ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1738 เสน่ห์ของกิจกรรม

ร่มชูชีพเหินไปในอากาศอย่างช้าๆ เหมือนขนมสายไหม ฉินสือโอวและแบล็คไนฟ์เงยหน้ามองอยู่ตรงนั้น ฉินสือโอวกระโดดและก่นด่าพวกเด็กๆ เป็นระยะๆ เด็กๆ พวกนี้ชอบทำให้คนคอยเป็นห่วงอยู่เรื่อยสินะ!
เห็นได้ชัดว่าร่มชูชีพลอยไปทางทะเล แบล็คไนฟ์ส่ายศีรษะแล้วพูดขึ้นว่า “พวกเขาไม่มีประสบการณ์ จริงๆ แล้วถ้าร่อนลงบนพื้นทรายจะดีกว่า ตราบใดที่ไม่ใช่มือใหม่ แล้วร่อนลงบนพื้นทรายแล้วมีทรายเป็นตัวรองรับจะปลอดภัยกว่าน่ะ”
ฉินสือโอวบ่นต่อ “บ้าเอ๊ย ไอ้พวกเด็กน้อยพวกนี้เป็นมือใหม่ทั้งนั้น พวกเขาไม่กลัวตายจริงๆ เลยนะเนี่ย!”
แบล็คไนฟ์หันไปมองเขาแล้วไม่พูดอะไร แต่สีหน้าของเขามีความหมายอย่างอื่น
ฉินสือโอวนายใหญ่รู้สึกโมโห จึงพูดว่า “นายหมายความว่าไง? นายไม่เชื่อคำพูดฉัน?”
แบล็คไนฟ์พูดอย่างช้าๆ ว่า “บอส บอสก็รู้ว่าผมนับถือบอสมากที่สุด ผมเชื่อคำพูดที่บอสบอกทั้งหมด แต่ก็ใช่ว่าจะถูกเสมอไป ผมกล้าพนันเลยว่า ตอนที่พวกเขาอยู่ที่ชิคาโก้ ต้องเคยโดดร่มแน่ๆ ชิคาโก้เป็นเมืองแห่งลม เพราะฉะนั้นโดดร่มที่นั่นเหมาะที่สุด”
พอได้ยินแบบนี้ฉินสือโอวถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วขณะ จะว่าไปก็ถูกต้อง แม้ว่าพวกเด็กๆ เหล่านี้จะซุกซน แต่พวกเขาก็ไม่อยากตาย ในเมื่อพวกเขาเลือกกระโดดลงมาด้วยวิธีนี้ ก็แสดงพวกเขามีประสบการณ์อย่างเห็นได้ชัด
ร่มชูชีพแต่ละอันค่อยๆ เข้าใกล้ทะเล หลังจากผ่านไปสักระยะ ฉินสือโอวก็มองเห็นเด็กพวกนี้ชัดเจนขึ้น เชอร์ลี่ย์และกอร์ดอนร่อนลงก่อนเพื่อน โบกมืออยู่บนท้องฟ้าให้เขาอย่างมีชัย
ฉินสือโอวโกรธมากที่พวกเขากล้ามาเล่นกีฬาผาดโผนประเภทนี้โดยไม่ปรึกษาเขาก่อน เขาต้องสั่งสอนพวกเขาหนักๆ ในภายหลัง
หลังจากได้เห็นอย่างชัดเจนเขาก็พบว่าเด็กเหล่านี้มีความแตกต่าง เท้าของพวกเขากำลังเหยียบอยู่บนบอร์ดสกีที่ยาวและกว้าง ดังนั้นเมื่อพวกเขาลงสู่ทะเล พวกเขาก็ไม่ได้ตกลงไปในน้ำตรงๆ แต่กลับเหยียบอยู่บนบอร์ดโต้คลื่นลูกใหญ่และพุ่งไปข้างหน้าด้วยแรงของคลื่น
ในขณะเดียวกัน พวกเด็กๆ ก็ปลดหัวเข็มขัดร่มชูชีพออก และร่มชูชีพอันใหญ่ก็ถูกลมทะเลพัดลอยไปด้านหลัง ในขณะที่แต่ละคนทรงตัวบนบอร์ดโต้คลื่นและร่อนไปข้างหน้า อีกอย่างที่พวกเขาใช้เป็นกระดานโต้คลื่นไฟฟ้า ไม่เช่นนั้นคงไม่ได้เร็วและเสถียรขนาดนั้น
“เย้ เย้ เย้!” พวกเด็กๆ ต่างส่งเสียงเชียร์ขณะโต้คลื่นไปด้วย เมื่อได้ยินเสียงเรียกของเชอร์ลี่ย์ ม้าพันธุ์อเมริกัน เพนต์ต่างก็กระดิกหูและเงยหน้ามองด้วยความตื่นเต้น เมื่อเชอร์ลี่ย์ก้าวขึ้นไปยืนบนสกีบอร์ดเผยให้เห็นรูปลักษณ์ที่งดงามของเธอ พวกมันทั้งสองก็ตื่นเต้นรีบขยับกีบของมันวิ่งลงทะเลไป…
ฉินสือโอวมองดูฉากนี้ด้วยความประหลาดใจ ร่างของเปากงและตี้หลูค่อยๆ จมหายลงไปในน้ำ หลังจากนั้นค่อยๆ ลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ กีบของพวกมันขยับอย่างรวดเร็ว ร่างใหญ่ของพวกมันก็ลอยอยู่บนผิวน้ำทะเลด้วยการพยุงตัว ถือได้ว่าทักษะการว่ายน้ำของพวกมันนั้นยอดเยี่ยมมาก!
“พวกมันสองตัวว่ายน้ำเป็นเหรอ?” ฉินสือโอวถามด้วยความโกรธ
แบล็คไนฟ์พยักหน้า “เห็นได้ชัดเลยว่าพวกมันไม่ได้แค่ว่ายเป็นแต่ทักษะการว่ายน้ำยังเป็นเลิศด้วย”
“ว่ายเป็นเมื่อไรกัน? ทำไมฉันถึงไม่รู้”
“ผมว่าเรื่องนี้ต้องถามเชอร์ลี่ย์ซะแล้ว”
พวกเด็กๆ ยืนทรงตัวบนสกีบอร์ดตลอดทางจนพุ่งเข้ามาที่ชายหาด ในที่สุดบอร์ดยาวก็โบยบินไปรอบๆ พร้อมกับทรายเม็ดละเอียด พวกเขาส่วนใหญ่สามารถร่อนลงจอดได้อย่างมั่นคง มีเพียงเสี่ยวชาร์คเท่านั้นที่ไม่มั่นคงและเดินโซซัดโซเซล้มลงบนพื้น
คนที่เหลือชูนิ้วกลางและล้อเลียน พอฉินสือโอวเห็นก็โกรธหูออกควัน ตะโกนว่า “ใครสอนให้พวกนายใช้คำหยาบกัน? ใครสอนให้พวกนายชูนิ้วกลาง?”
เชอร์ลี่ย์กระโดดลงมาจากบอร์ด กอดแขนเขาไว้แล้วเริ่มออดอ้อนด้วยการแกว่งแขนเขาไปมา หลังจากนั้นถามขึ้นว่า “เมื่อกี้พวกคุณทำอะไรกันอยู่เหรอ? หนูเห็นว่าพวกคุณกำลังจะบังคับลูกๆ ของหนู”
ในเมื่อเจ้าม้าสองตัวว่ายน้ำเป็น ฉินสือโอวก็วางใจ เขาพูดว่า “ไม่มีอะไรหรอก กำลังหยอกเล่นกับเจ้างั่งสองตัวอยู่ จริงสิ ทำไมพวกเราถึงกลับมากันเร็วจัง? แล้วยังเล่นกระโดดร่มด้วย?”
เชอร์ลี่ย์ไม่ได้จะเอาคำตอบของเขาจริงจัง จึงพูดเลี่ยงออกไปว่า “พวกเราคิดถึงคุณแล้วไง คิดถึงคุณนะ นะ นะ นะ…”
กอดแขนของเขาไว้แล้วแกว่งไปมาเหมือนเดิม แกว่งจนจิตใจของฉินสือโอวนายใหญ่เริ่มไม่เป็นสุข โลลิต้าเริ่มเป็นนางมารน้อยๆ แล้ว ถึงแม้ว่าจะใส่ชุดกีฬาโดดร่ม แต่หน้าอกของเธอก็ยังอ่อนนุ่ม
ดึงมือออกมาอย่างใจเย็น ฉินสือโอวจงใจวางท่าเคร่งขรึมแล้วพูดว่า “รีบบอกมา ทำไมพวกเราถึงกลับมาไวขนาดนี้? ไวส์ไม่ได้จะกลับบ้านได้ง่ายๆ…”
ไวส์โบกไม้โบกมือขัดจังหวะคำพูดของเขา แล้วทำสีหน้าจริงจังกว่าพูดขึ้นว่า “อาจารย์ ผมต้องรีบกลับมาฝึกกำลัง ช่วงเวลาที่อยู่บ้านทั้งพ่อและแม่ของผมชอบพาผมไปเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ จนผมไม่มีเวลาฝึกกำลังเลย!”
ฉินสือโอวลอบถอนใจ น่าเสียดายที่เขาไม่ได้เป็นนักยอดฝีมือตัวจริง ไม่เช่นนั้นลูกศิษย์คนนี้คงจะเป็นที่เชิดหน้าชูตาของวงศ์ตระกูลได้จริงๆ ช่างเป็นเด็กที่มีแรงบันดาลใจ เป็นต้นกล้าที่ดีจริงๆ แต่ก็ถูกกำหนดมาแล้วว่าต้องถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของเขาแล้ว
พวกเด็กๆ ที่รีบกลับมากันในเวลานี้ จริงๆ แล้วก็เพื่อสงครามผู้กล้าที่กำลังจะเริ่มขึ้นเร็วๆ นี้ แม้ว่าพวกเขาจะมีความสุขกับชีวิตหรูหราทุกรูปแบบในชิคาโก้ แต่ก็ไม่ได้มีความโดดเด่นอะไร ไม่เหมือนกับสงครามผู้กล้าที่ดึงดูดกว่ามาก
เครื่องบินของครอบครัวบรูซจอดอยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาตินครเซนต์จอห์น สมแล้วที่เป็นนายทุนระดับสูงสุดในอเมริกา วิเวียนจัดเครื่องบินสองลำให้พวกเด็กๆ พวกเขาบินไปที่เมืองเซนต์จอห์นก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนเป็นเครื่องบินกีฬาเพื่อเล่นกระโดดน้ำ
เมื่อก่อนตอนที่อยู่ที่ชิคาโก้ พวกเขาเคยเล่นกีฬาประเภทนี้มาก่อน หนุ่มสาวอเมริกาต่างเล่นกันเป็น พวกเขาเล่นกีฬาผาดโผนประเภทเดี่ยวจนเบื่อ ตอนนี้จึงเอากีฬาผาดโผนจำนวนหนึ่งมาผนึกรวมกัน และการกระโดดร่มลงก็เป็นหนึ่งในนั้น
ฉินสือโอวอยากจะบอกว่าวันหลังอย่าเล่นอะไรที่อันตรายแบบนี้เลย แต่คิดไปคิดมาเขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา นี่เป็นวิธีการสั่งสอนสำหรับพ่อแม่แบบจีนโดยทั่วไป ซึ่งในแคนาดาต้องปลูกฝังความอยากรู้อยากเห็นและจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยของเด็กๆ ชาวแคนาดาให้ความสำคัญกับด้านนี้มาก
แน่นอนว่ามีการเสียชีวิตที่ผิดปกติในหมู่เยาวชนในอเมริกาเหนือมากกว่าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้
พวกเด็กๆ ปรับแต่งอาวุธและชุดเกราะต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา ฉินสือโอวกล่าวว่าความสนุกของสงครามของผู้กล้าอยู่ที่การสร้างอาวุธเกราะด้วยตัวเอง เชอร์ลี่ย์บอกไปตามเหตุผลว่า “ใช่สิ ชุดเกราะของพวกเราออกแบบกันเอง และภาพด้านบนก็เป็นฝีมือพวกเราที่พ่นกันเองด้วย”
ฉินสือโอวมองไปที่ภาพที่น่าเกลียดบนชุดเกราะที่สวยงามแล้วก็อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก ก่อนหน้านั้นเขายังเคยสงสัยว่า ทำไมชุดเกราะที่เจ๋งแบบนี้ถึงมีภาพที่ไม่สวยงามอยู่บนนั้นได้ ตอนนี้เชอร์ลี่ย์ได้ให้คำตอบกับเขาแล้ว
สิ่งที่สำคัญที่สุดในเมืองในเดือนสิงหาคมคือสงครามผู้กล้า เริ่มแรกชาร์คและคนอื่นๆ เสนอขึ้นมาโดยไม่ได้คิดอะไร แต่เมื่อเริ่มจัดอย่างเป็นทางการ ทุกคนก็จริงจังกับมัน
สำหรับชาวเมืองการเปิดตัวกิจกรรมนี้อีกครั้งมีความหมายที่ต่างจากปกติอย่างยิ่ง การเกิดขึ้นของกิจกรรมนี้ถือเป็นยุครุ่งเรืองของเมือง พูดตามตรงก็คือทุกคนไม่มีอะไรทำเมื่อท้องอิ่ม จึงสร้างกิจกรรมเพื่อรำลึกถึงบรรพบุรุษ
ต่อมาเศรษฐกิจของเมืองก็แย่ขึ้น ทุกคนย้ายออกไปและจากไปเหลือเพียงชาวประมงระดับล่าง แค่เลี้ยงดูครอบครัวก็ไม่มีเวลาแล้ว จะมีแรงและเงินสำรองมาเล่นกิจกรรมดังกล่าวได้อย่างไร?
ตอนนี้กิจกรรมได้เริ่มต้นใหม่ นั่นหมายความว่าความมั่งคั่งและความเข้มแข็งของเมืองค่อยๆ ฟื้นตัวและชีวิตของทุกคนก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมีความหมายเป็นพิเศษ
…………………………..
Related

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset