ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 288 มอนทรีออลตราตรึงใจ

“ถึงแม้ว่า เบล-47 จะเป็นรุ่นคลาสสิคทว่าราคาสูงกว่ามาก ราคาเกือบหนึ่งล้านดอลลาร์เลยล่ะครับ” โอเมอร์กล่าว “มันมีเครื่องยนต์ที่ดีมาก เครื่องยนต์ที่ใช้คือเครื่องยนต์ไลคอมมิ่งและกระบอกสูบเครื่องยนต์ VO-435-A1B 6”
สำหรับฉินสือโอวแล้ว เงินหนึ่งล้านบาทไม่นับว่าแพงนัก ทว่าซื้อเฮลิคอปเตอร์เพื่อลาดตระเวนหนึ่งลำก็แทบจะไม่คุ้มกันเลยจริงๆ ยังไงซะเครื่องบินลำนี้ก็มีการใช้งานอยู่ไม่กี่อย่าง สามารถบินได้ในระยะสั้นๆ ก็เพียงพอแล้ว
“เบล-47มีหลายรุ่นมาก ความจริงแล้วอาจจะมีมากถึงหนึ่งร้อยรุ่นเลยทีเดียว ความแตกต่างของราคาก็ต่างกันมากครับ มีทุกราคาตั้งแต่หนึ่งแสนถึงสี่ล้าน”โอเมอร์เห็นว่าฉินสือโอวเริ่มลังเลจึงพูดกับเขาว่า
“แต่ผมขอแนะนำว่าคุณไม่จำเป็นต้องซื้อเบล-47 เลยจริงๆ ครับ รุ่นที่ราคาต่ำที่สุดของเบลยังไม่สามารถติดตั้งเรดาร์ได้เลยด้วยซ้ำ ขนาดด้านในก็คับแคบ เครื่องยนต์คุณภาพแย่ เวลาขึ้นบินก็อันตรายมาก อีกอย่างพวก ฮัมมิ่งเบิร์ด 260L โรเตอร์เวย์ เอ 600 อะไรพวกนั้นก็ไม่เลวเลย”
ขณะที่กำลังแนะนำ โทรศัพท์มือถือของโอเมอร์ก็ดังขึ้นมา หลังจากรับสายโทรศัพท์บนใบหน้าของเขาก็ปรากฏให้เห็นความตื่นเต้น เมื่อวางสายแล้วเขาก็บอกกับฉินสือโอวว่า “พวกเราได้รับเฮลิคอปเตอร์รุ่นใหม่มา ผมคิดว่าคุณคงจะรู้สึกสนใจแน่ๆ มันคือเครื่องบินสำหรับการเกษตรที่ถูกพัฒนาและผลิตขึ้นโดยบริษัทเอวิคอปเตอร์ (Avicopter) จากประเทศจีน”
เมื่อได้ยินอย่างนี้ ฉินสือโอวก็รู้สึกสนใจขึ้นมาจริงๆ เขาถามออกไปว่า “มีตัวอย่างของเครื่องบินรุ่นนี้ไหม?”
โอเมอร์ตอบเขาว่า “วันมะรืนนี้ก็สามารถดูได้แล้วครับ คุณพักอยู่ที่มอนทรีออลสักสองวันดีกว่าไหมครับ ระหว่างนี้ก็เที่ยวที่นี่สักหน่อย เชื่อผมเถอะครับ นี่จะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแน่ๆ มอนทรีออลเป็นเมืองที่ยอดเยี่ยมมากๆ ครับ”
ฉินสือโอวระงับความรีบร้อนในใจแล้วตอบรับคำเชื้อเชิญของโอเมอร์ มอนทรีออลเป็นเมืองที่สุดยอดมากจริงๆ จากการคัดเลือกเมืองน่าอยู่ของสหประชาชาติ เมืองนี้ก็อยู่ในอันดับแรกๆ ของรายการเป็นเวลาอย่างยาวนาน
พลบค่ำ ฉินสือโอวพาสุนัขออกไปเดินเล่น เขาเดินไปตามถนนอย่างช้าๆ
ดูจากบริเวณเมืองแล้ว คงจะเอามอนทรีออลและเมืองอุตสาหกรรมที่มีความทันสมัยมารวมกันได้ยากมาก บริเวณที่ฉินสือโอวพักอาศัยคือเขตเมืองเก่า มีบรรยากาศที่ให้ความสบายใจ ซึ่งยังคงรักษาสิ่งปลูกสร้างจากเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อนเอาไว้
ถนนหนทางคับแคบ สามารถรองรับทางเดินรถได้เพียงสองเลนเท่านั้น บริเวณริมถนนทั้งสองฝั่งยังคงแขวนตะเกียงบุนเสนเอาไว้ เขาออกมาจากที่พักได้ไม่ทันไร รถม้าคันหนึ่งก็ ‘กุ๊บๆ ๆ’ เข้ามา
หู่จือและเป้าจือได้เห็นรถม้าเป็นครั้งแรก พวกมันเอียงหัวมองดูอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็วิ่งตามไปอย่างร่าเริง ฝีเท้าของม้ากระฉับกระเฉงว่องไว คนขับรถม้าหันกลับมาดูหู่จือและเป้าจือที่กำลังวิ่งตามท้ายรถก็หัวเราะฮ่าๆ ออกมา แล้วยกแส้บังคับม้าขึ้น
มอนทรีออลตั้งอยู่ใกล้กับชายฝั่งยุโรปและเมืองแวนคูเวอร์ ลักษณะของสถาปัตยกรรมที่นี่ ผสมผสานเอารสนิยมและความรู้สึกในด้านที่ดีที่สุดของทั้งสองทวีปผสมผสานเข้าไว้ด้วยกัน บนร่องรอยของโบสถ์และสถาปัตยกรรมโบราณ นอกจากจะคงไว้ซึ่งเค้าโครงของทวีปอเมริกาเหนือแล้วก็ยังมีการผสมผสานของบรรยากาศสไตล์ยุโรปไว้อีกด้วย
จากจุดนี้จะพอมองเห็นฝ้าเพดานของโบสถ์คู่แฝดสไตล์กอร์ธิคที่ตั้งสูงตระหง่านได้บ้าง ฉินสือโอวเข้าไปข้างในเพื่ออธิษฐาน ส่วนหู่จือและเป้าจือรออยู่ด้านนอก ก๊อดฟาเธอร์ที่มีหนวดเคราสีเทามองเห็นพวกมันทั้งสองตัวก็เดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มเพื่อพรมน้ำมนต์ให้กับพวกมันทั้งสองตัว ทั้งยังอวยพรมันด้วยความสนิทสนม
ฉินสือโอวผงกหัวให้กับก๊อดฟาเธอร์ที่เพื่อแสดงความขอบคุณ ท่านเองก็ยิ้มอย่างใจดีแล้วพูดกับเขาว่า “มาเที่ยวที่นี่เหรอ ลูก?”
เขาไม่อยากอธิบาย ฉินสือโอวจึงตอบไปว่า “ใช่แล้วครับ ขอถามหน่อยนะครับผมจะชื่นชมบรรยากาศรอบๆ อย่างไรดีครับ?”
“ลูกพาสุนัขแลบราดอร์ที่น่ารักไปด้วย แล้วก็เดินตรงไปยังจัตุรัสแดร์ม ที่นั่นยอดเยี่ยมมาก หรือบางทีลูกอาจจะพบกับความรักที่นั่นโดยบังเอิญก็ได้นะ” ก๊อดฟาเธอร์ชราหัวเราะออกมา
ฉินสือโอวเดินไปตามทางที่ก๊อดฟาเธอร์ท่านนั้นบอกไว้ จัตุรัสที่ไม่ได้มีความกว้างขวางอะไรนักก็ปรากฏขึ้นในทัศนวิสัยของเขา
บริเวณใจกลางจัตุรัสมีรูปปั้นโบราณอยู่หนึ่งอันและยังมีรูปปั้นสุนัขอยู่ด้วยหนึ่งชิ้น ไม่แปลกใจที่ก๊อดฟาเธอร์ชราแนะนำให้เขามาที่นี่ สุนัขได้รับการต้อนรับที่ดีมากในที่แห่งนี้ เมื่อมองเห็นหู่จือและเป้าจือ ก็มีสาวๆ เข้ามาป้อนขนมปังให้พวกมันกินด้วยความกระตือรือร้น
ฉินสือโอวสังเกตดูบริเวณด้านหน้าของรูปปั้น ตรงนี้มีข้อมูลอธิบายไว้ว่า เจ้าของรูปปั้นชิ้นนี้มีชื่อว่า เมโซเนฟ เป็นมิชชั่นนารีท่านหนึ่ง ที่สร้างโบสถ์แห่งแรกในเมืองนี้ขึ้นมาด้วยความกระตือรือร้นอย่างจริงใจ ช่วยปลอบขวัญชาวอิโรควอยส์ที่มีความดุร้าย ดูแลคนชราและผู้คนที่เจ็บป่วย ให้ที่พักพิงกับคนร่อนเร่พเนจร
รูปปั้นสุนัขที่อยู่ข้างๆ มีชื่อว่า ‘ค็อปนีย์’ มันไม่มีความเกี่ยวข้องกับเมโซเนฟ ในปี 1664 มันเตือนชาวเมืองว่ากำลังจะเกิดกาฬโรค มันใช้ความสามารถในการได้กลิ่นที่เหนือชั้นนำชาวเมืองให้ปิดตายรังหนูที่เป็นพาหะของโรคในทุกๆ ที่ ทำให้ชาวมอนทรีออลรอดพ้นจากการรุกรานของโรคกาฬโรคที่น่าสะพรึงกลัว
บริเวณจัตุรัสในตอนพลบค่ำมีผู้คนที่ออกมาเดินเล่นเป็นจำนวนมาก ดูเหมือนว่าจังหวะในการดำเนินชีวิตของพวกเขาจะเชื่องช้ายิ่งกว่าที่เมืองแฟร์เวลเสียอีก มีคนบางส่วนที่สนอกสนใจสีผิวและสีผมของฉินสือโอวจึงเข้ามาพูดคุยกับเขา คุยกันไปได้สักพักฉินสือโอวถึงได้รู้ว่า โบสถ์คู่แฝดที่เขาเพิ่งผ่านเข้าไปเมื่อสักครู่ ก็คือมหาวิหารน็อทร์-ดามที่มีชื่อเสียงของเมืองมอนทรีออลนั่นเอง
หลังจากนั้น เขาก็พาหู่จือและเป้าจือออกมาจากลานจัตุรัส เดินเล่นไปเรื่อยๆ จนถึง โอลด์ เซนต์-ซัลพิซ เซมินารี ถนนเซนต์ยัค และเข้าชมพิพิธภัณฑ์ชาโตว์ แรมเซย์ จนฟ้ามืด เขาถึงไปทานข้าว
กล่าวกันว่ามอนทรีออลเปรียบเสมือนสวรรค์ของอาหารอร่อยบนโลกใบนี้ ในทวีปอเมริกาเหนือ โดยเฉลี่ยแล้วที่นี่มีจำนวนร้านอาหารต่อจำนวนประชากรเป็นอันดับสอง เป็นรองแค่นิวยอร์ก
ฉินสือโอวไปยังร้านอาหารแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า ‘บิวตี้ส์’ เพื่อซื้อแร็พโรลไส้กรอกอิตาลีและฮ็อตด็อก ปลาแซลมอนรมควันราดชีส และขนมปังบาเกลที่โรยด้วยหอมหัวใหญ่และมะเขือเทศสับ
ฉินสือโอวทานอาหารของตัวเองไปด้วยพร้อมกับป้อนหู่จือและเป้าจือไปด้วย คนไร้บ้านคนหนึ่งเห็นเขาถืออาหารปรุงสดป้อนสุนัขอยู่ก็เลยเดินเข้ามา ฉินสือโอวได้ดูถูกเหยียดหยามเขา อีกทั้งยังซื้อคีชกับกัซปาโชให้เขาทานอีกด้วย
เมื่อทานจนอิ่มท้อง หลังจากกล่าวขอบคุณฉินสือโอวแล้ว คนไร้บ้านก็ยังร้องเพลงให้เขาด้วยหนึ่งเพลง เสียงสูงต่ำและพลังเสียงของคนคนนี้โดดเด่นมาก ฉินสือโอวคิดว่าถ้าเขายินดีที่จะไปเป็นนักร้องนำให้วงดนตรีก็ย่อมทำได้
กลับมาถึงโรงแรม ฉินสือโอวกำลังจะเดินจากไป ทว่าเขากลับสังเกตเห็นว่าทั้งสองฝั่งของทางเดินมีรูปถ่ายแขวนอยู่เป็นจำนวนมาก เขาลองเดินเข้าไปดู ก็ได้พบกับรูปภาพของเอลิซาเบธ เทย์เลอร์ที่กำลังสวมชุดแต่งงานพร้อมทั้งยังส่งยิ้มหวานหยดย้อย
พนักงานคนหนึ่งเดินผ่านมาข้างๆ ยิ้มให้ฉินสือโอวแล้วพูดกับเขาว่า “นี่คือรูปภาพของคุณสุภาพสตรีเทย์เลอร์ตอนที่มาจัดงานแต่งงานที่โรงแรมของเราครับ ผมกล้าพูดได้ว่า ในตอนนั้นผู้ชายทุกคนต่างก็รู้สึกอิจฉาริชาร์ด เบอร์ตัน กันทั้งนั้น”
พอฉินสือโอวได้ยินเช่นนี้ ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าโรงแรมแห่งนี้มีบรรยากาศระดับไฮเอนด์ขึ้นมาทันที
เขาลองค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตดู ถึงได้รู้ว่าเขาไม่รู้ตัวเลยว่ามีของดีอยู่กับตัว สกายซิตี้กรุปดูแลเขาอย่างแขกวีไอพีที่แท้จริง โรงแรมแห่งนี้มีชื่อว่า ‘โรงแรมริทซ์-คาร์ลตัน’ อาจจะไม่ใช่โรงแรมห้าดาวที่หรูหราที่สุดในมอนทรีออล ทว่าเป็นโรงแรมที่มีรสนิยม และมีชื่อเสียงที่สุด
พักไปแล้วหนึ่งวัน โอเมอร์ก็พาเขาไปท่องเที่ยวในมอนทรีออลอีกหนึ่งวัน ลิ้มชิมทุกรสชาติ อย่างเช่นสเต๊กทาทาร์ที่วางไว้ในจานทรงกลมเหมือนกันกับพิซซ่า ด้านนอกของสเต๊กมีไอศกรีมมัสตาร์ดหนึ่งชั้น ทั้งยังประดับด้วยขนมปังกรอบที่ถูกบดละเอียด
นอกจากนี้ เขายังได้ชิมขนมที่มีชื่อว่า ‘Vert’ อีกด้วย ขนมชนิดนี้ทำมาจากแอปเปิลเขียวน้ำมันมะกอก พิสตาชิโอ ไวท์ช็อกโกแลตโยเกิร์ต และใบผักชี รสชาติอร่อยสดชื่นอย่างถึงที่สุด
วันที่สาม เฮลิคอปเตอร์ AC-310 ก็มาถึงแล้ว ตอนบ่ายฉินสือโอวจึงได้เข้าไปดู ก็ได้เห็นเฮลิคอปเตอร์ชื่อดังที่ผลิตในมาตุภูมิ มันดีจนถูกนำมาขายในทวีปอเมริกาเหนือ
……………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset