ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1687 วินนี่สมัยก่อน

ถ้าฉินสือโอวไม่มีภรรยาอย่างวินนี่ เขาก็คงไม่รู้ว่าวิทยาลัยสตรีเบรชเชอร์ความจริงเป็นวิทยาลัยสตรีที่อยู่ในเครือมหาวิทยาลัยแห่งเวสเทิร์นออนแทริโออย่างแน่นอน
แต่ก็ไม่สามารถพูดได้ว่าเขาโง่เขลาไม่มีความรู้ เหมือนกับสถานที่อย่างเมืองแฟร์เวล คนส่วนใหญ่จะไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยแห่งเวสเทิร์นออนแทริโอและวิทยาลัยสตรีเบรชเชอร์ ในทางกลับกัน วิทยาลัยสตรีเบรชเชอร์นั้นมีชื่อเสียงเยอะกว่ามาก
วินนี่แนะนำฉินสือโอวมาตลอดทาง เธอบอกว่าวิทยาลัยสตรีเบรชเชอร์ก่อตั้งในปี 1999 เป็นวิทยาลัยสตรีเพียงแห่งเดียวในแคนาดา และก็เป็นวิทยาลัยสตรีที่มีชื่อเสียงในทวีปยุโรปและอเมริกาเหมือนกัน เมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยเก่าแก่อย่างแห่งเวสเทิร์นออนแทริโอที่มีนักเรียน 2 หมื่นกว่าคน นักเรียนของวิทยาลัยสตรีเบรชเชอร์ไม่เคยมีเกิน 1 พันคน การคัดเลือกนักเรียนนั้นเข้มงวดมาก
ดังนั้น แคนาดาจึงมีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลกเยอะมาก แต่วิทยาลัยสตรีที่มีชื่อเสียงระดับโลกมีแค่ที่นี่ไม่มีสาขาอื่น ยิ่งไปกว่านั้นจำนวนคนยังน้อยขนาดนี้ ไม่มีชื่อเสียงก็คงไม่ใช่
สิ่งที่แตกต่างกับวิทยาลัยสตรีดั้งเดิมคือ เบรชเชอร์อนุญาตให้นักเรียนชายที่อยู่สถาบันอื่นมาเลือกหลักสูตรที่นี่ได้ ในเวลาเดียวกัน นักเรียนที่ลงทะเบียนเรียนในวิทยาลัยสตรีเบรชเชอร์ ทุกเทอมนอกจาก 2 หลักสูตรที่ต้องเรียนที่สถาบันนี้ หลักสูตรอื่นก็สามารถเรียนที่สถาบันอื่นได้เช่นกัน
ตอนที่แนะนำถึงตรงนี้ รถก็ขับมาถึงประตูมหาวิทยาลัยของมหาวิทยาลัยแห่งเวสเทิร์นออนแทริโอแล้ว สิ่งที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้กับมหาวิทยาลัยอื่นเหมือนกันก็คือไม่มีกำแพงสถาบัน
นี่ก็คือลักษณะหนึ่งของมหาวิทยาลัยระดับสูงในยุโรปและอเมริกา สิ่งที่ใส่ใจเป็นพิเศษคือการเรียนรู้ที่ไร้ขอบเขต ใครอยากเรียนก็สามารถเข้าโรงเรียนได้ นอกจากนี้ห้องสมุดก็ไม่มีธรณีประตูเหมือนกัน ทุกคนสามารถเข้าไปได้ หลังจากบัตรประชาชนผ่านการรับรองก็สามารถยืมหนังสือออกไปได้
หลังจากหาที่จอดรถได้ก็จอดรถ ตอนที่วินนี่ลงจากรถเธอสะบัดผมสวยและสวมแว่นกันแดด นักเรียนชายที่อยู่รอบๆ ก็จ้องมองมาที่เธอทันที
เมื่อเห็นภาพนี้ฉินสือโอวก็พึงพอใจมาก เขาหัวเราะอย่างมีความสุขขึ้นมา และพูดว่า “คุณภรรยาครับ มหาวิทยาลัยชื่อดังของพวกคุณกับมหาวิทยาลัยไก่ฟ้าของพวกผมต่างกันไม่มากหรอก นักเรียนชายท่าทางหื่นทุกคน”
วินนี่เจอคำพูดนี้ของเขาถึงกับเกือบจะสำลัก เธอคว้าแขนของเขาไว้และพูดอย่างโกรธๆ “ดูคุณภาพทางวิชาการนิดหนึ่งได้ไหม? นี่คือหนึ่งในมหาวิทยาลัยไม่กี่แห่งที่ดีที่สุดในแคนาดา และก็เป็นหอวัฒนธรรมของอเมริกาเหนืออีกด้วย!”
ขณะที่กำลังคุยเล่น วินนี่ก็พาเขาเดินไปที่ถนนเล็กๆ ที่มีชีวิตชีวาไปด้วย เธอบอกว่านั่นคือถนนคนเดินที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในมหาวิทยาลัย เป็นสรวงสวรรค์แห่งการช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงในทุกมหาวิทยาลัยของแคนาดา
บังเอิญถึงเวลาอาหารกลางวันพอดี วินนี่พาเขาเข้าไปในโรงอาหารที่เต็มไปด้วยภาพวาดสไตล์แอบสแตรคท์ ฉินสือโอวคิดว่านี่คือโรงอาหารที่มีเอกลักษณ์มากที่สุดในมหาวิทยาลัย ผลคือหลังจากเดินเข้าไปวินนี่ก็ถอดแว่นกันแดดออกและทักทายหญิงชราผมสีเงินที่แคชเชียร์ “สวัสดีค่ะ คุณนายจอห์นสัน คุณยังสาวขนาดนั้น? มหัศจรรย์เกินไปแล้วจริงๆ กาลเวลาต้องหนีจากคุณไปแน่ๆ เลย ใช่ไหมคะ?”
เมื่อได้ยินเสียงของวินนี่ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นหลังจากนั้นบนใบหน้าอวบอ้วนก็แสดงรอยยิ้มประหลาดใจออกมา “พระเจ้า หนูน้อยวินนี่? พระเจ้า ฉันไม่ได้มองผิดไปใช่ไหม? หนูกลับมาแล้วเหรอ? โอ้วว พระเจ้าของลูก ฉันจำได้ว่าตอนที่จบการศึกษาหนูเคยสาบานไว้ บอกว่าจะไม่ยอมกลับมาที่มหาวิทยาลัยนี้อีก”
วินนี่กอดเธอ และพูดอย่างเขินอาย “ตอนนั้นหนูไม่มีเหตุผล และจัดการเรื่องต่างๆ ด้วยอารมณ์มากเกินไป ตอนนี้หนูแต่งงานแล้ว สถานการณ์ไม่เหมือนเดิมแน่นอน มานี่สิคะ คุณนายจอห์นสัน หนูอยากแนะนำสามีของหนูให้คุณรู้จักสักหน่อย”
ที่แท้นี่ก็คือเพื่อนเก่า ท่านชายฉินรีบแสดงรอยยิ้มที่สว่างและสดใสที่สุดออกมา เขายืดอกขึ้นเผยให้เห็นกล้ามอกขนาดใหญ่ที่เหมือนกับกระทะ 2 อัน และยื่นมือออกไปอย่างกระตือรือร้น “สวัสดีครับ คุณนายจอห์นสัน ผมเป็นสามีของเธอ ชื่อฉิน ยินดีที่ได้ อึก รู้จักครับ!”
เหตุผลที่คำพูดของเขาติดขัดนิดหน่อย เป็นเพราะหญิงสาวไม่ได้จับมือกับเขา แต่เดินไปรอบๆ และกอดเขาอย่างแรง
หลังจากกอด หญิงชราก็จับมือและพยักหน้าอย่างจริงจัง “ไม่เลว หนูน้อยวินนี่ ความรู้สึกจากสามีของหนูไม่เลวจริงๆ ก็เป็นคนหื่นกามนิดหน่อย หนูเห็นไหมว่า เขาเพิ่งจะล่อลวงฉัน?”
แม่คุณ การสนทนาไม่ควรพูดไร้สาระ ท่านชายฉินกำลังจะตาย หญิงชราคนนี้พูดจาไร้สาระแบบนี้ได้อย่างไร? เขาไปล่อลวงมาตอนไหน? นอกจากนี้คุณบอกว่าฉันความรู้สึกไม่เลวคือบ้าอะไร?
ดวงตาคู่โตที่ยิ้มอยู่ของวินนี่หรี่ลงเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวหลังจากนั้นก็ขยิบตาใส่เขา แบบนี้ฉินสือโอวจึงรู้ว่าหญิงชราเป็นคนที่ชอบเล่นตลกแบบนั้น ดังนั้นจึงถามว่า “คุณผู้หญิงคนสวย ปีนี้คุณอายุเท่าไหร่แล้วครับ?”
หญิงชราขมวดคิ้ว “หนุ่มน้อย อย่าบอกนะว่าหนูไม่รู้ว่าอายุของผู้หญิงเป็นความลับเหมือนกับกระเป๋าสตางค์ของผู้ชายน่ะ? แต่เห็นแก่ว่าหนูเป็นสามีของวินนี่ ฉันจะบอกความจริงกับหนู ฉันอายุ 32 ปีแล้ว”
ฉินสือโอวยักไหล่อย่างเศร้าสร้อย “พระเจ้าให้เราเจอกันช้าเกินไป ถ้าคุณเด็กกว่านี้อีกสัก 2 ปี ผมต้องอยากแต่งงานกับคุณแน่นอน”
หญิงชราหัวเราะขึ้นมา และบอกให้พวกเขาหาที่นั่ง วินนี่เดินไปจ่ายเงิน เธอพูดอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส “สายตาของหนูยังดีเหมือนเดิม เด็กคนนี้ไม่เลวจริงๆ ฉันไม่ได้พูดถึงแค่หุ่น หนูรู้ใช่ไหม”
วินนี่ยิ้มเหมือนกัน “หนูรู้ค่ะ แต่หุ่นเขายอดเยี่ยมจริงๆ”
ไม่นานหลังจากนั้นอาหารก็มาเสิร์ฟ มีข้าวปลาแซลมอนเนื้อแดงกับปลาแซลมอนห่อหอยเชลล์ ฉินสือโอวกินไปคำหนึ่งและพยักหน้า “รสชาติไม่เลว เป็นปลาคุณภาพดีซึ่งหายากมากเท่าที่ผมเคยกินมานอกฟาร์มปลา”
พนักงานเสิร์ฟที่อยู่ข้างๆ เสิร์ฟอาหารให้เขาและพูดอย่างภาคภูมิใจ “แน่นอน ปลาที่ลอนดอนเป็นปลาที่มีชื่อเสียงมาก ที่นี่มีสามเกรตเลกส์อยู่สามด้าน ปลาแซลมอนที่คุณภาพดีที่สุดในโลกเกิดที่นี่ตามธรรมชาติทุกปี”
ขณะที่กำลังพูด เขาก็ใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอ่อนโยนมองไปที่วินนี่ และพูดต่อ “ตอนที่หนูนี่เรียนอยู่ชอบกินปลาแซลมอนที่ร้านพวกเรามากที่สุด เธอรู้ว่าปลาของที่นี่ยอดเยี่ยมมากแค่ไหน”
หนูนี่คือบ้าอะไรอีก? ฉินสือโอวเกือบจะสำลักเนื้อปลาที่เคี้ยวอยู่ ชายหนุ่มคนนี้จะมากเกินไปแล้ว สายตาที่เขามองวินนี่นั้นเรียกได้ว่าอ่อนโยนมาก ยิ่งไปกว่านั้นน้ำลายก็ใกล้จะไหลออกมาแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนที่ชื่นชมวินนี่ในสมัยนั้น
ดังนั้น เขาจึงหัวเราะขึ้นมา และพูดว่า “บางทีควรจะพูดว่าเป็นหนึ่งในปลาแซลมอนที่คุณภาพดีที่สุดหรือเปล่า?”
พนักงานเสิร์ฟคนนั้นถามอย่างไม่เชื่อ “ยังมีที่ไหนอีกเหรอ?”
ฉินสือโอวตอบว่า “พูดแบบนี้มันอาจจะไม่ค่อยสุภาพ แต่ผมรู้สึกว่านี่คือความจริง เพื่อน ปลาแซลมอนที่เกิดในฟาร์มปลาของผม รสชาติไม่ต่างไปจากที่นี่เลย”
พนักงานเสิร์ฟสุดหล่อยิ่งไม่เชื่อ และพูดว่า “คุณเป็นเจ้าของฟาร์มปลาเหรอ? ฟาร์มปลาของคุณนั้นต้องเป็นฟาร์มปลาต้าฉินแน่นอน ใช่ไหม?”
ขณะที่พูดแบบนี้ ใบหน้าของเขาก็แสดงรอยยิ้มล้อเลียนออกมาด้วย ผลลัพธ์ที่เขาเห็นคือสีหน้าของชายคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น “เพื่อน คุณรู้จักผมไหม? ใช่แล้ว ผมชื่อฉิน เจ้าของฟาร์มปลาต้าฉิน”
ฉินสือโอวยื่นมือออกไปอย่างมีพิธีรีตอง วินนี่ตบหลังมือของเขา และแสร้งทำเป็นโกรธ “เอาล่ะ รีบกินอาหารของคุณเถอะที่รัก” เธอมองไปที่พนักงานเสิร์ฟ และยิ้ม “สามีของฉันชอบพูดเล่นน่ะ ปาสคาล คุณอย่าสนใจเลย”
พนักงานเสิร์ฟที่ชื่อว่าปาสคาลถามด้วยความตกใจ “งั้นที่เขาบอกว่าตัวเองเป็นเจ้าของฟาร์มปลาต้าฉิน ก็เป็นพูดเล่นเหมือนกันเหรอ?”
วินนี่ตอบอย่างไม่มีทางเลือก “ไม่ เรื่องนี้เขาไม่ได้พูดเล่น ฟาร์มปลาต้าฉินเป็นฟาร์มปลาที่เขาสร้างขึ้นมาจริงๆ และต้าฉินอาหารทะเลก็เป็นแบรนด์ที่อยู่ภายใต้ชื่อของเขาจริงๆ เหมือนกัน”
………………………
Related

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset