไม้ เมื่อเห็นฉินสือโอวใกล้เข้ามาก็รีบยืนขึ้น ใช้หัวถูไถที่เข่าของเขาด้วยความสนิทสนม ส่ายหัวไปมาและกระดิกหางดิ๊กๆ หรี่ตาเล็กพร้อมกับแลบลิ้น ทำท่าทางราวกับว่าฉันเป็นเด็กดี เชื่อฟัง ชมฉันหน่อยสิ
บิลลี่ที่ตามเขามาร้อนใจแล้ว ร้องขึ้นว่า “ฉิน นี่มันเวลาไหนแล้ว นายยังจะมีเวลาว่างมานั่งเล่นแถวนี้อีกเหรอ? ไปถามพวกชาวประมงเลยว่าคุณเออร์บักไปไหนแล้ว”
ฉินสือโอวโบกมือ “ถามพวกมันสองตัวน่าเชื่อถือได้มากสุดแล้ว”
พอพูดจบ เขาก็เลือกรูปเออร์บักในมือถือแล้วถามขึ้น “คุณปู่ไปไหนแล้ว?”
หู่จือและเป้าจือมองดูรูป หลังจากนั้นก็หันหน้าไปทางถนนเข้าเมืองพร้อมร้องขึ้นมา แล้ววิ่งออกไป
ฉินสือโอวมองไปทางบิลลี่อย่างมีชัยชนะ “เป็นไง พวกมันสองตัวน่าเชื่อถือที่สุดแล้วใช่ไหม?”
หู่จือและเป้าจือวิ่งนำทางอยู่ข้างหน้า ส่วนฉินสือโอวและบิลลี่นั่งรถเอทีวีตามไป แลบราดอร์วิ่งเก่งมากจริงๆ วิ่งจนเบลครู้สึกสงสารแทน จึงพูดขึ้น “อากาศร้อนขนาดนี้ ให้เจ้าสองตัวนี้ขึ้นมาบนรถก่อนดีไหม?”
ฉินสือโอวตอบ “ไม่ต้องกังวลเลย พวกมันสบายมาก พละกำลังของลูกๆ ฉันมีมากอยู่แล้ว วิ่งเยอะๆ หน่อยถือว่าเป็นสิ่งที่ดี”
บิลลี่พึมพำ “ก็จริง สัตว์ที่บ้านนายไม่ว่าจะเป็นหมาหรือปลาก็แตกต่างกันไปหมด น่าแปลกจริงๆ”
ฉินสือโอวยิ้ม “นี่เรียกว่าที่ฮวงจุ้ยดี ไม่เข้าใจใช่ไหมล่ะ?”
บิลลี่ทำหน้าเคอะเขินแล้วพูดขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้นนายก็หาที่ฮวงจุ้ยดีให้ฉันสักที่สิ”
ฉินสือโอวพยักหน้า “วางใจเถอะ หลังจากนายตายแล้ว ฉันจะหาที่ฮวงซุ้ยดีๆ วางโลงศพนาย ให้ลูกหลานนายเจริญรุ่งเรือง!”
 บิลลี่ “…”
หู่จือและเป้าจือวิ่งมาตลอดทางเข้าไปในเมือง จากนั้นก็ผ่านเส้นทางในเมืองไปไปยังท่าเรือ ฉินสือโอวไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ดีๆ ปู่เออร์บักถึงมาที่ท่าเรือในเมืองได้  จนสุดท้ายมาค้นพบว่า มีนักท่องเที่ยวมากมายรวมตัวกันรอบท่าเรือ วินนี่ก็อยู่ด้วย
ฉินสือโอวถามขึ้น “เกิดไรขึ้น? นี่คือ?”
วินนี่พอเห็นเขาก็โบกมือด้วยความดีใจ พูดขึ้น “ปลาโลมาคลอดลูกแล้ว ปลาโลมาปากขวดมาริซ่ากำลังจะคลอด มาดูเร็ว”
พอได้ยินคำพูดนี้ ฉินสือโอวก็ตื่นเต้นขึ้นมา “ทำไมผมไม่รู้ล่ะ?”
ใกล้ๆ กับท่าเรือ ปลาโลมาปากขวดเพศเมียสวยงามตัวหนึ่งกำลังโค้งงอร่างกาย และงอส่วนหางมากเป็นพิเศษ พลิกตัวดิ้นไปมาไปมาอยู่ในน้ำ
ด้านข้างมีเรือลำหนึ่งจอดอยู่ เออร์บักถลกแขนเสื้อขึ้นยืนอยู่บนเรือพยายามช่วยตบไปที่ส่วนหางของปลาโลมา
ฉินสือโอวถามด้วยความประหลาดใจ “นี่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นปลาโลมาคลอดลูก ทั้งหมดนี้จึงเป็นเรื่องแปลกตาสำหรับเขา
วินนี่ที่พอจะรู้เรื่อง จึงอธิบายว่า “ตอนที่ปลาโลมากำลังจะขยายพันธุ์ มันต้องว่ายน้ำด้วยความเร็วสูงเพื่อให้เกิดแรงดันแล้วคลอดลูกปลาโลมาออกมาได้  แต่ว่ามาริซ่าไม่มีครีบหาง เธอจึงว่ายไม่ได้ จึงพยายามเข้ามาใกล้ท่าเรือเพื่อให้คนช่วย”
นักท่องเที่ยวคนหนึ่งกล่าวว่า “ปลาโลมาตัวนี้ออกจากฝูงไปตั้งแต่เที่ยงแล้ว มองหาเรือพวกเราและพยายามเข้ามาใกล้ ตอนนั้นพวกเราไม่รู้ว่ามันจะคลอดลูก กลัวเรือจะชนถูกมันเข้าจึงขับถอยห่างออกไปตลอด สุดท้ายพวกเราถอยจนมาใกล้ท่าเรือ มันก็ตามมาด้วย”
“ปลาโลมาเหล่านี้เคยได้รับอันตรายจากมนุษย์ แต่เมื่อใดที่พวกมันต้องการความช่วยเหลือยังคงเป็นฝ่ายมาหามนุษย์เอง หัวใจของพวกมันช่างไร้เดียงสานัก” คนที่อยู่ข้างๆ พูดขึ้น
เออร์บักและฮิวจ์คนน้องยังตีร่างกายส่วนล่างของปลาโลมาตัวนี้อยู่ สร้างแรงกดคล้ายน้ำทะเลมาเพื่อช่วยให้ปลาโลมาตัวนี้คลอดลูกออกมาได้
ด้านหนึ่งฉินสือโอวก็ป้อนพลังงานโพไซดอนให้มัน อีกด้านหนึ่งก็ดึงเรือให้หันข้างลากใกล้เข้ามา เมื่อเป็นแบบนี้โลมาจะถูกขนาบอยู่ตรงกลาง เป็นการช่วยกระทุ้งร่างกายของมันได้ด้วย
…………………………….
Related

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset