ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1771 ปลาไหลที่สมบูรณ์

เมื่อมาถึงข้างๆ บ่อน้ำ เหมาเหว่ยหลงก็โปรยเลือดไก่ลงไปในบ่อ ไม่นานก็มีกลิ่นเลือดลอยคละคลุ้งออกมา สุนัขพิตบูลที่ตามาทั้งสองตัวเริ่มกระดิกหางไปมาด้วยความตื่นเต้น พวกมันเดินลิ้นห้อยไปมารอบๆ บ่อน้ำ สายตามองลงไปในบ่อน้ำด้วยความสนอกสนใจ
เหมาเหว่ยหลงหันกลับมาตีก้นพวกมันทั้งสองตัว แล้วสบถพลางกลั้วหัวเราะออกมาว่า “เจ้าพวกโง่ พวกนายทั้งสองตัวอยากกินเลือดหรือยังไง?”
สุนัขพิตบูลทั้งสองตัวในฟาร์มได้รับพลังโพไซดอนจนพวกมันมีวิวัฒนาการ แม้ว่าพวกมันจะไม่ฉลาดเท่ากับเสือดาวหรือเสือก็ตาม แต่พวกมันก็ไม่ได้โง่ เมื่อได้ยินคำพูดของเหมาเหว่ยหลง พิตบูลทั้งสองตัวก็เก็บลิ้นและนั่งลงอย่างสงบเรียบร้อย มันยกอุ้งเท้าขึ้นดึงขากางเกงของเหมาเหว่ยหลงอย่างประจบประแจง
ฉินสือโอวถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่า “ทำไมแกถึงโรยเลือดไปบนน้ำล่ะ? ทำไปเพื่ออะไรเหรอ? อย่าบอกฉันนะว่าที่บ่อนี้มีฉลามอยู่?”
เหมาเหว่ยหลงเล่นด้วย เขาจึงพูดออกมาอย่างสนุกสนานว่า “เฮ้อ ฉลามยังมีอะไรน่าสนใจอยู่อีกเหรอ? ที่ฟาร์มของแกก็มีฉลามอยู่ไม่ใช่หรือไง?”
ฉินสือโอวส่ายหัว “มันไม่หมือนกัน ฉันปฏิบัติตามกฎคุ้มครองสัตว์และสัตว์ทะเล ฉันไม่ล่าฉลาม ไม่กินเนื้อและหูฉลาม”
เหมาเหว่ยหลงหัวเราะหึหึออกมาพลางพูดว่า “สบายใจได้ วันนี้พวกเราไม่ได้มาจับฉลาม ที่ดินเล็กๆ ของฉันไม่สามารถซ่อนสัตว์ขนาดใหญ่มโหฬารอย่างนั้นได้หรอก มันคือปลาไหลและปลาไหลนาต่างหาก เป็นอย่างไร หาทานได้ยากใช่ไหมล่ะ?”
เป็นเรื่องจริงที่ว่าพวกมันหาทานได้ยาก ปลาน้ำจืดแคนาดาไม่ได้มีปลาไหลและปลาไหลนา ยิ่งเป็นคนพื้นที่ยิ่งไม่ทานปลาชนิดนี้ ฉินสือโอวเคยคิดอยากจะเลี้ยงพวกมันในทะเลสาบเฉินเป่า แต่ว่าพวกมันไม่เหมาะกับบ่อเลี้ยงปลาอนุบาล
เพราะเหตุนี้ฉินสือโอวจึงถามออกมาด้วยความสงสัยว่า “บ่อเลี้ยงปลาอนุบาลนี้แกไปได้มาได้อย่างไร?”
เหมาเหว่ยหลงยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย เขากวักมือให้ฉินสือโอวมาหา ฉินสือโอวมองไปยังเขาอย่างไม่พอใจ พลางพูดว่า “เอาล่ะ ที่นี่ไม่มีซีไอเอและก็ไม่มีเอฟบีไอ แกจะพูดก็พูดมา ที่นี่จะมีคนอื่นได้ยินอีกเหรอ?”
เหมาเหว่ยหลงทำท่าทางเหมือนพวกเร่ร่อน แล้วตอบกลับว่า “แกไม่มาหาฉัน ฉันก็ไม่บอก”
“แม่แกสิ!” ฉินสือโอวด่าออกมาแล้วเดินเข้าไปหาเหมาเหว่ยหลง แต่เมื่อฉินสือโอวเดินเข้าไปหา เหมาเหว่ยหลงก็กระซิบที่ข้างหูว่า “ขอโทษด้วยนะเพื่อน แต่ฉันไม่บอก!”
ฉินสือโอวทำท่าจะจับเหมาเหว่ยหลงโยนลงไปในบ่อน้ำ พิตบูลทั้งสองตัวเข้ามาปกป้องเขาทันที พวกมันแยกเขี้ยวและเห่าใส่ฉินสือโอว พวกสุนัขไม่รู้ว่าอะไรคือเรื่องล้อเล่น ฉินสือโอวกลัวว่าจะเล่นจนเกินเลย จึงปล่อยเหมาเหว่ยหลงออก หลังจากนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างประจบประแจงพลางจัดเสื้อผ้าให้เขา แล้วหันไปพูดกับพิตบูลทั้งสองตัวว่า “แบบนี้โอเคแล้วเนอะ พวกแกทั้งสองเลิกเห่าได้แล้ว”
เหมาเหว่ยหลงพอใจเป็นอย่างมาก เมื่อพอใจแล้วเขาก็พูดออกมาว่า “ปลาไหลนาและปลาไหลพวกนี้ไม่ได้เป็นสายพันธุ์ท้องถิ่น ตอนที่ฉันไปทะเลของแฮมิลตันไม่เห็นเจ้าพวกนี้เลย พวกมันเป็นสัตว์ที่ฉันให้เพื่อนช่วยนำมาจากประเทศจีน”
เมื่อฉินสือโอวได้ยินคำตอบ เขาก็ถามออกมาด้วยความแปลกใจว่า “ฉันได้ยินแต่การลักลอบขนเงินขนสมบัติขนเครื่องประดับ แต่แม่งนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินเรื่องการลักลอบนำเข้าปลาไหลนาและปลาไหล แกนี่ไม่กลัวเรื่องคดโกงจริงๆ”
เพื่อที่หลีกเลี่ยงการรุกรานของสัตว์ต่างสายพันธุ์ ทางกรมศุลกากรประเทศต่างๆ เข้มงวดเรื่องควบคุมสายพันธุ์สัตว์เป็นอย่างมาก เพราะว่าพวกเขามีบทเรียนจากปลาคาร์ฟเอเชีย แต่ที่แคนาดาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ไก่พื้นเมืองและลูกหมูของฉินสือโอวที่อยู่ที่แคนาดาก็มาโดยผ่านทางคนรู้จักกับเหมาเหว่ยหลงเข้ามา แต่การที่เหมาเหว่ยหลงนำปลาไหลนาและปลาไหลเข้ามา ต้องเป็นการผ่านมาอย่างผิดกฎหมายแน่นอน
ในรายการสัตว์ควบคุมสายพันธุ์ของกรมศุลกากร การควบคุมสัตว์ปีกนั้นน้อยกว่าสัตว์บก และการความคุมสัตว์บกนั้นน้อยกว่าสัตว์น้ำ สัตว์ปีกทั้งหลายเช่นนกมีการอพยพไปทั่วโลก ส่วนสัตว์บกก็ง่ายต่อการตรวจสอบ แต่สัตว์น้ำนั้นควบคุมได้ยาก เมื่ออยู่ในน้ำไม่มีใครรู้ว่าพวกมันเข้ามาในเขตของประเทศตั้งแต่เมื่อไร?
แน่นอนว่า การควบคุมสัตว์น้ำนั้นเข้มงวดมาก เพราะหนึ่งในนั้นสาเหตุมาจากกรณีปลาคาร์ฟเอเชีย
การที่ปลาไหลนาและปลาไหลจะเข้ามายังแคนาดาเป็นเรื่องที่ยากมาก อย่างน้อยอำนาจของฉินสือโอวในตอนนี้ก็ไม่สามารถนำพวกมันเข้ามาได้
เหมาเหว่ยหลงพูดกลั้วหัวเราะว่า “ฉันไม่ได้จะทำอาหารที่แกไม่ค่อยได้กินบ่อยๆ ให้กินรึยังไง? แน่นอนว่า ปกติฉันก็ทานบ้าง ฉันเลี้ยงปลาไม่ได้เยอะมาก แค่เลี้ยงพอให้ตัวเองได้กินเท่านั้น”
ปกติแล้วฉินสือโอวจะไม่ใช้บทเรียนที่ใหญ่โตขนาดนี้ในการสั่งสอนเหมาเหว่ยหลง พวกเขานั่งพูดคุยกันพลางตกปลาไหลนาและปลาไหลไปด้วย เมื่อพระอาทิตย์กำลังตกดิน พวกเขาต้องกลับไปเตรียมอาหารก่อนที่จะค่ำ
ในความเป็นจริงแล้วปลาไหลนาชอบหากินตอนกลางคืน ดังนั้นฉินสือโอวจึงจำได้ว่าเมื่อตอนที่อยู่บ้านเวลาจับปลาไหล พวกเขาก็จับกันตอนกลางคืน ปลาไหลนั้นจับง่ายมาก เหมาเหว่ยหลงเตรียมขวดพลาสติกไว้หลายขวด ในขวดมีไส้ไก่อยู่ข้างใน เมื่อโยนขวดเข้าไปในน้ำ ไส้ไก่พวกนั้นจะดึงดูดปลาไหลเข้ามาในขวด
ขวดพวกนี้เป็นขวดเครื่องดื่มขนาดใหญ่ ปากขวดนั้นเล็กมาก พวกมันสามารถเข้าไปในขวดได้พอดี แต่พวกมันไม่สามารถหาทางออกมาได้ เข้าแล้วก็เข้าไปเลย อีกอย่างนี่เป็นวิธีการที่การป้องกันสัตว์อื่นเข้าไปขวดด้วย ต้องรู้ก่อนว่าปลาพวกนี้ไม่ชอบกินไส้ไก่เป็นอย่างมาก
วิธีการจับปลาไหลนานั้นต่างกันออกไป อันดับแรกต้องโปรยเลือดไก่เพื่อล่อปลาไหลนาให้ออกมา หลังจากนั้นเหมาเหว่ยหลงก็เตรียมตาข่ายโพลีเอทิลีนไว้ที่ใต้ขอบบ่อน้ำ ตาข่ายพวกนี้มีขนาดห้าถึงหกเมตร หลังจากวางลงไปที่ใต้น้ำแล้วจับปลาขึ้นมา รูปร่างของมันก็เหมือนขวดโลหะขนาดใหญ่ ด้วยเหตุนี้ นอกจากจะวางเหยื่อไว้ในตาข่ายแล้ว ยังต้องใส่ทรายลงไปในนั้นด้วยเล็กน้อย หนึ่งก็เพื่อช่วยในการอำพรางตาข่าย สองคือปลาไหลนาชอบมุดลงทรายเมื่อจับเหยื่อได้ หากไม่มีทรายพวกมันก็จะหนีไป
วิธีการจับปลาไหลนาแบบดั้งเดิมนี้ได้ผลเป็นอย่างมาก ปลาไหลนาเป็นสัตว์ที่แข็งแรงมาก วางตาข่ายลงยี่สิบนาทีก็สามารถเก็บขึ้นมาได้แล้ว ตราบใดที่มีปลาไหลนาอยู่รอบๆ อย่างไรก็จับขึ้นมาได้หลายรอบ
นอกจากใช้ตาข่ายแล้ว เหมาเหว่ยหลงก็เตรียมกระชังจับปลาไว้ด้วย กระชังจับปลาสองอันที่ฉินสือโอวเห็นก็ตอนที่เหมาเหว่ยหลงหยิบมันขึ้นมา เขาอธิบายว่า “พวกเราต้องทำงานให้เร็วหน่อยล่ะ ดังนั้นต้องลองทั้งสองวิธี อันที่จริงแล้วถ้ามีแค่แกกับวินนี่ พวกเราใช้ตาข่ายจับปลาก็พอแล้ว แต่ครั้งนี้มีเพื่อนของเราอีกสองคน พวกเราต้องจับปลาไหลและปลาไหลนามากกว่าเดิม”
ฉินสือโอวรับกระชังจับปลามาแล้วพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “ไม่ใช่ว่าแกฆ่ามันไปหมดแล้วเหรอ”
เหมาเหว่ยหลงพูดออกมาอย่างมั่นใจว่า “เป็นไปไม่ได้หรอก ฉันเลี้ยงมันมาครึ่งปีแล้ว ไม่รู้ว่าลูกหลานของมันมีจำนวนมากเท่าไร ปกติแล้วฉันให้ธัญพืชพวกมันไปจำนวนไม่น้อยเลย พวกมันถูกเลี้ยงจนอ้วนท้วมแล้วแน่นอน”
กระชังจับปลาทำจากไม้ไผ่และหนาม ขนาดประมาณครึ่งเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณสิบเซนติเมตร ด้านล่างปิดไว้ และมีปากเปิดอยู่ที่ด้านบน ฉินสือโอวมองมันอย่างละเอียด กระชังจับปลานี้เหมาเหว่ยหลงน่าจะนำมาจากประเทศจีน การผลิตถูกผลิตด้วยฝีมือ ไม่เหมือนของที่เหมาเหว่ยหลงจะทำออกมาได้…ปากของกระชังจับปลานี้ดูเหมือนจะมีขนาดที่กว้าง แต่อันที่จริงแล้วมันค่อนข้างเล็ก มีไม้ไผ่วางอยู่รอบปาก ไม้ไผ่เหล่านี้มาบรรจบกันที่ตรงกลาง ปลาไหลสามารถเข้าไปข้างในได้อย่างอิสระ แต่เป็นเรื่องยากที่มันจะออกมาได้ หากไม่ระวังให้ดีก็อาจจะถูกหนามแทงได้
เมื่อเห็นลักษณะของกระชังจับปลา ฉินสือโอวก็ส่ายหัวพลางพูดว่า “แกนี่ใจร้ายชะมัด นี่เป็นกรงปิดตายชัดๆ แกจะใช้มันจริงๆ เหรอ”
เหมาเหว่ยหลงถา
เมื่อมาถึงข้างๆ บ่อน้ำ เหมาเหว่ยหลงก็โปรยเลือดไก่ลงไปในบ่อ ไม่นานก็มีกลิ่นเลือดลอยคละคลุ้งออกมา สุนัขพิตบูลที่ตามาทั้งสองตัวเริ่มกระดิกหางไปมาด้วยความตื่นเต้น พวกมันเดินลิ้นห้อยไปมารอบๆ บ่อน้ำ สายตามองลงไปในบ่อน้ำด้วยความสนอกสนใจ
เหมาเหว่ยหลงหันกลับมาตีก้นพวกมันทั้งสองตัว แล้วสบถพลางกลั้วหัวเราะออกมาว่า “เจ้าพวกโง่ พวกนายทั้งสองตัวอยากกินเลือดหรือยังไง?”
สุนัขพิตบูลทั้งสองตัวในฟาร์มได้รับพลังโพไซดอนจนพวกมันมีวิวัฒนาการ แม้ว่าพวกมันจะไม่ฉลาดเท่ากับเสือดาวหรือเสือก็ตาม แต่พวกมันก็ไม่ได้โง่ เมื่อได้ยินคำพูดของเหมาเหว่ยหลง พิตบูลทั้งสองตัวก็เก็บลิ้นและนั่งลงอย่างสงบเรียบร้อย มันยกอุ้งเท้าขึ้นดึงขากางเกงของเหมาเหว่ยหลงอย่างประจบประแจง
ฉินสือโอวถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่า “ทำไมแกถึงโรยเลือดไปบนน้ำล่ะ? ทำไปเพื่ออะไรเหรอ? อย่าบอกฉันนะว่าที่บ่อนี้มีฉลามอยู่?”
เหมาเหว่ยหลงเล่นด้วย เขาจึงพูดออกมาอย่างสนุกสนานว่า “เฮ้อ ฉลามยังมีอะไรน่าสนใจอยู่อีกเหรอ? ที่ฟาร์มของแกก็มีฉลามอยู่ไม่ใช่หรือไง?”
ฉินสือโอวส่ายหัว “มันไม่หมือนกัน ฉันปฏิบัติตามกฎคุ้มครองสัตว์และสัตว์ทะเล ฉันไม่ล่าฉลาม ไม่กินเนื้อและหูฉลาม”
เหมาเหว่ยหลงหัวเราะหึหึออกมาพลางพูดว่า “สบายใจได้ วันนี้พวกเราไม่ได้มาจับฉลาม ที่ดินเล็กๆ ของฉันไม่สามารถซ่อนสัตว์ขนาดใหญ่มโหฬารอย่างนั้นได้หรอก มันคือปลาไหลและปลาไหลนาต่างหาก เป็นอย่างไร หาทานได้ยากใช่ไหมล่ะ?”
เป็นเรื่องจริงที่ว่าพวกมันหาทานได้ยาก ปลาน้ำจืดแคนาดาไม่ได้มีปลาไหลและปลาไหลนา ยิ่งเป็นคนพื้นที่ยิ่งไม่ทานปลาชนิดนี้ ฉินสือโอวเคยคิดอยากจะเลี้ยงพวกมันในทะเลสาบเฉินเป่า แต่ว่าพวกมันไม่เหมาะกับบ่อเลี้ยงปลาอนุบาล
เพราะเหตุนี้ฉินสือโอวจึงถามออกมาด้วยความสงสัยว่า “บ่อเลี้ยงปลาอนุบาลนี้แกไปได้มาได้อย่างไร?”
เหมาเหว่ยหลงยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย เขากวักมือให้ฉินสือโอวมาหา ฉินสือโอวมองไปยังเขาอย่างไม่พอใจ พลางพูดว่า “เอาล่ะ ที่นี่ไม่มีซีไอเอและก็ไม่มีเอฟบีไอ แกจะพูดก็พูดมา ที่นี่จะมีคนอื่นได้ยินอีกเหรอ?”
เหมาเหว่ยหลงทำท่าทางเหมือนพวกเร่ร่อน แล้วตอบกลับว่า “แกไม่มาหาฉัน ฉันก็ไม่บอก”
“แม่แกสิ!” ฉินสือโอวด่าออกมาแล้วเดินเข้าไปหาเหมาเหว่ยหลง แต่เมื่อฉินสือโอวเดินเข้าไปหา เหมาเหว่ยหลงก็กระซิบที่ข้างหูว่า “ขอโทษด้วยนะเพื่อน แต่ฉันไม่บอก!”
ฉินสือโอวทำท่าจะจับเหมาเหว่ยหลงโยนลงไปในบ่อน้ำ พิตบูลทั้งสองตัวเข้ามาปกป้องเขาทันที พวกมันแยกเขี้ยวและเห่าใส่ฉินสือโอว พวกสุนัขไม่รู้ว่าอะไรคือเรื่องล้อเล่น ฉินสือโอวกลัวว่าจะเล่นจนเกินเลย จึงปล่อยเหมาเหว่ยหลงออก หลังจากนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างประจบประแจงพลางจัดเสื้อผ้าให้เขา แล้วหันไปพูดกับพิตบูลทั้งสองตัวว่า “แบบนี้โอเคแล้วเนอะ พวกแกทั้งสองเลิกเห่าได้แล้ว”
เหมาเหว่ยหลงพอใจเป็นอย่างมาก เมื่อพอใจแล้วเขาก็พูดออกมาว่า “ปลาไหลนาและปลาไหลพวกนี้ไม่ได้เป็นสายพันธุ์ท้องถิ่น ตอนที่ฉันไปทะเลของแฮมิลตันไม่เห็นเจ้าพวกนี้เลย พวกมันเป็นสัตว์ที่ฉันให้เพื่อนช่วยนำมาจากประเทศจีน”
เมื่อฉินสือโอวได้ยินคำตอบ เขาก็ถามออกมาด้วยความแปลกใจว่า “ฉันได้ยินแต่การลักลอบขนเงินขนสมบัติขนเครื่องประดับ แต่แม่งนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินเรื่องการลักลอบนำเข้าปลาไหลนาและปลาไหล แกนี่ไม่กลัวเรื่องคดโกงจริงๆ”
เพื่อที่หลีกเลี่ยงการรุกรานของสัตว์ต่างสายพันธุ์ ทางกรมศุลกากรประเทศต่างๆ เข้มงวดเรื่องควบคุมสายพันธุ์สัตว์เป็นอย่างมาก เพราะว่าพวกเขามีบทเรียนจากปลาคาร์ฟเอเชีย แต่ที่แคนาดาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ไก่พื้นเมืองและลูกหมูของฉินสือโอวที่อยู่ที่แคนาดาก็มาโดยผ่านทางคนรู้จักกับเหมาเหว่ยหลงเข้ามา แต่การที่เหมาเหว่ยหลงนำปลาไหลนาและปลาไหลเข้ามา ต้องเป็นการผ่านมาอย่างผิดกฎหมายแน่นอน
ในรายการสัตว์ควบคุมสายพันธุ์ของกรมศุลกากร การควบคุมสัตว์ปีกนั้นน้อยกว่าสัตว์บก และการความคุมสัตว์บกนั้นน้อยกว่าสัตว์น้ำ สัตว์ปีกทั้งหลายเช่นนกมีการอพยพไปทั่วโลก ส่วนสัตว์บกก็ง่ายต่อการตรวจสอบ แต่สัตว์น้ำนั้นควบคุมได้ยาก เมื่ออยู่ในน้ำไม่มีใครรู้ว่าพวกมันเข้ามาในเขตของประเทศตั้งแต่เมื่อไร?
แน่นอนว่า การควบคุมสัตว์น้ำนั้นเข้มงวดมาก เพราะหนึ่งในนั้นสาเหตุมาจากกรณีปลาคาร์ฟเอเชีย
การที่ปลาไหลนาและปลาไหลจะเข้ามายังแคนาดาเป็นเรื่องที่ยากมาก อย่างน้อยอำนาจของฉินสือโอวในตอนนี้ก็ไม่สามารถนำพวกมันเข้ามาได้
เหมาเหว่ยหลงพูดกลั้วหัวเราะว่า “ฉันไม่ได้จะทำอาหารที่แกไม่ค่อยได้กินบ่อยๆ ให้กินรึยังไง? แน่นอนว่า ปกติฉันก็ทานบ้าง ฉันเลี้ยงปลาไม่ได้เยอะมาก แค่เลี้ยงพอให้ตัวเองได้กินเท่านั้น”
ปกติแล้วฉินสือโอวจะไม่ใช้บทเรียนที่ใหญ่โตขนาดนี้ในการสั่งสอนเหมาเหว่ยหลง พวกเขานั่งพูดคุยกันพลางตกปลาไหลนาและปลาไหลไปด้วย เมื่อพระอาทิตย์กำลังตกดิน พวกเขาต้องกลับไปเตรียมอาหารก่อนที่จะค่ำ
ในความเป็นจริงแล้วปลาไหลนาชอบหากินตอนกลางคืน ดังนั้นฉินสือโอวจึงจำได้ว่าเมื่อตอนที่อยู่บ้านเวลาจับปลาไหล พวกเขาก็จับกันตอนกลางคืน ปลาไหลนั้นจับง่ายมาก เหมาเหว่ยหลงเตรียมขวดพลาสติกไว้หลายขวด ในขวดมีไส้ไก่อยู่ข้างใน เมื่อโยนขวดเข้าไปในน้ำ ไส้ไก่พวกนั้นจะดึงดูดปลาไหลเข้ามาในขวด
ขวดพวกนี้เป็นขวดเครื่องดื่มขนาดใหญ่ ปากขวดนั้นเล็กมาก พวกมันสามารถเข้าไปในขวดได้พอดี แต่พวกมันไม่สามารถหาทางออกมาได้ เข้าแล้วก็เข้าไปเลย อีกอย่างนี่เป็นวิธีการที่การป้องกันสัตว์อื่นเข้าไปขวดด้วย ต้องรู้ก่อนว่าปลาพวกนี้ไม่ชอบกินไส้ไก่เป็นอย่างมาก
วิธีการจับปลาไหลนานั้นต่างกันออกไป อันดับแรกต้องโปรยเลือดไก่เพื่อล่อปลาไหลนาให้ออกมา หลังจากนั้นเหมาเหว่ยหลงก็เตรียมตาข่ายโพลีเอทิลีนไว้ที่ใต้ขอบบ่อน้ำ ตาข่ายพวกนี้มีขนาดห้าถึงหกเมตร หลังจากวางลงไปที่ใต้น้ำแล้วจับปลาขึ้นมา รูปร่างของมันก็เหมือนขวดโลหะขนาดใหญ่ ด้วยเหตุนี้ นอกจากจะวางเหยื่อไว้ในตาข่ายแล้ว ยังต้องใส่ทรายลงไปในนั้นด้วยเล็กน้อย หนึ่งก็เพื่อช่วยในการอำพรางตาข่าย สองคือปลาไหลนาชอบมุดลงทรายเมื่อจับเหยื่อได้ หากไม่มีทรายพวกมันก็จะหนีไป
วิธีการจับปลาไหลนาแบบดั้งเดิมนี้ได้ผลเป็นอย่างมาก ปลาไหลนาเป็นสัตว์ที่แข็งแรงมาก วางตาข่ายลงยี่สิบนาทีก็สามารถเก็บขึ้นมาได้แล้ว ตราบใดที่มีปลาไหลนาอยู่รอบๆ อย่างไรก็จับขึ้นมาได้หลายรอบ
นอกจากใช้ตาข่ายแล้ว เหมาเหว่ยหลงก็เตรียมกระชังจับปลาไว้ด้วย กระชังจับปลาสองอันที่ฉินสือโอวเห็นก็ตอนที่เหมาเหว่ยหลงหยิบมันขึ้นมา เขาอธิบายว่า “พวกเราต้องทำงานให้เร็วหน่อยล่ะ ดังนั้นต้องลองทั้งสองวิธี อันที่จริงแล้วถ้ามีแค่แกกับวินนี่ พวกเราใช้ตาข่ายจับปลาก็พอแล้ว แต่ครั้งนี้มีเพื่อนของเราอีกสองคน พวกเราต้องจับปลาไหลและปลาไหลนามากกว่าเดิม”
ฉินสือโอวรับกระชังจับปลามาแล้วพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “ไม่ใช่ว่าแกฆ่ามันไปหมดแล้วเหรอ”
เหมาเหว่ยหลงพูดออกมาอย่างมั่นใจว่า “เป็นไปไม่ได้หรอก ฉันเลี้ยงมันมาครึ่งปีแล้ว ไม่รู้ว่าลูกหลานของมันมีจำนวนมากเท่าไร ปกติแล้วฉันให้ธัญพืชพวกมันไปจำนวนไม่น้อยเลย พวกมันถูกเลี้ยงจนอ้วนท้วมแล้วแน่นอน”
กระชังจับปลาทำจากไม้ไผ่และหนาม ขนาดประมาณครึ่งเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณสิบเซนติเมตร ด้านล่างปิดไว้ และมีปากเปิดอยู่ที่ด้านบน ฉินสือโอวมองมันอย่างละเอียด กระชังจับปลานี้เหมาเหว่ยหลงน่าจะนำมาจากประเทศจีน การผลิตถูกผลิตด้วยฝีมือ ไม่เหมือนของที่เหมาเหว่ยหลงจะทำออกมาได้…ปากของกระชังจับปลานี้ดูเหมือนจะมีขนาดที่กว้าง แต่อันที่จริงแล้วมันค่อนข้างเล็ก มีไม้ไผ่วางอยู่รอบปาก ไม้ไผ่เหล่านี้มาบรรจบกันที่ตรงกลาง ปลาไหลสามารถเข้าไปข้างในได้อย่างอิสระ แต่เป็นเรื่องยากที่มันจะออกมาได้ หากไม่ระวังให้ดีก็อาจจะถูกหนามแทงได้
เมื่อเห็นลักษณะของกระชังจับปลา ฉินสือโอวก็ส่ายหัวพลางพูดว่า “แกนี่ใจร้ายชะมัด นี่เป็นกรงปิดตายชัดๆ แกจะใช้มันจริงๆ เหรอ”
เหมาเหว่ยหลงถา
ามกลับอย่างงงๆ ว่า “กรงปิดตายอะไรกัน?”
……………………………………
Related

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
Status: Ongoing
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset