ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 254 ยินดีให้มาหาเรื่อง

บทที่ 254 ยินดีให้มาหาเรื่อง
โดย
Ink Stone_Fantasy

ตอนนี้ เหล่าปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่ชอบแหวกว่ายไปมาตามลำพังกลับว่ายมารวมตัวอยู่ด้วยกันอย่างเชื่องช้า และมองดูอย่างเฝ้าระวัง
ฉินสือโอวที่ย้ายพลังโพไซดอนของเขามาที่นี่ เมื่อได้เห็นสถานการณ์เช่นนี้แล้ว เขารู้สึกได้ถึงความตื่นกลัวของเหล่าปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหล่านี้ เมื่อเขาหันตาไปมอง ก็ทำให้เข้าใจสถานการณ์ทันที ตรงพื้นที่ที่อยู่ห่างจากปลาทูน่าพวกนี้สองร้อยเมตรนั้น มีฉลามที่ดุดันตัวหนึ่งกำลังจ้องมองมาที่พวกมันแล้วน้ำลายไหลอยู่
ฉลามตัวนี้มีความยาวตัวประมาณสี่เมตรครึ่ง แผ่นหลังสีน้ำเงิน หน้าท้องสีขาว จมูกเป็นทรงกรวย ลำตัวทรงกลมมนมองไปแล้วดูกำยำมาก ในปากอันใหญ่โตนั้น ล้วนเต็มไปด้วยฟันทรงสี่หน้าปรกติที่แหลมคม
ฉลามพอบิเกิล!
เมื่อได้เห็นฉลามพอบิเกิลแล้ว ฉินสือโอวก็รู้สึกได้ทันทีว่าโชคร้ายกำลังมาเยือนแล้ว ปลาชนิดนี้มีอารมณ์ร้ายแรง พลังจู่โจมรุนแรง โดยมากจะล่าปลากระดูกแข็งเป็นอาหาร เช่นปลาซาบะ ปลาแฮร์ริ่ง ปลาแลนเซ็ตกับปลาไส้ตัก แต่ที่ชอบมากที่สุดก็คือปลาทูน่า
แรงจู่โจมของฉลามพอบิเกิลนั้นรุนแรงและขึ้นชื่อมาก เพราะมีหลายครั้งที่ตัวมันไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ตกเป็นอันตรายแต่กลับเข้าทำร้ายผู้คนที่กำลังว่ายน้ำ ดำน้ำ และโต้คลื่นอยู่ แม้กระทั่งเรือลำเล็กที่ล่องอยู่บนทะเลล้วนก็ถูกมันทำร้ายจนเสียชีวิตทั้งนั้น นี่ชี้ให้เห็นว่าการฆ่าของพวกมันนั้นไม่ใช่เพียงเพื่อล่าอาหารแต่เพื่อความสนุกอีกด้วย
ในความจริงแล้ว เพื่อนๆ ของบอลหิมะอย่างเจ้าไอซ์สเกตกับฉลามพอบิเกิลนั้นถือเป็นสัตว์วงศ์ตระกูลเดียวกัน ทั้งคู่ต่างก็อยู่ในวงศ์ฉลามเสือทรายทั้งคู่
นี่ก็คือเรื่องตลกในการตั้งชื่อของคน ฉลามพอบิเกิลที่โหดร้ายนั้นกลับมีคำว่า ‘หนู’ อยู่ในชื่อ (ในภาษาจีนเรียกฉลามพอบิเกิลว่าฉลามหนู) แต่ฉลามที่เป็นมิตร แรงจู่โจมน้อยนั้นกลับมีชื่อว่าฉลามเสือทราย
ฉลามพอบิเกิลตัวนี้น่าจะเห็นฝูงปลาพวกนี้ได้สักพักแล้ว ทำให้มันมีพฤติกรรมแปลกๆ อยู่ตลอดแบบนี้ แต่ที่มันยังไม่กล้าบุ่มบ่ามในการจู่โจมฝูงปลาพวกนี้ เพราะตอนนี้มีปลามาร์ลินที่รักในการจู่โจมเหยื่อมากกว่ามันอยู่เบื้องหน้า!
ปลามาร์ลินเป็นหนึ่งในปลาประเภทที่ไม่เกรงกลัวต่อฉลาม พวกมันใช้หัวที่มีรูปร่างแหลมเหมือนหอก ซึ่งทำให้มีพลังมากพอที่จะสู้กับฉลามที่มีฟันแหลมคมได้อย่างสูสี
ปลามาร์ลินแต่ละตัวสามารถมีขนาดตัวยาวได้ถึงสี่เมตร พวกมันทุกตัวต่างก็เคยผ่านร้อนผ่านหนาวกันมาก่อน จำนวนฉลามที่พวกมันเคยฆ่านั้นมากจนนับไม่ถ้วนเลย
ปลามาร์ลินที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของปลาที่มีนิสัยดุดัน และในตอนนี้ก็กำลังเผชิญหน้าอยู่กับฉลามที่โหดร้าย แต่มันกลับไม่มีความกลัวเลยแม้แต่น้อย กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยรังสีอำมหิต
ฉินสือโอวดีใจสุดขีด ไม่นึกไม่ฝันว่าเรื่องดีๆ ที่เขาทำไว้ก่อนหน้านี้จะทำให้เกิดผลดีขนาดนี้ ถ้าหากว่าไม่มีปลามาร์ลินแล้ว เหล่าปลากองทัพสีน้ำเงินของเขาคงได้รับความเสียหายอย่างหนักเป็นแน่
การประจันหน้ากันของทั้งสองฝ่ายตอนนี้ ก็เหมือนกับหมาป่าที่หิวโหยกำลังจ้องไปที่ฝูงแกะที่สมบูรณ์อยู่ แต่ฝูงแกะกลับมีหมาที่กล้าหาญกำลังปกป้องให้พวกมันปลอดภัยอยู่
ฉลามพอบิเกิลก็เหมือนหมาป่าที่หิวโหย พวกมันเป็นพวกรอโอกาส จู่โจมเร็ว แรง ว่ายไปรอบๆ ฝูงปลา ราวกับกำลังหาโอกาสที่เหมาะแก่การจู่โจมอยู่
เหล่าปลาทูน่านั้นแหวกว่ายมารวมกลุ่มกันเองโดยไม่ต้องมีหัวหน้ากลุ่มมาสั่ง ส่วนปลามาร์ลินนั้นก็กำลังว่ายตามฉลามพอบิเกิลติดๆ ขอเพียงแค่ฉลามพอบิเกิลจู่โจม มันก็พร้อมที่จะเข้าไปจัดการฉลามพอบิเกิลด้วยหอกบนหัวของมัน
ปลาเหล่านี้ต่างก็ถูกพลังโพไซดอนดัดแปลงแล้ว ทั้งความฉลาดและความสามารถนั้นมีมากเกินกว่าปลาทั่วไปมาก ไม่อย่างนั้นคงถูกฉลามพอบิเกิลไล่ไปตั้งนานแล้ว
ตอนนี้ฉลามพอบิเกิลก็เริ่มรวนแล้ว ดูท่านี่คงเป็นครั้งแรกที่มันมาเจอกับปลามาร์ลินที่รับมือยากแบบนี้ ตามปกติแล้ว การสู้กันระหว่างฉลามพอบิเกิลและปลามาร์ลินนั้นชัยชนะเป็นของฉลามพอบิเกิลอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ปลามาร์ลินที่มันเจอในครั้งนี้กลับเป็นปลามาร์ลินที่เก่งเรื่องการปะทะขนาดนี้ ถึงขั้นทำให้มันตกที่นั่งลำบาก
สิ่งที่แย่กว่านั้นคือหลังจากที่ฉินสือโอวมาถึง เขาได้ถ่ายพลังโพไซดอนจำนวนมากไปสู่ตัวปลามาร์ลิน ปลามาร์ลินตอนนี้ทำตัวเป็นเหมือนปลาประเภทที่ชอบพุ่งชน ‘ฟิ้ว’ เพียงครู่เดียวมันก็พุ่งออกไป!
ฉลามพอบิเกิลหลบการจู่โจมไปได้ แต่เรื่องไม่ได้จบแค่นั้น เมื่อการพุ่งครั้งนี้ล้มเหลมันก็พุ่งเข้าใส่อีก ฉลามพอบิเกิลตามความเร็วมันไม่ทัน ทำให้โดนแทงด้วยหอกของปลามาร์ลินเต็มๆ แทงทีเดียวก็ทะลุตัวมันไป
เลือดสาดกระจาย ฉลามพอบิเกิลที่ได้รับความเจ็บปวดนั้น พยายามออกแรงเพื่อจะหักหอกที่อยู่บนหัวของปลามาร์ลิน แต่หลังจากที่ปลามาร์ลินแทงโดนตัวฉลามแล้วมันก็รีบถอยออกทันที ทำให้แผนของฉลามพอบิเกิลล้มเหลว
ในเวลานี้ ปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่มีนิสัยระมัดระวังตัวตลอดเวลาก็รีบคว้าโอกาสไว้ หลังจากปลามาร์ลินจู่โจมโดนตัวศัตรูแล้ว พวกมันก็รีบพุ่งตัวออกไปอย่างทันที พวกมันทุกตัวพุ่งชนไปที่ลำตัวส่วนท้องของฉลามพอบิเกิลทันที
ส่วนนี้คือส่วนที่บอบบางทีสุดของฉลามพอบิเกิล ส่วนท้องของพวกมันไม่มีไขมันมาปกป้องการโจมตีนี้ แถมยังเป็นส่วนที่มีอวัยวะภายในเยอะที่สุดอีก เมื่อถูกจู่โจมโดยปลาทูน่าครีบน้ำเงินแบบนี้ จึงทำให้อวัยวะเสียหายได้ง่าย
ฉลามพอบิเกิลหันหลังอยากหนี แต่ตอนนี้หนีไม่ทันแล้ว ปลามาร์ลินถือโอกาสนี้จู่โจมไปอีกที บวกกับการโจมตีของปลาทูน่าที่ไม่หยุดหย่อน ฉลามพอบิเกิลโดนรุมโจมตีทั้งจากซ้ายขวา แต่กลับหนีไม่ได้ ไม่นานมันก็ท้องหงายแล้วตายในทันที
ทั้งปลามาร์ลินและปลาทูน่าต่างก็เป็นสัตว์กินเนื้อ พอฉลามพอบิเกิลตายเท่านั้นพวกมันก็ไม่มีคำว่าเกรงใจ พากันอ้าปากตรงไปที่เนื้อบนตัวของฉลามพอบิเกิลแล้วเริ่มกินอาหารกัน
ฉินสือโอวมองอย่างออกรสออกชาติ ปลาพวกนี้ชักจะมีท่าทีเหมาะที่เป็นทหารสีน้ำเงินเข้าแล้วจริงๆ โดยเฉพาะปลามาร์ลิน ที่สมควรได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทัพหน้า เพราะมันช่างกล้าหาญเหลือเกิน
หลังจากอิ่มหนำกันแล้ว ก็ถึงเวลาทำงาน ฉินสือโอวบังคับปลาพวกนี้ทำการขุดค้นบนเกาะกลางทะเล และยังใช้พลังโพไซดอนทำให้เกิดลมพายุเป็นครั้งคราว เขาทำอย่างนี้ไปเรื่อยจนถึงเที่ยงคืน แต่ก็ยังไม่พบสมบัติ
หลังจากปล่อยปลาพวกนี้ไป ฉินสือโอวไปสำรวจดูที่ฟาร์มปลาต้าฉิน สาหร่ายที่เคยปลูกก่อนหน้านี้กำลังเติบโตภายใต้แสงแดดจ้าที่ส่องมา เหล่าปลาแฮร์ริ่ง ปลาซาบะและปลาค็อดที่ถูกส่งมาล็อตที่สองก็ไม่มีปัญหาอะไร
ที่สำคัญที่สุดคือปลาทูน่าครีบเหลืองคู่สามีภรรยา ตอนนี้พวกมันหลบอยู่ในพุ่มสาหร่ายแล้ว รอแค่ถึงเวลาฟักไข่เท่านั้น
แล้วยังปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่ว่ายมาอาศัยอยู่ในฟาร์มปลาก็อยู่ได้อย่างมีความสุข ที่นี่ไม่มีศัตรูธรรมชาติ อาหารก็สมบูรณ์ พวกมันเพียงแค่ต้องกินอิ่มแล้วอยู่ไปวันๆ ก็พอแล้ว
ฉินสือโอวไม่ให้ปลาพวกนี้เข้าไปในพืดหินปะการัง ไม่อย่างนั้นบอลหิมะและไอซ์สเกตจะมีอันตรายได้ เจ้าสองตัวนี้ตอนนี้ยังไม่โตพอ ไม่มีแรงพอที่จะปกป้องตัวเองได้ หรือก็คือพวกมันจัดการกับพี่น้องฉลามแมวคู่นั้นได้ แต่หากเจอกับปลาตัวใหญ่มากๆ ก็ยังคงมีอันตราย
อีกอย่าง หอยนมสาวทะเลยักษ์ที่เป็นลูกรักของฉินสือโอว ‘เจ้าภูเขาไฟ’ ก็เป็นอาหารของปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหมือนกัน หากในกลุ่มพวกมันเกิดมีปลาตัวไหนเกิดมันเขี้ยวแล้วกินเจ้าภูเขาไฟขึ้นมา ฉินสือโอวคงอยากร้องไห้ก็ร้องไม่ออกแน่ หอยนมสาวทะเลยักษ์ที่มีชีวิตตัวนี้ มีค่าอย่างน้อยก็ร้อยล้านเลยเชียว!
การนอนบนทะเลนั้นทำให้หลับได้ไม่ดี ทั้งการพัดโชกของลมทะเล การเคลื่อนไหวไม่หยุดของน้ำทะเล การนอนบนเรือนั้นก็เหมือนอยู่บนพื้นที่มีแผ่นดินไหวอย่างไรอย่างนั้น แต่ฉินสือโอวใช้พลังโพไซดอนไปมากทำให้เขาง่วงและหมดแรง จึงทำให้เขาหลับผล็อยไป
นี่ถือเป็นโศกนาฏกรรมของเหล่าชาวประมง เมื่อถึงเทศกาลจับปลาทูน่าครีบน้ำเงินของทุกปี พวกเขาต่างก็จะเหนื่อยเป็นพิเศษ ในหนึ่งวันจะมีเวลานอนเพียงสี่ถึงห้าชั่วโมงเท่านั้น ส่วนมากจะได้กลับถึงท่าเรือตอนแปดถึงเก้าโมง ยุ่งกับการเปลี่ยนน้ำแข็ง และฟื้นฟูเรือจนถึงเที่ยง พอสามถึงสี่โมงก็ออกเรือกันอีกรอบ
การนอนค้างคืนกันบนเรือกลับกลายเป็นช่วงเวลาที่ดีที่พวกเขาจะได้พักผ่อน แม้เรือเล็กจะโยกไปมาอย่างบ้าคลั่ง แต่พวกเขาต่างก็ชินแล้ว
พอวันที่สองเมื่อแสงอาทิตย์ยามเช้าส่องมาพวกเขาก็ต้องตื่นนอน เพราะพอสว่างเหล่าปลาทูน่าครีบน้ำเงินก็จะเริ่มออกล่าอาหาร กลางคืนพวกมันจะซ่อนตัวอยู่ในใต้ท้องทะเลลึก
แต่ฉินสือโอวยังคงนอนจนถึงหกโมงเช้าเหมือนเดิม หู่จือกับเป้าจือวิ่งโหวกเหวกไปมารอบตัวฉงต้า ต้าป๋ายที่โดนเจ้าสองตัวนี้ก่อกวนก็เริ่มทนไม่ไหวปีนไปบนตัวฉงต้าบ้าง จากนั้นเหล่ากองเชีย์พวกนี้ก็ไปกัดฉงต้าเบาๆ
ฉงต้าหนังหนาเนื้อแน่น ยังคงปิดตาหลับต่อไป ฉินสือโอวบีบไปที่หูใบเล็กของมัน มันยกอุ้งมือปัดแขนของฉินสือโอวออก แล้วก็ยังคงหลับต่อไป
ฉินสือโอวเดินออกจากห้องโดยสารเรืออยากสุขใจ ห้องโดยสารของเรือยอชต์สำหรับตกปลานั้นแคบเกินไป เมื่อคืนคนทั้งห้าคนต่างก็แยกกันนอน อีวิลสัน ชาร์ค และซีมอนสเตอร์ล้วนกางเต็นท์นอนกันบนกราบเรือและท้ายเรือ
นกที่ตื่นเช้ามักจะมีหนอนกินเสมอ และก็เป็นไปตามนั้น การตกเบ็ดแต่เช้า ไม่นานก็มีปลาทูน่าครีบเหลืองมาติดเบ็ด
ฉินสือโอวเกาหัวเบาๆ ทำไมอยู่ดีๆ ปลาทูน่าครีบเหลืองถึงมีจำนวนมากขึ้นกะทันหันแบบนี้?
เมื่อถึงเวลาเจ็ดแปดโมง ก็เห็นเรือยอชต์ตกปลาสีขาวหลายลำขับเข้ามาแต่ไกล ฉินสือโอวเห็นแล้วก็ดีใจขึ้นมาทันที ว้าว นี่ไม่ใช่เหล่านักตกปลาอาร์บีเอฟเอฟเหรอ? คนพวกนี้ไม่กลับไปทำงานกันหรือไง?
เมื่อเป็นแบบนี้ ฉินสือโอวก็มั่นใจว่าพวกเขาคงจะมาหาเรื่องแน่นอน หากไม่ใช่ก็คงเท่ากับทำให้พระเจ้าที่ส่งพวกเขามาผิดหวังแล้วล่ะ
………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset