ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 251 ปลามาร์ลินตัวใหญ่

บทที่ 251 ปลามาร์ลินตัวใหญ่
โดย
Ink Stone_Fantasy

ตอนกินข้าวกลางวัน ฉินสือโอวก็แย่งทูน่าครีบน้ำเงินมาจากใต้เรือของนักตกปลาอาร์บีเอฟเอฟถึงสิบสองตัว แบบนี้ฝูงปลาของเขาก็ขยายเป็นจำนวนถึง 36 ตัวแล้ว และจำนวนนี้ยังขยายต่ออีก
มิน่าล่ะทุกคนถึงได้อยากเป็นเถ้าแก่ ความรู้สึกที่มีคนช่วยทำงานให้นี่มันดีจริงๆ เจ้าพ่อปลาคิดอย่างไม่อาย
ฉินสือโอวไร้ความกดดันในการรับมือกับพวกอเมริกันหยิ่งผยอง เขานอนแผ่อยู่ในห้องคนขับ ในมือถือวิทยุไร้สาย คอยท้าทายนักตกทั้งหลายสุมไฟความโกรธเข้าไปอีก
นีลเซ็นจำเป็นต้องให้อีวิลสันยืนเปลือยแขนอยู่ที่หัวเรือ ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อข่มเจ้าพวกนักตกปลาที่โกรธเคือง ไม่อย่างนั้นเขากลัวว่าพวกนักตกปลาจะอับอายจนโกรธแล้วเข้ามาวางมวย
ที่จริงเขาคิดมากไปเองอย่างแรกพวกนักตกปลาเป็นพนักงานออฟฟิศ จากนั้นถึงจะเป็นคนที่ตกปลาเป็นงานอดิเรก พวกเขาจะกล้ามีเรื่องกับคนมีอิทธิพลที่มีบัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสได้อย่างไร?
“กลางวันกินอะไร สหายทั้งหลาย?” ฉินสือโอวถาม
พอได้ยินคำว่า ‘กิน’ หู่จือ เป้าจือ ฉงต้า ต้าป๋ายต่างพากันกระโดดโลดเต้น บุชไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มันเองก็ลุกขึ้นมาส่ายก้นอ้วนๆ เช่นกัน ตาคู่ดำกะพริบปริบๆ พลางอ้าปากร้อง “ก๊าบๆ…”
ฉินสือโอวยิ้มร้ายพลางหยิกไปที่ก้นของบุชแล้วพูดขึ้น “แกเป็นอินทรีหัวขาวหรือเป็ดน้ำกันแน่? บอกมาสิว่าทำไมเสียงร้องอย่างกับเป็ดข้างบ้านแบบนี้?”
“ก๊าบๆ! ก๊าบๆ!”บุชส่ายหางใหญ่ มันไม่ชอบโดนคนหยิกก้น พวกนกอินทรีหัวขาวนั้นหยิ่งยโสมากทีเดียว
“ปลาหมึกย่างกับแฮมเบอร์เกอร์?” ชาร์คถามด้วยรอยยิ้ม
จู่ๆ เครื่องโซน่าร์สำหรับหาปลาของเรือประมงบอลหิมะก็ร้องติ๊ดๆ ขึ้นมา ฉินสือโอวพลิกตัวขึ้นยืนจากเก้าอี้ผ้าใบ พอดูก็ต้องตกใจใหญ่ก่อนเอ่ยปาก “โห ปลานี่ตัวใหญ่ชะมัดเลย!”
ตามสัดส่วนแล้ว ปลาที่โผล่ขึ้นบนเครื่องโซน่าร์มีความยาวเกินสี่เมตร ถ้าเป็นปลาทูน่าครีบน้ำเงินละก็สามารถทุบสถิติได้เลย!
เพียงแต่ฉินสือโอวเห็นว่าปลาตัวนี้เหมือนฉลามหรือลูกวาฬมากกว่า อาจมีทูน่าครีบน้ำเงินที่มีความยาวเกินสี่เมตรอาศัยอยู่ในทะเลลึก แต่ฉินสือโอวไม่คิดว่าตัวเขาจะโชคดีขนาดเจอสักตัว
ชาร์คกับซีมอนสเตอร์ก็พากันอุทานออกมา แต่พอยื่นหน้าเข้าไปดูอย่างละเอียดแล้วทั้งสองก็ส่ายหน้าบอกว่าไม่ใช่ทูน่าครีบน้ำเงิน เพราะปลาตัวนี้ว่ายอย่างไม่กลัวเกรงมากเกินไป ทูน่าครีบน้ำเงินจะไม่โอหังแบบนี้
“น่าจะเป็นพวกฉลามขาวหรือฉลามหางยาว ดูท่าทางแล้วโอหังอย่างกับอะไรดี! มีแต่ปลาที่ไม่ค่อยมีศัตรูธรรมชาติถึงกล้าโอหังในทะเลแบบนี้”
เป็นปลาอะไรลงไปดูก็รู้แล้ว จิตสำนึกโพไซดอนฉินสือโอวลงไปสำรวจด้านล่าง ไม่นานก็เจอกับปลาใหญ่แสนโอหังตัวนี้
ชาร์คกับซีมอนสเตอร์เดาผิดทั้งคู่ นี่ไม่ใช่ฉลาม เพราะรูปร่างของปลาตัวนี้ยาว ด้านบนเป็นสีน้ำเงินโคบอลต์ ที่ท้องเป็นสีขาวเงิน มีครีบหลังที่ชัดเจน ดูภายนอกแล้วคือปลากระโทงสีน้ำเงิน
อีกอย่างบนปากของปลาตัวนี้ยังมีปากบนเป็นทรงหอกยาว นั่นคือสัญลักษณ์ของมัน ปลาบริโภคที่ใหญ่ที่สุดในมหาสมุทรแอตแลนติก ปลามาร์ลิน!
ปลาตัวนี้ยาวสี่เมตรกว่า รูปร่างกลมและกำยำ แข็งแกร่งราวกับเครื่องกระทุ้ง ท่าทียโส แววตาผยอง ดูเป็นราชาแห่งท้องทะเลจริงๆ
แน่นอนว่าปลามาร์ลินแอตแลนติกก็เป็นราชาแห่งท้องทะเลจริงๆ ในทะเลพวกมันเจอศัตรูน้อย ต่อให้เป็นฉลามที่โหดและดุร้ายก็ยังไม่ค่อยกล้าแหย่พวกมันง่ายๆ เพราะปากบนทรงหอกแหลมที่หัวนั้นพอให้แทงฉลามตายได้เลย!
ปกติแล้วปลาชนิดนี้จะกินปลาซาบะกับทูน่าเป็นอาหาร บางครั้งก็ดำน้ำลงไปกินปลาหมึก พวกมันเป็นปลาที่เร็วที่สุดในทะเล จะใช้หอกของพวกมัน จับกลุ่มกันไปกินเหยื่อที่ตกใจและบาดเจ็บ
สำหรับคนชอบตกปลาแล้ว ปลามาร์ลินแอตแลนติกก็เหมือนรางวัลตกปลา เพราะปลาชนิดนี้ถือเป็นปลาที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร นิสัยดุร้าย แรงเยอะไม่มีอะไรเทียบ ตัวโต ปกติหลังติดเบ็ดจะต้องใช้เวลาจัดการหลายชั่วโมงถึงจะตกได้สำเร็จ ฉะนั้นความภาคภูมิใจกับความสำเร็จจึงสูงมาก
การตกปลามาร์ลินแอตแลนติกได้ตัวหนึ่งสามารถให้ความรู้สึกประสบความสำเร็จกับนักตกได้ไม่แพ้กับนักปีนเขาที่ท้าทายเขาเอเวอเรสต์!
อีกอย่าง เนื้อของปลามาร์ลินยังเป็นอาหารอันโอชะด้วย โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่น พวกมันมักถูกนำมาเป็นวัตถุดิบปลาดิบชั้นเลิศ ราคาต่อชิ้นเทียบไม่ได้กับทูน่าครีบน้ำเงิน แต่เพราะปลาชนิดนี้มักจะตัวโตน้ำหนักเยอะ ราคาปลาทั้งตัวจึงมักจะสูงกว่าทูน่าครีบน้ำเงิน
ตอนแรกฉินสือโอวอยากจะตกปลาตัวนี้ เพราะหลายวันมานี้ไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือเลย ถ้ายังตกไม่ได้สักสองสามตัวก็หมดสนุกแล้ว
แต่ปรากฏว่าปลามาร์ลินตัวนั้นว่ายกร่างโจมตีใต้ทะเล หัวโหม่งลงพื้นทะเลอย่างแรง ปากบนทรงหอกแหลมคมมุ่งไปทางปลาใหญ่ใต้ทะเลตัวหนึ่งแล้วแทงเข้าไป!
บ้าจริง! ฉินสือโอวแอบก่นด่าในใจ
เมื่อกี้เขายังแปลกใจอยู่ ทำไมจู่ๆ ถึงได้มีปลาทะเลลึกตัวโตโผล่มาได้? ที่แท้ เจ้านี่ถูกดึงมาด้วยปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่โดนเขาบงการอยู่!
กองกำลังทหารธงฟ้าไม่ได้กระจายตัว เพื่อที่ไม่ให้พวกมันโดนตกไป ฉินสือโอวจึงคุมให้พวกมันดำน้ำอยู่ก้นทะเล
ขอแค่ใกล้กับก้นทะเลมากพอ เครื่องโซน่าร์ก็จะตรวจจับทูน่าครีบน้ำเงินไม่ได้ อย่างไรเสียเครื่องโซน่าร์ก็แสดงผลได้แค่ภาพรวม คลื่นสะท้อนของเครื่องโซน่าร์สามารถแสดงเงาทูน่าครีบน้ำเงินที่อยู่ก้นทะเลได้เหมือนกับหินก้อนเล็กก้อนหนึ่งเท่านั้น
ปลามาร์ลินชอบกินทูน่าครีบน้ำเงิน พอเจอว่าที่นี่มีปลาตัวใหญ่ๆ มาซ่อนอยู่เต็มไปหมดเจ้านี่ก็ดีใจใหญ่ มุดหัวลงไป ปากบนที่เหมือนหอกคมก็พุ่งไปทางทูน่าครีบน้ำเงินยาวหนึ่งเมตรแล้วเสียบเข้าไป
ดีที่ตอนนี้ทูน่าครีบน้ำเงินพวกนี้ถูกพลังโพไซดอนปรับมา แรงเยอะกว่าเดิมมาก
เจอศัตรูธรรมชาติ ฝูงทูน่าก็วงแตกทันที ปลามาร์ลินหยุดไม่ทันจนหัวกระแทกเข้ากับพื้นทะเล ปากแหลมแทงเข้าไปในทราย หัวกว่าครึ่งจมเข้าไปแล้ว
จากเรื่องนี้ก็ได้เห็นความแกร่งของเจ้านี่ ดึงเอาหัวออกมาได้ ปากแหลมทรงหอกของปลามาร์ลินไม่ได้รับบาดเจ็บสักนิด มันสอดส่ายหาฝูงปลาทูน่าด้วยท่าทีราวเสือจะตะครุบเหยื่อ ส่ายหางและพุ่งไปอีกครั้ง
ไอ้เจ้านี่นี่ เกรงใจแล้วยังไม่หยุดอีก ฉินสือโอวแอบด่าในใจ จิตสำนึกโพไซดอนพุ่งเข้าไป ปลามาร์ลินจอมพยศตัวนี้โดนควบคุมจนสงบลงทันที
ในเมื่อจิตสำนึกโพไซดอนควบคุมปลาตัวนี้ได้แล้ว ฉินสือโอวก็ไม่คิดจะตกมันขึ้นมาอีก อีกอย่างเมื่อกี้ดูท่ามันจะใช้ปากบนทรงหอกแหลมแทงทรายได้สบายๆ ใช้มันมาเป็นทีมค้นหาเหรียญทองใต้ทรายจะเหมาะกว่า
โอเค ไว้ชีวิตแกก็ได้ ฉินสือโอวตัดสินใจอย่างอารมณ์ดี
หลังจากที่ชาร์คกับซีมอนสเตอร์วิเคราะห์ว่าปลาตัวนี้คือฉลามก็ไม่ได้สนใจ ฉะนั้นแม้ว่าหลังจากนั้นปลาตัวนั้นไม่ได้โผล่มาอีก พวกเขาก็ไม่ได้ใส่ใจ
แต่ปฏิกิริยาของพวกอาร์บีเอฟเอฟไม่เหมือนกัน พวกเขาคุ้นเคยกับปลามาร์ลินดี คุ้นเคยยิ่งกว่าชาวประมงเสียอีก เพราะเหล่านักตกทุ่มศึกษาปลามาร์ลินมามากกว่าที่ศึกษาทูน่าครีบน้ำเงิน
นักตกปลาที่เข้าวงการล้วนมีฝันอย่างหนึ่ง นั่นก็คือสักวันหนึ่งจะตกปลามาร์ลินตัวใหญ่ได้
ขอแค่ตกปลามาร์ลินได้ ต่อให้นักตกคนนั้นเป็นไก่อ่อน ก็จะกลายเป็นตำนานในหมู่นักตกปลา
ฉะนั้นพอปลามาร์ลินว่ายมาปรากฏในเครื่องโซน่าร์ของเหล่านักตก เจ้าพวกนี้ก็บ้ากันขึ้นมา
ไม่นานช่องวิทยุของพวกเขาก็มีเสียงโห่ร้องตื่นเต้นดังลอดออกมาไม่ขาดสาย เรือทุกลำต่างถอนสมอแล้วเริ่มเคลื่อนไหวหาปลาตัวโตนี้
……………………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset