ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1783 ไปมหาวิทยาลัยของพวกเรากันเถอะ

พวกเขาไม่เจอกันตลอดฤดูร้อน ฉินสือโอวก็คิดถึงมิเชล พาวลิสที่แข็งแกร่ง เอลฟ์กอร์ดอน เชอร์ลี่ย์คนสวย และไวส์คนดื้อไม่ต่างกัน มิเชลเป็นแฟนคลับของเหมาเหว่ยหลงขนานแท้ แม่ว่าจะไม่ได้ตามติดเขาไปทุกที่ แต่มิเชลก็เคารพเขาด้วยใจจริง
ช่วงเวลาสั้นๆ ที่ไม่ได้อยู่กับแฟนคลับเด็กๆ นี้ ฉินสือโอวรู้สึกชีวิตแตกต่างจากปกติอยู่มาก
แต่ว่าก่อนหน้านี้มิเชลไปฝึกบาสกับทีมดังอย่างทีมของเคอร์รีที่ซานฟรานซิสโก เพื่อที่ฉินสือโอวหลีกเลี่ยงการรบกวนเขา จึงไม่ได้โทรหาเขาเลยสักสายเดียว เขารับรู้เรื่องราวของมิเชลผ่านทางเคอร์รีทางเดียวเท่านั้น
ในครั้งแรกเคอร์รี่เอ่ยปากชมมิเชล แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้เอ่ยชมอะไรอีก เพียงแค่พูดอะไรบางอย่างด้วยน้ำเสียงลึกลับ ซึ่งนั่นทำให้เขาค่อนข้างแปลกใจ
ฉินสือโอวเดาว่าคงไม่มีอะไรน่าตกใจ มิเชลจะต้องพัฒนาไปมากเป็นแน่ เขาเข้าใจเด็กๆ ของเขาที่สุด เขาเชื่อว่าหลังจากที่ฝึกในอย่างเป็นระบบและเป็นมืออาชีพแล้ว มิเชลจะต้องสามารถไปสู่ช่วงเวลาของการเก็บตัวได้อย่างแน่นอน
ปรากฏว่า เมื่อเจอกันอีกรอบ มิเชลนั้นตัวโตขึ้นมาก เมื่อก่อนเขาเคยเป็นเด็กขี้อายและชอบเก็บตัว แต่ตอนนี้ท่าทางของเขาดูมั่นใจเป็นอย่างมากในขณะที่ถือลูกบาสอยู่ และดูมีพลังเป็นอย่างมากไม่เหมือนกับเด็กน้อยขี้อายก่อนหน้านี้ เวลาตลอดทั้งฤดูร้อน มิเชลไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก แต่แค่ร่างกายของเขากระชับมากกว่าเดิม ที่แขนของเขาสามารถเห็นกล้ามเนื้อได้อย่างชัดเจน ผมสีบลอนด์ถูกโกนจนศีรษะล้าน ดูดีมีสไตล์เหมือนดาราเป็นอย่างมาก
ฉินสือโอวยื่นหมัดของตัวเองออกชกกับของมิเชลเบาๆ อย่างประหลาดใจแล้วพูดว่า “ไง พ่อดาราดัง ยินดีต้อนรับกลับฟาร์มปลา ฤดูร้อนที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง?”
มิเชลยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “สุดยอดไปเลยครับ ฉิน ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้ใกล้ชิดกับดาราเอ็นบีเอขนาดนี้ อันที่จริงแล้วเมื่อสองสามปีก่อน ผมไม่กล้าคิดเลยว่าผมจะมีวันนี้ได้!”
ทั้งสองพูดคุยกันอยู่สองสามประโยค ฉินสือโอวเห็นว่ามิเชลเปลี่ยนไปไม่เพียงแต่รูปร่างและสภาพจิตใจเท่านั้น แต่ความคิดของเขาก็โตขึ้นด้วยไม่น้อยเลย ดูเหมือนว่าเคอร์รี่และทีมของเขาจะให้การฝึกสอนในการใช้ชีวิตแก่มิเชลด้วย เรื่องนี้ทำให้เขาประหลาดใจ
เมื่อวางกระเป๋าและเข้าไปในบ้าน ฉินสือโอวก็ถามถึงพัฒนาการของมิเชล มิเชลโยนลูกบอลไปมาพลางพูดว่า “สิ่งที่เคอร์รี่สอนผมมากที่สุดคือเรื่องความมั่นใจ พวกเขาปลูกฝังจิตวิญญาณในการต่อสู้ให้กับผม ในเรื่องของทักษะ ผมฝึกการควบคุมการยิงบอลในระยะกลางและระยะไกลตลอด แน่นอนว่ามันเป็นเพียงทักษะพื้นฐานเท่านั้น”
ฉินสือโอวถามกลับว่า “แล้วนายคิดว่า หลังจากที่ไปฝึกแล้ว นายสามารถสู้ฉันได้ไหม?”
มิเชลพยักหน้าให้ด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม “แน่นอน ผมสู้คุณได้แน่ แต่ว่าผมขอเตือนก่อนว่าอย่าใช้กำลังรังแกผมนะ ถ้าหากว่าแข่งกันด้วยทักษะแล้ว ผมสามารถสู้กับคุณได้ ใช่แล้ว คุณได้ยินไม่ผิดหรอก ผมสู้กับคุณได้”
ฉินสือโอวหัวเราะออกมาเสียงดัง เขาตบบ่าของมิเชลแล้วพูดว่า “ดีมาก ในที่สุดนายก็เล่นมุกเป็นแล้ว…สู้ฉันได้งั้นเหรอ? ฉันคิดว่าฉันได้ยินผิดไปแน่ๆ ถ้าหากว่านายรู้จักทักษะของฉันจริงๆ แบบนั้นนายต้องรู้ว่าในสนามบาสไม่มีใครที่จะสามารถสู้ฉันได้ เกรงว่าพวกดาราเอ็นบีเอพวกนั้นก็ทำไม่ได้ รวมถึงจอร์แดนด้วย นายเชื่อไหม?”
มิเชลตอบกลับว่า “ทำไมจะไม่เชื่อล่ะครับ? จอร์แดนเกษียณไปสิบกว่าปีแล้ว ผมคิดว่าถ้าแข่งกันตัวต่อตัว เขาก็สู้ผมไม่ได้”
ฉินสือโอวต้องการที่จะไปยังสนามบาสเพื่อที่จะสอนมิเชลเสียหน่อย เขาไม่รู้ว่าเคอร์รีนั้นสอนอะไรเด็กคนนี้ ตอนนี้ไม่ใช่ความมั่นใจในตัวเองเท่านั้น แต่เขาดูหยิ่งนิดหน่อย ฉินสือโอวรู้สึกว่าเขาต้องเตือนมิเชลเสียหน่อยแล้ว
แต่ว่ามิเชลไม่รับคำท้า เขาพูดว่า “ฉิน คุณไปพักก่อนเถอะ พรุ่งนี้มีคนจะมาเยี่ยมคุณอีก ผมหวังว่าเมื่อคุณขึ้นไปอยู่จนถึงจุดสูงสุดคุณจะมาเล่นบาสกับผมอีกครั้ง ตอนนี้ถึงแม้ว่าจะชนะ ผมก็ชนะอย่างไม่ยุติธรรม”
“ดีมาก เด็กน้อย นายช่างกล้าหาญจริงๆ แต่ฉันสงสัยอยู่ว่า ใครจะมาเยี่ยมฉันงั้นเหรอ?” ฉินสือโอวถามออกมาด้วยความแปลกใจ แฮมิลตันอยู่ไกลจากมหานครเซนต์จอห์น ตอนนี้พวกเขาออกมาจากที่นั่นก็สายมากแล้ว ตอนนี้ก็เป็นเวลาบ่ายแล้ว ใครจะมาเยี่ยมเยียนเขากัน?
มิเชลยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย แล้วพูดว่า​ “นี่คือเซอร์ไพรส์ที่เคอร์รีบอก เรื่องนี้แหละ”
ฉินสือโอวคิดว่าเคอร์รีจะมาเป็นแขกที่ฟาร์มปลา ปรากฏว่าไม่ได้เป็นแบบนั้น วันรุ่งขึ้นชายผิวขาวที่อายุห้าสิบกว่า สวมชุดลำลองสบายๆ ก็มาหาเขาที่ฟาร์มปลา เมื่อเจอหน้ากันพวกเขาก็จับมือกันอย่างอบอุ่น แล้วเขาก็เอ่ยถามว่า “คุณคือผู้ปกครองของมิเชล เออร์บักใช่ไหมครับ? ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ เพื่อน ผมลูอิส บัลดิก หัวหน้าโค้ชทีมบาสของมหาวิทยาลัยเดวิดสัน ดีใจจริงๆ ที่ได้พบกับคุณ”
มหาวิทยาลัยเดวินสันงั้นเหรอ? ทันทีที่ได้ยินชื่อของมหาวิทยาลัยฉินสือโอวก็มีคำว่า ‘เป็นที่โด่งดังมานานแล้ว’ ขึ้นมาในหัว เขารู้ว่ามหาวิทยาลัยนี้เป็นมหาวิทยาลัยของอเมริกา และในฐานะแฟนบาสเกตบอลเขารู้ด้วยว่านี่คือโรงเรียนเก่าของ เคอร์รี แต่ทำไมหัวหน้าโค้ชถึงได้มาเยี่ยมเขาล่ะ?
ว่ากันตามหลักการแล้ว ที่ลูอิสหัวหน้าทีมโค้ชมาเยี่ยมเยียนเขา ก็เพราะต้องการดึงนักกีฬาที่มีฝีมือไปเข้าร่วมทีมด้วย แต่ว่ามิเชลยังอายุน้อยอยู่ แม้ว่าเขาจะพึ่งเข้ามัธยมได้ปีเดียว แต่เขาก็ต้องได้เรียนมหาวิทยาลัย  และยังต้องรอไปอีกสองปี
หลังจากที่ลูอิสนั่งลง ฉินสือโอวก็เสิร์ฟกาแฟให้เขา เขายิ้มในขณะที่ถือถ้วยกาแฟ แล้วพูดว่า “คุณฉิน คุณรู้จักกับมหาวิทยาลัยของพวกเราหรือไม่?”
ฉินสือโอวพยักหน้าแล้วตอบกลับว่า​ “นิดหน่อยครับ มหาวิทยาลัยเดวิดสันเป็นมหาวิทยาลัยที่ยอดเยี่ยมทางด้านศิลปศาสตร์ใช่ไหมครับ? มหาวิทยาลัยก่อตั้งมาแล้วกว่าสองร้อยปี มีตำแหน่งที่โดดเด่นในแวดวงวิชาการของโลก จากวิทยาลัยศิลปศาสตร์ทุกแห่งในสหรัฐอเมริกาจุ มหาวิทยาลัยของคุณคือมหาวิทยาลัยที่มีจุดแข็งทางด้านนี้ที่สุด ใช่ไหมครับ?”
มหาวิทยาลัยเดวิดสัน ชื่อนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีชื่อเสียงเท่าไร แต่มหาวิทยาลัยนี้เป็นมหาลัยที่มีจุดแข็งจริงๆ มหาวิทยาลัยก่อตั้งในปีหนึ่งแปดสามเจ็ด ในเมืองเล็กๆ ที่ชื่อเดวิดสัน ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา  มหาวิทยาลัยมีข้อกำหนดการเข้าและการสอบที่เข้มงวด ซึ่งมันดึงดูดบที่เข้มงวด ซึ่งมันดึงดูดนักเรียนเรียนดีจากทั่วทุกมุมโลกด้วยประวัติอันยาวนานและคุณภาพในการศึกษาที่ค่อนข้างสูง
มีคนดังมากมายจบจากมหาวิทยาลัยนี้ รวมถึงวูดโรว์วิลสันประธานาธิบดีคนที่ 28 ของสหรัฐอเมริกา ชาร์ลส์ ไรท์ กวีรางวัลพูลิตเซอร์ ดีน รัสก์รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาตั้งแต่หนึ่งเก้าหกหนึ่งถึงปีหนึ่งเก้าหกเก้าและคนอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับทุนทรงเกียรติของสหรัฐอเมริกาหาอีกยี่สิบสามคน หากเทียบกันแล้ว มหาวิทยาลัยโคลัมเบียที่มีชื่อเสียงคนได้ทุนนี้ยี่สิบหกคน มหาวิทยาลัยเบิร์กลีย์ยี่สิบสองคน มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียมีเพียงสิบเก้าคนเท่านั้น
ฉินสือโอวบอกเล่าข้อมูลทั่วไปที่เขารู้ ลูอิสยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “แต่ว่าคุณรู้ใช่ไหมว่าใครคือนักศึกษาที่เราภูมิใจมากที่สุดในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด?”
“เพื่อนของผม สตีเฟน เคอร์รี เขาเป็นอัจฉริยะที่มีความสามารถมาก ใช่ไหมครับ?” ฉินสือโอวรับบทได้อย่างทันถ่วงที
ลูอิสดูมีความสุขขึ้นมาทันที เขาพยักหน้าและพูดว่า “แม้ว่ามันอาจจะดูโอ้อวดไปเสียหน่อ แต่ผมก็อยากที่จะพูดว่า การที่มหาวิทยาลัยของเราได้ผลิตหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในช่วงสิบปีที่ผ่านมานี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ความหมายของผมคือ มหาวิทยาลัยเดวิดสันของเรา กลายเป็นแหล่งกำเนิดผู้เล่นบาสเกตบอลที่มีชื่อเสียง”
ฉินสือโอวพยักหน้าและตอบรับว่า “ผมเชื่อครับ”
ลูอิสได้ยินดังนั้นจึงพูดเสริมต่อว่า “เช่นนั้น คุณสนใจที่จะมอบความไว้วางใจให้เราดูแลมิเชลของคุณหรือไม่ครับ? ผมรับประกันได้เลยว่า ขอเพียงเข้ามาที่มหาวิทยาลัยของเรา เขาจะกลายเป็นดาราดังในวงการบาสเกตบอลของสหรัฐอเมริกาอย่างแน่นอน!”
……………………….
Related

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา
Status: Ongoing
ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset