ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 268 เครื่องบินลำแรก

บทที่ 268 เครื่องบินลำแรก
โดย
Ink Stone_Fantasy

เออร์บักที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่นั้นก็ได้เงยหน้าขึ้น เขาพับหนังสือพิมพ์ไว้อย่างเรียบร้อย ประสานนิ้วทั้งสิบเข้าด้วยกันและเอ่ยถามขึ้นว่า “นายอยากซื้อเครื่องบินเหรอ?”
ฉินสือโอวยักไหล่และเอ่ยออกมาว่า “ผมคิดมาได้สักพักแล้ว ตอนนี้ขนาดพื้นที่ของฟาร์มปลากว้างขวางขึ้น การใช้เรือประมงโปรยอาหารมีคุณภาพต่ำเกินไป ถึงเวลาที่จะต้องซื้อเครื่องบินทางการเกษตรแล้ว”
เออร์บักจึงเอ่ยออกมา “ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้มากเท่าไร รู้แต่เพียงว่าเครื่องบินที่ใช้ในฟาร์มปลาส่วนมากจะเป็นเครื่องบินทางการเกษตรรุ่น โปแลนด์ เอ็ม-18บี โดรแมเดอร์ ก่อนหน้านี้บริษัทดิค พันธุ์พืชน้ำทะเลได้มาหว่านเมล็ดพันธุ์สาหร่ายให้ก็ใช้เครื่องบินรุ่นนี้เหมือนกัน”
ดูแล้วเออร์บักคงจะไม่สามารถให้คำแนะนำกับตนเองได้ ฉินสือโอวจึงบอกกับเขาว่าเดี๋ยวผมจะลองค้นหาบนอินเทอร์เน็ตดู
เออร์บักยิ้มและพูดขึ้นว่า “ทำไมต้องดูบนอินเทอร์เน็ต ไม่ใช่ว่านายมีบัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสเหรอ? ฉันคิดว่าเอ็กซ์เพรสควรจะจัดสรรพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญมาให้ข้อมูลกับลูกค้ารายใหญ่อย่างนาย นายถามพวกเขาสิ พวกเขาจะให้คำตอบที่น่าพอใจกับนาย ถ้าหากอยากซื้อเครื่องบิน ถ้าซื้อผ่านพวกเขาก็อาจจะซื้อเครื่องบินได้เร็วขึ้น”
“ทำไมเจ๋งขนาดนี้?” ฉินสือโอวพูดออกมาด้วยความสงสัย เมื่อกินอาหารเช้าเสร็จแล้ว เขาคาดว่าบริษัทเอ็กซ์เพรสคงจะให้พนักงานที่มีความเชี่ยวชาญมาทำงานให้กับผู้ถือครองบัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสแล้ว ดังนั้นเขาจึงโทรศัพท์หาเบอร์ที่แบรนดอนให้เขาไว้
หลังจากเสียงโทรศัพท์ต่อสายดังขึ้นสามครั้ง ก็มีเสียงหวานๆ ของคู่ออกมาจากลำโพงของฉินสือโอว “สวัสดีค่ะ คุณลูกค้าที่เคารพ คุณฉิน ดิฉันเจนนิเฟอร์ อัลบี พนักงานผู้เชี่ยวชาญสำหรับคุณ ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้บริการ ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ดิฉันรับใช้คะ”
เสียงนี้ช่างน่าฟังมาก เสียงไพเราะไม่แพ้ไปกว่านักจัดรายการวิทยุหญิง ฉินสือโอวไอออกมาหนึ่งครั้งและเอ่ยขึ้นว่า “คืออย่างนี้ครับคุณเจนนิเฟอร์ ผมคือฉินสือโอว ผมอยากจะซื้อเครื่องบินทางการเกษตรสักลำ ราคาอยู่ที่ประมาณไม่เกินห้าแสนดอลลาร์แคนาดา ไม่ทราบว่าคุณพอจะช่วยแนะนำให้ผมสักสองสามแบบไหม?”
เมื่อรอให้เขาพูดจบ เจนนิเฟอร์จึงเอ่ยขึ้นว่า “ได้ค่ะ คุณฉินกรุณารอสักครู่นะคะ อีกห้านาทีรบกวนคุณอ่านที่อีเมลของคุณ ดิฉันจะส่งข้อมูลที่เหมาะสมไปให้คุณค่ะ”
และก็เป็นอย่างที่คิดไว้ หลังจากผ่านไปห้านาที ฉินสือโอวก็ได้รีเฟรชกล่องข้อความ ซึ่งก็มีอีเมลฉบับหนึ่งที่ส่งมาจากบริษัทเอ็กซ์เพรสปรากฏขึ้นมา
หลังจากที่เขาเปิดขึ้นมาดู ข้างในนั้นมีชื่อของเครื่องบินยี่สิบกว่าลำเรียงเป็นลำดับอยู่ โดยด้านหลังได้มีราคา รุ่น ข้อดีข้อเสียและประสบการณ์ของผู้ใช้งานเขียนกำกับไว้ ซึ่งมีความละเอียดและครอบคลุมทุกด้าน นอกจากนี้ เจนนิเฟอร์ยังทำสัญลักษณ์ตัวหนาไว้บนรุ่นเครื่องบินที่ผลตอบรับค่อนข้างดีในตลาด พนักงานช่างรอบคอบมากจริงๆ
เครื่องบินที่ปรากฏเป็นลำแรกคือ เครื่องบินทางการเกษตร รุ่นโปแลนด์ พีแอลเอ็ม18-บี โดรแมเดอร์ เครื่องบินลำนี้ได้ผลตอบรับจากลูกค้าดีที่สุด โดยถูกมองว่าเป็นเครื่องบินทางการเกษตรที่มีอัตราส่วนประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับราคาดีที่สุดลำหนึ่ง ราคาที่ขายในแคนาดาต่ำสุดอยู่ที่หนึ่งแสนห้าหมื่นดอลลาร์แคนาดา
เครื่องบินทางการเกษตรรุ่นอื่นที่ค่อนข้างได้รับความนิยมก็จะมี แบบจีเอ-200 แฟตแมน แบบอีเอ็มบี-202 อีปาเนมา แบบแซท 137 ที การเกษตรกระแสน้ำวน แบบไฮพอยท์และแบบเครื่องบินทุ่น เป็นต้น
ฉินสือโอวดูที่รายละเอียดโดยย่อของเครื่องบินเหล่านี้ทีละลำ ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงเครื่องบินทางการเกษตร แต่เขาก็ยังคงดูอย่างสนใจเป็นอย่างยิ่ง
เครื่องบินแบบจีเอ-200 แฟตแมน มาจากบริษัทการบินออสเตรเลีย กิปส์แลนด์ จำกัด ส่วนลำตัวของเครื่องบินเป็นโครงสร้างเชื่อมของวัสดุโลหะเอสเออี4130ผสมกับเหล็กกล้าโมลิบดินัม น้ำหนักตัวอากาศยาน 770 กิโลกรัม น้ำหนักมากที่สุดในการขึ้นบินคือ 1770 กิโลกรัม ความเร็วในการบินตรวจการณ์คือ 374 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เครื่องบินแบบอีเอ็มบี-202อีปาเนมาได้รับการออกแบบโดยบริษัทเอมเบรีย ส่วนลำตัวของเครื่องบินใช้วัสดุโครงสร้างการเชื่อมของโลหะ4130 ผสมกับเหล็กกล้า น้ำหนักตัวอากาศยาน 1020 กิโลกรัม น้ำหนักมากที่สุดในการขึ้นบิน 1580 กิโลกรัม ความเร็วในการบินคือ 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เครื่องบินทางการเกษตรแบบกระแสน้ำวนแซท137ที ซึ่งมาจากบริษัทอากาศยาน เช็กสปอร์ต ส่วนลำตัวของเครื่องบินเป็นโครงสร้างโลหะหุ้มด้วยเหล็กกล้า น้ำหนักตัวอากาศยาน 1250 กิโลกรัม น้ำหนักมากที่สุดในการขึ้นบิน 2520 กิโลกรัม ความเร็วในการบินตรวจการณ์คือ 228 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เครื่องบินแบบไฮพอยท์นั้นมาจาก บริษัท แปซิฟิก แอโรสเปซ ของนิวซีแลนด์ ส่วนลำตัวของเครื่องบินทำมาจากวัสดุโลหะผสมอะลูมิเนียมไทเทเนียมหุ้มด้วยแผ่นพลาสติกพีดีซี น้ำหนักตัวอากาศยาน 1315 กิโลกรัม น้ำหนักมากที่สุดในการขึ้นบิน 3742 กิโลกรัม ความเร็วในการบินคือ 274 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เครื่องบินอีกหนึ่งแบบที่มีลักษณะพิเศษมากก็คือเครื่องบินทุ่น เครื่องบินชนิดนี้มีชื่อเสียงมากในอเมริกาเหนือ เป็นเครื่องบินเรือธงที่ผลิตโดยบริษัท อเมริกัน แอร์ แทรกเตอร์ จำกัด ส่วนลำตัวของเครื่องบินทำมาจากวัสดุโครงสร้างเหล็กกล้า 4130 ซึ่งมีความแข็งแรงและทรงพลัง มีน้ำหนักตัวอากาศยานสองตัน น้ำหนักมากที่สุดในการขึ้นบินคือ 4300กิโลกรัม ความเร็วในการบิน 253 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เครื่องบินเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ราคาไม่แพง ราคาแพงที่สุดของเครื่องบินทุ่นอยู่ที่ประมาณห้าแสนดอลลาร์แคนาดา เครื่องบินลำอื่นต่างก็มีราคาไม่ถึงสามแสนดอลลาร์แคนาดา
ในนี้ไม่ใช่มีเพียงแค่เครื่องบินห้าแบบนี้ ในความเป็นจริงแล้วเครื่องบินแต่ละแบบจะมีรุ่นย่อยๆ อีกมากกว่าสิบแบบ อาทิเช่นเครื่องบินทุ่น ซึ่งจะมีรุ่นออริจินอลเอที-301 รุ่นปรับเปลี่ยนเอที-401/401เอ รุ่นปรับเปลี่ยนประเภทสองเอที-400/402 รุ่นเพิ่มความแข็งแกร่งเอที-501เอที-502 รุ่นใหม่เอที-503/502เอ และรุ่นสูงสุดเอที-802/เอที-802ยู เป็นต้น
เครื่องบินไม่กี่ชนิดนี้ ต่างก็มีความเป็นตัวแทนที่สุดในแต่ละขอบเขต ถ้าจะเอาแบบใช้งานง่ายก็ต้องเป็น โปแลนด์ โดรแมเดอร์ ถ้าจะเอารุ่นที่มีความเร็วสูงก็ต้องเลือก จีเอ-200 แฟตแมน ถ้าประหยัดน้ำมันมากที่สุดก็ต้องเลือก อีเอมบี-202 อีปาเนมา กล่าวโดยสรุปคือเครื่องบินแต่ละลำต่างก็มีข้อดีของตัวเอง
ฉินสือโอวได้ศึกษาข้อมูลอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ไม่สามารถตัดสินใจได้ แต่ดูแล้วซื้อรุ่นโดรเมเดอร์จะดีที่สุด เพราะว่าเครื่องบินประเภทนี้ไม่เพียงแต่ราคาถูกและใช้ดีแล้ว แต่ยังมีอะไหล่สำรองที่ดีอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะเป็นเครื่องบินที่ผลิตจากโปแลนด์ แต่ก็มีสายการผลิตอยู่ที่แคนาดา
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เปรียบเทียบกันดูแล้ว ฉินสือโอวก็ได้ตัดสินใจซื้อเครื่องบินทุ่นหนึ่งลำ และเขาต้องการซื้อเป็นแบบเครื่องบินในทางพลเรือนเอที-802
เอที-802 ได้รับการกำหนดรูปแบบในเดือนกันยายน ปี1995 รุ่นดังกล่าวมีขนาดใหญ่กว่ารุ่นก่อนๆ เป็นเครื่องบินสองที่นั่งรุ่นแรกที่ออกแบบโดยแอร์แทรกเตอร์ แอร์ไลน์ ส่วนใหญ่จะใช้ในการดับไฟ การฉีดพ่นสารเคมีในป่าและภูเขา การหว่านเมล็ดพันธุ์ในปริมาณที่มากและการใส่ปุ๋ย นอกจากนี้ยังใช้ในภารกิจพิเศษเช่น ต่อต้านยาเสพติด
เครื่องบินชนิดนี้ติดตั้งอุปกรณ์ 820กิโลวัตต์ โดยใช้เครื่องยนต์ พีที6เอ-45อาร์ turboprop ที่ผลิตโดยแพรตต์-วิทนีย์ แคนาดา เพลา1115แรงม้า ขับเคลื่อนด้วยใบพัดโลหะที่หมุนกลับได้ห้าใบพัดด้วยความเร็วที่คงที่ซึ่งผลิตจากบริษัท ฮาร์ทเซล
น้ำหนักตัวอากาศยานของเอที-802นั้นน่าหวาดกลัวมาก โดยมีน้ำหนักถึง3200กิโลกรัม ซึ่งก็มีน้ำหนักมากกว่าสามตัน และมันสามารถรับน้ำหนักได้มากขึ้น โดยน้ำหนักสูงสุดในการขึ้นบินอยู่ที่ 6600กิโลกรัม ความเร็วในการบิน 280กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 360 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เหตุผลที่ฉินสือโอวตัดสินใจแน่วแน่ที่จะซื้อเครื่องบินประเภทนี้ เป็นเพราะว่าในขณะที่เขาค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องบินรุ่นนี้เขาก็ได้เห็นข่าวข่าวหนึ่งซึ่งได้เขียนว่า ‘กองบัญชาการทิศใต้สหรัฐ’ (United States Southern Command) ได้สั่งซื้อชุดเครื่องบินรุ่นติดอาวุธปรับปรุงเอที-802 ซึ่งเอที-802ยู จะใช้ปฏิบัติภารกิจในการต่อต้านกองโจรในอเมริกาใต้ ต่อต้านการจลาจล ปราบปรามยาเสพติดและของผิดกฎหมาย อีกทั้งยังใช้ภารกิจต่อต้านการก่อการร้าย
ฉินสือโอวได้ศึกษาค้นคว้าข่าวหัวข้อนี้ และจากการอภิปรายทำให้เขารู้ว่า เดิมทีเครื่องบินเอที-802 จะใช้ในด้านการทหาร มันเหมาะกับการปรับเปลี่ยนติดอาวุธมาก เพียงแค่ปรับเปลี่ยนให้เป็นสถานะตรวจตราภารกิจ ก็สามารถติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ได้ อาทิเช่น อุปกรณ์แสง โฟโต้อิเล็กทริค ถ่ายภาพอินฟราเรด การมองเห็นในเวลากลางคืน เรดาร์ชนิดช่องรับคลื่นสังเคราะห์ เป็นต้น
และถ้าปรับเปลี่ยนเป็นสถานะจู่โจมติดอาวุธ เช่นนั้นสามารถบรรจุกระสุนได้ถึงแปดพันปอนด์ สามารถติดตั้งเลเซอร์ การแพร่ภาพ พอตอาวุธควบคุมไฟอินฟราเรด ติดตั้งปืนแก็ตลิงที่มีจีเอยู-193 สองอันปากกระบอก 12.7 มิลลิเมตร อาวุธป้องกันเขตแดนด้วยระเบิดร่อนความแม่นยำสูงบีพีดับเบิลยูสองนัด ขีปนาวุธเฮลไฟร์สี่นัด จรวดเลเซอร์นำวิถีล็อกฮีด มาร์ติน แดร็ก จำนวน16นัด หรือจรวดไร้การควบคุมเอ็ม 260 เจ็ดลำ ระเบิดเลเซอร์วิถีเอ็มเค 82-250 ปอนด์สองลำ
ถ้าปรับเปลี่ยนเป็นสถานะติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันเพิ่มเติม ถ้าเช่นนั้นก็สามารถติดตั้งแผ่นหุ้มเกาะกันกระสุนให้กับห้องโดยสารเครื่องบินและห้องเครื่อง สามารถติดตั้งกระจกกันกระสุนในห้องโดยสารเครื่องบิน ถังน้ำมันสามารถกำจัดด้วยตัวเอง สามารถติดตั้งระบบป้องกันตัวเองเอเออาร์-47/เอแอลอี-47 หมวกนิรภัยเล็งเป้า อีกทั้งยังสามารถเพิ่มถังน้ำมันสำรองไว้ที่ตัวลำ….
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ยังจะมีอะไรให้ต้องลังเลใจอีก? ถ้าไม่ซื้ออาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงแบบนี้ แล้วจะซื้ออะไร?
…………………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset