ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1740 นากทะเลที่บุกรุกเข้ามา

เจ้านี่มีหัวกลมๆ น้อยๆ มีใบหูที่เล็กและกลม และยังมีรูปร่างอ้วนกลมด้วย บนตัวของพวกมันมีขนสั้นปกคลุมอยู่แน่น สีออกไปทางสีเหลืองหรือสีน้ำตาล เท้าหน้าเล็กและสั้น ส่วนเท้าด้านหลังกว้างและหนา และมีหางที่มีลักษณะแบน เห็นแค่หางที่สะบัดไปทางซ้ายทีขวาทีราวกับเรือที่คุมทิศทางในการเดินหน้า หลังจากนั้นก็ว่ายไปมาอยู่ในทะเลอย่างมีความสุข แต่ละตัวเหมือนกับแคพิบาราฉบับขยายใหญ่
เพียงแวบเดียวฉินสือโอวก็มองออก นี่ไม่ใช่แคพิบาราแต่เป็นนากทะเล ฟาร์มปลาต้าฉินไม่เคยมีร่องรอยการปรากฏตัวของนากทะเล ไม่รู้ว่าพวกมันมาจากไหน
นากทะเลเป็นสัตว์หายากที่พบได้เฉพาะในบริเวณน่านน้ำเย็นของแปซิฟิกเหนือ ตั้งแต่ตอนเหนือของญี่ปุ่นไล่ไปจนถึงชายฝั่งคาบสมุทรคัมชัตคาไปทางตะวันออกผ่านหมู่เกาะอะลูเชียนและชายฝั่งทางใต้ของอ่าวอะแลสกา ไล่ไปตามชายฝั่งแปซิฟิกของอเมริกาเหนือไปจนถึงแคลิฟอร์เนีย ซึ่งหาได้ยากในมหาสมุทรแอตแลนติก
ใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนนับจำนวนคร่าวๆ แล้ว จำนวนนากทะเลที่มาถึงฟาร์มปลามีไม่น้อย ประมาณ 50 กว่าตัวได้ นากทะเลตัวใหญ่พานากทะเลตัวน้อยมา บางตัวก็นอนอาบแดดอยู่บนริมชายหาดอย่างเฉื่อยชา ใช้เท้าหน้าสางขนให้กันและกัน บางตัวกลับดำน้ำอยู่ในทะเล
ใต้ทะเลลึกมีหอยเชลล์อยู่ เหล่านากทะเลที่ดำน้ำอยู่หลังจากที่ขุดเอาหอยเชลล์ขึ้นมาได้ก็กอดมันไว้ตรงหน้าอกราวกับเด็กที่กอดข้าวโพดเอาไว้ ว่ายขึ้นมาบนฝั่งแล้วค่อยเอาเข้าปาก อมไว้สักพักก็กัดเปลือกหอยเชลล์จนแตก หลังจากนั้นก็ดึงเอาเฉพาะส่วนเนื้อนุ่มของมันออกมาแล้วกลืนเข้าปากไป
พอเห็นฉินสือโอว ชาร์คก็โบกมือ ชี้ไปที่นากทะเลหลายตัวที่นอนอาบแดดบนชายหาดแล้วพูดว่า “ดูสิ ใครมาถึงถิ่นเราแล้ว?”
ฉินสือโอวแสร้งทำเป็นตกใจแล้วกล่าวขึ้นว่า “พระเจ้า นี่มันนากทะเลเหรอ? พวกมันมาจากไหนกัน?”
ชาร์คตอบว่า “ผมเดาว่าพวกมันว่ายมาจากเมืองเซนต์จอห์น สองวันก่อนผมดูข่าวเขาบอกว่าเรือขนส่งสัตว์ลำหนึ่งถูกเรือเรือลำใหญ่ชนเข้าจนพลิกคว่ำตรงท่าเรือ สัตว์ในนั้นบ้างก็จมน้ำตายบ้างก็หนีไป ข่าวยังบอกด้วยว่าในนั้นมีนากทะเลจำนวนหนึ่งด้วย”
พอได้ยินตำพูดนี้ ฉินสือโอวก็เข้าใจเรื่องราวขึ้นมาทันที เขาก็ดูข่าวนั้นเหมือนกัน วินนี่ยังสอนให้ลูกสาววาดไม้กางเขนเพื่อภาวนาต่อพระเจ้าเพราะเรื่องนี้ด้วย
บูลพาชาวประมงบางส่วนไปที่เรือเอาแหออกมา ฉินสือโอวถามขึ้น “พวกนายจะทำอะไร?”
ชาร์คตอบแทนเขา “พวกเรากะจะจับพวกมันขึ้นมาแล้วส่งคืนไปที่เมืองเซนต์จอห์น”
ฉินสือโอวพูดอย่างเสียดายว่า “ต้องคืนให้เจ้าของคนนั้นเหรอ?”
เขาเห็นความน่ารักของนากทะเลเหล่านี้ แต่ละตัวอ้วนกลมว่ายไปมาอยู่ในทะเล ก็แค่สกปรกไปหน่อย บนตัวมันเปรอะเปื้อนไปด้วยทั้งสาหร่ายทะเล พืชน้ำและพวกเศษกุ้งและปลา ดังนั้นจึงอยากทำความสะอาดพวกมันด้วยคลื่นทะเล ดูสิว่าจะเก็บพวกมันไว้ที่ฟาร์มปลาได้หรือไม่
เขาเชื่อว่าลูกสาวต้องชอบพวกมันแน่ๆ นี่ก็เป็นการปลูกฝังความรักให้กับเธอได้
อย่างไรก็ตามนากทะเลเป็นสัตว์ที่ได้รับการคุ้มครองในแคนาดา และการคุ้มครองนั้นแข็งแกร่งมาก ไม่สามารถจับและซื้อขายเป็นการส่วนตัวได้ เรือขนส่งลำนั้นเป็นขององค์กรพิทักษ์สัตว์และต้องการขนส่งนากทะเลกลุ่มหนึ่งไปยังพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเซนต์จอห์น แต่กลับปรากฏว่าถูกเรือลำใหญ่เบียดชนเข้าให้เสียก่อน
ชาร์คกลับตอบว่า “ไม่ ไม่ครับ พวกเราจะหาดูว่าส่วนไหนเป็นคนรับผิดชอบดูแลจัดการนากทะเลที่เมืองเซนต์จอห์น หลังจากนั้นก็ส่งต่อให้พวกเขา เพราะอย่างไรก็ตามก็คงไม่สามารถเอาพวกมันไว้ที่ฟาร์มปลาได้ เจ้าพวกนี้กินเก่งมาก ทำให้ฟาร์มปลาเสียหายได้”
พอเป็นแบบนี้ฉินสือโอวจึงยิ้มออกมา เขานึกว่าชาร์คและคนอื่นๆ เป็นพวกมีคุณธรรมชั้นเยี่ยมเก็บของอะไรได้แล้วคืนเจ้าของเสียอีก นึกว่าจะจับพวกนากทะเลส่งคืนเจ้าของเรือขนส่งนั่น
“ไม่เป็นไร เพื่อน ให้พวกมันอยู่ที่ฟาร์มปลาเถอะ แค่นากทะเลไม่กี่ตัว จะกินได้มากมายขนาดไหนเชียว?”
พอเขาพูดจหลังจากที่เขาพูดจบชาวประมงก็หัวเราะอย่างสนุกสนาน บูลพูดว่า “กัปตันคุณพูดว่าอะไรนะ? พวกมันกินได้เท่าไรน่ะเหรอ? โอเค ผมบอกคุณเลยนะว่าพวกมันสามารถกินได้ถึงหนึ่งในสามของน้ำหนักตัวเองในหนึ่งวัน! สามวันก็เท่ากับกินตัวเองหมดไปหนึ่งตัว!”
“สิ่งสำคัญยิ่งกว่านะบอส คุณรู้ไหมว่าพวกมันกินอะไร? พวกมันชอบกินหอยเม่น! หอยเม่นเอ็กไคโนคอคคัสที่เป็นลูกรักของคุณคืออาหารอันโอชะของพวกมัน ลองคิดดูครับว่า นากทะเลเหล่านี้คือนากทะเลอะแลสกาและสามารถเติบโตได้ถึง 70 ถึง 80 ปอนด์ พวกมันสามารถกินหอยเม่นเอ็กไคโนคอคคัสจำนวนมากได้ภายในสามวัน” ซีมอนสเตอร์กางแขนออกกว้างเสริมคำพูดของเขา
ฉินสือโอวยิ้มแล้วชี้ไปที่เขา “อย่านึกว่าฉันไม่รู้นะ พวกมันไม่ใช่แค่กินหอยเม่น มันก็ชอบกินเปลือกหอย กุ้งก้ามกรามและปูเช่นเดียวกับสาหร่ายทะเลและปลาตัวเล็กๆ ซึ่งเป็นอาหารของมันด้วย ดังนั้นพวกมันจึงไม่มีผลกระทบต่อฟาร์มปลา”
เขาเป็นเจ้าของฟาร์มปลา พวกชาวประมงไม่ได้คัดค้านการตัดสินใจของเขา ดังนั้นพอเขาบอกว่าจะเก็บพวกนากทะเลนี้ไว้ที่ฟาร์มปลา พวกเขาก็ไม่พูดอะไร เก็บแหขึ้นเรือทำงานต่อไป
พวกนากทะเลขี้ตกใจกลัว พวกมันกลัวพวกมนุษย์ ดังนั้นตอนที่ชาวประมงล้อมรอบมองไปที่พวกมันจึงทำให้พวกมันตกใจ ตัวใหญ่ลากตัวเล็ก พวกมันต่างวุ่นวายพากันกระโดดลงทะเล โผล่หัวน้อยๆ ขึ้นมาเพื่อประเมินสถานการณ์คนบนฝั่งอย่างเงียบๆ
พอพวกชาวประมงจากไป ฉินสือโอวก็ป้อนพลังโพไซดอนให้พวกมันเพื่อปรับปรุงร่างกาย ในขณะเดียวกันก็ใช้คลื่นทะเลพัดไปที่ตัวของพวกมันเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกที่ติดตรงขนทิ้ง แล้วกวักมือเรียกแสดงเป็นนัยว่าให้พวกมันขึ้นมาบนบกได้
นากทะเลตัวอ้วนพวกนี้ดูเหมือนจะไม่มีความรู้สึกที่ดีให้กับมนุษย์ ต่อให้ซึมซับพลังโพไซดอนไปแล้ว ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะขึ้นมาบนฝั่งอย่างว่าง่ายตอนที่ฉินสือโอวกวักมือเรียก ในทางกลับกันแมวน้ำบางตัวที่อยู่ห่างออกไป พอเห็นฉินสือโอวมาที่ชายหาดก็ดีดดิ้นร่างอ้วนๆ ขึ้นมาเพื่อรวมตัวกัน
แต่ทว่า พวกมันก็ไม่ได้ขัดการทำความสะอาดตัวจากคลื่นทะเล ในทางกลับกันหลังจากที่คลื่นกระทบตัวพวกมัน พวกมันกลับมีปฏิกิริยาตอบสนอง ยืดร่างกายออกเพื่อให้คลื่นทะเลล้างตัวมันเอาสิ่งสกปรกออกไป
ฉินสือโอวเข้าใจถึงความหวาดกลัวของนากทะเลที่มีต่อมนุษย์ เจ้าพวกนี้ถูกจับมาจากอะแลสกา และจะถูกส่งไปยังพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเพื่อผสมพันธุ์ สันนิษฐานว่าตอนที่พวกมันถูกจับคงตกใจไม่น้อย จึงทำให้พวกมันต้องหวาดระแวงสัตว์สองเท้าอย่างมนุษย์
พอคิดได้แบบนี้ ฉินสือโอวจึงใช้จิตใต้สำนึกแห่งโพไซดอนม้วนเอาปูและหอยตัวเล็กๆ ที่ลอยอยู่ในทะเลขึ้นมาบนชายหาด วางไว้ในมือแล้วป้อนพวกนากทะเล
ในที่สุดก็มีนากทะเลที่รวบรวมความกล้าและกล้าเข้าใกล้เขา เป็นนากทะเลตัวอ้วนที่ดูงี่เง่าตัวหนึ่ง มันเขยิบมาด้านหน้าใช้จมูกดมกลิ่นหอมของปูในมือของฉินสือโอวก่อน หลังจากนั้นก็จ้องไปที่ฉินสือโอวด้วยตากลมเล็กของมัน
ฉินสือโอวยื่นมือไปข้างหน้า นากทะเลตัวนี้ไม่ได้ยื่นปากเข้าไปกัดเลย แต่ใช้ขาหน้าเล็กๆ ที่อวบอ้วนของมันหนีบเอาปูขึ้นมาแล้วเอาเข้าปาก เคี้ยวหนึบหนับแล้วกลืนลงไป
พอเห็นแบบนี้ ฉินสือโอวก็ยิ้มออกมา เขาหยิบหอยนางรมอีกสองตัวยื่นไปให้นากทะเลตัวอ้วน ตอนนี้เจ้านากทะเลไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะเปลือกจองหอยนางรมในฟาร์มปลาหนามาก มันใช้ฟันกัดอยู่สักพักก็ไร้ผล จึงเอาวางไว้บนชายหาด ใช้ขาหน้าหนีบขึ้นมาแล้วทุบลงไปบนพื้นจนแตก
“ฉลาดจริงๆ” ฉินสือโอวใช้มือลูบไปที่หัวทุยๆ ที่มีขนของมัน ผลปรากฏว่าลูบจนมือมันไปหมด เพราะขนของนากทะเลอุดมไปด้วยน้ำมัน ซึ่งทำให้ตัวพวกมันกันน้ำได้ดีเยี่ยม ป้องกันไม่ให้ขนหนาๆ ของพวกมันซับน้ำแล้วมีน้ำหนักมากส่งผลให้เปลืองแรงเวลาขยับร่างกาย
พอเห็นว่าฉินสือโอวไม่ได้ทำร้ายพวกเดียวกันแล้วยังป้อนอาหารมันอีก ในที่สุดพวกนากทะเลตัวอื่นๆ ก็อดกลั้นความอยากกินไว้ไม่ไหว ขยับเข้ามาใกล้ กะพริบตาน้อยๆ ของมันมองไปที่มือของฉินสือโอว
ฉินสือโอวแบ่งให้พวกมัน นากทะเลพวกนี้ไม่แย่งกันกิน พอพวกมันได้หอยเชลล์และปูก็เอาเข้าปากกัดดังแคร็ก พอกัดจนแตกก็ใช้มือเขี่ยส่วนที่แตกออก แล้วจึงเอาปากดูดเนื้อนุ่มๆ ที่อยู่ข้างในกลืนกินลงไป
…………………………….
Related

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset