ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1775 พื้นที่ล่าสัตว์

สิ่งที่ฉินสือโอวเห็นคือโดรนสำหรับการท่องเที่ยว ปีกของมันทั้งสองข้างกว้างประมาณหนึ่งเมตร ดูเหมือนกับเครื่องบินของเล่น แต่ตามคำแนะนำประสิทธิภาพของมันนั้นสูงมาก แน่นอนว่าราคาก็สูงตามเช่นกัน ราคาของมันไม่ต่ำกว่าสี่แสนดอลลาร์แคนาดาแน่นอน
เหมาเหว่ยหลงรู้ว่าเขาอยากจะซื้อ จึงพูดห้ามออกมาอย่างหนักแน่นว่า “ฉันไม่ต้องใช้มัน ฉิน จริงๆ นะ ฉันไม่ได้เกรงใจแกนะ แต่ของแบบนี้ที่ฟาร์มของฉันไม่ต้องใช้ พื้นที่เราเล็กๆ แค่ 1,800 เอเคอร์เท่านั้น ใช้คนทำงานก็พอแล้ว”
ฉินสือโอวยืนยันที่ซื้อมัน เขาพูดว่า “ฉันไม่ได้บอกว่าจะซื้อให้แกเสียหน่อย ฉันซื้อให้ภรรยาและลูกสาวฉันเล่นน่ะ โอเคไหม?”
เหมาเหว่ยหลงประกบมือเข้าหากันทำท่าเหมือนขอทาน “เพื่อน ขอร้องล่ะ แกปล่อยให้ฉันตามแกให้ทันหน่อยได้ไหม? แกช่วยฉันซื้อของสำหรับทำฟาร์มทั้งหมดนี้แล้ว ยังต้องดิ้นรนไปเพื่ออะไร? เอาแบบนี้ เครื่องบินลำนี้สงวนไว้ให้ฉันก่อนแล้วกัน พอฉันทำเงินได้ถึงสองล้าน เรามาซื้อกันสักลำ โอเคไหม?”
เมื่อเห็นว่าเหมาเหว่ยหลงปฏิเสธอย่างแน่วแน่ ฉินสือโอวก็ไม่คาดคั้นต่อ การยึดมั่นในเรื่องนี้ของเขาเปลี่ยนไปเป็นการทำการกุศล และมันก็ไม่ใช่ความตั้งใจเดิมของเขา
เพราะเหตุนี้ เขาจึงทำได้เพียงถ่ายรูปคู่เครื่องบินลำนี้อย่างไม่เต็มใจ แล้วจากนั้นก็พาเหมาเหว่ยหลงกลับฟาร์มไปทันที
หลังจากที่พวกเขากลับมาได้ไม่นาน รถแทรกเตอร์สำหรับขนเครื่องจักรก็มาถึงเช่นกัน ฉินสือโอวชำระเงินยอดที่เหลือ เหมาเหว่ยหลงรับผิดชอบพาคนงานไปเก็บเครื่องจักรและรถทำการเกษตรที่โกดัง
เมื่อเห็นฉินสือโอวชำระเงินยอดสุดท้ายอย่างใจเย็น ใบหน้าของเขาคนเก็บเงินก็ปรากฏแววอิจฉาขึ้นมา เขาพูดว่า “เพื่อน พวกคุณเป็นคนจีนงั้นเหรอ? ผมได้ยินมาว่า ประเทศจีนของพวกคุณเต็มไปด้วยทองคำ..อ้อ ฟัค คุณคือคุณฉิน? คุณคือราชาแห่งการกอบกู้เรืออับปางในมหาสมุทร คนจีนฉิน!”
ฉินสือโอวไม่คิดว่าจะเจอเข้ากับแฟนคลับของตัวเอง ต้องขอขอบคุณข้อกล่าวหาจากรัฐบาลสเปนก่อนหน้านี้จริงๆ ตอนนั้นเรื่องราวของเขาเป็นที่โด่งดังมากจริงๆ รายงานที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นแพร่กระจายไปทั่วแคนาดา ทำให้เขากลายเป็นคนมีชื่อเสียง
แต่ว่าฉินสือโอวไม่อยากจะรับชื่อเสียงนี้ไว้ ตอนนี้เขาควรรักษาความเป็นส่วนตัวเอาไว้จะดีกว่า เขาจึงโบกมือปฏิเสธแล้วพูดว่า “เพื่อน ผมคิดว่าคุณเข้าใจผิดแล้วล่ะ ผมรู้จักคนที่คุณพูดถึง เขาคือไอ้หนุ่มผู้โชคดีที่กู้ซากเรือโจรสลัดขวานดำได้ใช่ไหม? ผมบอกได้แค่ว่าพวกเรามีหน้าตาที่คล้ายกัน แต่เขาเป็นเจ้าของฟาร์มปลาในนิวฟันแลนด์ ส่วนผมเป็นชาวไร่ในแฮมิลตัน”
ในสายตาของชาวผิวขาว รูปร่างหน้าตาของชาวเอเชียมีความคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก เหมือนกับที่คนเอเชียไม่สามารถแยกหน้าตาของคนผิวสีได้ เมื่อได้ยินคำพูดของฉินสือโอว เขาก็ลังเลกับการคาดเดาของตัวเอง แล้วถามออกมาเบาๆ ว่า “งั้นเหรอ? งั้นคุณก็เหมือนเขามากเลย ผมคิดว่าผมเจอกับคนจีนฉินเสียอีก แต่ว่าที่คุณพูดก็พูด เขาเป็นไอ้บ้าที่โชคดีจริงๆ! ถ้าหากว่าผมโชคดีเหมือนกับเขาคงจะดีน่าดู ในข่าวบอกว่าของที่เขากู้มาได้ประมูลไปได้มูลค่าสี่พันล้านดอลลาร์สหรัฐเลยล่ะ! พระเจ้า ถ้าหากฉันมีเงินขนาดนั้นนะ ฉันจะจัดการนางแบบสวยๆ สักร้อยคนเลย ฮ่าๆๆ”
ฉินสือโอวหัวเราะผสมโรงด้วย ชายคนนี้ไม่คิดอะไรเลยจริงๆ
แต่ชายคนที่เด็กกว่ายืนยันที่จะถ่ายรูปกับฉินสือโอว เขาจึงอธิบายว่า “ผมเข้าใจคุณผิด เพื่อนของผมก็คงเข้าใจคุณผิดเหมือนกัน เอาแบบนี้ เรามาถ่ายรูปรวมแล้วโพสต์ลงทวิตเตอร์ให้เพื่อนๆ เห็นดีกว่า ฮ่าๆ มันต้องสนุกมากแน่ๆ”
ฉินสือโอวไม่มีอะไรจะต้องปฏิเสธ ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วถ่ายเซลฟี่สองสามภาพ จากนั้นก็จากไปอย่างมีความสุข
เมื่อถึงเวลารับประทานอาหารกลางวัน เถียนกวากับตั๋วตั่วก็วิ่งกลับบ้านมาอย่างเศร้าสร้อย ฉินสือโอวยิ้มออกมาพลางถามว่า “มีอะไรงั้นเหรอ ทำไมพวกหนูดูไม่ร่าเริงเลยล่ะ?”
เถียนกวากอดเฟอเรทพี่ชายแล้วทำหน้ามุ่ย พลางพูดว่า “ดอริสมีกระต่าย แต่หนูไม่มี”
ฉินสือโอวหันไปมองตั๋วตั่วด้วยความมึนงง ตั๋วตั่วอธิบายให้ฟังว่า “ดอริสเป็นเพื่อนบ้านของพวกเรา เป็นลูกของคุณและคุณนายเคย์ลา พวกเราไปเล่นกับเธอตอนเช้า สุนัขของเธอกำลังจับกระต่ายในไร่ น้องเถียนกวาจึงอยากได้สักตัว แต่ว่าดอริสบอกให้พวกเราเอาเฟอเรทไปแลก มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน?”
เมื่อได้ยินคำพูดของตั๋วตั่ว ฉินสือโอวก็เข้าใจทันที ใช่แล้ว จะเป็นไปได้อย่างไรกัน พี่น้องเฟอเรทเป็นเฟอเรทแบลคฟุตที่มีมูลค่าา เด็กคนนั้นฉลาด คิดว่าจะแลกพวกมันกับกระต่ายหนึ่งตัวได้อย่างนั้นเหรอ? บ้าบอจริง คนอเมริกาในวอลสตรีตยังไม่กล้าขนาดนี้เลยนะ แล้วนี่อะไรกัน?
เมื่อวินนี่ได้ยินสิ่งพวกเขาคุยกัน เธอก็นั่งลง จากนั้นก็โอบกอดเถียนกวาพลางถามว่า “ทำไมเถียนกวาไม่แลกล่ะ?”
เถียนกวาเงยหน้าจองม้องเธอด้วยดวงตากลมโต จากนั้นก็วางเฟอเรทพี่ชายไว้ที่อุ้งมือของตัวเอง “กระต่ายตัวเล็กนิดเดียว เฟอเรทตัวใหญ่กว่าอีก หนูไม่ได้โง่นะ จะแลกไปได้ยังไง?”
เหมาเหว่ยหลงกลับมาได้ยินประโยคนั้นพอดี เขาหยิบขวดเบียร์เย็นๆ ให้ฉินสือโอว พลางพูดกลั้วหัวเราะว่า “เฮ้อ ลูกแกนี่ฉลาดจริงๆ เด็กคนนี้รู้เรื่องธุรกิจดีจัง ดีแล้ว ไม่แน่ว่าโตอีกหน่อยอาจจะเป็นเจ้าของธุรกิจก็เป็นได้”
วินนี่บอกให้พวกเขาไปอีกทาง จากนั้นก็เริ่มสอนเถียนกวา “ลูกไม่สามารถแลกมันได้ ไม่ใช่เพราะว่ากระต่ายตัวเล็ก แต่เฟอเรททั้งสองตัวเป็นเพื่อนของหนู เถียนกวาจะไม่ทิ้งเพื่อนใช่ไหมคะ?”
ดวงตากลมโตของเถียนกว่าเปล่งประกายขึ้นมา เธอพยักหน้าแล้วพูดว่า “ใช่ค่ะ กระต่ายไม่สนุก เฟอเฟอต่างหากที่สนุก!”
เฟอเรทพี่ชายสองสาวร้องไห้ออกมาทั้งที่ไม่มีน้ำตา เจ้าไปเล่นกับเจ้าพวกนั้นเถอะนะ พวกเราเฟอเรททั้งสองตัวเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเฟอเรทนะ รู้ไหม? พวกเราเกิดมาเพื่อเป็นผู้นำพวกพ้องของเรา ไม่ใช่เกิดมาเพื่อปีศาจน้อยอย่างเจ้ารังแก!
อันที่จริงแล้วเฟอเรทแบลคฟุตทั้งสองตัวนี้โตเต็มวันแล้ว ขนาดตัวของมันยาวสี่สิบเซนติเมตร แต่ว่าพวกมันตัวผอมยาว ดังนั้นพวกมันจึงไม่ได้หนัก บวกกับพลังของเถียนกวาแล้ว เพราะว่าเธอมักจะถือพวกมันด้วยมือข้างละตัว จนเฟอเรทพี่ชายน้องสาวคุ้นชิน ทุกครั้งที่เถียนกวาเข้าใกล้พวกมันก็จะแอ่นหลังและยืดคอเพื่อให้เธอจับ การทำแบบนี้ทำให้พวกมันไม่รู้สึกเจ็บ
ฉินสือโอวลูบหัวของลูกสาว แล้วพูดว่า “ตอนบ่ายไม่ต้องออกไปเล่นแล้ว เดี๋ยวปะป๊าพอไปจับกระต่ายดีไหม? นอกจากนี้ยังมีไข่นกด้วย ให้ลูกไปเลยสองรัง!”
“ของแบบนี้น่าจะมีนะ” เหมาเหว่ยหลงหัวเราะออกมา “ฟาร์มของฉันมีกระต่ายและนกป่าอยู่จำนวนไม่น้อย ปกติแล้วสุนัขของฉันมักจะจับกระต่ายหรือไม่ก็ไก่ฟ้าพวกนั้นมาได้ ฉันแค่กลัวพวกมันจะทำลายพืชผล จึงห้ามให้พวกมันเข้าไปไล่จับสัตว์”
ตอนกลางวันพวกเขาก็ยังคงทานเกี๊ยวน้ำกันเหมือนเดิม เกี๊ยวผักกระเป๋าเงินของคนเลี้ยงแกะของหลิวซูเหยียนนั้นไม่สามารถปฏิเสธได้ ฉินสือโอวติดอกติดใจกับอาหารเมนูนี้
ตั้งแต่บ่ายจนถึงบ่ายสองกว่า ในที่สุดฤดูใบไม้ร่วงก็มาถึง ในช่วงฤดูร้อนช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่อากาศร้อนที่สุด แต่ตอนนี้ตั้งช่วงเที่ยงจนถึงบ่ายสอง อากาศเย็นขึ้นมานิดหน่อย เหมาะที่จะออกกำลังกาย
วินนี่กลัวว่าเถียนกวาจะสะดุดกับก้านข้าวโพดจนล้มลงได้รับบาดเจ็บ จึงตามไปด้วย อันที่จริงแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ขนาดผู้ใหญ่อย่างเราๆ ยังเป็นเรื่องยากที่จะเดินไปมาในทุ่งข้าวโพดที่พึ่งเก็บเกี่ยวเสร็จ แล้วนับประสาอะไรกับเด็กเล่า แต่ว่าเถียนกวาตัวน้อยเป็นเด็กที่คล่องเหมือนกับสายลม อย่างน้อยก็ยังทำได้ดีกว่าตั๋วตั่ว เธอยังสามารถเดินไปมาและวิ่งเล่นได้
ฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การจับกระต่าย ช่วงเวลานี้กระต่ายมักจะมีขนและไขมันที่นุ่มฟู โดยเฉพาะกระต่ายในฟาร์มที่กินพืชพันธุ์ผลไม้มาก ตอนนี้พวกมันอ้วนสมบูรณ์ ช่วงสองวันนี้ที่ฉินสือโอวเก็บเกี่ยวข้าวโพดเขาเห็นกระต่ายอ้วนด้วยตัวหนึ่ง แต่เพราะว่าขับรถอยู่จึงไม่สะดวกที่จะจับมัน และกระต่ายก็เป็นสัตว์ที่ระวังตัวเป็นอย่างมาก บ่อยครั้งที่เมื่อเขาเห็นพวกมัน พวกมันก็จะวิ่งหนีทันที
แต่วันนี้ เขาพาสุนัขและเฟอเรทมาด้วย ในที่สุดวันนี้เขาก็จะสามารถจับกระต่ายได้
……………………
Related

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
Status: Ongoing
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset