ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 221 ถ้าคำขอโทษมีประโยชน์ จะมีพวกคุณไว้ทำอะไร

บทที่ 221 ถ้าคำขอโทษมีประโยชน์ จะมีพวกคุณไว้ทำอะไร
โดย
Ink Stone_Fantasy

ยัดไม่ลงในรถตำรวจคันเดียว รถตำรวจคันนั้นจึงใช้โทรศัพท์ไร้สายโทรหารถตำรวจที่ตระเวนอยู่แถวนั้นมาอีก พาพวกฉินสือโอวสามคน คนอินโดนีเซีย และผู้รับผิดชอบของโรงเรียนสอนขับรถหนึ่งคน กลับไปที่สถานีตำรวจ
เนื่องด้วยมีเออร์บักอยู่ข้างกาย พวกตำรวจถึงได้สุภาพนอบน้อมมาโดยตลอด ไม่แม้กระทั่งยึดมือถือของพวกเขา เออร์บักลงจากรถเห็นสถานที่ตั้งของสถานีตำรวจ ก็ยกหูขึ้นมาโทรศัพท์อีก
พอเข้าไปในสถานีตำรวจ ทั้งสองฝ่ายก็แยกย้ายทำการสอบปากคำ สอบปากคำไปประมาณครึ่งชั่วโมง มีตำรวจนายหนึ่งเดินมาแล้วพูดว่า “ทางโรงเรียนเอเชียตะวันออก เอ็กซ์เพรส จะฟ้องพวกคุณฐานทำร้ายร่างกาย ผมแนะนำว่า เรื่องนี้พวกคุณควรประนีประนอมด้วยการขอโทษกันเอง หรือไม่ก็ไปเคลียร์กันบนชั้นศาล”
ฉินสือโอวยิ้มเย็นแล้วพูดว่า “ประนีประนอม? ใครขอโทษ พวกผมขอโทษอย่างนั้นเหรอ? แล้วเกิดอะไรขึ้นกับโรงเรียนสอนขับรถผิดกฎหมายนี่ พวกคุณไม่สนใจที่พวกเขาล่อลวงผู้บริโภคเหรอ?”
ตำรวจคนนั้นอธิบายด้วยอารมณ์ปกติว่า “ขอโทษด้วยนะครับ คุณผู้ชาย พวกเราดำเนินการตรวจสอบแล้ว โรงเรียนเอเชียตะวันออก เอ็กซ์เพรส มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจ พวกเขาเป็นโรงเรียนที่ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมายครับ”
พอฟังประโยคนี้ ฉินสือโอวตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง ในเมื่อตำรวจพูดแบบนี้ นั่นอธิบายได้ว่า โรงเรียนสอนขับรถนี้ไม่น่าใช่โรงเรียนผิดกฎหมายแน่แล้ว ถ้าอย่างนั้นทำไมต้องจงใจรังแกเขา ให้เขาสอบใบขับขี่ผ่านก็จบแล้วไม่ใช่หรือ?
เขาเล่าเรื่องที่เขาโดนรังแกให้ฟัง ตำรวจคนนั้นก็ไปสอบถามเพิ่มเติมอีก กลับมาบอกว่า “ตามการสอบปากคำของเพื่อนร่วมงานผม ทางฝั่งโรงเรียนเขาไม่ยอมรับว่าเคยรังแกคุณมาก่อน พวกเขาบอกว่าคุณไม่ได้ทำการนัดมาก่อน พวกเขาตอนนั้นจึงจัดสอบ G1 ให้คุณไม่ได้”
ตอนนี้ฉินสือโอววางใจมากขึ้น โรงเรียนแห่งนี้ต้องคาดไม่ถึงแน่ๆว่าเขาจะใช้มือถือบันทึกภาพไว้ตั้งแต่แรก ดังนั้นจึงถอดเทปออกมา บนนั้นมีภาพและเสียงการสนทนาของเขาและหนุ่มญี่ปุ่นร่างเล็กคนนั้นทั้งหมด
ทางฝั่งเออร์บักเงียบมาโดยตลอด ไม่เหมือนทนายความเลยสักนิด คุณปู่เทวดาดูโทรศัพท์ไปทุกที่ ราวกับมาพักผ่อนในวันหยุด
ฉินสือโอวบ่นไปหนึ่งประโยค เออร์บักยิ้มแล้วพูดว่า “วางใจเถอะฉิน เรื่องนี้มันง่ายมาก เดิมทีเราแทบไม่ต้องทำอะไร สื่อมวลชนกับทางศาลจะช่วยเราจัดการเรื่องนี้เอง”
สื่อมวลชนกับศาล? ฉินสือโอวสับสนเล็กน้อย
พอมีภาพบันทึกนี้ ทางโรงเรียนก็รีบเปลี่ยนคำพูดทันที บอกว่าก่อนหน้านั้นเป็นความเข้าใจผิด พนักงานของพวกเขาเพิ่งมาใหม่ ยังไม่คุ้นเคยกับการทำงานของโรงเรียนสอนขับรถ และยังยินดีให้เขาไปขอโทษกับฉินสือโอว
ตำรวจที่จัดการเรื่องนี้บอกว่า “ในเมื่อพวกเขายินดีจะขอโทษ คุณเออร์บักครับ ผมคิดว่าเรื่องนี้เราประนีประนอมขอโทษกันแล้วจบ ดีไหมครับ?”
เออร์บักมองไปที่ฉินสือโอว ตัวเขาไม่เข้าใจมาโดยตลอดว่า ในเมื่อนี่เป็นโรงเรียนถูกกฎหมาย แต่ทำไมเมื่อสักครู่ถึงรังแกเขาขนาดนั้น
พอฟังข้อสงสัยของเขา เออร์บักจึงยื่นมือถือให้เขา บนนั้นมีรายงานหลายฉบับ ล้วนเกี่ยวกับโรงเรียนเอเชียตะวันออก เอ็กซ์เพรส ต่างบอกว่าเมื่อก่อนมีชาวเอเชียจำนวนไม่น้อยไปรายงานกับสื่อมวลชนว่าโรงเรียนนี้หลอกเอาเงินพวกเขาไป สุดท้ายแจ้งตำรวจก็ไม่ได้ผล
ดังนั้นแจ้งตำรวจจึงไม่มีประโยชน์ ไม่ใช่ว่าตำรวจไม่เคลียร์คดีความ แต่โรงเรียนสอนขับรถนี้กำลังเล่นแง่[1] หลังจากที่พวกเขาเก็บค่าเล่าเรียนจากผู้อพยพชาวเอเชียส่วนหนึ่ง ไม่ทำการสมัครให้ พอจะทำนัดก็หาข้ออ้างมาปฏิเสธ ทางสถานีตำรวจก็ไม่รับพิจารณาเรื่องแบบนี้
พอเป็นแบบนี้ พวกนักเรียนก็สอบใบขับขี่ไม่ได้ แล้วการที่ไม่มีใบขับขี่ในประเทศแคนาดาที่มีพื้นที่กว้างขวางแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่สะดวกมากๆ พวกเขาต่างรีบที่จะมีใบขับขี่ถึงได้มาสมัครสอบ พอกินเวลานานไป พวกนักเรียนจึงหมดหนทางทำได้เพียงกล้ำกลืนความชอกช้ำไป แล้วเปลี่ยนโรงเรียนสมัครสอบใบขับขี่
โรงเรียนเอเชียตะวันออก เอ็กซ์เพรส เจ้าเล่ห์มาก พวกเขาไม่ได้หลอกใครไปทั่ว แต่จะหลอกแค่พวกชาวเอเชียที่เพิ่งย้ายมาที่แคนาดา โดยเฉพาะคนจีน เพราะว่าคนจีนส่วนมากไม่ชอบสร้างปัญหา นิสัยอ่อนแอ ต่อให้ถูกรังแกมากสุดก็ไปหานักข่าวบ่นเพียงไม่กี่ประโยค จึงไม่น่าสงสัยเลย ที่ฉินสือโอวจะเข้ากับเงื่อนไขในการหลอกล่อของพวกเขาทุกประการ เพิ่งย้ายมาที่แคนาดา เป็นคนจีนและอายุน้อย เพียงแต่พวกเขาไม่ได้หาประวัติฉินสือโอวอย่างละเอียด นี่ไม่ใช่คนจีนที่มาทำงานหาเลี้ยงชีพ แต่เป็นเศรษฐีที่มีค่าตัวกว่าหลายร้อยล้าน!
พอเข้าใจแบบนี้ ฉินสือโอวก็โมโห เขาเกลียดบริษัทที่ทำอะไรคดเคี้ยวแบบนี้ที่สุด นี่ไม่ใช่การรังแกคนที่อ่อนแอแต่กลัวคนที่แข็งแกร่งกว่าหรอกหรือ? ดังนั้นเขาจึงพูดกับตำรวจคนนั้นอย่างเยือกเย็นว่า “ถ้าคำว่าขอโทษมีประโยชน์ แล้วจะมีสถานีตำรวจของพวกคุณไปทำไมกัน?”
ครั้งแรกที่นีลเซ็นได้ยินประโยคนี้ ก็ปรบมือทันที แล้วพูดว่า “พูดได้ดีมากครับ บอส ประโยคนี้กลายเป็นประโยคเด็ดได้! ก็คือ ถ้าคำว่าขอโทษมีประโยชน์ พวกเราจ่ายภาษีเลี้ยงพวกคุณที่เป็นตำรวจไปเพื่ออะไร?”
ตำรวจคนนั้นขมวดคิ้ว พูดว่า “โอเคครับ ถ้าอย่างนั้นพวกคุณทำได้แค่ไปจัดการเรื่องนี้บนชั้นศาลแล้ว แบบนี้พวกคุณต้องเตรียมเงินเพื่อจ้างทนายความไปว่าความให้เรียบร้อยแล้วครับ”
ฉินสือโอวรู้สึกว่า ตำรวจคนนี้ค่อนข้างเอนเอียงไปทางโรงเรียนสอนขับรถแห่งนั้น ใบหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม หยิบบัตร Black Amex ในกระเป๋าเงินออกมา ‘ปัง’ เขาเอาบัตรตบลงบนโต๊ะ พูดว่า “จ่ายเงิน? เหอะ ผมไม่กลัวการจ่ายเงินอยู่แล้ว พูดความจริงมาเถอะ คุณตำรวจครับ ถ้าบริการของพวกคุณไม่ทำให้ผมพอใจ ถ้าอย่างนั้นผมก็จะใช้เงินฟ้องพวกคุณไปด้วย!”
เห็นบัตรเครดิตบนโต๊ะที่มีคำว่า ‘อเมริกัน เอ็กซ์เพรส’ อย่างชัดเจน แน่นอนว่าตำรวจคนนั้นรู้แน่ชัดถึงฐานะคนที่มีบัตรนี้ สีหน้าที่แสดงความรำคาญหายไปทันทีอย่างไร้ร่องรอย
 ที่แคนาดาและอเมริกา หาเรื่องใครก็ได้ ก็แค่หาเรื่องคนมีเงินไม่ได้ คุณด่านายกรัฐมนตรีได้ ด่าพวกทหารได้ ด่าสมาชิกผู้แทนสภารัฐบาลได้ แต่ด่าคนรวยไม่ได้ เพราะสิ่งที่คนรวยชอบทำมากที่สุด ก็คือใช้เงินจ้างทนายความมาฟ้องร้องคุณ เอาชนะคุณไม่ได้ แต่ก็ทำให้คุณทรมานได้
อย่างรวดเร็ว คนสองคนของโรงเรียนเอเชียตะวันออก เอ็กซ์เพรสก็รู้ว่าพวกเขาไปหาเรื่องใครไว้ ตอนที่รู้ว่าคนที่พวกเขาไปหาเรื่องไว้ใช้บัตรแบล็ก อาเม็กซ์ สีหน้าของคนที่รับผิดชอบคนนั้นเปลี่ยนเป็นซีดขาวในทันที
ที่น่าสมเพชยิ่งกว่าคือตอนถัดมา หลังจากสอบปากคำเสร็จ พอพวกเขาเดินออกจากประตู ก็ถูกนักข่าวหลายคนที่ถือไมโครโฟน หรือไม่ก็แบกกล้องวิดีโอบนบ่าหรือมือถือห้อมล้อมไว้
นี่ก็คือความสามารถของเออร์บัก อยู่ในวงการศาลมาตั้งหลายปี สื่อมวลชนที่เขารู้จักเยอะมากๆ เพียงแค่โทรหาใครสักคนบอกว่ามีคดีสามารถทำข่าวได้ ก็จะมีสื่อส่งนักข่าวมาติดตามเอง
ผู้รับผิดชอบของโรงเรียนเอเชียตะวันออก เอ็กซ์เพรส พอหาเบอร์โทรศัพท์ของฉินสือโอวเจอ ท่าทางนอบน้อมอย่างมาก ทั้งขอโทษ ทั้งรับปากว่าจะคืนเงินให้ หวังว่าฉินสือโอวจะประนีประนอมกันนอกชั้นศาล
ฉินสือโอวขี้เกียจพูดกับเขาเยอะ พอฟังเขาพูดจบก็วางสาย เออร์บักหัวเราะอยู่ด้านข้างพูดว่า “ตอนนี้เธอถึงค่อยมีมาดของคนรวยหน่อย”
“ผมเห็นตัวเองเหมือนหนูตกถังข้าวสาร” ฉินสือโอวเบะปากพูด
เออร์บักหัวเราะชอบใจ แล้วบอกว่า “มีตระกูลสูงส่งไหนบ้างที่ไม่ได้เริ่มมาจากการไม่มีอะไร?”
เขาฉินสือโอวก็รู้สึกหมดหนทาง เขาก็ไม่ได้อยากจะแสร้งเป็นคนรวยมีเงิน ใครจะไปคาดคิดได้ว่าปัญหาใบขับขี่เล็กๆจะทำให้เขาโดนรังแกได้ โชคดีที่ว่าเขานึกว่าเมืองเซนต์จอห์นเป็นเมืองที่เรียบง่าย ไม่คิดว่าคนเลวที่ไหนก็มี ความประทับใจของเขาที่มีต่อประเทศแคนาดาลดลงไป
เออร์บักอธิบายกับเขาว่า โรงเรียนสอนขับรถที่คุณสมบัติพร้อมคือโรงเรียนที่รับการอนุมัติจากกระทรวงคมนาคมแล้ว จะมีการสอนทฤษฎีในห้องเรียนและการฝึกปฏิบัติบนท้องถนนให้กับนักเรียนใหม่
หลังจากที่เข้าเรียนครบหลักสูตรประกาศนียบัตรทั้งภาคทฤษฎี 25 ชั่วโมงและภาคปฏิบัติฝึกขับบนท้องถนน 10 ชั่วโมง กระทรวงคมนาคมจะมอบใบประกาศนียบัตรหนึ่งใบให้คุณ ด้วยใบประกาศนี้ ผู้เริ่มต้นสามารถทดสอบบนถนนได้หลังจากที่สอบข้อเขียนมาแล้ว 8 เดือน
นอกจากนี้แล้ว โรงเรียนสอนขับรถไม่มีสิทธิ์ในการให้บริษัทประกันลดราคาประกันให้คุณได้ ถ้าโรงเรียนสอนขับรถไหนโฆษณาโม้ว่าใบประกาศนียบัตรของเขาสามารถลดราคาประกันได้ นั่นเป็นแค่การปลุกกระแสล้วนๆ เป็นการหลอกใช้การขาดแคลนความรู้มืออาชีพของผู้เริ่มต้นมาล่อลวง
ฉินสือโอวเอามาตรฐานของประเทศจีนมาเป็นบรรทัดฐานตลอด ถึงได้เกิดเหตุไม่คาดคิด ความจริงแล้วการสอบใบขับขี่ที่แคนาดา พวกเขาไม่ได้บังคับให้คุณสมัครกับโรงเรียนสอนขับรถ สมัครเองก็สามารถสอบข้อเขียน G1 ได้
ใบขับขี่ของแคนาดาแบ่งเป็นใบขับขี่ผู้เรียน ระดับ L ใบขับขี่ฝึกฝน ระดับ7 และใบขับขี่เต็มรูปแบบ ระดับ 5 หลังจากสอบผ่านข้อเขียนก็จะได้รับใบขับขี่ระดับ L คุณจะสามารถออกถนนขับรถได้เลยเมื่อมีบัตรนี้
เมื่อได้รับใบขับขี่ระดับ L ครบ 1 ปี เข้าร่วมการสอบภาคปฏิบัติ พอผ่านก็จะเปลี่ยนเป็นใบขับขี่ระดับ 7 พอมีใบขับขี่ระดับ 7 ครบสองปี เข้าร่วมการสอบภาคปฏิบัติอีกครั้ง เมื่อผ่านก็จะได้รับมอบใบขับขี่ ระดับ 5
การขับรถด้วยใบขับขี่ระดับ L และระดับ 7 จะมีกฎเกณฑ์ที่เป็นข้อจำกัดอยู่ ใบขับขี่ ระดับ 5 สามารถขับรถยนต์ส่วนตัวส่วนมากได้ แต่คนจีนที่ย้ายมาอยู่แคนาดา ถ้ามีใบขับขี่ในประเทศอยู่ในมือแล้วสามารถข้ามผ่านใบขับขี่ระดับ L และระดับ 7 ไป หลังจากสอบข้อเขียนผ่าน เข้าสอบภาคปฏิบัติบนท้องถนนระดับ 5 ได้โดยตรงเลย เพื่อจะได้ใบขับขี่ ระดับ 5
ฉินสือโอวพอทราบความรู้ทั่วไปเรื่องนี้ก็ละอายใจ ตัวเขาเองไม่ใส่ใจเกินไปแล้ว แม้แต่ความรู้ทั่วไปทางสังคมแค่นี้เขาก็ไม่เข้าใจ มิเช่นนั้นโดนรังแกจนเป็นแบบนี้คุ้มที่ไหนกันเล่า?
พอออกจากสถานีตำรวจ เออร์บักก็ช่วยเขาสมัครสอบให้ในวันนั้นตอนบ่ายสี่โมง เหมือนในประเทศจีน คนกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ใส่เลขประกันสังคมและเลขที่ลงทะเบียนไว้ก็สามารถสอบได้แล้ว
ภาพบนเครื่องที่แสดงออกมาก่อนคือเลือกภาษา เพราะประเทศแคนาดาเป็นประเทศที่มีผู้อพยพมาจากหลากหลายเชื้อชาติ ดังนั้นข้อสอบพื้นฐานทั่วไปส่วนมากจึงมีการกำหนดให้เลือกภาษาไว้
ฉินสือโอวลองเลือกภาษาจีนดู ไม่มีปัญหาดั่งที่คาดไว้ ภาพที่ออกมาเป็นข้อสอบภาษาจีน คำถามข้างในเป็นภาษาจีนหมด ทั้งหมด 40 ข้อ
……………………………………….

[1] เป็นสำนวนภาษาจีน หมายถึงตบลูกปิงปองไปที่มุมโต๊ะ ให้ฝ่ายตรงข้ามรับยาก เปรียบเหมือนกับ การละเมิดกฎเกณฑ์ที่อยู่ขอบเส้น เกือบฝ่าฝืนแต่ยังอยู่ในเส้นขอบ

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset