ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1692 ขี่วาฬชมทะเล

ไปร่วมงานแต่งแล้ว เงินบริจาคแล้ว คนก็เข้าร่วมสภาสมาคมศิษย์เก่าแล้ว ฉินสือโอวไม่มีอะไรให้อาลัยอาวรณ์ในเมืองลอนดอนอีก จึงให้แบรนดอนเตรียมเครื่องบินส่งพวกเขากลับไป
กลางเดือนกรกฎาคมเป็นการเปิดศาลของสมบัติซากเรือขวานดำเป็นครั้งแรก ตอนนี้ข่าวเกี่ยวกับสมบัติเป็นประเด็นอย่างมาก สื่อใหญ่ต่างๆ ต่างก็กำลังรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะมูลค่าเงินที่เกี่ยวข้องในครั้งนี้ก็ไม่ใช่เล็กน้อยเลย
ภาพรวมมติมหาชนของแคนาดายังเป็นประโยชน์ต่อฝั่งของฉินสือโอวอยู่ สำหรับการกระทำที่อันธพาลเจ้าโลก คนแคนาดารังเกียจเป็นอย่างมาก แน่นอนว่านี่ก็เกี่ยวข้องกับความคิดของพวกเขาด้วย ตามการโผล่พ้นทะเลออกมาของสมบัติซากเรือ สายตาของผู้คนมากมายก็เล็งไปยังเส้นทางการกู้สมบัติจากทะเล
สภาพเศรษฐกิจหลายปีมานี้ไม่ค่อยดีนัก หลายคนต่างตกงาน ชายฝั่งทะเลแคนาดาทอดยาว ในประเทศมีแม่น้ำลำคลองหลายสาย ดังนั้นหลายครอบครัวต่างก็มีเรือ ผู้คนไม่น้อยก็มีประสบการณ์ออกทะเล ดังนั้นพอพวกเขาเห็นพวกฉินสือโอวกู้ซากเรือได้ เลยหวั่นไหว
สำหรับเรือประมงแบบนี้ ฉินสือโอวยินดีต้อนรับ ถ้าให้พวกเขาออกทะเลกู้สมบัติละก็? เขาคิดว่าคงไม่มีหวังแล้ว ยกตัวอย่างอย่างเรือซานโฮเซ เขามีจิตสำนึกแห่งโพไซดอน และยังจำกัดบริเวณคร่าวๆ ที่มันจมลง ก็ยังคงค้นหาร่องรอยของเรือลำนี้ไม่พบเลย
ยังมีเวลาอีกหนึ่งสัปดาห์ก่อนเปิดศาล ฉินสือโอวไม่ได้มีธุระอะไร จึงตั้งใจเตรียมรวมพลพวกชาวประมงเพื่อรวบรวมสาหร่ายทะเล สาหร่ายสีน้ำตาลของฟาร์มปลาหมายเลขสองได้เติบโตเป็นผืนป่าแล้ว การเติบโตบอกได้คำเดียวว่าดี
เวลานี้มีนักข่าวมาหา บอกว่าจะสัมภาษณ์เขาเกี่ยวกับเรื่องของเรืออับปาง เขาคนนี้ค่อนข้างจะถ่อมตัว ไม่ค่อยอยากจะยุ่งเกี่ยวกับพวกนักข่าวนัก แต่พอคิดว่านี่เป็นโอกาสในการปั่นข่าวที่ดี เขาก็อดทนรับรองนักข่าวพวกนี้
ผลปรากฏว่าสื่อข่าวที่ติดตามเรื่องนี้ก็มีไม่น้อย นักข่าวมากันกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า แบบนี้เขาก็ไม่ได้อะไรเลย สุดท้ายทำได้เพียงปฏิเสธการสัมภาษณ์ ในเวลานี้นีลเซ็นมาหาเขา หัวเราะว่า “บอส ช่วงนี้ผมเรียนภาษาจีน ได้เรียนคำพูดที่มีเหตุผลมากมาประโยคหนึ่ง เรียกว่าเก๋งที่ใกล้น้ำย่อมได้จันทร์ก่อน…”
ฉินสือโอวเองก็หัวเราะขึ้นมาด้วย บอกว่า “ไม่เลวนี่ นายยังมีความกระตือรือร้นไม่น้อย ยังเรียนอะไรมาอีกละ?”
นีลเซ็นบอกอีกว่า “ยังเรียนมาอีกประโยคว่า เรือล่มในหนองทองจะไปไหน พูดอย่างนี้ใช่หรือเปล่า? การออกเสียงของผมไม่มีปัญหาใช่ไหม?”
พอได้ยินสองประโยคนี้ ในใจท่านชายฉินก็คิดถึงสิ่งอื่นขึ้นมาได้ ดังนั้นจึงจ้องเขาแล้วพูดว่า “งั้นนายเคยได้เรียนอีกประโยคหนึ่งมาไหม? เรียกว่า ‘กระต่ายไม่กินหญ้าข้างบ้าน’!”
เขาเดาว่าเจ้านีลเซ็นมาเพื่อขอร้องให้กับแพรีส แน่นอนว่าในความเป็นจริงก็เป็นอย่างนี้ นีลเซ็นส่ายหัวปฏิเสธว่า “ผมไม่เคยได้ยินประโยคนี้มาก่อนเลย บอส คำนี้มีความหมายว่าอะไร? แต่ว่าผมอยากมาพูดกับคุณเรื่องหนึ่ง คุณเลือกแพรีสเป็นโฆษกในคดีนี้ได้หรือเปล่า?”
ในแคนาดามีเฉพาะผู้ที่รับผิดชอบคดีสำคัญเท่านั้นถึงจะมีโฆษก ซึ่งก็คือการหาคนรอบข้างที่มีความสามารถในการประชาสัมพันธ์มากที่สุดมาเป็นโฆษกของตัวเอง เรื่องความคืบหน้าของคดี ความจริงเบื้องหลังคดี ฯลฯ ทั้งหมดต่างมอบให้โฆษกเป็นผู้ดูแลจัดการ
ฉินสือโอวยังไงก็ได้ เดิมทีเขาก็อยากจะให้เออร์บักมาเป็นโฆษกนี้อยู่แล้ว เพราะว่าคุณปู่มีประสบการณ์มากกว่าและมีความสามารถมากกว่า แต่ตระหนักถึงว่าคุณปู่อายุมากแล้ว แพรีสเองก็ทำงานอยู่ในวงการข่าวมาหลายปี ให้เธอมาทำก็น่าจะทำได้
พอเขารับปาก นีลเซ็นก็ดีใจเป็นอย่างมาก ร้องดีใจแล้ววิ่งออกไปทำงาน บอกว่าจะไปไล่วาฬ
ฉินสือโอวตามไปดู เพราะช่วงนี้อากาศร้อนขึ้นเรื่อยๆ พวกวาฬเริ่มโผล่ขึ้นมาหายใจเหนือน้ำทะเลบ่อยๆ ฟาร์มปลาเอกชนไม่ชอบการมาของฉลามและวาฬ พวกมันกินจุเกินไป การทำลายเศรษฐกิจรุนแรงเกินไป
พวกชาร์คเองก็กำลังวางแผนกันว่าจะไล่ฝูงวาฬออกจากฟาร์มปลาไปยังทะเลลึกยังไงดี พวกเขาคิดมาหลายวิธี ทั้งวิธีการหลอกล่อ ใช้กำลังขับไล่ ใช้คลื่นเสียงขับไล่ ฯลฯ ต่างก็คิดมาแล้ว ได้ผลไม่มากนัก
เห็นท่าทางพวกเขาหน้าเครียดคิ้วขมวด ฉินสือโอวจึงถามว่า “สถานการณ์ฟาร์มปลาไม่ค่อยดีเหรอ?”
ซีมอนสเตอร์ถอนหายใจแล้วบอกว่า “หลักๆ คือไม่รู้ว่ามีวาฬหัวทุยมาจากไหนฝูงหนึ่ง เจ้าพวกนี้น่ากลัวเกินไป ในหนึ่งวันพวกมันสามารถกินเรือปริ้นเซสเมล่อนลำหนึ่งได้เลย!”
นี่ก็พูดเกินไปหน่อย ฉินสือโอวรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแล้ว เขาโบกมือบอกว่า “งั้นก็ให้พวกมันอยู่ในฟาร์มปลาชั่วคราวเถอะ ยังไงการเก็บเกี่ยวของพวกเราก็เพียงพออยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”
พวกชาวประมงร้อนรนแล้วบอกว่า “นี่มันไม่ได้นะ บอส คุณไม่รู้ว่าพวกมันกินจุแค่ไหน พวกมันสามารถกินเรือปริ้นเซสเมล่อนได้ในหนึ่งวันเป็นเรื่องเท็จก็จริง แต่ว่าในหนึ่งวันนั้นสามารถกินรถคาดิลแลคคันหนึ่งได้แน่นอน!”
ที่พวกเขาบอกคือมูลค่า และก็จริง ในหนึ่งวันฝูงวาฬหัวทุยกินปลาได้สักร้อยสักแสนก็ไม่เป็นปัญหาเลย
ฉินสือโอวไม่อยากให้พวกชาวประมงรู้ว่าตนเองรู้เรื่องฝูงวาฬหัวทุยตั้งนานแล้ว จึงบอกว่าพวกนายพาฉันไปดูที่ทะเลหน่อย เขาจะไปตรวจดูขนาดของฝูงวาฬหัวทุยด้วยตัวเองหน่อย
เรือแล่นออกทะเลไปสิบกว่ากิโลเมตร ก็เจอร่องรอยของฝูงวาฬหัวทุยแล้ว พวกมันลอยอยู่บนน้ำเหมือนกับเป็นเกาะสีฟ้าเล็กๆ วาฬหัวทุยส่งเสียงคล้ายเสียงบีบแตรดังออกมาเป็นพักๆ เรื่อยๆ อานุภาพเสียงนั้นน่าตกใจ
พวกชาวประมงต่างยืนเอามือบังแสงแดดที่สาดส่องอยู่บนหัวเรือแล้วมองไปยังฝูงวาฬ พวกเขาอยากจะไล่ปลาใหญ่พวกนี้ไป ก็เพื่อปกป้องฟาร์มปลา แต่ในความจริงปกติแล้วพวกเขาเองก็ไม่ค่อยได้เห็นฝูงวาฬขนาดใหญ่แบบนี้นัก
อย่าได้มองว่าวาฬหัวทุยมีกำลังรบที่แข็งแกร่ง แต่ปกติแล้วพวกมันมีนิสัยค่อนข้างอ่อนโยน ตอนนี้มีวาฬหัวทุยลอยอยู่บนน้ำยี่สิบกว่าตัว เรือประมงเข้าใกล้พวกมันก็ไม่กลัว และยังคงเอาหัวอันใหญ่โตมากนั่นออกจากทะเลมาตากแสงแดด
นอกจากนี้ วาฬหัวทุยพวกนี้อ่อนไหวต่อพลังโพไซดอนเป็นพิเศษ พอฉินสือโอวปล่อยจิตสำนึกแห่งโพไซดอนเข้าไปในน้ำ พวกมันก็รื่นเริงขึ้นมาทันที แหวกว่ายไปมารอบๆ กวนให้เกิดคลื่นกว้างโอ่อ่าขึ้นในน่านน้ำผืนนี้
พอเห็นหัวขนาดใหญ่ของพวกวาฬหัวทุยตัวใหญ่นี้ เขาก็มีไอเดียหนึ่งขึ้นมา บอกว่า “ฉันจำได้ว่ายุคแปดศูนย์ในแคนาดา เคยมีซีรีส์เรื่องหนึ่งชื่อว่า ‘ทูตแห่งมหาสมุทร’ ใช่ไหม?”
ชาวประมงที่อายุค่อนข้างเยอะอย่างพวกชาร์คและซีมอนสเตอร์ต่างก็พยักหน้า พวกเขาจำซีรีส์เรื่องนี้ได้
เนื้อเรื่องของ ‘ทูตแห่งมหาสมุทร’ นั้นง่ายมาก พูดแนะนำถึงหมู่บ้านโดดเดี่ยวเล็กๆ ที่อยู่โพ้นทะเลแห่งหนึ่ง เพราะว่าพลังงานที่ใช้ในการล่องเรือไปกลับนั้นเยอะเกินไป คนในหมู่บ้านจึงเสียดายที่จะใช้ แต่ทุกวันก็มีสิ่งของจำพวกจดหมาย อาหาร ยารักษา ฯลฯ ที่ส่งหากันระหว่างเมืองและหมู่บ้าน ดังนั้นจึงมีคนเลี้ยงวาฬหัวทุยน้อยตัวหนึ่งไว้ จากนั้นก็ทำกล่องปิดผนึกขึ้นมากล่องหนึ่ง โดยให้วาฬตัวนี้ลากไปมา
ฉินสือโอวไม่เคยดูซีรีส์เรื่องนี้มาก่อน แต่เมื่อก่อนตอนที่มีสถานีโทรทัศน์หนึ่งแนะนำซีรีส์ยอดเยี่ยมของแคนาดาในศตวรรษที่แล้วเคยพูดถึงซีรีส์เรื่องนี้ ที่เขาจำได้ที่สุดในรายการนี้ก็คือฉากที่คนแก่ที่เลี้ยงวาฬนั่นนั่งอยู่บนหัวของวาฬหัวทุย
แบบนี้ ทำไมเขาถึงไม่ทำอานนั่งขนาดใหญ่อันหนึ่ง วางไว้บนหัวของวาฬหัวทุยมาเพื่อขี่พวกมันละ?
เขาเอาความคิดนี้บอกให้พวกชาวประมงฟัง พวกชาวประมงหัวเราะกันใหญ่ แล้วบอกว่า “นี่มันจะเป็นไปได้ยังไง? วาฬหัวทุยเป็นปลาน้ำลึก โอกาสที่พวกมันลอยออกมาเหนือน้ำน้อยมาก พยศเชื่องยาก ทางที่ดีห่างจากพวกมันหน่อยดีกว่า”
……………………………
Related

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset