ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1761 งานประมูลฤดูใบไม้ร่วงครั้งสำคัญ

วินนี่ให้อาหารเจ้าพวกนี้ไปในขณะที่ให้ฉินสือโอวคิดวิธีแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยของพวกมันไปด้วย เหล่าแมวน้ำยังจ้องมาจากทะเลอยู่เลย
ฉินสือโอวเกาหัว เขาปล่อยจิตสำนึกแห่งโพไซดอนลงน้ำอยากจะถ่ายพลังให้กับพวกแมวน้ำเสียหน่อย แต่หลังจากนั้นเขาก็เจอเต่ามะเฟืองตัวหนึ่งว่ายผ่านมา เหล่าแมวน้ำต่างหลีกทาง ไม่ได้หาเรื่องอะไรกับเต่ามะเฟืองตัวนั้น
เห็นแบบนั้นใจเขาก็คิดได้แล้วเสนอขึ้น “ผมจำได้ว่าแมวน้ำไม่รุกรานอาณาเขตของพวกเต่ามะเฟือง เอาแบบนี้แล้วกัน มา เราเอาพวกมันไปส่งอาณาเขตของเต่ามะเฟือง แบบนี้พวกแมวน้ำก็จะไม่เข้าใกล้ นิสัยของเต่ามะเฟืองคุณก็รู้ดี”
วินนี่คิดว่าก็เป็นวิธีที่ดีจึงยกถังน้ำเดินเลียบชายหาดไปทางตะวันออก อาณาเขตเต่ามะเฟืองอยู่ที่เขตทะเลตะวันออกของฟาร์มปลาต้าฉิน ใกล้กับแม่น้ำสายเล็กปากอ่าวที่เขาสูง อาศัยอยู่กับเต่าลายจุด
เธอเดินไปเรื่อยๆ เหล่านากทะเลก็เดินตาม ต่อให้ตอนหลังไม่มีกุ้งกุลาแล้ว พวกนากทะเลก็ยังคงเงยหน้ามองเธออย่างคาดหวัง นากทะเลแปดสิบกว่าตัวยังเข้าแถวอีกด้วย ฉินสือโอวมองอย่างประหลาดใจ
วินนี่ยื่นมือไปจูงเถียนกวา แล้วก็ถือโอกาสสอนเธอไปด้วยระหว่างทาง “เห็นไหมลูก ต่อไปห้ามเป็นจอมตะกละรู้ไหม? เพื่อนตัวน้อยพวกนี้เป็นจอมตะกละ หนูดูสิแม่แค่ใช้กุ้งก็ล่อพวกมันได้แล้ว จอมตะกละโง่มากใช่ไหม?”
สาวน้อยพยักหน้าอย่างงงๆ ตาโตกะพริบปริบๆ ด้วยความสับสน แม่พูดว่าอะไร ทำไมฟังไม่รู้เรื่อง?
ความจริงได้พิสูจน์แล้วว่าวิธีของฉินสือโอวใช้ได้ผล พอพวกนากทะเลมาถึงเขตทะเลที่เต่ามะเฟืองอาศัยอยู่ ฝูงแมวน้ำก็หยุดตาม ราชาแมวน้ำกับภรรยาและสนมเอวใหญ่ของมันเดิมทีก็ไม่พอใจ แต่หลังจากที่พวกมันเข้าอาณาเขตเต่ามะเฟือง นิโคลัส จอชก็รีบปรี่เข้ามาต้อนรับ ว่าไงเพื่อนฝูง จะหาเรื่องอีกหรือไง? ยังอยากจะมีเรื่องใช่ไหม? ยังอยากเปิดศึกสองเผ่าอีกใช่ไหม?
ราชาแมวน้ำเพิ่งผ่านศึกมา คราวนี้ลูกน้องหลายตัวยังหัวร้างข้างแตกอีก ดังนั้นพอพวกเต่ามะเฟืองเข้ามาใกล้ด้วยท่าทีคุกคาม พวกมันก็รีบหันหัวเรือหนีทันที
วินนี่เล่นกับพวกนากทะเลครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็เดินจากไป เหล่านากทะเลก็ยืนขึ้นมาแล้วเดินตามเธอต้อยๆ
วินนี่ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เธอชี้ไปที่ทะเลพลางพูดว่า “พวกเธอไปตรงนั้นสิ ตรงนั้นถึงจะเป็นบ้านของพวกเธอ”
พวกนากทะเลกะพริบตาปริบๆ พอวินนี่ไป พวกมันก็เดินตามอีก
วินนี่ก็ยื่นมือชี้ไปทางทะเล คราวนี้นากทะเลที่นำหน้าสองสามตัวพากันเอาอุ้งมือปิดตา เหมือนกำลังบอกว่าฉันไม่ฟัง ฉันไม่ดู ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่สน…
เห็นภาพนั้น ฉินสือโอวก็อดสงสัยสิ่งที่เพิ่งรู้มาไม่ได้ นากทะเลพวกนี้เอาอุ้งมือขึ้นมาปิดตาเพราะอุ้งมือเย็นจริงเหรอ?
เห็นได้ชัดว่าวินนี่ไม่รู้เรื่องนี้ ภาพพวกนากทะเลใช้อุ้งมือปิดตาน่ารักมากเลย โดยเฉพาะที่ตอนนี้ในท้องเธอมีลูก กำลังเป็นช่วงที่ความเป็นแม่เธอพลุ่งพล่าน ครู่เดียวก็สงสาร จะพานากพวกนี้กลับวิลล่าด้วย
ฉินสือโอวเกือบจะตกใจฉี่ราด ตาย นี่ไม่ใช่นากตัวเดียว ไม่ใช่นากสองตัว ไม่ใช่นากห้าตัว นี่มันนากทะเล 84 ตัว! จะเอากลับเข้าบ้านได้อย่างไร? แค่อึที่เจ้าพวกนี้ถ่ายออกมาในวันเดียวก็ทำเอาบ้านกลายเป็นบ่อเกรอะได้เลย
“คุณอยากให้ลูกสาวเราสาวบ่อเกรอะเหรอ?” ท่านชายฉินพูดอย่างอึ้งๆ “คุณรู้ไหมว่าอึของนากทะเลกลิ่นแรงแค่ไหน? ไอ้สิ่งนี้มันเครื่องจักรผลิตอึ ไม่ได้เด็ดขาด คุณยอมให้ลูกเป็นสาวบ่อเกรอะได้ แต่ผมทนไม่ได้หรอก”
“งั้นก็ให้พวกกอร์ดอนเป็นหนุ่มบ่อเกรอะก็ได้?” วินนี่เสนอไอเดีย
ฉินสือโอวส่ายหน้า “ปล่อยพวกเขาไปเถอะ เดี๋ยวจะเปิดเทอมแล้ว เราก็อย่าไปทำให้เด็กน่าสงสารพวกนี้ลำบากเลย”
ที่จริงวินนี่ก็แค่เกิดความคิดนี้ชั่ววูบเพราะความใจอ่อน หลังจากนั้นเธอก็ได้สติลงแล้วพาพวกนากไปที่ริมทะเล ฉินสือโอวรีบใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนล้อมปูกุ้งหอยรอบด้าน แล้วม้วนซัดเข้ามาที่เขตก้นทะเลชายฝั่ง แบบนี้พวกนากลงทะเล จู่ๆ ก็เจออาหารมากมายขนาดนี้ ในที่สุดก็ไม่ติดวินนี่แล้ว
สุดท้ายวินนี่ก็โบกมือลาฝูงนากทะเลด้วยความอาลัยอาวรณ์ ครอบครัวสามคนพาหมาเดินจากไปจากชายหาด ฉินสือโอวห่วงว่าฝูงแมวน้ำจะโจมตีเข้ามา เลยทิ้งจิตสำนึกแห่งโพไซดอนไว้คอยคุมที่นี่
ปรากฏว่าเหล่าแมวน้ำไม่ได้มาทางนี้ ตอนนี้พวกมันก็ไม่มีเวลามาสนใจหาเรื่องนากทะเล เพราะพวกมันเจอปัญหาเสียเอง ตอนที่เฮยป้าหวังนำฉลามขาวยักษ์ในบัญชามาลาดตระเวนก็เจอกับแมวน้ำสองสามตัวเลยอ้าปากจัดการกับพวกมัน จากนั้นคงรู้สึกว่าเนื้อเยอะรสอร่อย ไม่คิดว่าจะหาทางมาจนได้ ราชาแมวน้ำกำลังพาชายาแสนสวยกับสนมแสนงามและลูกน้องต่างๆ มาต่อกรกับฉลามขาวยักษ์
ฉินสือโอวไม่ได้สนใจการปะทะของทั้งสองฝ่าย นี่เป็นเรื่องเลี่ยงยาก เขาไม่มีทางปล่อยให้แมวน้ำมาแพร่พันธุ์ในฟาร์มปลาตามใจชอบแน่ ถ้าไม่มีศัตรูธรรมชาติ พวกแมวน้ำจะแพร่พันธุ์ได้น่ากลัวมาก แบบนี้จะความเสียหายที่จะก่อต่อฟาร์มปลาน่ากลัวมากกว่า
ฉลามขาวยักษ์จะเป็นข้อจำกัดของแมวน้ำ อีกอย่างพวกมันยังลดความเสียหายต่อฟาร์มปลาโดยการกินแมวน้ำเป็นอาหารด้วย
กลางเดือนกันยายนงานประมูลฤดูใบไม้ร่วงที่บริษัทจัดประมูลริชชี่เตรียมมาเป็นครึ่งปีก็เริ่มขึ้น เมื่อตอนงานประมูลฤดูใบไม้ผลิฉินสือโอวไม่ได้เข้าร่วม ความเกี่ยวข้องกับตัวเขาไม่มาก มีแค่ไม้พาโลซานโตที่เป็นของเขา งานประมูลฤดูใบไม้ร่วงคราวนี้เพราะมีสมบัติซากเรือโจรสลัดขวานดำ แถมสมบัติพวกนี้เป็นของสำคัญ เบลคก็เลยชวนเขาไป
ดังนั้นฉินสือโอวจึงโทรหาเหมาเหว่ยหลงแล้วถามว่า “ช่วงนี้แกว่างไหม? จะพาแกไปโทรอนโตร่วมงานประมูลหน่อย พวกเราสองคนไม่ได้เจอกันนานแล้ว มาเจอกันพอดีเลย”
ทางเหมาเหว่ยหลงฟังแล้วก็เหนื่อย “ฉันไปไม่ได้ เพื่อน ช่วงนี้ยุ่งมาก ต้องเก็บเกี่ยวฤดูใบไม้ร่วง!  ไม่ก็แกไปโทรอนโตคนเดียวเถอะ ตอนขากลับก็ถือโอกาสมาแวะบ้านฉันหน่อย บ้านฉันมีเนื้อวัวแกะกับพืชผักที่สดที่สุด อีกอย่างฉันปลูกข้าวสาลีหมักเบียร์ แกมาชิมสิ”
ฉินสือโอวจึงพูดว่า “ได้ ฉันจะพาวินนี่กับลูกสาวไปด้วยกัน วินนี่ก็ไม่ได้พักผ่อนมานานแล้ว”
งานประมูลจะจัดขึ้นในสุดสัปดาห์แรกของกลางเดือนกันยายน เพราะจุดสำคัญของงานประมูลครั้งนี้คือสมบัติโจรสลัดที่เป็นประเด็นดังก่อนหน้านี้ ตระกูลเบลคอยากจะถือโอกาสขยายอิทธิพล อนุญาตให้คนทั่วไปชมงานประมูล เพราะฉะนั้นเลยกำหนดเวลาเป็นสุดสัปดาห์
ฉินสือโอวบอกกับวินนี่ วินนี่ก็พูดอย่างลำบากใจ “ยังมีงานนิดหน่อยน่ะ”
ท่านชายฉินจูบแก้มนวลเนียนของเธอแล้วพูดอย่างอ่อนโยน “ที่รัก คุณจะเหนื่อยเกินไปไม่ได้ ต้องพักผ่อนบ้าง ลาหยุดสั้นๆ สักห้าวันเถอะ พวกเราไปอยู่ฟาร์มของโคโกโร่สักสองสามวันกัน”
วินนี่ลูบท้องที่เริ่มยื่นออกมาแล้วก็ยิ้มหวานรับ ที่จริงงานในเมืองก็มีแค่เท่านั้น เธอคุมงานผ่านโทรศัพท์ก็ได้
วันศุกร์ ฉินสือโอวก็นั่งดอลฟินAS365 เฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้มีข้อดีอยู่ที่จอดสะดวก ดอลฟินลำใหญ่บินมาโทรอนโตไม่สะดวก อีกอย่างคราวนี้มีพวกเขาสามคนกับยาม ก็เป็นห้าคน ดอลฟินลำเล็กก็พอ
…………………………
Related

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset