ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 249 แผนการของฉิน

บทที่ 249 แผนการของฉิน
โดย
Ink Stone_Fantasy

หลังจากคุยอย่างเย็นชาและไร้มารยาทกับอาร์ม็องเล็กน้อย ฉินสือโอวก็เดินออกมา รอจนห่างออกมาหน่อยนีลเซ็นถึงกระซิบถามเขา “บอส คุณคิดว่าคนฝรั่งเศสคนนั้นมีจุดประสงค์แอบแฝงสินะ”
ฉินสือโอวแค่นเสียงอย่างเย็นชา “คงจะได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับฉันที่ท่าเรือแล้วอยากจะหาข้อมูลหาปลาจากฉันสักหน่อย”
ที่เขาไม่ตกปลาขึ้นมาอีกก็เพราะคำนึงถึงเรื่องนี้ จะมีปลากลับมาด้วยทุกครั้งที่ออกทะเลไม่ได้
ปลาทูน่าครีบน้ำเงินไม่ใช่ปลาหิมะ ต่อให้เป็นชาวประมงฝีมือดีที่สุดในกลอสเตอร์ อาทิตย์หนึ่งตกได้สองตัวก็ถือว่าเก่งมากแล้ว ถ้าเขาจับปลาได้ทุกวันแถมไม่ได้แค่ตัวเดียว นานวันเข้าจะต้องมีคนสงสัยแน่ๆ
แน่นอนว่าคนทายกันไม่ถูกหรอกว่าฉินสือโอวจะมีของแปลกอย่างหัวใจโพไซดอน แต่พวกเขาคิดว่าฉินสือโอวมีเคล็ดลับในการตกปลาทูน่าครีบน้ำเงินเลยมาเซ้าซี้ถามกับเขา แบบนั้นน่ะน่ารำคาญมาก
มาถึงอเมริกา การใช้ชีวิตก็เหมือนจะติดนิสัยจากคนอเมริกันมาด้วย หลังจากขึ้นฝั่ง ฉินสือโอวไม่ได้กลับบ้านวิสเติลในทันที แต่ไปดื่มที่บาร์ ‘สโมสรชายชาตรี’ ก่อนสักหน่อย
แต่เกลียดอะไรมักได้อย่างนั้น พอฉินสือโอวนั่งลงไม่นานก็เจอกับคนแปลกหน้ากลุ่มหนึ่ง ดูจากสายตาเกลียดชังของเหล่าชาวประมงที่ส่งมากับการแต่งตัวที่ดีก็วิเคราะห์ได้ไม่ยากว่าคนพวกนี้ก็คือพวกนักสู้สุดสัปดาห์จากสมาคมตกปลา
พอเห็นคนพวกนั้น จู่ๆ ฉินสือโอวก็นึกอะไรออกจึงเริ่มออกปากท้าทาย “เฮ้ พวกมนุษย์ชนชั้นสูง วันนี้ได้อะไรกลับมาเยอะใช่ไหม อ่าฮะ? ถ้าฉันเป็นพวกนายนะ ฉันจะไสหัวไปจากท่ากลอสเตอร์คืนนี้เลย ไม่อย่างนั้นก็เปลืองน้ำมันเปลืองแรงเสียเปล่า”
เหล่าชาวประมงหัวเราะชอบใจใหญ่ ชาลส์กับชายฉกรรจ์สองสามคนยังผิวปากอีกด้วยก่อนจะตะโกนผสมโรง “ไสหัวไป ไสหัวไป ไสหัวไป!”
อาจจะเพราะเห็นว่าฝั่งตัวเองคนเยอะ พวกนักตกปลาอาร์บีเอฟเอฟเลยเข้ามาล้อมด้วยสีหน้าเย็นชา และมีคนถามขึ้นว่า “คนผิวเหลือง อยากจะลองดีเหรอ?”
ไอ้เจ้านี้ช่างเก่งเหลือเกิน แค่คำเดียวก็เตะฉินสือโอวไปฝั่งตรงข้ามกับคนผิวขาวได้แล้ว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ความขัดแย้งระหว่างชนชาติก็เป็นปัญหาร้ายแรง การที่คนผิวขาวดูถูกคนผิวเหลืองดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องที่ถูกที่ควร
แต่ว่าเงื่อนไขนี้คือสถานภาพทางการเงินและชนชั้นของทั้งสองฝ่ายพอๆ กัน
พวกนักตกปลาล้อมเข้ามา อีวิลสันลุกพรวดขึ้น ตาทั้งสองจ้องเขม็ง ตาโตฉายแววดุดัน รูจมูกกว้างพ่นลมหายใจเข้าออกราววัวกระทิงที่ถูกแหย่ให้โกรธ เขาอ้าปากตะโกน “อีวิลสันจะอัดพวกแกให้แบน!”
โดนชายร่างสูงเกือบสองเมตรมองลงมาจากมุมที่สูงกว่า นักตกปลาที่ปกติเป็นพนักงานออฟฟิศก็หัวหดทันที
นีลเซ็นบีบกำปั้นพลางมองกลุ่มคนนั้นด้วยความเย็นชา ชาร์คกับซีมอนสเตอร์เข้าไปดึงอีวิลสันไว้เพื่อป้องกันไม่ให้พ่อคนบื้อมุทะลุลงมืออัดเจ้าพวกดวงซวยพวกนี้จนพิการขึ้นมาจริงๆ
ชาร์คกับซีมอนสเตอร์มาห้ามอีวิลสัน แต่พวกนักตกปลาไม่รู้ พวกเขาเห็นแค่ชายร่างบึกบึนอีกสองคนที่ล้อมเข้ามาอีกเลยยิ่งหดเข้าไปใหญ่
ที่แย่กว่านั้นคือ ทางหนีของพวกเขาก็โดนขวางไว้แล้ว เหล่าชาวประมงลุกขึ้นมาเงียบๆ ในมือถือของจำพวกขวดเหล้า เก้าอี้แล้วล้อมเข้ามา ยังมีคนหนึ่งที่หยิบฉมวกสั้นออกมาด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเอาเข้ามาได้อย่างไร
พอบาร์เทนเดอร์เห็นว่าสถานการณ์ดูไม่ดีก็รีบสั่งกระดิ่ง พวกยามที่เฝ้าอยู่นอกประตูพากันกรูเข้ามาอย่างโมโห ยังไม่ทันพูดขู่ก็เจอเข้ากับเงาร่างน่าเกรงขามของอีวิลสันที่ดูเหมือนเสือในฝูงแกะ
ต้องขอบอกว่า อีวิลสันเวลาไม่พูดดูน่าเกรงขามมากๆ พวกอันธพาลร่างยักษ์ที่สักเต็มตัวต่างอึ้งไม่กล้าเข้ามา แค่ยืนตะโกนขู่แบบไร้พลังไม่กี่คำอยู่ข้างหลัง
คนเดียวที่ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้สูงก็มีแต่ฉินสือโอว ทีนี้ละฉินสือโอวละได้ใจ บนหน้าเขามีรอยยิ้มบาง แต่ในใจกลับลิงโลดไม่มีอะไรเทียบ นี่เขาวางท่าได้ไร้ขีดจำกัดจริงๆ วางท่าได้สุดยอดมาก
แต่ก่อนเวลาดูหนังแอ็คชั่นฮอลลีวูด เขาอิจฉาพวกฉากที่พอหัวหน้าให้สัญญาณก็จะมีลูกน้องกรูกันออกมารับหน้าเป็นกลุ่มมากๆ ปรากฏว่าตอนนี้ความฝันกลายเป็นจริง เขาเองก็ได้ดื่มด่ำกับการถูกปฏิบัติเยี่ยงหัวหน้า
เพียงแต่ฉินสือโอวฉุกคิดได้ทีหลังว่า รู้สึกว่าพวกหัวหน้าขี้เก๊กในหนังมักจะกลายเป็นเป้าหมายที่ต้องกำจัด ฉะนั้นเขาเลยตัดสินใจอ่อนข้อหน่อย
เขายื่นมือออกมาตบโต๊ะแล้วล้วงบัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสออกมาวางไว้หน้าบาร์เทนเดอร์แล้วพูดอย่างขี้เกียจ “เพื่อน อย่าอ่อนไหวง่ายไปเลย ให้ยามของพวกนายออกไปก่อน พวกเรามันก็แค่คนรู้จักเจอหน้ากันเท่านั้น มา คาลเบิร์กริบบิ้นฟ้าคนละขวด ฉันเลี้ยงเอง”
ชื่อเสียงที่ดังที่สุดของบริษัทอเมริกันเอ็กซ์เพรสก็ยังคงอยู่ในเขตแดนอเมริกา และบัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสก็เป็นบัตรที่มีชื่อที่สุดในอเมริกา
พอเห็นบัตรสีดำใบนั้น บาร์เทนเดอร์ก็กลืนน้ำลาย ‘เอื๊อก’ แล้วดันบัตรคืนให้ฉินสือโอวอย่างนอบน้อม รินบรั่นดีให้เขาแก้วหนึ่งก่อนจะร้องตะโกนไปทางสาวๆ เซ็กซี่ในบาร์ “มัวนิ่งอึ้งกันอยู่ทำไม บื้อจริง ยังไม่รีบมารินเหล้าให้แขกอีก? คาลเบิร์กริบบิ้นฟ้าคนละขวด เร็วๆ ๆ!”
ในขณะเดียวกันเหล่านักตกปลาก็สงบแล้ว คราวนี้ไม่ใช่หด แต่หงอเลยทีเดียว
นักตกปลาส่วนใหญ่เป็นพนักงานออฟฟิศ มีผู้บริหารบริษัทหลายคน ฉะนั้นพวกเขาไม่กลัวที่จะมีเรื่องกับชาวประมง อย่างมากก็ต่อยกันยกหนึ่งแล้วหาทนาย ในหมู่พวกเขาก็มี จะฟ้องพวกชาวประมงยังไม่ง่ายอีกเหรอ?
สถานการณ์ตอนนี้พลิกไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ อีกฝ่ายคือคนผิวเหลืองก็จริง แต่กลับเป็นคนผิวเหลืองที่ใช้บัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสและมีบอดี้การ์ดอีกสี่ห้าคน คนประเภทนี้ในอเมริกายิ่งห้ามแหย่ ขึ้นโรงขึ้นศาลกับพวกเขาไม่มีทางชนะแน่ๆ
ทำไมน่ะเหรอ? เพราะการที่คนผิวเหลืองคุมคนผิวขาวในอเมริกาเลี่ยงการเหยียดเชื้อชาติไม่ได้ เพราะต่อให้ประเด็นนี้จะเป็นความขัดแย้งที่มีอยู่ทุกชนชั้นในอเมริกา แต่ในเชิงที่รู้ๆ กันแล้ว อเมริกาสนับสนุนประชาธิปไตยและความเท่าเทียม ถ้าขึ้นศาล ขอแค่มีข้อนี้ก็สามารถทำให้คนอเมริกันไม่รู้กี่คนต้องกราบ!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า คนอเมริกันเชื้อชาติต่างๆ เมื่อเจอกับคดีซึ่งก็คือในการฟ้องกันระหว่างคนผิวขาว ผิวเหลือง ผิวดำ ความเป็นไปได้ที่คนผิวขาวจะชนะนั้นเยอะที่สุด แต่นั่นก็ต้องดูความต่างของฐานะด้วย ถ้าพวกพนักงานออฟฟิศเล็กๆ มีเรื่องฟ้องร้องกับคนผิวเหลืองที่ถือบัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสละก็ สามารถแพ้จนขายลูกขายหลานกันเลยทีเดียว!
นักตกปลาพากันออกไปอย่างไม่พอใจ ฉินสือโอวยิ้มออกมา บาร์เทนเดอร์ถามเขาว่าเบียร์จะทำอย่างไร ฉินสือโอวโบกมือแล้วพูดว่า “เลี้ยงทุกคนที่อยู่ในร้าน ดื่ม!”
เหล่าชาวประมงโห่ร้องทันที เงินทองเป็นวิธีซื้อใจคนที่ดีที่สุดเสมอ โดยเฉพาะในประเทศระบบทุนนิยมแสนโหด
ฉินสือโอวไม่ใช่คนชอบหาเรื่อง ที่เขาท้าทายนักตกปลาพวกนั้นเพราะเขามีจุดประสงค์
เขาจะแหย่ให้คนพวกนั้นโกรธจนสุด พรุ่งนี้พวกนั้นถึงจะโยนเหยื่อกันเป็นบ้าเป็นหลังล่อปลาทูน่าครีบน้ำเงินเพื่อที่จะชนะการพนัน ฉินสือโอวถึงจะสามารถรวบรวมกองกำลังทหารธงฟ้าของเขาได้ไวขึ้น
ให้ตายนักตกปลาอาร์บีเอฟเอฟที่เรียกตัวเองว่า ‘ผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจ’ ก็นึกไม่ถึงเลยว่าพวกเขาถูกคนผิวเหลืองที่ตัวเองดูถูกหลอกใช้อยู่
พอบรรลุเป้าหมาย ฉินสือโอวก็ดื่มเหล้าอีกสักพัก เช็กบิลเสร็จก็กลับไปห้องที่บ้านวิสเติล
พอนอนลง เขาก็หากลุ่มปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่รวบรวมไว้เป็นกลุ่ม มุ่งหน้าไปที่เขตทะเลซึ่งจำไว้เมื่อตอนกลางวัน นั่นก็คือจุดที่พวกชาลส์บอกเขาว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีสมบัติเรืออับปางจมอยู่มากที่สุด
ตรงจุดนั้นไม่ได้หายาก ก้นทะเลส่วนมากของชายหาดน้ำตื้นจอร์จเป็นทรายละเอียดและสาหร่ายที่อุดมสมบูรณ์ มีช่องทางใต้ทะเลที่ทั้งกว้างและยาว แต่กลับมีทรายเยอะและสาหร่ายที่น้อยมาก
สำหรับมนุษย์แล้ว ที่นี่หายากมาก แต่สำหรับฉินสือโอวที่มีหัวใจโพไซดอนและสามารถควบคุมโลกใต้ทะเลได้แล้ว การจะหาที่นี่ไม่ยากเลยสักนิดเดียว
นอกจากนั้น คนที่มาหาสมบัตินั้น ต่อให้หาที่นั่นเจอก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เพราะทะเลแถบนี้ค่อนข้างลึก ความลึกแถวนี้ส่วนมากเกินสี่ร้อยเมตร แทบจะเป็นจุดที่ลึกที่สุดของชายหาดน้ำตื้นจอร์จ
แถบทะเลลึกขนาดนี้ ไม่มีทางจัดการกับทรายที่ก้นทะเลได้เลย แน่นอนว่าก็ไม่มีทางหาสมบัติที่อาจจะฝังอยู่ในทรายได้เช่นกัน
…………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset