ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1741 กินเด็ก

สิ่งที่น่าสนใจคือ หลังจากที่ฉินสือโอวแบ่งหอยเชลล์และปูตัวเล็กๆ ให้พวกนากทะเลแล้ว ก็แบ่งหอยนางรมที่เปลือกแข็งมากให้พวกมันต่อ นากทะเลเหล่านี้ใช้ฟันกัดดังกึกๆ แต่ก็พบว่ากัดไม่ออก จึงยัดหอยนางรมไว้ใต้รักแร้แล้ววิ่งลงทะเลไป
พวกนากทะเลมุดดำดิ่งลงไปในน้ำจนถึงใต้ทะเล หลังจากนั้นหาของแข็งๆ จำพวกหิน พอหาเจอก็ลอยขึ้นมาด้วยท่ากรรเชียง วางหินบนท้องแข็งของมัน เท้าด้านหน้าหยิบหอยนางรมขึ้นมากระแทกลงไปบนหิน
‘เปาะ เปาะ เปาะ’ เสียงคลื่นทะเลผสมผสานกับเสียงเคาะกระทบหินใสๆ ดังขึ้นมา เสียงนี้เยอะมากขึ้นเรื่อยๆ ฉินสือโอวอดไม่ได้ที่จะคิดถึงประทัดสีแดงเล็กๆ สมัยเด็กๆ เสียงเหมือนตอนนี้มาก
อาหารจำพวกหอยและปูที่ถูกคลื่นทะเลซัดมาถูกส่งให้พวกนากทะเลพวกนี้จนหมด ฉินสือโอวนายใหญ่ปรบมือเรียกพวกเจ้าแมวน้ำที่ปีนขึ้นมา แมวน้ำลายพิณเหล่านี้นับได้ว่ามีจิตใจดีหน่อย ไม่รู้ว่าอยู่ที่ฟาร์มปลาเห็นฉินสือโอวบ่อยๆ หรือว่าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของพลังโพไซดอนที่อยู่ในตัวเขา สรุปก็คือพวกมันยินดีที่จะเข้าหาฉินสือโอวมากขึ้นเรื่อยๆ
หยอกเล่นกับแมวน้ำก็สนุกดี พวกมันเกิดมาก็เลี้ยงลูกบอลได้ จึงชอบใช้หัวของมันเลี้ยงของเล่น ฉินสือโอวเตรียมลูกบอลไว้จำนวนหนึ่ง เขาโยนลงไปในทะเล แมวน้ำพวกนี้ก็รีบกระโดดลงไปในทะเลบุ๋มๆ เหมือนเกี๊ยว แย่งกันใช้หัวเลี้ยงลูกบอลเล่น
เถียนกวาที่จับเอาพี่น้องเฟอเรทเล่นอยู่พอเห็นฉากนี้เธอโยนเพื่อนตัวน้อยทั้งสองออกไปแล้ววิ่งมาทางนี้เหมือนลมกรด หัวเราะคิกคักไปมองดูแมวน้ำเลี้ยงลูกบอลอยู่ริมชายหาด ทั้งหัวเราะไป กระโดดไปและปรบมือไปพร้อมๆ กัน
เห็นลูกสาวมีความสุข ฉินสือโอวจึงยิ้มออกมาเช่นกัน เขาชี้ไปที่เหล่านากทะเลที่ปีนขึ้นมาบนชายหาดแล้วพูดว่า “เถียนกวา ปาป๊าหาเพื่อนกลุ่มใหม่ให้เราเล่นด้วย อยากไปเล่นหรือเปล่า?”
เถียนกวาพยายามเบิ่งตามองเจ้าพวกนากทะเลอย่างพินิจพิเคราะห์ นากทะเลขนฟูตัวกลมเต็มไปด้วยความสุข เด็กๆ ชอบเจ้าขนปุยตัวนี้มากที่สุด เธอดีใจขึ้นมาทันที ร้องเรียกว่า “เป็นน้องชายที่หม่าม๊าคลอดออกมาใช่ไหมคะ? เถียนกวาชอบ!”
ฉินสือโอวยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ พูดขึ้น “เปล่านะ นี่เป็นเพื่อนเล่นที่ปาป๊าหามาให้ลูก น้องชายของเรายังอยู่ในม้องหม่าม๊าอยู่เลย”
เด็กหญิงตัวเล็กๆ วิ่งไปแล้วเอื้อมมือไปจับนากทะเล เจ้านากทะเลที่กำลังกินอยู่พอโดนจับก็ตกใจกลัว โยนหอยนางรมในมือทิ้งไปแล้ววิ่งลงทะเลไป
ความกล้าของนากทะเลมีน้อยมากจริงๆ เพื่อที่จะปกป้องพวกมัน พระราชบัญญัติคุ้มครองสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทางทะเลของแคนาดาระบุไว้เป็นพิเศษว่าห้ามทำร้าย ล่าหรือฆ่านากทะเลในบ้านเกิดของนากทะเลในอะแลสกา เจ้าหน้าที่ขององค์กรที่ไม่ได้รับการคุ้มครองไม่ได้รับอนุญาตให้ถ่ายรูปคู่กับนากทะเลด้วยซ้ำ เพียงเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้พวกมันรู้สึกกลัว
แต่เจ้าเด็กน้อยกลับชอบแกล้งเล่นคนที่อ่อนแอกว่าแบบนี้ที่สุด ตอนเด็กๆ เธอวิ่งไล่ตามหู่เป้าฉงหลัว พอโตขึ้นมาหน่อยก็วิ่งไล่ตามพี่น้องเฟอเรท ตอนนี้เริ่มไล่ตามพวกนากทะเลแล้ว
แต่ว่าเธอไม่รู้ว่า หู่เป้าฉงหลัวที่โดนเธอวิ่งไล่ตามจนวิ่งวุ่นไปหมดนั้น เป็นเพราะพวกมันหยอกเธอเล่น พวกมันคิดว่าเจ้านายตัวน้อยนี้เป็นเหมือนเพื่อนเล่นพวกมัน พี่น้องเฟอเรทกลับไม่มีแรงต้าน ไม่อยากถูกรังแกจึงทำได้เพียงวิ่ง
แต่พวกนากทะเลกลับแตกต่างกันออกไป ในสายตาของพวกมันสิ่งมีชีวิตสองขาสั้นๆ ที่อยากจับมันคนนี้เป็นคนนิสัยไม่ดี แต่พวกมันกลับไม่ได้เหมือนเฟอเรทที่ไม่มีแรงต่อต้าน พอเจ้าพวกนากทะเลหายตกใจกลัวก็พบว่ามีแต่เจ้าเด็กน้อยตัวนุ่มคนนี้พยายามจะเป็นอริกัน ดังนั้นจึงปีนขึ้นมาบนฝั่งและวิ่งไปทางเด็กน้อยด้วยความคิดชั่วร้าย
เด็กหญิงตัวเล็กคิดว่าเพื่อนตัวอ้วนและขนยาวเหล่านี้คิดได้แล้วและอยากจะมาเล่นกับเธอ เธอจึงหัวเราะคิกคักและอ้ามือสั้นๆ ออก เพื่อโอบกอดพวกเขา อย่างไรก็ตามเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อนากทะเลวิ่งมาหาเธอพร้อมกับกางขาหน้าออก หอยเชลล์และหอยนางรมก็หลุดออกมาจากใต้รักแร้ อุ้งเท้าสองข้างจับพวกมันขึ้นมาและโยนไปที่เด็กหญิงตัวเล็กๆ
‘แคร๊กๆ’ แตกหักวุ่นวายไปหมด ถึงแม้ว่าพวกนากทะเลจะไม่มีความสามารถในการปาข้าวของเหมือนพวกกลุ่มไพรเมต สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แต่ก็สามารถโยนหอยเชลล์และหอยนางรมออกไปได้ แรงไม่เยอะเพราะพวกมันโยนออกไปเยอะ พอเป็นแบบนี้เด็กหญิงตัวเล็กก็รู้สึกเจ็บปวดและเสียใจหลังจากถูกโยนของใส่ หันหลังกลับและวิ่งร้องไห้โฮ
โชคร้ายที่ทรายมีลักษณะอ่อนนุ่ม พอเธอเหยียบลงไปแล้วว่างเปล่าจึงล้มลงไป พอเป็นแบบนี้เธอก็ยิ่งรู้สึกเหมือนโดนแกล้ง นั่งบนชายหาดเตะขาสั้นๆ สลับไปมา และร้องไห้ฮือ
นากทะเลยืนข้างกันจ้องมองไปที่เด็กหญิงตัวเล็กที่กำลังร้องไห้อยู่ที่นั่นด้วยดวงตาเล็กๆ ของพวกมัน แต่ละตัวกลอกดวงตาไปมา ฉินสือโอวพอเห็นฉากนี้ก็รีบวิ่งเข้ามากอดลูกสาว เขาทำไมถึงรู้สึกว่านากทะเลเหล่านี้วางแผนที่จะฝังสาวน้อยกันนะ
จริงๆ แล้วเหล่านากทะเลก็ถูกแกล้งเหมือนกัน พวกมันไม่เคยหาเรื่องใครก่อน ก็แค่อยากกินอาหารอยู่บนฝั่ง แต่ทำไมกินอาหารแล้วถึงรู้สึกไม่สบายใจ?
นากทะเลขึ้นมาบนฝั่งถือเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ยาก พวกมันก็เหมือนแมวน้ำชอบที่อยู่ในน้ำทะเลที่หนาวเย็นเป็นเวลานาน นี่คือเหตุผลที่พวกมันกินเยอะทุกวัน ซึ่งต่างจากปลาวาฬ สิงโตทะเลและแมวน้ำ พวกนั้นสามารถกักเก็บไขมันไว้ได้มากเพื่อให้ความร้อนและทำให้รู้สึกอบอุ่น แต่นากทะเลทำได้เพียงพึ่งพาขนของมันและเพิ่มการเผาผลาญเพื่อรักษาอุณหภูมิของร่างกายและวิธีในการเพิ่มการเผาผลาญก็คือกินไปเรื่อยๆ
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับพวกมันที่จะต้องพักและรักษาความแข็งแรงของร่างกายในช่วงเวลาที่ไม่มีการหาอาหาร สำหรับพวกมันการขึ้นฝั่งเพื่อล่าอาหารถือเป็นการพักผ่อนอย่างหนึ่ง ผลก็คือถูกเถียนกวาทำลายการพักผ่อนจนหมด แน่นอนว่าจึงมีความคับแค้นใจ
ฉินสือโอวเริ่มไม่เข้าใจว่าแมวน้ำและนากทะเลการอยู่บนฝั่งสามารถประหยัดพลังงานและมีชีวิตที่ดีขึ้น ทำไมพวกมันจึงต้องอยู่ในน้ำ?
ต่อมาเมื่อหาข้อมูลก็เข้าใจว่า เขาคล้ายกับจักรพรรดิจินฮุ่ยที่ “รู้ไม่รอบด้าน” สภาพบนบกในฟาร์มปลาของเขาปลอดภัยซึ่งแตกต่างจากกรณีธรรมชาติทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนากทะเล ประสิทธิภาพในการต่อสู้ของพวกมันแย่มาก และความเร็วในการหลบหนีก็ไม่ไหว หากพวกมันอยู่บนฝั่งเป็นเวลานาน พวกมันจะกลายเป็นเหยื่อถูกกินได้ง่าย
นอกจากนี้แล้ว สัตว์ตัวน้อยเหล่านี้ไม่มีสมองเหมือนมนุษย์ อาหารของพวกมันล้วนอยู่ในทะเล พวกมันคิดว่าทะเลเป็นที่อยู่อาศัยของพวกมัน หากไม่ใช่เพราะฉินสือโอวที่ดึงดูดพวกมัน พวกมันก็คงไม่ได้ปีนขึ้นฝั่งมา
ฉินสือโอวกอดเถียนกวาไว้แล้วเช็ดน้ำตาให้เธอ วินนี่เห็นจากที่ไกล วิ่งเข้ามาถามว่า “โอ้ว โอ้ว โอ้ว ทำไมสาวน้อยถึงร้องไห้แล้วล่ะ? เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
เถียนกวาโกรธเมื่อได้ยินคำพูดเยาะเย้ยของแม่ เธอเริ่มจำสิ่งต่างๆ ได้แล้ว ไอคิวของเธอเริ่มพัฒนาขึ้นและเธอสามารถวิเคราะห์บางอย่างตามคำพูดและน้ำเสียงของผู้คนได้
ฉินสือโอวอธิบาย เขารู้ว่าถ้าเขาบอกวินนี่ภรรยาขี้เล่นคนนี้ว่ามีนากทะเลมาที่ฟาร์มปลา เธอจะต้องมีความสุขทันทีแน่นอน ก่อนที่เธอจะวิ่งมา พวกนากทะเลก็รีบวิ่งลงทะเลไปและเธอก็ให้ความสนใจแต่กับเถียนกวา จึงไม่ทันสังเกตเห็น
แต่เขากลับไม่คิดว่าภรรยาของเขาจะขี้เล่นได้ถึงระดับนี้ พอได้ยินว่ามีนากทะเล วินนี่ไม่สนใจเถียนกวาที่กำลังหงุดหงิดอยู่ ยืนขึ้นมาด้วยความประหลาดใจแล้ววิ่งเหยาะๆ ออกไปริมชายหาดเพื่อดูพวกนากทะเล
เถียนกวาไม่ทันได้สนใจความหงุดหงิดและร้องไห้ ยื่นมือแล้วชี้ไปที่วินนี่พร้อมร้องเรียกว่า “หม่าม๊า กลับมานะ!”
ฉินสือโอวสงสารลูกสาวคนนี้ของเขาจริงๆ แม่อะไรกันนี่
วินนี่ดูสักพักก็กลับมานั่งยองๆ ด้านหน้าลูกสาว สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันที พูดขึ้นว่า “ลูกรักที่เชื่อฟัง วันหลังอย่ามาที่ชายหาดอีกนะ รู้ไหม? พวกนี้คือนากทะเล พวกมันกินเด็ก!”
……………………..
Related

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset