ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1750 สนามรบหลัก

พออยู่ดีๆ เมื่อคนสนใจเขาน้อยลง ฉินสือโอวจึงทำได้เพียงนั่งบนรถม้าพร้อมกับอุ้มลูกสาวของเขาในอ้อมแขน ขาหย่อนอย่างสบายๆ และมองไปรอบๆ อย่างเบื่อหน่าย
โชคดีที่เขายังคงเป็นหนึ่งในจุดสนใจ มีคนมาถามด้วยรอยยิ้ม “สวัสดี คุณราชาแห่งท้องทะเล ฉันขอถ่ายรูปกับรถม้าของคุณได้ไหม?”
ม้าพันธุ์อเมริกัน เพนต์ถูกย้อมให้เป็นสีทอง ตัวปอหลัวเองก็เปลี่ยนเป็นสีทอง ดังนั้นรถม้าคันนี้จึงให้ความรู้สึกของรถม้าทองคำมากๆ รูปลักษณ์ภายนอกดูดี แต่แน่นอนว่าเทียบไม่ได้เลยกับอานวาฬทองชุบของเขา ถ้าหากเขายังขี่อยู่บนหลังวาฬหัวทุยล่ะก็ จะต้องเป็นตัวเอกแน่นอน
ช่วยไม่ได้ ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบบนโลกใบนี้ แม้ว่านั่งบนวาฬหัวทุยจะดึงดูดสายตาจากคนอื่นได้ แต่ก็ขึ้นฝั่งไม่ได้ เมื่อขึ้นฝั่งแล้วก็ต้องใช้รถม้าทองคำที่เลียนแบบมา คนส่วนมากยังคงไม่สนใจในสิ่งนี้ ยิ่งไปกว่านั้นรถม้าของเขามีกวางมูสมาร่วมแจมด้วย…
ฉินสือโอวโพสท่า ชายหนุ่มในชุดเกราะเหล็กวิ่งขึ้นไปบนรถม้าอย่างมีความสุข หลังจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “คุณครับ ช่วยกระเถิบออกไปหน่อยได้ไหมครับ ผมแค่อยากถ่ายกับรถม้า…”
แม่งเอ๊ย! ฉินสือโอวนายใหญ่รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที เจ้าเด็กน้อยกล้าดูถูกฉันเหรอ นายแม่งเชี่ยแบบนี้ที่บ้านรู้บ้างไหมเนี่ย?
โชคยังดีที่ยังมีคนอยากถ่ายรูปคู่กับราชาแห่งท้องทะเล ร่างกายท่อนบนของฉินสือโอวยังนับว่ามีเสน่ห์ดึงดูดอยู่มาก มีผู้หญิงขึ้นมาถ่ายรูปคู่กับเขาอย่างใกล้ชิด เมื่อเป็นแบบนี้ถึงค่อยบรรเทาความโกรธของราชาแห่งท้องทะเลได้หน่อย
เมื่อมีคนเริ่ม ภายหลังจึงมีคนอื่นๆ มาขอถ่ายรูปด้วย ด้วยเหตุนี้ราชาแห่งท้องทะเลและลูกสาวแห่งท้องทะเลจึงเริ่มยุ่งกับงานแล้ว
ในขณะที่กำลังถ่ายรูป อยู่ดีๆ ก็มีมือหนึ่งยื่นไปตรงหน้าเขาพร้อมชามที่แตก ฉินสือโอวตกใจ หันไปมอง เป็นคนที่แต่งเป็นขอทานคนหนึ่งมาขอเงิน
 “โอเค ได้ๆ…” ประโยคนี้พูดออกมาเป็นภาษาจีน
ฉินสือโอวประหลาดใจที่ขอทานต่างชาติรับรู้ข่าวสารไวขนาดนี้เลยเหรอ? เกาะแฟร์เวลจัดงานกิจกรรม มีขอทานมาร่วมงานด้วยเหรอเนี่ย? แถมขอทานคนนี้ยังรู้จักใช้ภาษาจีนในการขอทานอีก เห็นๆ อยู่ว่าเป็นคนผิวขาว มีความสามารถรอบด้านเกินไปแล้วมั้ง?
“ขอเงินหน่อย ขอเงินหน่อย” ขอทานยังคงพูดด้วยภาษาจีนเสียงแข็ง ชามแตกยังคงส่ายไปมาอยู่หน้าเขา
ฉินสือโอวฟังเสียงแล้วรู้สึกคุ้นหู เขามองประเมินดูสักพักก็มองออกมา “ไอ้บ้าเอ๊ย ไอ้แลร์รี ฮิวจ์? เชี่ย นายทำไมแต่งออกมาเป็นแบบนี้ล่ะ?”
ทั้งตัวของขอทานถูกคลุมด้วยเศษผ้าเก่าๆ แล้วยังมีผมยุ่งๆ บนศีรษะอีก ตรงเอวผูกเชือกไว้จูงสุนัขอีกหนึ่งตัว ดังนั้นถ้าไม่ใช่เพราะเขามีความสัมพันธ์ที่สนิทกับฮิวจ์คนน้อง คงดูไม่ออกเลย
พอเห็นว่าเขาจำเขาได้แล้ว ฮิวจ์คนน้องก็ยิ้มร่าออกมา “เฮ้ ฉิน การรับรู้ของนายนี่มันไม่เลวเลยจริงๆ ใช่แล้ว ฉันเอง เป็นอย่างไรบ้างการแต่งกายของฉัน เท่ไหม?”
ฉินสือโอวสูดดมกลิ่นเหม็นแล้วพูดขึ้น “บ้าเอ๊ย นายเอาชุดนี้มาจากไหนเนี่ย? กลิ่นประหลาดมากๆ”
แลร์รี ฮิวจ์ส่ายศีรษะไปมา พูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า “ฉันซื้อมาจากคนจรจัดสองคนแล้วเอามาประกอบกันเป็นชุดเดียว…”
“นายบ้าไปแล้วหรือไง? ใส่ชุดคนจรจัดจริงๆ ได้อย่างไรกัน?” ฉินสือโอวอุ้มลูกสาวแล้วถอยห่างไปด้านหลัง
“ก็นี่เป็นสงครามผู้กล้า ทุกอย่างต้องสมจริงหน่อย ในเมื่อฉันแต่งเป็นขอทานมาขอเงิน ฉันก็ต้องใช้ชุดของคนจรจัดจริงๆ สิ!” ฮิวจ์คนน้องอธิบายตามเหตุผล
ฉินสือโอวชื่นชมในตัวเขา แล้วก็ก่นด่า “นายนี่มันเป็นหนุ่มน้อยที่ดีจริงๆ บ้าเอ๊ย นายไม่ต้องเข้ามาใกล้ฉันเลย!”
เขาไม่ได้ดูถูกคนจรจัดเร่ร่อน ที่แคนาดาคนจรจัดหลายคนเป็นศิลปินหรือปัญญาชนอาวุโสที่ใฝ่หาชีวิตอิสระ
อย่างไรก็ตาม บนคนพวกนี้คงมีพวกแบคทีเรีย ไวรัสและหมัดอยู่ไม่น้อย เขาไม่อยากเอาสิ่งพวกนี้มาถูกตัวลูกสาวของเขา สาวน้อยยังมีผิวที่บอบบาง ถ้าติดเชื้อหมัดพวกนี้ วินนี่ต้องฆ่าเขาตายแน่ๆ
ถ้าคนตรงหน้าเป็นคนจรจัดจริงๆ เขาคงจะไม่ถอยออกห่างเพื่อที่จะได้สอนลูกสาวในเรื่องความเมตตาและเคารพในศักดิ์ศรีของบุคคลอื่น แต่เนื่องด้วยคนข้างหน้าเป็นแลร์รี ฮิวจ์ที่แต่งกายเป็นคนจรจัด เขาถึงได้ไม่ต้องสนใจศักดิ์ศรีของไอ้บ้านี่
ฮิวจ์คนน้องปลอบประโลมเขาว่า “ไม่ต้องห่วงนะ ฉันน่ะจำกัดแบคทีเรียไวรัสและฆ่าเชื้อชุดนี้แล้ว”
ฉินสือโอวมองไปทางเขาอย่างไม่เชื่อ “ถ้านายฆ่าเชื้อแล้ว ทำไมไอ้กลิ่นเน่านี่มันถึงยังอยู่ล่ะ?”
ฮิวจ์คนน้องหัวเราะเสียงดัง “เพราะฉันใช้วิธีฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อและโรยผงฆ่าเชื้อบนเสื้อผ้า ไม่ได้เอาไปซักสักหน่อย”
”ไปไกลๆ เลย!” ฉินสือโอวยกตรีศูลขึ้นมา ราชาแห่งท้องทะเลจะลุกขึ้นสู้เพื่อปกป้องลูกสาวของเขาแล้ว
แลร์รี ฮิวจ์ยกชามขึ้นมาอีกครั้ง “ถ้าอย่างนั้นนายก็ต้องให้เงินหน่อยสิ นายคงไม่ได้ไม่มีจิตเมตตาขนาดนั้นใช่ไหม? ฉิน นายต้องเข้าใจนะว่าเถียนกวามองไม่ออกว่าฉันเป็นใคร นายจะไล่คนจรจัดไปงั้นเหรอ?”
ฉินสือโอวกะพริบตาปริบๆ เขามองไปที่ลูกสาว เด็กหญิงตัวน้อยกำลังมองประเมินแลร์รี ฮิวจ์ด้วยความอยากรู้อยากเห็นอยู่ ดังนั้นเขาจึงพูดว่า “แต่ว่าฉันไม่ได้พกเงินเลย ฉันขึ้นมาจากทะเล จะพกเงินยังไงเล่า”
ฮิวจ์คนน้องยักไหล่ “ฉันไม่สนใจเรื่องนั้นหรอก”
ฉินสือโอวนายใหญ่รู้สึกหงุดหงิดกับท่าทางของเขามาก แม่ง ใช่นายมันอ่อนแอ แต่นายก็มีเหตุผล นายมันจน นายมันอวดเก่ง อย่างไรก็ตามเขาก็ไร้หนทางแล้วจริงๆ จึงทำได้เพียงไปถามบูล “พกเงินมาหรือเปล่า?”
บูลพูดไปตามเหตุผลว่า “แน่นอน พกสิ ใครออกจากบ้านแล้วจะไม่พกเงินบ้าง?”
ฉินสือโอวโบกไม้โบกมือ “ไม่ต้องพูดมาก เอากระเป๋าตังมาให้ฉันหน่อย ฉันจะใช้”
บูลล้วงออกมาอย่างมีความสุข ฮิวจ์คนน้องเอื้อมมือไปหยิบมันต่อ หลังจากเปิดมัน เขาก็เอาเงินที่อยู่ข้างในออกมาทั้งหมดแล้วยัดมันเข้าไปในเสื้อผ้าสกปรกของเขา จากนั้นก็ส่งต่อกระเป๋าเงินให้ฉินสือโอวและจากไปอย่างพึงพอใจ
“เชี่ย นั่นมันสองพันหยวนเลยนะ!” บูลร้องตะโกนด้วยความโมโห
ฉินสือโอวกล่าวอย่างอ่อนแรง “กลับไปแล้วไปหาฉัน ฉันให้เลยสามพัน”
พอได้ยินคำพูดนี้บูลก็รู้สึกผิด เกาหัวแล้วพูดขึ้นว่า “แบบนั้นรู้สึกไม่ดีจะตาย อย่างนี้ก็ไม่เท่ากับว่าผมหาได้สองพันหยวนหรอกเหรอ?”
ฉินสือโอวจ้องไปที่เขา บูลยิ้มอย่างประหม่า “บอส ผมล้อเล่น”
“สรุปเมื่อกี้คือเท่าไรกันแน่? อย่าบังคับให้ฉันต้องไปถามจากแลร์รี ฮิวจ์”
“นั่นคือแลร์รี ฮิวจ์ ไอ้บ้าแม่งเหรอ?! เชี่ย! ถ้ารู้ก่อนหน้านั้นผมไม่ให้เงินมันหรอก ผมยังนึกว่าเป็นคนจรจัดมาที่เมืองเราจริงๆ!”
“เงิน! เท่า! ไร!”
“หนึ่งพันสองร้อยหยวนครับ!” บูลแสยะยิ้ม
ฉินสือโอวชูนิ้วกลาง แต่พอคำนึงว่ามันไม่เหมาะเพราะในอ้อมอกยังอุ้มเถียนกวาอยู่ จึงถลึงตาไปที่เขา แล้วพูดขึ้นว่า “เงินพวกนี้สูญหายไปหมดละ ถือซะว่าเป็นบทเรียนของนาย กล้ามาหลอกบอสของนาย?”
งานนี้จัดขึ้นเป็นเวลาสองวันติดต่อกัน และยังประสบความสำเร็จอย่างมากด้วย โดยเฉพาะราชาแห่งท้องทะเลของฉินสือโอว ร่างที่กล้าหาญของเขากำลังควบอยู่บนทะเลได้รับการบันทึกและโพสต์ลงใน YouTube โดยมีการคลิกมากกว่า 5 ล้านครั้งในวันเดียว นอกจากนี้ชุดนางฟ้าของวินนี่ยังทำให้ผู้คนประหลาดใจได้ไม่น้อย ท่าทางที่สง่างามของเธอที่บินอยู่ในอากาศได้ถูกถ่ายทำเพื่อเป็นข่าวในโฆษณา
วันเสาร์ส่วนใหญ่ทุกคนจะแสดงชุดและการแต่งกายของพวกเขา วันอาทิตย์ถึงเป็นวันแห่งการต่อสู้ ค่ายต่างๆ สามารถนัดต่อสู้ได้ และนี่คือแก่นแท้ของสงครามผู้กล้า ดาบและปืนที่พวกเขาถือทั้งหมดคือของจริง!
ฉินสือโอวไม่อยากเข้าร่วมกิจกรรมแบบนี้ เขาพาลูกสาวมาด้วยจึงกลัวเจอจะเกิดอุบัติเหตุ ผลปรากฏว่าทะเลกลับเป็นสนามรบหลัก!
……………………………..
Related

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset