ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1695 อัศวินมหาสมุทร

กะลาสีเก่าและชาวประมงเก่าล้วนมีฝีมือทั้งนั้น นั่นก็คือการดูน้ำพุที่วาฬพุ่งออกมา ก็สามารถประเมินสายพันธุ์ของมันออกมาได้
น้ำพุที่วาฬส่วนใหญ่พ่นออกมานั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะ อย่างเช่นน้ำพุที่พวกวาฬไรท์หลังดำพ่นออกมาจะเอียงออกสองข้าง เหมือนกับรูปตัววี แต่วาฬหัวทุยนั้น น้ำพุที่พ่นออกมาจะอยู่เยื้องซ้ายด้านหน้าสี่สิบห้าองศา
ที่เป็นอย่างนี้ เป็นเพราะว่ารูจมูกของวาฬหัวทุยอยู่บนสุดของหัวเยื้องซ้ายข้างหน้าสองข้าง แต่แปลกมาก แม้ว่าพวกมันจะมีรูจมูกสองอัน แต่กลับมีเพียงรูจมูกด้านซ้ายที่สามารถใช้เพื่อหายใจได้ และรูจมูกด้านขวากลับอุดตันแต่ตั้งเกิด นี่ทำให้ตอนที่วาฬหัวทุยลอยออกมาหายใจ ลำตัวมักจะเอียงขวา จากนั้นน้ำพุที่พ่นออกมาจึงได้พ่นออกมาจากด้านหน้าเยื้องซ้ายสี่สิบห้าองศาโดยปริยาย
หาน้ำพุแบบนี้เจอ ก็จะหาฝูงวาฬหัวทุยเจอ หลังเรือขับออกไป ฉินสือโอวเห็นเจ้าพวกตัวใหญ่ลอยออกมาบนผิวน้ำเริ่มอาบแดดอีกแล้ว บางครั้งก็ส่งเสียงร้องดังออกมา เหมือนจะสบายนะ**
“แม่งเถอะ เจ้าพวกนี้ช่างรู้จักเพลิดเพลินซะจริง วันนี้คงกินปลาของเราไปไม่น้อยแน่!” บูลพูดอย่างไม่พอใจ
ปลาที่เก็บเกี่ยวจากฟาร์มปลาเกี่ยวข้องกับเงินโบนัสของพวกเขา ปลาที่ออกมีน้อยงั้นเงินรางวัลของพวกเขาก็จะน้อยด้วย นี่คือวิธีที่ฉินสือโอวเสนอออกมาเพื่อยกระดับความกระตือรือร้นในการต่อกรกับเรือขโมยปลา กลับใช้ได้ดีเลย แต่ว่าขอบเขตขยายใหญ่แล้ว สถานการณ์ทุกอย่างที่ขัดขวางผลเก็บเกี่ยวของฟาร์มปลาจึงกลายเป็นหนามยอกอกของพวกชาวประมง
ฉินสือโอวสวมชุดดำน้ำกระโดดลงน้ำไป ว่ายไปยังข้างจ่าฝูงด้วยความเร็ว ยื่นมือตบด้านบนของดวงตาของมัน
เรคมองฉากนี้อย่างตกใจ ถอนหายใจว่า “บอสของพวกนายช่างกล้าจริงเลย รบกวนวาฬที่กำลังหลับอยู่ ก็ไม่กลัวว่าจะถูกวาฬนี่กลืนลงไปเหรอ?”
ต่อหน้าสัตว์ทะเลใหญ่ลำตัวยาวยี่สิบเมตรแบบนี้ มนุษย์ช่างเล็กน้อยเกินไป
ชาร์คหัวเราะอย่างภูมิใจว่า “ถ้าหากมีฝ่ายหนึ่งที่จำเป็นต้องกินอีกฝ่าย อย่างนั้นบอสของพวกเราจะต้องกินวาฬทิ้งแน่นอน เขาเป็นชายที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร!”
จ่าฝูงกำลังนอนหลับอยู่ ฉินสือโอวตบให้มันตื่นขึ้น แน่นอนว่าเจ้าหมอนี่โมโหมาก เพียงแต่พอรับรู้ถึงพลังโพไซดอนแล้วก็รีบสงบลง ส่ายหางเบาๆ ทำท่าทางเหมือนหมาเชื่องๆ
ฉินสือโอวตบหัวมันอีกครั้ง จากนั้นว่ายไปยังหัวของมัน ส่งสัญญาณให้พวกชาวประมงส่งอานวาฬมา
ตัวอานวาฬนี้มีทรงโค้งมาก เพราะเดิมทีเจ้าสิ่งนี้เตรียมมาเพื่อวาฬสีน้ำเงิน แต่วาฬสีน้ำเงินไม่มีหัวสมองเหลี่ยมแบบนี้เหมือนที่วาฬหัวทุยมีแน่นอน ดังนั้นอานวาฬไม่สามารถวางไว้บนหัวของวาฬหัวทุยได้ แต่จะต้องยึดเอาไว้บนตัว
ตัวอานวาฬมีตัวล็อกหลายตัว อีกอย่างยังมีโซ่เหล็กเส้นหนึ่งยึดไว้ เทคโนโลยีตอนนี้พัฒนาเปลี่ยนเป็นเชือกนาโนแล้ว ยิ่งยืดหยุ่นและยิ่งแข็งแรง ฉินสือโอวดำอยู่ในน้ำ ภายใต้การช่วยของพวกชาร์คนำอานติดตั้งไว้บนตัวของวาฬหัวทุย
ในระหว่างนี้ จ่าฝูงเพียงแต่มองด้วยความสนใจ ไม่ได้หลบและไม่ได้ให้ความร่วมมือ สุดท้ายอานไม้อันหนึ่งที่ด้านล่างถูกห่อด้วยหลังสัตว์ดูแล้วอ่อนนุ่มก็ติดไว้บนหลังของวาฬหัวทุยจ่าฝูง วาฬหัวทุยปรับมุมทำให้ติดอยู่บนหลังได้พอดี
หลังจากทำเสร็จ เขาตบยังตำแหน่งข้างดวงตาของวาฬหัวทุย ในขณะเดียวกันก็ใช้จิตสำนึกออกคำสั่งกับมัน ให้มันค่อยๆ เคลื่อนไหว
จ่าฝูงส่ายหัว ในทะเลก็มีคลื่นใหญ่ปรากฏออกมา ฉินสือโอวพุ่งเข้าไปในน้ำอย่างแรงเพื่อหลบคลื่นพวกนั้น แต่เกาะล่องแก่งกลับขยับไปมาบนทะเลอย่างรุนแรงราวกับถูกพัดด้วยลมพายุ
ติดอานวาฬอยู่ วาฬหัวทุยก้มหัวมุดไปในน้ำ ลำตัวใหญ่โตทำให้เกิดคลื่นแรงที่รุนแรงกว่า ความดุดันของเจ้าแห่งทะเลลึกเป็นที่ประจักษ์อย่างไม่ต้องสงสัย
พวกชาวประมงเห็นวาฬหัวทุยมุดเข้าไปในน้ำ ต่างก็ถอนหายใจอย่างเสียดาย เรคบอกว่า “ถ้าหากวาฬตัวนี้ไม่ปรากฏตัวออกมาอีก อย่างนั้นอานวาฬอันหนึ่งก็สิ้นเปลืองแล้ว”
“หืม? บอสละ? ทุกคนเห็นบอสหรือเปล่า? ทำไมฉันไม่เห็นเขามาสักพักแล้วละ?”
“นั่นสิ เมื่อครู่นี้บอสยังอยู่ในน้ำนะ พวกนายเห็นเขาครั้งสุดท้ายตอนไหน?”
“ให้ตายสิ หารือกันหานกอะไร รีบไปตามหาสิ! เปลี่ยนชุด เร็วๆๆ ลงน้ำ!”
พวกชาวประมงกังวลว่าฉินสือโอวถูกวาฬหัวทุยชนล้ม แม้ว่าแบบนั้นจะมีน้ำทะเลลดแรงปะทะ ด้วยพลังอันใหญ่โตของวาฬหัวทุยเองก็สามารถชนจนคนตายในทันทีได้เลย
ในตอนที่พวกเขากำลังโวยวายเพื่อเตรียมตัวลงน้ำ อยู่ๆ คลื่นบนทะเลก็รุนแรงขึ้นมา ต่อมาน้ำทะเลใสเหมือนละอองฝนเต็มอยู่ทั่วผิวทะเล แสงอาทิตย์ที่สดใสส่องทะลุผ่านไอน้ำ วาฬหัวทุยใหญ่โตตัวหนึ่งเผยลำตัวออกมาอย่างแรง!
บนตัวของวาฬหัวทุย อานไม้ใหญ่อันหนึ่งเผยออกมา และในตอนนี้บนอานไม้ มีชายคนหนึ่งนั่งตัวตรงอยู่ แน่นอนว่านี่ก็คือท่านชายฉินนั่นเอง
เมื่อครู่นี้วาฬหัวทุยดำลงไป ก็เพื่อให้ฉินสือโอวมีโอกาสนั่งไปบนอานไม้
อานวาฬกว้างมาก ฉินสือโอวนั่งอยู่ข้างบน สองมือดึงเชือกหยาบสายหนึ่งเอาไว้ เชือกเส้นนี้เขาใช้เพื่อยึดลำตัว ไม่สามารถใช้บังคับทิศทางเคลื่อนที่ของวาฬหัวทุย
กลางศตวรรษตอนที่ฝึกหัดวาฬ ล้วนต้องเจาะรูที่แก้มของวาฬ ด้วยวิธีนี้ใช้เชือกมาควบคุมทิศทางเคลื่อนที่ของวาฬ แต่ว่าผลลัพธ์ไม่ค่อยดี พลังของวาฬน่ากลัวเกินไป ไม่ใช่แรงคนที่จะสามารถต่อกรได้ด้วย
ฉินสือโอวมีจิตสำนึกแห่งโพไซดอน ควบคุมวาฬหัวทุยนี้ง่ายดายอย่างมาก เขาใช้ส้นเท้าถีบอานไม้เหมือนกับขี่ม้า ปากก็ตะโกนอย่างกระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวาว่า “เด็กน้อย พุ่งไปเลย!”
พวกชาวประมงตะโกนโห่ร้องขึ้นมา เห็นเขาขี่วาฬใหญ่ท่วงท่ากล้าหาญราวกับม้าศึก เรคเองก็ตื่นเต้นขึ้นมาด้วย ตะโกนเสียงดังว่า “ราชาทะเลไวกิ้ง! โอ้ๆๆ!!!”
หางใหญ่ของวาฬหัวทุยออกแรงตบน้ำทะเล แล้วนำพาคลื่นใหญ่ซัดเข้าหาเรือเล็ก เรือเล็กนี้ยาวแค่เจ็ดเมตรกว่าเท่านั้น อยู่ต่อหน้าของมันก็เหมือนกับเป็นของเล่น ตอนที่มันว่ายเข้าไป คนบนเรือเต็มไปด้วยสีหน้าตื่นตกใจ พวกเขาตกใจจริงๆ!
พาฉินสือโอวไปด้วย วาฬหัวทุยว่ายไปในน่านน้ำผืนนี้ ต้องขอบคุณลำตัวราวกับภูเขาเล็กนั่นของพวกมัน วาฬพวกนี้เคลื่อนไหวได้ค่อนข้างราบรื่นมั่นคง จ่าฝูงทำตามคำสั่งของฉินสือโอวนำเอาแผ่นหลังเผยออกมาบนทะเล บางทีก็เงยหัวออกมาส่งเสียงร้องคำราม ยิ่งเพิ่มพลังอำนาจขึ้นอีก!
พวกชาวประมงตาร้อนอย่างมาก ต่างก็โห่ร้องอยู่ตรงนั้นว่า “บอส ให้ผมขึ้นไปนั่งด้วยหน่อยนะ!” “เห็นแก่พระเจ้า บอส ผมจะติดตามคุณ! ” “อย่าทิ้งผมเอาไว้ กัปตัน ผมเป็นนักรบที่ซื่อสัตย์ของคุณตลอดไป!”
ขี่บนตัววาฬหัวทุยจ่าฝูง วาฬหัวทุยรู้สึกสดชื่นในทันทีทันใด เขายื่นมือชี้ไปยังทิศของฟาร์มปลา วาฬหัวทุยนี้ก็รีบว่ายไปด้านหน้าในทันที
บนเรือเล็ก ชาวประมงหลายคนต่างถ่ายรูปบันทึกภาพโพสต์ไปยังทวิตเตอร์หรือว่าเฟสบุ๊คของตัวเอง เรคยกมือขึ้นท่าทางตื่นเต้นอย่างมาก “ให้ผมขึ้นไปๆๆ! ผมจะไปถ่ายรูป!”
อานวาฬกว้างใหญ่ และยังมีราวจับที่แข็งแรง ดังนั้นฉินสือโอวไม่เพียงแต่นั่งอยู่ในนั้น และยังสามารถยืนขึ้นมาได้ แบบนี้ดูไปก็ยิ่งแล้ว
……………………………..
Related

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset