ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1691 สุนทรพจน์ที่สวยงาม

ฉินสือโอวไม่เคยคิดมาก่อนว่า ที่แท้การทำงานของมหาวิทยาลัยแคนาดาจะรวดเร็วขนาดนี้
ตัดสินใจบริจาคให้กับมหาวิทยาลัยสตรีในวันที่ 1 เดือนกรกฎาคม ตอนกลางคืนติดต่อปีเตอร์รอฟ คาปาสกี คนดูแลของสมาคมศิษย์เก่าได้ เช้าวันที่สองเขาก็มาหาคนทั้งสองแล้ว เรื่องนี้ถูกอนุมัติลงมาอย่างรวดเร็ว ตอนบ่ายในวันนั้น คนดูแลสมาคมศิษย์เก่าที่ชื่อปีเตอร์รอฟก็ส่งกำหนดการการบริจาคให้กับพวกเขา
และวันเวลาที่บริจาค อยู่ในวันที่ 4!
ถือว่าไม่เลวแล้ว ไม่ได้ขอเงินโดยตรง แต่ในวันที่ 3 ได้จัดกิจกรรมเยี่ยมชมให้กับพวกเขา ปีเตอร์รอฟทำหน้าที่พาพวกเขาเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยสตรีและมหาวิทยาลัยแห่งเวสเทิร์นออนทาริโอ ก่อนถึงวันบริจาคในวันที่ 4 วินนี่มีงานกล่าวสุนทรพจน์เล็กๆ งานหนึ่ง
พูดถึงกิจกรรมกล่าวสุนทรพจน์ ปีเตอร์รอฟถอนหายใจด้วยความเสียดาย “ถ้าหากพวกคุณสามารถตัดสินใจได้ก่อนหน้านี้ครึ่งเดือน อย่างนั้นก็สามารถกล่าวสุนทรพจน์ให้กับนักเรียนที่จบการศึกษาของเราได้ ตอนนี้นักเรียนกำลังเตรียมตัวสอบปลายภาค คนอาจจะมาฟังสุนทรพจน์ไม่เยอะมากนัก”
ฉินสือโอวรู้สึกว่ากิจกรรมเยี่ยมชมนี้สามารถยกเลิกได้ งานกล่าวสุนทรพจน์ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องจัด ในเมื่อเขาก็มาแค่ต้องการตั๋วนักศึกษาใบหนึ่งเท่านั้น
แน่นอนว่านี่เป็นแค่ความคิดของเขาเท่านั้น วินนี่อาจไม่ได้คิดอย่างนี้ เพราะยังไงนี่ก็เป็นมหาวิทยาลัยเก่าของเธอ ตอนสมัยที่เรียนอยู่ ใครไม่เคยคิดถึงวันที่ประสบความสำเร็จแล้วกลับมากันบ้างล่ะ? โดยเฉพาะบรรทัดฐานที่คนต่างชาติเชื่อถือคือ เป็นคนอย่าโอ้อวด อย่างนั้นจะต่างอะไรกับคนไร้ความสามารถ?
วันที่ 3 ทั้งวันเป็นการเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยนี้และมหาวิทยาลัยสตรีดังกล่าว ฉินสือโอวมีโอกาสได้ตามเข้าไปในหอพักของวินนี่สมัยเรียน เป็นอพาร์ทเม้นท์ธรรมดาหลังหนึ่ง แต่ว่าภาพบนผนังด้านในค่อนข้างน่าสนใจ อะไรก็มี แม้กระทั่งชุนกงฮว่าก็ยังมี
ตอนที่เห็นภาพชายหญิงนัวเนียอยู่ด้วยกัน ท่านชายฉินตื่นตะลึงเลย จากนั้นหยิบโทรศัพท์ออกมาอยากจะถ่ายรูป วินนี่ดึงเขาทีหนึ่งแกล้งทำเป็นโกรธว่า “คุณทำอะไรน่ะ?”
ท่านชายฉินเบิกตากว้างมองเธอแล้วพูดว่า “คุณว่าผมจะทำอะไร? ผมบอกว่าผมจะถ่ายรูปพวกมันเพื่อทำการวิจัยคุณจะเชื่อไหม?”
เจ้าหน้าที่ที่มาด้วยกันเดินตามมาทีหลัง แบบนี้เขาเลยพลาดโอกาสไป นี่ถึงทำให้เขาถอนหายใจอย่างเสียดาย
วินนี่อธิบายให้เขาฟัง ภาพวาดบนผนังพวกนี้ล้วนเป็นผลงานการวาดของนักศึกษาหญิงของหอพักที่นี่ เธอพาฉินสือโอวมาดูภาพของเธอในอดีต เป็นภาพแอปเปิลสีแดงสดลูกหนึ่ง
ท่านชายฉินรู้สึกว่าภรรยาตัวเองเป็นคนมีหัวศิลป์ คนอื่นอยากจะเปลี่ยนหนังที่เคยดูให้เป็นการ์ตูนวาดขึ้นไป ภรรยาเขากลับวาดแอปเปิลลูกหนึ่ง เขาถามว่า “นี่มีนัยอะไร? สุขสวัสดิ์ใช่ไหม?”
วินนี่พูดอย่างเสียดายว่า “ไม่ใช่นะ เดิมทีฉันวาดภาพสาวสวยคนหนึ่งเปลือยแผ่นหลังนะ เสียดายส่วนอื่นๆ ถูกรุ่นน้องปิดไว้แล้ว”
ท่านชายฉินอยากจะสูบบุหรี่มวนหนึ่งเสียจริง นี่มันมหาวิทยาลัยสตรีอันดับหนึ่งของแคนาดาอะไรกัน? ผลิตออกมาแต่อันธพาลหญิงทั้งนั้น
แต่ว่านี่ก็ทำให้ความฝันหนึ่งสมัยเรียนของเขาสมหวัง ตอนนั้นเขาก็อยากจะรู้ว่าหอพักนักเรียนหญิงและหอพักนักเรียนชายมีอะไรแตกต่างกัน ตอนนี้เห็นแล้วว่าหอพักนักเรียนชายนั้นเหม็นกว่าแต่เป็นระเบียบกว่า หอพักนักเรียนหญิงมีกลิ่นหอมอบอวลตั้งแต่หัวจนท้าย แต่ว่ายุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบเลย!
เดินอยู่ในอาคาร เขาเห็นนักศึกษาหญิงใส่เพียง**เดินออกมามากกว่าหนึ่งครั้ง การควบคุมดูแลของมหาวิทยาลัยในแคนาดาเป็นแบบเปิดกว้าง ดังนั้นจึงไม่ได้แจ้งล่วงหน้าว่าจะมีคนมาเยี่ยมชมแล้วให้ทำความสะอาดหรือต้องระวังรูปลักษณ์ภายนอกอะไร
ถึงกระทั่ง นักศึกษาพวกนี้แต่งตัวไม่เรียบร้อยเดินออกมาก็ไม่มีคนเตือนพวกเธอ ล้วนพึ่งจิตสำนึก
เหล่านักศึกษาเดินออกมาเห็นฉินสือโอวไม่ได้ตระหนกตกใจหรือกรีดร้องแต่อย่างใด ต่างก็มองพิจารณาพวกเขาอย่างสนใจ จากนั้นมีนักศึกษาบางคนที่ค่อนข้างเป็นกันเอง ดึงแขนฉินสือโอวไปถ่ายรูปด้วย พอหันกลับมาก็โพสต์ขึ้นไปบนทวิตเตอร์แล้ว
ฉินสือโอวจับจมูก บอกกับวินนี่ว่า “พวกรุ่นน้องของคุณ ช่างเปิดเผยกันเสียจริงนะ”
วินนี่ยิ้มมองเขาบอกว่า “เสียใจมากที่ไม่ได้มาเรียนที่นี่ใช่หรือเปล่า?”
สุดท้ายพวกเขาไปยังหอพักเก่าของวินนี่ แต่ว่าวินนี่ไม่ได้เข้าไป เพียงแค่ถ่ายรูปอยู่หน้าประตูเท่านั้น เธอโพสต์ขึ้นไปบนทวิตเตอร์ ติดต่อเพื่อนร่วมห้องของเธอตอนนั้น บอกว่าเธอกลับมาอีกแล้ว
เช้าวันที่ 4 ที่หอประชุมเล็กมีการกล่าวสุนทรพจน์ของวินนี่ มหาวิทยาลัยนี้ไม่ได้มีกำหนดบังคับให้ต้องเข้าร่วม ฉินสือโอวกังวลว่าถึงเวลาจะไม่มีคนมาเข้าร่วม ยังหาแบรนดอนให้เขาคิดหาวิธีใช้ความสามารถของตระกูลประชาสัมพันธ์ในโรงเรียนหน่อย
พลังของตระกูลแบรนดอนในลอนดอนน่ากลัวเป็นอย่างมาก บอกว่าพวกเขาเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองนี้ก็ไม่เกินไป พวกเขาหลายคนเป็นผู้นำของบริษัทการเงินขนาดใหญ่ต่างๆ ทุกปีมีการรับสมัครคนจากมหาวิทยาลัยแห่งเวสเทิร์นออนแทริโอไม่น้อย ดังนั้นจึงมีพลังในมหาวิทยาลัยไม่น้อย สามารถช่วยติดต่อนักศึกษาให้ได้
แต่ไม่จำเป็นเลย ฉินสือโอวไม่เข้าใจความสามารถของวินนี่ แม้ว่าเธอจะเป็นแค่ผู้ว่าการของเมืองโพ้นทะเลแห่งหนึ่งเท่านั้น แต่การเลือกตั้งที่เธอเข้าร่วมในตอนนั้นเกิดลมกระโชกพัดผ่านทั่วทั้งแคนาดา บวกกับภายหลังในวีดิทัศน์ประชาสัมพันธ์ของเมืองภาพเธออยู่ด้วย ในมหาวิทยาลัยเก่าจึงมีชื่อเสียงพอสมควร
ก่อนงานกล่าวสุนทรพจน์จะเริ่มครึ่งชั่วโมง หอประชุมเล็กก็เต็มไปด้วยผู้คนมากมายแล้ว คิดไม่ถึงว่ายังมีนักศึกษาชายไม่น้อยถือโปสเตอร์ของวินนี่ในมือ ฉินสือโอวไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาจากไหนกัน
แน่นอนว่า พวกคำพูด ‘รุ่นพี่วินนี่ผมรักคุณ’ ‘ผมจะเป็นผู้ช่วยของคุณ’ มีมาไม่รู้จบ บางคนก็ถามถึงหู่จือเป้าจือ ทำเอาปีเตอร์รอฟคนจัดงานถึงกับยิ้มขื่นๆ ว่า “นี่มันเหมือนเป็นแฟนมีตติ้งเลย วินนี่เป็นที่นิยมจริงๆ”
ความสามารถในการคุมสถานการณ์ของวินนี่นั้นไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เห็นว่าตัวเองได้รับการต้อนรับจากรุ่นน้องขนาดนี้ ใบหน้าเธอก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มทั้งงาน ทำให้ฉินสือโอวหึงเป็นอย่างมาก เพราะเขาพบว่าในกลุ่มนักศึกษาชายพวกนี้มีบางคนที่รูปร่างสูงสง่า
สุนทรพจน์ของเธอถูกเตรียมขึ้นมาโดยฉับพลัน พูดถึงชีวิตหลังจบการศึกษาของเธอ จากนั้นบอกกับเหล่านักศึกษา ชีวิตเป็นเหมือนการวิ่งมาราธอน แต่ไม่จำเป็นจะต้องแย่งชิงที่หนึ่งอย่างเดียว การดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ระหว่างทางที่วิ่งก็เป็นทางเลือกอย่างหนึ่งที่ดีมาก
เห็นบรรยากาศการตอบรับที่ร้อนระอุของงาน ฉินสือโอวเก็บตั๋วชุดหนึ่งที่เตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้ไป เพื่อหลีกเลี่ยงงานกร่อย เขาได้จัดทำตั๋วท่องเที่ยวฟรีพวกนี้เอาไว้ อยากจะทำการจับฉลากรางวัลเพื่อสร้างบรรยากาศในงาน ใครจับฉลากได้ใครก็ได้ไปเที่ยวที่เมือง
วินนี่ช่วยเขาประหยัดเงินแล้ว
ตอนที่กล่าวสุนทรพจน์จบ วินนี่ก็พูดเรื่องที่เธอจะบริจาคเงินห้าล้านให้กับมหาวิทยาลัยเก่าออกมา อธิบดีหญิงท่านหนึ่งที่ท่าทางสูงสง่าของมหาวิทยาลัยสตรีขึ้นไปจับมือกับเธอ รับมอบเงินบริจาคนี้
หลังจบงานกล่าวสุนทรพจน์ วินนี่ยังคงตื่นเต้นไม่หาย หลังจากลงมาก็ถามฉินสือโอวไม่หยุดว่า “เป็นยังไงบ้าง ฉันพูดได้เป็นยังไงบ้าง?”
ฉินสือโอวพยักหน้าชม “คุณไม่ไปลงแข่งนายก ก็น่าเสียดายแล้ว พูดได้ยอดเยี่ยมมากเลย ซุปไก่หม้อนี้ตุ๋นได้รสยอดเยี่ยมมาก!”
พูดตามตรง เห็นวินนี่พูดหลอกล่อเด็กน้อยด้านล่างอยู่บนเวที เขาเองก็หวั่นไหวแล้ว มีโอกาสเขาเองก็ต้องกลับโรงเรียนเก่าไปจัดการบริจาคและกล่าวสุนทรพจน์บ้างแล้ว
เงินบริจาคถึงมือ ทางมหาวิทยาลัยก็มอบใบรับรองให้วินนี่ใบหนึ่ง สมาคมศิษย์เก่ารับเธอเข้ามาเป็นคณะกรรมการ ฉินสือโอวดูแล้วแปลกๆ นี่มันคือคอร์รัปชันสินะ!
สังคมทุนนิยมมืดมนเกินไป ช่างน่าเกลียดเหลือทนซะจริง ท่านชายฉินเริ่มส่ายหัวอีกแล้ว
…………………………………….
Related

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset