ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1668 กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเบอร์รี

ในตอนเช้าตรู่ หลังจากฉินสือโอวล้างหน้าล้างตาแล้วก็เตรียมตัวออกไปวิ่ง กอร์ดอนและไวส์ก็เดินทะเลาะกันออกมาจากในห้อง คนหนึ่งตะโกนว่า ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ อีกคนตะโกนว่า ‘เตะผ่าหมาก’ พวกเขาทะเลาะกันตลอดทางไม่หยุด
ฉินสือโอวกลอกตาไปมาและดึงทั้งสองคนไว้พร้อมกับพูดอย่างไม่พอใจว่า “ทะเลาะอะไรกันแต่เช้า? ทำไมพวกนายไม่นอนอยู่เฉยๆ ล่ะ?”
ไวส์พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “ผู้ที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ควรฝึกบ่อยๆ ทั้งตอนเช้าทั้งเย็น ถึงจะประสบความสำเร็จ!”
หลังจากได้ยินเช่นนั้น ฉินสือโอวพยักหน้าคิดว่ามันก็สมเหตุสมผล
กอร์ดอนโกรธจนแทบจะร้องไห้ “นี่มันบ้าอะไรกันไวส์ นายฝึกเองได้และฉันก็ไม่ใช่นักศิลปะการต่อสู้ ทำไมนายต้องปลุกฉันด้วย?”
“ก็ฉันซ้อมคนเดียวแล้วมันน่าเบื่อ” ไวส์พูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ฉินสือโอวทำได้เพียงพาพวกเขาออกไป แต่ไวส์ต้องการเรียนรู้ทักษะการต่อสู้ของอาจารย์ จึงไม่ยอมออกไปง่ายๆ แบบนี้
เมื่อหมดหนทาง ฉินสือโอวต้องสอนให้เขาให้ความสำคัญกับทักษะพื้นฐาน จึงนำคำพูดของอาจารย์ที่โรงเรียนมัธยมต้นมาแนะนำ ถ้าทักษะพื้นฐานไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างดีทุกอย่างก็ไม่มีประสิทธิภาพ
ถึงอย่างไรไวส์ก็ยังไร้เดียงสา เขาพยักหน้าหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้และออกไปอย่างเชื่อฟัง
อาหารเช้าจะต้องเอาความสดใหม่เป็นหลัก ฉินสือโอวให้วินนี่นอนเฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร เขาทำไข่เจียวต่างๆ ไว้แล้วเอาขิงฝรั่งหมักและไข่เป็ดดองออกมา จากนั้นก็เอาหัวไชเท้าผสมกับซอสถั่วเหลืองและน้ำส้มสายชูเพื่อทำเป็นผักดองขนาดเล็ก เสิร์ฟพร้อมนมและแพนเค้กก็ใช้ได้แล้ว
แน่นอนว่าของอีวิลสันคือ พาย พิซซ่าและแซนด์วิชหนึ่งถาด เขาไม่เลือกกิน มีอะไรก็กินอันนั้น
เออร์บักยิ้มหลังจากมาถึงโต๊ะแล้วพูดว่า “อาหารเช้าที่บ้านเราเป็นการผสมผสานระหว่างอาหารจีนและตะวันตกสินะ?”
ฉินสือโอวว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสุขภาพ การผสมผสานระหว่างจีนและตะวันตกจะช่วยทำให้มีสุขภาพดี”
เสี่ยวเถียนกวามองไปที่ไข่เจียวและนมพร่องมันเนยที่อยู่ตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ จึงใช้มือเล็กๆ ตบโต๊ะพร้อมกับเริ่มส่งเสียง “เนื้อๆ จะกินเนื้อ!”
เด็กหญิงตัวเล็กชอบกินเนื้อมากและนี่อาจจะเกี่ยวข้องกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของเธอก็ได้ แต่ฉินสือโอวไม่ต้องการให้เธอกินแบบนี้ เพราะระบบทางเดินอาหารของเด็กยังไม่ขยายมากพอ ดังนั้นการกินแบบนี้จึงไม่ค่อยดีเท่าไรนัก
ฉินสือโอวต้องการหลอกล่อให้เถียนกวากินผัก วินนี่จึงตีเขาเบาๆ และพูดว่า “ไม่ต้องห่วง พอขึ้นเขาก็หิวแล้ว ให้เธอกินผลไม้เถอะ”
เด็กหญิงตัวเล็กเริ่มเข้าใจในสิ่งที่ผู้ใหญ่พูดแล้ว เธอจึงคิดถึงรสชาติของผลไม้และมองไปที่ไข่เจียวที่อยู่ตรงอีกครั้ง จากนั้นก็ใช้มือเล็กๆ จิ้มไข่ดาวกินอย่างเต็มปากเต็มคำ
ฉินสือโอวอาศัยช่วงที่แสงอาทิตย์ยังคงสว่างอยู่ เอากระเป๋าทั้งใบเล็กและใบใหญ่ใส่บนหลังของอีวิลสันและฉงต้า จากนั้นก็พาเบิร์ด นีลเซ็นและครอบครัวเดินไปที่เทือกเขาเคอร์บัล
ซึ่งขณะนี้ได้เข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว ต้นไม้ทุ่งหญ้าสีเขียวและดอกไม้สีแดงอันสวยสดงดงามบนเขา นกบางชนิดก็บินไปมาในป่าตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีกระต่ายป่าสนออกมาวิ่งเพ่นพ่านให้เห็นอยู่บ้างและมีกลิ่นอายอันหอมหวนจากธรรมชาติที่บริสุทธิ์
มีผลเบอร์รีป่าจำนวนมากทางตะวันออกเฉียงใต้ของแคนาดา แม้แต่รัฐบาลยังส่งเครื่องบินที่ใช้ในการเกษตรออกมาที่พื้นที่เหล่านี้ทุกปี เพื่อหว่านเมล็ดผลไม้ป่าในป่า เนื่องจากมีการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดีและไม่ค่อยมีมลพิษ ผลไม้ป่าเหล่านี้จึงกลายเป็นแหล่งผลไม้ในท้องถิ่นที่ได้รับการยกย่องจากรัฐบาลว่าเป็นสวัสดิการสำหรับประชาชน
บนเทือกเขาเคอร์บัลจะมีผลเบอร์รีมากมายเป็นพิเศษ แต่ไม่สามารถเดินตามถนนได้ เพราะมีนักท่องเที่ยวทุกวัน ตามสองข้างทางไม่ว่าจะมีผลไม้ป่ามากมายกี่ชนิดก็ตามก็จะถูกเก็บมาอย่างสะอาด
ครั้งนี้พวกเขาจะเดินจากฟาร์มปลาขึ้นไปบนเขา หลังจากเหยียบย่ำเส้นทางเดิมมาได้สี่ปีแล้ว เส้นทางอันเลือนรางเส้นนี้ก็ชัดเจนขึ้นและสามารถเดินได้อย่างสะดวก
เพียงแค่เดินขึ้นภูเขาไปไม่กี่สิบเมตร ต้นผลไม้บลูเบอร์รีขนาดใหญ่ก็จะปรากฏขึ้น
บลูเบอร์รีเป็นผลไม้ที่พบมากที่สุดในแคนาดาและมี 2 ประเภทหลักๆ อย่างแรกคือไม้พุ่มเตี้ย พืชป่าแคระขนาดเล็กและอุดมไปด้วยแอนโทไซยานิน อย่างที่สองคือบลูเบอร์รีที่คนปลูก ซึ่งสามารถเติบโตและมีสูงได้ถึงสามถึงสี่เมตร ผลที่ได้จะมีขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยเนื้อ และช่วยเพิ่มรสชาติของบลูเบอร์รีป่า เมื่อกินเข้าไปจะมีรสหวานมากขึ้น แต่กลิ่นจะไม่หอมสดชื่นเหมือนบลูเบอร์รีชนิดแรกจากธรรมชาติ
บลูเบอร์รีบนเขาเป็นผลไม้เบอร์รีป่าทั้งหมด ไม้พุ่มบลูเบอร์รีต้นนี้ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยดวงดาวสีฟ้า เพราะมีผลสีน้ำเงินเข้มเล็กๆ เกาะอยู่บนนั้นเต็มไปหมดและค่อยๆ เคลื่อนไหวตามแรงลม ในขณะพวกเขาเจอไม้พุ่มต้นนี้ก็ยังเห็นว่ามีนากหญ้าตัวหนึ่งกำลังกัดกินอาหารอยู่ในนั้น
เมื่อเห็นนากหญ้าน้อยตัวนั้นแล้ว หู่จือเป้าจือหลัวปอและซิมบ้าต่างก็พากันตื่นเต้น จึงวิ่งโผเข้าใส่พร้อมกับส่งเสียงกรีดร้อง
นากหญ้าน้อยตัวนั้นก็รู้สึกกลัวขึ้นทันที ฉันกินผลไม้แค่ไม่กี่ลูกที่นี่เอง คิดไม่ถึงว่าจะล่อให้เจ้าพวกตัวใหญ่พวกนี้ตามฉันมาได้?
ฉินสือโอวจึงร้องตะโกน หู่เป้าฉงหลัวก็หยุดฝีเท้าลงด้วยความลังเล นากหญ้าน้อยจึงตอบสนองกลับด้วยการสั่นตัวและหายตัวเข้าไปในพุ่มไม้
ในเมื่อหาผลเบอร์รี่เจอแล้วก็ต้องเก็บมัน ผู้ใหญ่ไม่ได้สนใจกิจกรรมแบบนี้มากนัก แต่วัยรุ่นจะชอบมาก เชอร์ลี่ย์และกอร์ดอนจึงวิ่งไปเก็บและกินมัน
เถียนกวาวิ่งเหยาะๆ ไปตาม ไม้พุ่มเหล่านี้สูงไม่ถึงครึ่งเมตร เธอจึงสามารถก้มไปเก็บมันได้อยู่ดี เมื่อเก็บมาได้มา 2 ลูกก็ยัดใส่ปากพร้อมกับมองดูคนอื่นกินอย่างมีความสุข จึงยิ่งทำให้เธอกินตามอย่างมีความสุขเช่นกัน
หลังจากกินไปสักพัก กอร์ดอนก็เริ่มใจจดใจจ่อเก็บผลไม้ หลังจากเก็บได้เต็มกระเป๋าแล้วก็เอากลับไปให้ฉินสือโอว
ฉินสือโอวรู้สึกโล่งใจทันทีที่เด็กๆ เหล่านี้ไม่ได้เลี้ยงเสียข้าวสุก อย่างน้อยก็รู้ว่าต้องกตัญญูต่อเขา
สุดท้ายกอร์ดอนถือกระเป๋าไว้ในมือข้างหนึ่งพร้อมกับยื่นออกมาและแบมืออีกข้างออกแล้วถามว่า “กระเป๋าใบนี้ราคาเพียง 20 ดอลลาร์แคนาดา ฉินคุณซื้อไหม?”
เพียงแค่ประโยคเดียว ความรู้สึกก็หายไปไม่เหลือ ฉินสือโอวจึงพูดอย่างไม่พอใจว่า “ซื้อบ้าอะไรกัน ฉันไม่ชอบกิน”
ไวส์ก็เก็บมาได้บ้างเล็กน้อย จึงนั่งลงข้างๆ ฉินสือโอวและค่อยๆ กินอย่างช้าๆ ฉินสือโอวจึงแย่งถุงมาและแบ่งให้กับวินนี่
ไวส์ตกใจแล้วพูดว่า “อาจารย์ คุณไม่กินไม่ใช่เหรอ?”
ฉินสือโอวตบหัวเขาและพูดว่า “ใช่ อาจารย์ไม่ชอบกิน แต่จะให้เสียความตั้งใจความคิดของลูกศิษย์ได้เหรอ?”
ไวส์บ่นพึมพำว่า “อันที่จริงนี่ไม่ใช่ความตั้งใจของผม…”
ฉินสือโอวจ้องที่เขา เมื่อเช่นนั้นเขาก็เปลี่ยนคำพูดทันที “นี่ไม่ใช่ความตั้งใจที่ผมจะให้กับอาจารย์ เพราะมันน้อยเกินไป ดังนั้นผมจึงอยากจะไปเก็บมาให้อาจารย์ให้ได้มากกว่านี้”
เมื่อเป็นเช่นนั้น ฉินสือโอวจึงพยักหน้าอย่างพึงพอใจและพูดว่า “ถือว่านายมีใจ แต่มันก็มีน้อยจริงๆ ไปสิ ไปเก็บต่อเถอะ”
ผลในต้นบลูเบอร์รีต้นเล็กๆ ดูเหมือนจะมีจำนวนมาก แต่อันที่จริงมันมีน้อยมากจนกินได้ไม่นานก็หมด พวกเขาจึงต้องเปลี่ยนต้นไปเรื่อยๆ
ขณะที่เดินๆ อยู่ หมูป่าตัวน้อยก็วิ่งไล่ตามไก่ป่าเฮเซลออกมา หู่จือและเป้าจือก็กำลังเดินเล่นอยู่ข้างหน้าพอดี จู่ๆ สัตว์ป่าตัวน้อยทั้งสองก็ออกมาอย่างกะทันหันจนพวกมันตกใจ จากนั้นเจ้าตัวเล็กก็ล้อมรอบเป็นวงกลม กันสัตว์ป่าทั้งสองตัวไว้
เมื่อฉินสือโอวเห็นเหตุการณ์นี้ก็หัวเราะเสียงดังขึ้นและพูดว่า “นี่มันรอคอยผลประโยชน์จากโดยไม่ยอมลงทุนทำอะไรเลยจริงๆ”
หมูป่าตัวน้อยพบว่ามีบางอย่างผิดปกติจึงต้องการวิ่งออกไป หู่จือไปกดทับมันให้ล้มลง จริงๆ แล้วหมูป่าตัวน้อยก็ไม่ได้ตัวเล็ก ขนาดตัวของมันเท่ากับครึ่งหนึ่งของหมูป่าตัวใหญ่ มีน้ำหนักมากกว่า 70 กิโลกรัม แต่กลับถูกสุนัขที่ตัวเล็กกว่ามันจับได้กดลงได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าตอนนี้แลบราดอร์มีพลังและแรงปะทะได้น่ากลัวมาก
การขึ้นเขาในครั้งนี้ไม่ได้มาเพื่อล่าสัตว์ พวกเขานำอาหารมาด้วย ดังนั้นฉินสือโอวจึงไม่ต้องการฆ่าหมูป่าตัวน้อยตัวนี้ พอหู่จือขึ้นไปทับมัน เจ้าพวกตัวเล็กตัวคนอื่นๆ ไม่ยอม แต่ละตัวรีบโผเข้าใส่ทันที พอฉินสือโอวตะโกนร้องเรียก พวกมันถึงออกมา หมูป่าที่ถูกทำร้ายจึงมีเพียงแค่ลมหายใจออกแต่ไม่มีลมหายใจเข้าแล้ว…
……………………
Related

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset