ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1772 รับประทานอาหารใต้อาทิตย์อัสดง

กระชังนี้มีไว้สำหรับจับปลาไหลนา ที่บ้านเกิดของฉินสือโอวก็มีของแบบนี้ ชื่อของมันนั้นดุร้ายมาก นั่นก็คือกรงสิ้นตระกูล ของสิ่งนี้มีพลังเป็นอย่างมาก เพราะว่าที่ปากของกระชังเต็มไปไม้ไผ่เหลาแหลม ปลาไหลนาสามารถเข้าไปในนั้นได้อย่างอสระ แต่ไม่สามารถออกมาได้ ถ้าหากว่าพวกมันลองกระโดดออกมา ก็จะโดนไม้ไผ่แหลมพวกนั้นข่วนแทงจนเป็นแผล และเลือดของพวกมันก็จะล่อปลาไหลนาตัวอื่นๆ ให้เข้ามา
เขาอธิบายที่มาของชื่อกรงสิ้นตระกูลให้ฟัง เหมาเหว่ยหลงจึงพูดขึ้นมาทันทีที่นึกขึ้นได้ว่า “คนเรานี่ฉลาดจริงๆ เลยเนอะ เมื่อพูดถึงชีววิทยาแล้ว ความฉลาดนี้เป็นสิ่งที่ไม่น่าพึงปรารถนาเลย”
เมื่อกระชังและตาข่ายถูกวางลงในน้ำ เหมาเหว่ยหลงก็แจกเบ็ดตกปลาให้ฉินสือโอว พลางพูดว่า “มาๆ พวกเรายังต้องตกปลากันอีก วันนี้ตกได้อะไรก็ทานอันนั้นแหละ หวังว่าจะตกได้ปลาไหลนานะ แต่ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”
ฉินสือโอวรู้สึกว่าเขาต้องแสดงฝีมือซะแล้ว เขาดึงเบ็ดตกปลาออกมาพลางพูดว่า “ถ้าแกคิดจะตกปลาไหลนา ก็ไม่ควรใช้เบ็ดอันนี้ ไปหากิ่งไม้มา พวกมันมีความยืดหยุ่นที่ดีที่สุด ฉันจะสอนวิธีจับปลาไหลนาให้เอง”
อันที่แล้ววิธีของเขาไม่ได้ถือว่าเป็นการตกปลา แต่ว่าที่บ้านของเขา ถ้าหากต้องการตกปลาไหลนา พวกเขาต่างก็ใช้วิธีนี้กันทั้งนั้น
เหมาเหว่ยหลงหากิ่งไม้มาให้เขาจำนวนหนึ่ง ฉินสือโอวเลือกอันที่มีความยืดหยุ่นมากที่สุดมาอันหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็ผูกปลายของมันเข้ากับตะขอ เขาห้อยตับไก่ไว้ที่ตะขอแล้วเดินไปรอบๆ บ่อ ปลาไหลนาชอบทำรังและขุดหลุมใกล้ๆ กับริมบ่อ อีกทั้งเพราะความเคยชินของมัน พวกมันจะเข้าออกรูของมันตรงๆ มีบางครั้งที่จะอ้อมไปทางอื่นเพื่อเข้ารูบ้าง
หลังจากที่ฉินสือโอวหารูของมันเจอหนึ่งรู เขาก็ค่อยๆ แหย่กิ่งไม้เข้าไปใกล้ๆ กิ่งไม้นั้นมีแรงยืดหยุ่นมากที่สุด ทำให้มันสามารถปรับรูปเข้ากับมุมของรูได้ เมื่อตับไก่ลอยอยู่หน้าปลาไหลนา ปลาไหลนาก็อ้าปากเพื่อที่จะกิน ตอนนั้นเองหากคุณรู้สึกว่ากิ่งไม้ของคุณขยับ ก็ดึงกิ่งไม้ขึ้นมาเท่านี้เหมือนกับการตกปลา
ปรากฏว่า เมื่อกิ่งไม้ของเขาเข้าไปใกล้รู เขาก็ปล่อยมือเล็กน้อย เมื่อกิ่งไม้ขยับ เขาก็ดึงกิ่งไม่ขึ้นมาทันที มีปลาไหลนาตัวขนาดยาวประมาณครึ่งเมตรกว่าติดอยู่ที่ปลายตะขอ
เหมาเหว่ยหลงมองภาพนั้นด้วยสายตาเป็นประกาย เขาหยิบเบ็ดตกปลาขึ้นมาเพื่อที่จะหารูปลาไหลนา ฉินสือโอวพูดขู่เขาขึ้นมาว่า “แกระวังหน่อยสิ บางทีรูของปลาไหลนาก็มีงูอยู่นะ ที่บ้านฉันมีลุงอยู่คนหนึ่ง ที่เด็กๆ เขาซนแล้วเอามือไปแหย่รูปลาไหล ปรากฏว่าโดนงูผิดกัดเข้า สุดท้ายก็ต้องตัดมือตัวเองทิ้ง น่าสงสารมาก!”
แม้ว่างูพิษในแคนาดาจะไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังเท่างูพิษในออสเตรเลียในซีกโลกใต้ แต่พวกมันก็อาศัยอยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกัน โดยเฉพาะในฟาร์มแบบนี้ มีหญ้าขึ้นเต็มไปหมด เหมาะที่จะเป็นที่ซ่อนตัวสำหรับงูเป็นอย่างมาก
เมื่อได้ยินคำพูดของฉินสือโอว เหมาเหว่ยหลงก็กลัวขึ้นมา เขาตัดสินใจนั่งลงบนฝั่งและตกปลา แค่จับได้ปลานอร์ทเทิร์นไพค์ก็ดีแล้ว เพราะเหตุนี้จึงทำให้ฉินสือโอวหัวเราะให้ความขี้ขลาดของเหมาเหว่ยหลง เหมาเหว่ยหลงแก้ตัวว่าเขาแค่กลัวมือสกปรกเท่านั้น
ฉินสือโอวไม่เชื่ออยู่แล้ว เขายังคงหัวเราะเหมาเหว่ยหลงต่อไป เขาจับปลาไหลนามาได้ตัวหนึ่ง จากนั้นก็โยนไปที่เหมาเหว่ยหลงพร้อมตะโกนออกมาว่า ‘มีงู’ ปรากฏว่าเหมาเหว่ยหลงเอื้อมมือไปจับมันอย่างใจเย็นแล้วใส่เข้าไปในถังพลาสติก พลางพูดขึ้นมาอายๆ ว่า “ฉันยอมรับ ว่าฉันขี้ขลาดจริงๆ แต่ฉันไม่ได้โง่นะ! ถ้ามีงูพิษเข้ามาติดกับเบ็ดจริงๆ แกจะยังโยนมาให้ฉันอยู่รึยังไง? ขอร้องล่ะ คราวหน้าโยนมาพร้อมกิ่งไม้เลยโอเคไหม? การแสดงของแกนี่ใช้ไม่ได้เลย โง่จริงๆ!”
 ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังเถียงกันเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาเก็บกระชังขึ้นมาหลายรอบ สิ่งที่ได้มาทั้งหมดคือปลาไหลนาจำนวนยี่สิบกว่าตัวและปลาไหลขนาดเล็กใหญ่อีกจำนวนหนึ่ง ปลาไหลนาและปลาไหลที่มีขนาดเท่ากับตะเกียบสั้นๆ ถูกปล่อยกลับลงบ่อ ส่วนตัวอื่นๆ ถูกนำกลับไปทำอาหาร
นอกจากปลาไหลนาและปลาไหลแล้ว เหมาเหว่ยหลงก็จับแกะมาอีกหนึ่งตัว เขาให้แบล็คไนฟ์และบีบีซวงฆ่าพวกมันเพื่อนำมาทำบาร์บีคิว สัตว์พวกนี้เป็นสัตว์ที่เลี้ยงในฟาร์ม พวกไม่มีกินอาหารสังเคราะห์เลย เนื้อของพวกมันเป็นลายหินอ่อน ดูก็รู้เลยว่าเป็นเนื้อคุณภาพดีอันดับต้นๆ
ปลาไหลนาถูกนำมาทำเป็นกับข้าวสองอย่าง หนึ่งคือปลาไหลตุ๋น และอีกหนึ่งคือปลาไหลกระทะผัดเผ็ด ปลาไหลก็ถูกนำมาทำเป็นอาหารสองเมนู พวกมันถูกล้างจนสะอาดแล้วถูกนำมาทำผัดจนแห้ง แล้วกินเหมือนกับปลาแคปลิน ทานคู่กับยี่หร่า ปลาไหลที่มีขนาดอ้วนหน่อยจะถูฏนำมาทำเป็นซุปใส่เต้าหู้ อาหารพวกนี้เป็นฝีมือของหลิวซูเหยียน กลิ่นและรสชาติครบรส
ฉินสือโอวมีหน้าที่เสิร์ฟอาหาร เมื่อเห็นหลิวซูเหยียนกำลังยุ่งอยู่ในครัว เขาก็เดินออกมาตบไหล่ฉินสือโอวพลางพูดด้วยความชื่นชมว่า “แกนี่วิสัยทัศน์ดีจริงๆ ภรรยาคนนี้เป็นคนที่ดี พูดกันตามตรง แม้ว่าเมื่อก่อนหลิวซูเหยียนจะทำงานแบบนั้นมา….”
เหมาเหว่ยหลงตัดบทเขาอย่างไม่พอใจว่า “เอาล่ะ แค่นี้ก็พอแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว”
ฉินสือโอวยกมือขึ้นขอโทษ “โอเคๆๆ เมื่อกี้ฉันพูดมากไปเสียหน่อย ท่านเหมาเป็นคนจิตใจดีกว้างขวาง ไม่เหมือนฉันที่พูดเรื่อยเปื่อยจากความรู้อันน้อยนิด”
อันที่จริงแล้วเขารู้ว่าเมื่อก่อนฐานะของหลิวซูเหยียนก็ไม่ได้น่าขายหน้าอะไร เหมาเหว่ยหลงเคยบอกเขาแล้ว หลิวซูเหยียนเป็นแม่เล้าในไนต์คลับ ไม่ได้เป็นผู้หญิงแบบนั้น ลูกน้องเขาก็แค่มีหน้าที่ดื่มเป็นเพื่อนและร้องเพลงเป็นเพื่อนเท่านั้น แน่นอนว่าอาจมีการแตะเนื้อต้องตัวบ้าง แต่ผู้หญิงอย่างนั้น กับผู้หญิงกลางคืนไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอเลย เธอแค่ทำงานตอนกลางคืนแต่ไม่ใช่ผู้หญิงกลางคืนแบบนั้น
เหมาเหว่ยหลงไม่ชอบฟังแน่นอน เขาจึงไม่ได้พูดอะไรมา เขาออกไปช่วยแบล็คไนฟ์ล้างเนื้อแกะ จากนั้นก็เลือกเนื้อแกะดีๆ สองสามชิ้นมาวางไว้บนตะแกรงปิ้งย่าง
เนื้อแกะสีแดงนุ่มและมีไขมันอยู่เล็กน้อย เมื่อย่างเนื้อแกะจนสุก เขาก็หยดน้ำมันเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเนื้อแกะด้านนอก เมื่อน้ำหยดลงบนถ่านทำให้เกิดเสียงดังซู่ๆ ขึ้นมา และเกิดสะเก็ดไฟขึ้นมาไม่หยุด
เหมาเหว่ยหลงเดินมาส่งเบียร์ให้เขาหนึ่งขวด ฉินสือโอววิ่งเข้าไปรับเบียร์มา แล้วพูดว่า “เมื่อกี้ขอโทษ แกเข้าใจความหมายของฉันใช่ไหม”
เหมาเหว่ยหลงพูดออกมาด้วยความโมโหว่า “ขอโทษบ้าบออะไรล่ะ วันนี้ฉันไม่ได้เตรียมเบียร์ไว้เยอะ แกอยากจะฆ่าตัวตายหรือยังไง?”
กลิ่นหอมของเนื้อแกะฟุ้งกระจายไปทั่ว สุนัขพิตบูลสองตัวที่กำลังเล่นกับตั๋วตั่วและเถียนกวาอยู่วิ่งตามกลิ่นมาด้วยความรวดเร็ว พวกมันนั่งรอรอบๆ เตาพลางมองไปยังสเต๊กที่อยู่ในมือของฉินสือโอว น้ำลายหยดลงมาจากปากของพวกมัน บางครั้งพวกมันก็เลียปากไปมา เรียกได้ว่าตอนนี้พวกมันน้ำลายสอ
ฉินสือโอวนำเนื้อขนาดใหญ่มาย่างด้วยเช่นกัน หลังจากนั้นก็โยนไปบนพื้นหญ้า จากนั้นสุนัขพิตบูลทั้งสองตัวก็เริ่มแย่งกัน และวิ่งไล่กันไปมา ท่าทางมีความสุขเป็นอย่างมาก
เมื่อย่างเนื้อแกะเสร็จแล้ว เหมาเหว่ยหลงก็เตรียมเตาย่างขนาดเล็ก แล้วนำขาแกะไปแขวนไว้รอบๆ ด้านบนเตา จากนั้นก็หมุนขาแกะเพื่อย่างมันไปเรื่อยๆ เถียนกวาได้กลิ่นหอมของอาหาร เธอดูดนิ้วเล็กๆ ของตัวเองอย่างหิวโหยพลางจ้องมองไปข้างหน้า
หลิวซูเหยียนพูดกลั้วหัวเราะว่า “เถียนกวา อย่าอมนิ้วตัวเอง มันสกปรกนะ”
เถียนกวามองไปยังหลิวซูเหยียน จากนั้นก็ดูดนิ้วต่อไปอย่างเอร็ดอร่อย ฉินสือโอวและวินนี่ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ พวกเขาคิดว่านี่เป็นนิสัยปกติของเด็ก ไม่รู้ว่าเถียนกวาดดูดนิ้วตัวเองไปไม่รู้กี่รอบแล้ว ท่าทางของเธอดูน่ารักไร้เดียงสาเป็นอย่างมาก
เมื่อลูกชายของเหมาเหว่ยหลงเห็นแบบนั้นก็ดูดนิ้วเลียนแบบเถียนกวา หลิวซูเหยียนหยิบนิ้วของเขาออก เขาร้องออกมาและพยายามจะดูดนิ้วอีก เมื่อเถียนกวาได้ยินเสียงร้องไม่พอใจของเขา เธอก็เดินเข้าไปตีเขาหนึ่งที พลางขมวดคิ้วและพูดออกมาด้วยความโมโหว่า “ไม่ฟัง ตีๆ!”
เด็กชายรู้สึกว่าพี่สาวเจ้าเนื้อคนนี้ต่างจากพ่อแม่ของตัวเอง เธอเป็นคนที่ทำให้เขาเชื่อฟังได้ เขาจึงเข้าไปในอ้อมแขนของหลิวซูเหยียนอย่างอายๆ และไม่กล้าแสดงอารมณ์โมโหอีก
………………
Related

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset