ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 286 เครื่องบินมาแล้ว

กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนถูกวินนี่รับช่วงต่อไปแล้ว พวกสาวสวยลูกคนรวยชาวจีนจอมเชิดยังอยากจะสร้างความลำบากให้เธอสักหน่อย แต่วินนี่เป็นใครน่ะเหรอ? หัวหน้าแอร์โฮสเตสชั้นเฟิร์สคลาสของแอร์แคนาดา ปัญหาพวกนี้ถูกเธอจัดการแก้ไขได้อย่างว่องไว
เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีแต่ผู้หญิง ดังนั้นรายการท่องเที่ยวประเภทขึ้นเขาไปล่าสัตว์จึงถูกยกเลิกไป วินนี่แค่อยากจะพาพวกเธอไปปีนเขาเคอร์บัลเพื่อสัมผัสบรรยากาศของป่ากว้างบนภูเขาที่แท้จริงเท่านั้น
บรรยากาศของเมืองเล็กๆ ในยุคกลางที่ยังถูกรักษาไว้กับวิวทิวทัศน์ของหุบเขาที่เหมือนกับภาพความฝันทำให้นักท่องเที่ยวตกตะลึงเป็นอย่างมาก ในระหว่างทางขณะที่กำลังปีนเขา พวกเธอได้พบกับสัตว์จำพวกกวางเรนเดียร์ และกวางอูฐ สัตว์พวกนี้ไม่กลัวคนเลยแม้แต่น้อย กวางทั้งสองฝูงก็รวมเข้าด้วยกันโดยที่ไม่ทันได้รู้ตัว ภาพเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่กลมกลืนกันพวกนี้ก็มีความสวยงามในอีกแบบหนึ่ง
ทะเลสาบเฉินเป่าที่ใสสะอาด ป่าที่แหวกว่ายในน้ำด้วยความสุขใจ ภาพบรรยากาศที่มีทั้งความสงบและการเคลื่อนไหวแบบนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ สาวๆ ลูกคุณหนูชาวจีนล่องเรือไปตกปลาในทะเลสาบ ผลที่ได้ก็ค่อนข้างน่าพอใจ ในกล้องถ่ายรูปของแต่ละคนเต็มไปด้วยรูปที่พวกเธอถ่ายกับปลาที่ตกขึ้นมาได้
ในตอนเย็นของทุกๆ วัน พวกเธอจะไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่ชายหาดด้วยกันเป็นกลุ่ม บางครั้งก็พบกับกระแสน้ำทะเลที่ลดลง ทำให้ได้เก็บเปลือกหอยปูตัวเล็กๆ มาด้วย
ไม่ต้องสงสัยเลย เกาะแฟร์เวลได้มอบประสบการณ์การท่องเที่ยวต่างประเทศที่สมบูรณ์แบบให้กับพวกเธอแล้ว บริษัททัวร์ที่จีนก็ได้รับคำวิจารณ์ที่ดีมากๆ จากพวกเธออยู่ตลอด
เมื่อเป็นเช่นนี้เส้นทางการท่องเที่ยวของเกาะแฟร์เวลในนี้จึงเป็นที่สนใจอีกครั้ง ในวันที่เจ็ดหลังจากที่พวกเธอมาถึงเกาะแฟร์เวล ก็มีนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่งออกเดินทางมาจากจีน ในครั้งนี้มีจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ถึงห้าสิบคน
ฉินสือโอวไม่ค่อยได้ไปจัดการเรื่องการท่องเที่ยวแล้ว ยังไงซะเมืองแฟร์เวลก็มีเทศบาลที่คอยดูแล เขาจะต้องไปวุ่นวายกับเรื่องนี้ทำไมกัน? เมื่อยังมีกำลัง เขาก็ต้องติดตามเรื่องเงินที่โอดิสซีย์ยังติดเขาอยู่
บิลลี่โทรมาหาเขาหลายครั้ง เพื่อบอกกับเขาว่าในเดือนกันยายนจะมีการจัดงานประมูลขึ้นในลอสแอนเจลิส เพื่อจัดการเครื่องเงินเครื่องทองที่เหลืออยู่จากเงื้อมมือของรัฐบาลสเปนและเหรียญกษาปณ์อีเกิ้ลปี 1907 ที่ฉินสือโอวเป็นคนพบ
หลังจากซื้อฟาร์มปลาของมิสเตอร์รอทมาแล้ว ฉินสือโอวก็ซื้อลูกพันธุ์ปลากลุ่มหนึ่งและหญ้าทะเลมาเพาะเลี้ยง ตอนนี้เขายังมีเงินเหลืออยู่ราวๆ สี่สิบล้านดอลลาร์ ความกดดันทางการเงินจึงไม่มาก
ตอนนี้เขากำลังเป็นที่สนใจอย่างมากในนครเซนต์จอห์น สื่อต่างๆ ก็อยากจะมาที่เกาะแฟร์เวลเพื่อสัมภาษณ์เขากันทั้งนั้น
ซื้อฟาร์มปลาสามแห่งติดต่อกัน ลงทุนลงแรงขนาดนี้เพื่อสร้างฟาร์มปลาขึ้นมาใหม่ สำหรับชาวประมงในนครเซนต์จอห์นแล้ว เขาเป็นเจ้าของฟาร์มปลาที่คูลมากๆ ต่างก็อยากจะรู้จักเขา
ทว่าฉินสือโอวไม่อยากเป็นที่สนใจขนาดนี้ จันทันที่โผล่พ้นออกมาย่อมผุพังก่อน หมูตัวที่อ้วนที่สุดย่อมถูกฆ่าเป็นตัวแรก ประสบการณ์ล้ำค่าที่บรรพบุรุษถ่ายทอดมาย่อมสมเหตุสมผลแน่นอน
ฉินสือโอวสุดจะทนกับพวกนักข่าว พอดีกับที่ช่วงปลายเดือนสิงหาคม เขาได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง โอเมอร์ ไทแรนท์ ผู้จัดการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของสกายซิตี้ที่ต้องการมาเยี่ยมเยียนเขาเพื่อแนะนำเครื่องบินของสกายซิตี้
วันที่ 30 หลังจากที่โอเมอร์ถามที่อยู่ของฉินสือโอวอย่างแน่ชัดแล้ว ก็บอกกับเขาไว้ว่า ‘ไว้เจอกันครับ’
ฉินสือโอวไม่ค่อยเข้าใจความหมายของเขาสักเท่าไร เขาอยากถามว่าตอนนี้โอเมอร์มาถึงนครเซนต์จอห์นแล้วหรือว่าอยู่ที่ไหน เขาจะได้ไปรับที่ท่าเรือ แต่ปรากฏว่าหลังจากถามที่อยู่เสร็จแล้วเขาก็วางสายไปเลย ทำให้เขารู้สึกว่าเจ้าหมอนี่ไม่มีมารยาทเลยจริงๆ
สรุปว่าหลังจากนั้นสองชั่วโมงครึ่ง เครื่องบินสีขาวลำหนึ่งก็ส่งเสียงแหลมลากยาวมาปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้าของเกาะแฟร์เวล
จากนั้น ในสายตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจของชาวเมือง เครื่องบินลำนี้ก็ลงจอดยังหัวมุมถนนในเมืองแห่งนี้ ลดเกียร์ลงจอด ค่อยๆ ลดความเร็วแล้วบินลงมา
ตอนที่เครื่องบินมาถึงเกาะแฟร์เวล เครื่องบินก็ถูกลดระดับความสูงในการบินลงมาแล้ว ดังนั้นฉินสือโอวจึงมองเห็นมันตั้งแต่แรกๆ อีกทั้งเขายังเดาได้ว่า เครื่องบินลำนี้น่ากลัวว่าจะเป็นโอเมอร์ที่ขับมันมา
ฉินสือโอวขับรถเข้ามาถึงในเมืองแล้ว และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อมาถึงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นทันที โอเมอร์พูดกับเขาด้วยความนอบน้อมว่า “ขอโทษด้วยครับ มิสเตอร์ฉิน ก่อนหน้านี้ผมวางสายโดยไม่ได้บอกคุณก่อน ขออภัยด้วยครับ ตอนนี้ ผมมาถึงเมืองของคุณแล้ว คุณ……”
“ผมอยู่ด้านหลัง”ฉินสือโอวจอดรถไว้ที่บริเวณส่วนท้ายของเครื่องบินเขาเปิดกระจกรถแล้วตะโกนออกไป
โอเมอร์ ไทแรนท์เป็นชายผิวขาวผมสีทองอายุประมาณสามสิบห้าสามสิบหกปี รูปร่างสูงใหญ่ สวมสูทใส่รองเท้าหนัง ในมือถือของเขามีกระเป๋าใส่เอกสาร แค่มองดูก็รู้ได้ว่าเป็นคนที่มีความสามารถ
พอเห็นฉินสือโอวยื่นหัวออกมา โอเมอร์ ก็เร่งรีบเดินเข้ามาหาพร้อมทั้งยื่นมือออกมาหาเขาด้วยความเคารพ แล้วพูดกับเขาว่า “มิสเตอร์ฉิน ผมคือตัวแทนฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของสกายซิตี้กรุป โอเมอร์ ไทแรนท์ ยินดีที่ได้พบคุณเป็นอย่างยิ่งครับ ผมมีความยินดีที่จะแนะนำคุณให้รู้จักกับอากาศยานของพวกเรา”
เมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ของเขา ฉินสือโอวก็คิดว่ามันช่างไร้ที่ติ หลังจากพูดคุยกันได้ไม่กี่คำเขาก็ตามโอเมอร์เข้าไปชมเครื่องบินลำนั้น
เด็กๆ ในเมืองบางส่วนวิ่งเข้ามาดู พวกเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปคู่กับเครื่องบิน ตาก็มอง มือก็ลูบคลำ อย่างคนที่สนใจใคร่รู้
โอเมอร์ยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น อีกทั้งยังพูดหยอกเด็กๆ พวกนี้ว่า “มันกินคนนะ หนุ่มน้อยทั้งหลาย อยู่ห่างจากมันหน่อย ไม่อย่างนั้นแค่ ‘อ้าม’ คำเดียว พวกนายก็จะโดนมันกลืนลงท้องแล้ว”
ฉินสือโอวสังเกตดูอย่างละเอียด เครื่องบินลำนี้เป็นสีขาวทั้งลำ ข้างบนมีลายเมฆสีน้ำเงินและชื่อ ‘สกายซิตี้’ และมีโลโก้ประทับไว้ แสงแดดสาดส่อง มันส่องสะท้อนแสงอาทิตย์เป็นริ้วๆ ทุกส่วนของเครื่องบินถูกขัดให้สะอาดส่งแสงวาววับราวกับกระจกใส เน้นรูปแบบที่สะท้อนถึงความมีระดับในทุกๆ ส่วน
โอเมอร์ รอจนฉินสือโอววนดูแล้วหนึ่งรอบ จากนั้นก็เริ่มแนะนำให้เขาฟังว่า “โมเดลของเครื่องบินรุ่นนี้คือ P-750-XSTOL ผลิตโดยบริษัทนิวซีแลนด์แปซิฟิกแอโรสเปซกรุปจำกัด ใช้การออกแบบแบบปีกเดี่ยวที่ทำมาจากโลหะทั้งอัน……”
“มีเครื่องยนต์ขนาด 750 แรงม้า ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบพร๊อป พีที6 ของบริษัทแพรท แอนด์ วิทนีย์ แคนาดาสามารถบินได้ถึงระดับความสูงหกพันเมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีจำนวนที่นั่งแบบ 1+9 แต่หากต้องการแบบหรูหราสะดวกสบาย สามารถเปลี่ยนเป็นแบบ 1+4 ได้ครับ เครื่องบินติดตั้งถังน้ำมันเสริมได้ หากไม่ได้ติดตั้งระยะบินจะอยู่ที่ 2183 กิโลเมตร เมื่อติดตั้งแล้วสามารถบินได้ไกลขึ้นถึง 3200 กิโลเมตร……”
โอเมอร์เล่ารายละเอียดไปเรื่อยๆ ทั้งยังพาฉินสือโอวดูไปรอบๆ เครื่องบินลำนี้มีขนาดความยาวกว่าสิบเมตร ความกว้างของปีกอยู่ที่ยี่สิบสามเมตร มีความสูงราวๆ สี่เมตร ภายในตัวเครื่องค่อนข้างกว้างขวาง มีเคาท์เตอร์บาร์ขนาดเล็กหนึ่งอันและเก้าอี้แบบปรับเอนได้จำนวนเก้าที่นั่ง
“เครื่องบินลำนี้สามารถร่อนขึ้นไปจากถนนของเมืองเล็กๆ แห่งนี้ได้ด้วยเหรอครับ?” ฉินสือโอวถาม
โอเมอร์พยักหน้าแล้วตอบกับเขาว่า “ใช่แล้วครับ เครื่อง P-750 จัดทำขึ้นมาเพื่อคนมีฐานะที่อาศัยอยู่ในเมืองเล็ก มันใช้เกียร์แลนดิ้งแบบสามล้อ ตัวล้อเพิ่มความหนาและความกว้างในการเพิ่มพื้นที่แรงดัน ถึงแม้ว่าจะเป็นพื้นดินที่ค่อนข้างแข็ง ก็สามารถบินขึ้นอย่างมั่นคงและปลอดภัยได้ครับ”
ฉินสือโอวได้เห็นเครื่องบินส่วนตัวเป็นครั้งแรก เครื่องบิน P-750 ลำนี้ไม่เลวเลยจริงๆ เขาจึงลองถามราคาดู โอเมอร์บอกกับเขาว่า “ราคาตอนนี้อยู่ที่หนึ่งล้านห้าหมื่นดอลลาร์แคนาดา แต่ถ้าต้องการปรับแต่งก็คงต้องต่อรองราคากันอีกทีครับ”
สำหรับฉินสือโอวแล้ว ราคาเท่านี้นับว่าไม่แพงเลย ทว่าเขาไม่มีความจำเป็นต้องใช้เครื่องบินประเภทนี้ เนื่องจากโดยส่วนใหญ่แล้วเขาแทบจะไม่ได้ออกจากเกาะแฟร์เวล สิ่งที่เขาต้องการคือเรือยอชต์ไม่ใช่เครื่องบิน
โอเมอร์ เข้าใจเหตุผลข้อนี้ หลังจากอธิบายไปเพียงนิดหน่อยเขาก็พูดกับฉินสือโอวว่า “มิสเตอร์ฉิน ผมทราบถึงความต้องการของคุณนะครับ เครื่องบินประเภทนี้คงไม่ใช่สิ่งที่คุณอยากได้ สิ่งที่คุณต้องการคือเครื่องบินที่ใช้ในการเกษตรหนึ่งลำกับเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนอีกหนึ่งลำ ถ้าหากคุณต้องการซื้อเครื่องบินโดยสาร ผมกล้าพูดเลยว่า คุณคงจะซื้อเครื่องบินระดับไฮเอนด์ ไม่ใช่เครื่องบินระดับกลางแบบนี้”
เมื่อเดินชมเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว ฉินสือโอวก็พาโอเมอร์ ไปที่บ้านพักในฟาร์มปลา
โอเมอร์ดื่มเครื่องดื่ม เขาหยิบเอา iPad ขึ้นมาหนึ่งอันแล้วส่งมันให้ฉินสือโอวได้ทำความรู้จักกับสกายซิตี้กรุปและเครื่องอากาศยานภายใต้การควบคุม
ฉินสือโอวดูไปด้วยพร้อมกับตั้งคำถามไปด้วย “พวกคุณมีศักยภาพทางธุรกิจที่แข็งแรงจริงๆ แต่ว่าเครื่องบินที่พวกคุณใช้ในการรับส่งลูกค้าล้วนแต่เป็นเครื่องบินส่วนตัวทั้งนั้น ค่าใช้จ่ายน่าจะค่อนข้างสูงใช่ไหมครับ?”
โอเมอร์ ตอบเขาด้วยรอยยิ้ม “แน่นอนครับ มิสเตอร์ฉิน คุณพูดได้ถูกต้อง แต่ว่าคุณเป็นแขกวีไอพีที่ถือแบล็กอาเม็กซ์ พวกเราจึงต้องใช้เที่ยวบินพิเศษในการรับส่งคุณไปยังบริษัท ไม่เช่นนั้นก็คงไม่สามารถแสดงออกถึงความนับถือของพวกเราที่มีต่อคุณได้”
……………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset