ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1774 การซื้อฟาร์ม

นายตำรวจมองไปยังฉินสือโอวครู่หนึ่ง คุณชายฉินคิดว่านายตำรวจรู้จักฐานะของเขา เขาจึงเชิดหน้าขึ้นอย่างโอ่อ่าท้าทาย ด้วยอำนาจของเงิน และฐานะของเขา นายตำรวจไม่สามารถเอาเรื่องจุดไฟย่างข้าวโพดมาเล่นงานเขาได้แน่
แต่นายตำรวจทั้งสองคนกลับไม่รู้จักฐานะของฉินสือโอว อีกทั้งพวกเขายังพอใจในทัศนคติของฉินสือโอวอีกด้วย การที่ตำรวจจ้องไปที่เขาก็เพื่อยืนยันบ้านเกิดของเขา “คุณเป็นคนจีนใช่ไหม? มาแคนาดานานแค่ไหนแล้ว?”
ฉินสือโอวตอบตามความเป็นจริง “อันที่จริงก็ไม่ได้นานมากนะครับ”
นายตำรวจคนนั้นพยักหน้า สีหน้าของเขาดูดีขึ้นมาอีกนิดหน่อย เขาพูดว่า “ตอนนี้เป็นฤดูเก็บเกี่ยว ไม่อนุญาตให้จุดไฟในพื้นที่เพาะปลูกนะ เพราะว่าไฟอาจจะเกิดการลุกไหม้ได้ และอาจจะนำไปสู่กันเกิดไฟลุกลามเป็นวงกว้าง เรื่องนี้อาจจะไม่เหมือนกับประเทศของคุณ ดังนั้นผมหวังว่าพวกคุณจะระวังให้มากขึ้น”
ฉินสือโอวพยักหน้าให้เขาเช่นกัน และพูดว่า “ขอบคุณพวกคุณที่ชี้แนะ ต่อไปผมและเพื่อนของผมจะระวังมากกว่านี้”
จากนั้นนายตำรวจทั้งสองคนก็ไม่พูดอะไรอีก แต่เขาได้ออกใบค่าปรับให้แก่เหมาเหว่ยหลง ค่าปรับเป็นเงินเจ็ดสิบห้าดอลลาร์แคนาดา เป็นการลงโทษที่เขาไม่สามารถจัดการฟาร์มของตัวเองได้ เหมาเหว่ยหลงรู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก เขาถามออกมาว่า “พวกคุณครับ ดูเหมือนเรื่องนี้จะไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของผมนะครับ?”
นายตำรวจที่อายุมากกว่าอีกคนยิ้มพลางตอบกลับว่า “คุณเป็นเจ้าของฟาร์มหรือเปล่าล่ะ คุณผู้ชาย?”
เหมาเหว่ยหลงพยักหน้า นายตำรวจคนนั้นจึงพูดต่อว่า “งั้นผมก็ค่อนข้างมั่นใจว่า ใช่ครับ ความรับผิดชอบนี้เป็นของคุณ ดังนั้นต่อไปคุณต้องดูแลฟาร์มของคุณให้ดี คุณมีหน้าที่ที่จะต้องควบคุมดูแลฟาร์มแห่งนี้ แน่นอนว่า ถ้าหากว่าคุณไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ และมีคนต้องการข่มเหงฟาร์มของคุณ แบบนั้นก็สามารถปัดความรับผิดชอบได้”
เมื่อได้ยินคำอธิบาย เหมาเหว่ยหลงก็ทำได้เพียงรู้สึกว่าตัวเองนั้นโชคไม่ดี เขาไม่พกเงินติดตัวมาด้วย แม้ว่าที่นี่จะเป็นบ้านของเขา แต่พวกเขาออกมาทำงานกันที่ฟาร์ม ใครจะพกกระเป๋าเงินออกมากันล่ะ? ฉินสือโอวหัวเราะคิกคักพลางตบกระเป๋าบนร่างกายของตัวเอง ปรากฏว่ามีเงินจำนวนห้าสิบดอลลาร์อยู่ในกระเป๋าของเขา และแบล็คไนฟ์ให้เพิ่มอีกยี่สิบห้าดอลลาร์ เขายักไหล่แล้วพูดว่า “ถือว่าเป็นการสนับสนุนคุณก็แล้วกัน”
เมื่อนายตำรวจทั้งสองออกใบเสร็จค่าปรับเรียบร้อย รถตำรวจพร้อมกับเสียงไซเรนก็ขับออกจากฟาร์มไป ฉินสือโอวใช้ข้อศอกกระทุ้งเหมาเหว่ยหลง พลางพูดหยอกเย้าว่า “เป็นอย่างไร ตกลงแล้วการทำงานของตำรวจประเทศไหนมีความเป็นมนุษยธรรมมากกว่ากัน?”
เหมาเหว่ยหลงพูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “การทำแบบนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นการปกป้องนายทุนโดยหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในสังคมทุนนิยม…บ้านฉันทุนน้อย ส่วนแกเป็นนายทุนนายใหญ่ อย่างไรพวกเขาก็ปกป้องแก”
เมื่อตกบ่าย พวกเขาก็จัดการเก็บข้าวโพดที่เหลือ โดยการใช้เครื่องจักรอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเก็บข้าวโพด เครื่องดึงเปลือกข้าวโพดอัตโนมัติ และเครื่องแกะเมล็ดข้าวโพดอัตโนมัติ และสุดท้ายก็ขนส่งพวกมันด้วยรถแทรกเตอร์​ เพื่อนำไว้ในสายพานที่ส่งตรงไปถึงโรงเก็บข้าวโพด หลังจากนั้นก็พักไว้สักหน่อยก็สามารถนำไปขายได้แล้ว
ตอนนี้ทั่วฟาร์มเต็มไปด้วยต้นข้าวโพดที่ร่วงโรย พวกเขาต้องใช้เครื่องจักรในการเก็บก้านข้าวโพด ไม่อย่างนั้นจะปลูกข้าวสาลีต่อไม่ได้ ก้านข้าวโพดพวกนี้สามารถนำไปขายเพื่อนำไปเป็นอาหารให้วัวและแกะได้ด้วย หลังจากที่ก้านข้าวโพดพวกนี้ถูกนำไปหมักกับหญ้าและกระดูกป่น ก็จะกลายเป็นอาหารผักสีเขียว ฟาร์มปศุสัตว์ขนาดใหญ่ต้องพึ่งพาอาหารนี้เพื่อความอยู่รอดในฤดูหนาว
แน่นอนว่าเรื่องนี้ฉินสือโอวไม่ต้องเข้าไปช่วย เพราะว่าเหมาเหว่ยหลงไม่มีเครื่องจักร ดังนั้นเขาจึงต้องไปเช่าเครื่องบรรทุกฟางอัตโนมัติมา และตอนนี้ฟาร์มอื่นๆ ที่มีรถชนิดนี้ก็กำลังยุ่งกับการเก็บเกี่ยวข้าวโพด ดังนั้นเขาต้องรอไปอีกสองสามวัน
ฉินสือโอวพูดกลั้วหัวเราะว่า “ดูสิ ฟาร์มของแกนี่ใช้ไม่ได้เลย ยังขาดเครื่องจักรอีกล่ะ? เป็นไง พวกเรามาช่วยแกขนาดนี้ จะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ?”
“ฉันจะให้สินสอดเถียนกวาเยอะๆ” เหมาเหว่ยหลงพูด
เมื่อฉินสือโอวได้ยินประโยคนั้นก็อดไม่ได้ที่จะกลอกตาไปมา เขาตอบกลับว่า “อย่ามาล้อเล่นสิ เถียนกวายังต้องการสินสอดอยู่อีกเหรอ? แกดูฉันกับวินนี่เสียก่อน แกดูไอคิวและอีคิวของพวกเราสองคนสิ ในอนาคตเถียนกวาจะต้องเป็นเทพีผู้สง่างามอย่างแน่นอน แต่ถ้าลูกชายของแกอยากแต่งงานกับลูกสาวของฉัน แบบนั้นก็ต้องแสดงทักษะอะไรสักหน่อยนะ”
เหมาเหว่ยหลงตอบกลับว่า “วินนี่ทั้งสวยและฉลาด เรื่องนี้ฉันยอมรับ แต่ว่าแกเอาตัวเองไปเทียบกับไอคิวและรูปลักษณ์ของตัวเองกับวินนี่เนี่ยนะ? ฉันไม่เคยเห็นแกหน้าด้านขนาดนี้มาก่อนเลย เอาล่ะ อย่าถลึงตามาแบบนั้น บอกมาสิ ว่าทักษะอะไร? รายได้ต่อปีเท่าไรน่ะเหรอ?”
ฉินสือโอวโบกมือปัด “ฉันไม่ได้ต้องการรู้รายได้ต่อปี แกดูฐานะของเพื่อนแกตอนนี้ด้วย ยังจะสนใจเรื่องเงินอีกเหรอ? ที่ฉันอยากเห็นคือบุคลิกภาพและความสามารถ เรื่องความสามารถวินนี่จะเป็นคนตัดสิน ความสามารถที่ฉันพูดก็คือ เช่นว่าการถ่ายวิดีโอ ก็ต้องได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ หากเป็นนักคณิตศาสตร์ ก็ต้องได้รับรางวัลฟิลด์ หากเป็นนักฟิสิกส์ นักวิทยาศาสตร์ แพทย์และอื่นๆ แบบนั้น….”
“รางวัลโนเบล?” เหมาเหว่ยหลงตัดบทคำพูดของเขา
ฉินสือโอวหัวเราะออกมาและเข้าไปกอดคอเขา พลางพูดออกมาว่า ​”ใช่ ดูเหมือนว่าแกกับฉันจะมีความคิดเหมือนกันนะ”
เหมาเหว่ยหลงโมโหแทบบ้า เขาดันฉินสือโอวออกพลางพูดว่า “ความคิดเหมือนแกกับผีน่ะสิ ไปไกลๆ ไป รีบไปซื้อเครื่องจักรสำหรับฟาร์มของฉันมาเลย ฟาร์มของฉันยังขาดของอีกเยอะนะ”
แม้ว่าคำพูดของฉินสือโอวจะเป็นเพียงการล้อเล่น แต่เขาต้องการปรับปรุงฟาร์มของเหมาเหว่ยหลงให้สมบูรณ์จริงๆ การประมูลในครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เขาได้รับเงินมาเกือบสองพันดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างฟาร์มที่สมบูรณ์เงินที่ใช้ไม่ถึงหนึ่งล้านด้วยซ้ำ สำหรับเขาแล้วนี่เป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น
วันรุ่งขึ้น เหมาเหว่ยหลงและฉินสือโอวก็นั่งเฮลิคอปเตอร์ มุ่งหน้าไปยังลานขายเครื่องจักรสำหรับทำฟาร์มในแฮมิลตัน เหมาเหว่ยหลงบอกว่ามันไม่ได้ไกลไม่ต้องนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปก็ได้ นั่งเครื่องบินของเขาไปก็พอแล้ว แต่ฉินสือโอวส่ายหัว บอกว่าแม้จะไปห้องน้ำก็ต้องเฮลิคอปเตอร์ นี่ไม่ใช่เครื่องบิน ต้องใช้ให้คุ้ม! ตอนนี้คุณชายฉินอย่างเขามีมูลค่ามหาศาล!
ด้วยเหตุนี้เหมาเหว่ยหลงจึงหัวเราะออกมา แต่เมื่อขึ้นมาบนเฮลิคอปเตอร์จริงๆ เขาก็เลิกหัวเราะฉินสือโอว การตบแต่งโลมาน้อยอย่างหรูหราโอ่อ่าทำให้เขาพูดไม่ออก แม้ว่านี่จะเป็นรุ่นที่สองก็ตาม เขาไม่เคยนั่งเฮลิคอปเตอร์แบบนี้มาก่อน เขาไม่เข้าใจฟังก์ชันต่างๆ ที่อยู่ด้านบน ถึงคราวที่ฉินสือโอวจะหัวเราะเขาแทนแล้ว
แต่ว่าที่เหมาเหว่ยหลงพูดก็ถูก อันที่จริงไม่ต้องนั่งเฮลิคอปเตอร์มาก็ได้ เพราะเมื่อบินมาได้ยี่สิบนาที ลานขายเครื่องจักรก็ปรากฏอยู่ที่ด้านล่าง บีบีซวงลดความสูงของเครื่องลง ฉินสือโอวจึงพูดออกมาว่า “บินไปข้างหน้าอีกหน่อย บินอยู่สักพักก่อน นายไม่เห็นว่าเถ้าแก่เหมามีความสุขมากแค่ไหน?”
เหมาเหว่ยหัวเราะออกมาเสียงดัง “แม่แกสิ ไม่แกล้งฉันจะนอนไม่หลับหรือยังไง? รีบลงไปเร็วเข้า อากาศร้อนขนาดนี้ ยิ่งชักช้าก็ยิ่งร้อน!”
เครื่องจักรในร้านอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เป็นอย่างมาก มีเครื่องจักรหลายเครื่องที่ฉินสือโอวพึ่งเคยเห็นมันเป็นครั้งแรก ฟาร์มปลาของเขาต้องการบางอย่างที่แตกต่างจากฟาร์มของที่นี่อย่างสิ้นเชิง ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าใจการทำงานของเครื่องจักรแปลกๆ พวกนี้ เหมาเหว่ยหลงได้ศึกษาเรื่องนี้มาเป็นอย่างดี ฉินสือโอวจึงหน้าที่เพียงแค่ถือบัตรจ่ายเงินให้เท่านั้น
เครื่องจักรแต่ละอันที่เหมาเหว่ยหลงเลือกไม่ได้มีราคาแพงเลย เครื่องไถเครื่องหนึ่งราคาแค่หนึ่งหมื่นหกพันดอลลาร์เท่านั้น แพงที่สุดคือรถสำหรับฉีดพ่นยาฆ่าศัตรูพืช ใช้สำหรับฉีดไล่ศัตรูพืชและพ่นน้ำ โดยราคาอยู่ที่ห้าหมื่นดอลลาร์
หลังจากซื้อของทั้งหมด ฉินสือโอวก็ใช้เงินไปไม่ถึงสองแสนดอลลาร์ เห็นได้ชัดว่าเหมาเหว่ยหลงไม่ต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากเขามากเกินไป
เมื่อจ่ายเงินเสร็จ พ่อค้าก็มีหน้าที่ส่งเครื่องจักรพวกนี้ไปที่ฟาร์ม ในขณะที่พวกเขากำลังจะกลับ จู่ๆ ฉินสือโอวก็สังเกตเห็นของน่าสนใจบางอย่าง เข้าจึงโน้มตัวไปมองใกล้ๆ
…………….
Related

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset