ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 300 อยู่ๆ ก็ดังขึ้นมาซะงั้น

ฮิวจ์คนน้องเลี้ยงลูกบาสมาจนถึงแดนหน้า ฉินสือโอวยืนหนุนอยู่นอกเขตสามแต้ม หลังจากรับลูกบาสมาแล้วเขาก็ตั้งใจเก๊กเท่ เขาหันไปเผชิญหน้ากับการประกบของหมายเลขหนึ่งและหมายเลขสาม มือขวาจับลูกบาสไว้ข้างเดียว เหยียดแขนไปทางด้านหลัง แล้วมองทั้งสองคนที่อยู่ด้านหน้าอย่างทะนงตัว
ทันใดนั้น เสียงตะโกนเชียร์สั้นๆ แต่ทรงพลังก็ดังขึ้นมาจากทางฝั่งที่นั่งของชาวเมืองแฟร์เวล
“สู้ๆ! สู้ๆ!! สู้ๆ!!!”
“ต้องชนะ ต้องชนะ!! ต้องชนะ!!!”
“ฉินโซ่ว! ฉินโซ่ว!! ฉินโซ่ว!!!”
ได้ยินคนเหล่านี้เรียกชื่อเต็มของตัวเอง ฉินสือโอวก็รู้สึกปวดไข่ขึ้นมานิดหน่อย แม่เอ็งถ้าอยากจะเรียกก็ได้อยู่หรอก แต่ช่วยเรียกชื่อให้มันชัดๆ ได้ไหม ดูพวกนี้กำลังเน้นคำว่า ‘ฉินโซ่ว’ (ไอ้สัตว์) ทีละคำ ทำเอาไม่รู้จะอดทนกับมันยังไงดีเลย
ในใจของชาวเมืองบัตเตอร์ฟลายแวลลีย์ ฉินสือโอวก็คือ สัตว์เดรัจฉาน ชั่วช้าสามานย์ สัตว์เดรัจฉานที่น่าเกลียดชังอย่างหาใดเปรียบ
การแข่งขันเพิ่งจะเริ่มไปได้แค่ครึ่งเดียว ทีมบาสเกตบอลของพวกเขาก็ถูกตีซะย่อยยับ ป้องกันการโจมตีของฉินสือโอวไม่ได้เลยจริงๆ เขาบุกทะลวง ขว้างโยน ชู้ตจากเส้นสามแต้ม แถมเขายังสามารถป้องกันแล้วนำลูกบาสกลับมาทำแต้มต่อ ปัดรับลูก แถมยังบล็อกได้อีก สรุปแล้วก็คือ เขาได้ควบคุมการแข่งขันไว้หมดแล้ว
คะแนนตอนนี้อยู่ที่ 25-52 คะแนนของเมืองบัตเตอร์ฟลายแวลลีย์อยู่ด้านหน้า ซึ่งมีคะแนนตามหลังอยู่เกินกว่าครึ่ง……
การแข่งขันครึ่งแรกยังเหลือเวลาสี่นาทีสุดท้าย ฉินสือโอวต้องการทำแต้มในช่วงสุดท้าย หมายเลขหนึ่งกับหมายเลขสามกลืนน้ำลายพร้อมทั้งมองเขาอย่างหวาดกลัว เหมือนกับลูกแกะที่กำลังรอการรุกรานจากหมาป่าที่หิวโหย
ฉินสือโอวหยั่งเชิงด้วยการก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เขาเห็นว่าเวลากำลังล่วงเลยไป จึงก้มตัวลงด้วยความรวดเร็วอย่างฉับพลัน ทำเหมือนกับกำลังจะรีบบุกไปข้างหน้าอย่างรุนแรง
หมายเลขหนึ่งกับหมายเลขสามรีบก้าวถอยหลัง คราวนี้ฉินสือโอวก็โยกหัวเข่าทั้งสองข้างแล้วเอนมาทางด้านหลัง พยุงร่างกายของตัวเองไว้ จากนั้นก็ถอยหลังหนึ่งก้าวเพื่อกลับไปยังนอกสามแต้มอีกครั้ง เขากระโดดขึ้นอย่างผ่าเผย แล้วสะบัดข้อมืออย่างนุ่มนวล ประตูสามแต้ม!
“ฉึ้บ!” เสียงดังก้องกังวาน การแข่งขันครึ่งแรกสิ้นสุดลงแล้ว แต้มยิงระยะไกล!
55-25 นำไปก่อน 30 คะแนน เมืองแฟร์เวลได้ชัยชนะมาไว้ในกำมืออย่างแน่นอนแล้ว ดังนั้นเสียงเรียก ‘ฉินโซ่ว’ จึงดังขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย
ฉินสือโอวออกจากสนาม ในครึ่งหลังเขาจะนั่งเป็นผู้ชมอยู่ที่ม้านั่ง เขาเรียกมิเชลล์ให้มาอยู่ข้างๆ แล้ววิเคราะห์สถานการณ์การแข่งขันให้ฟัง ช่วยสอนกลยุทธ์ง่ายๆ ให้เขาได้เรียนการวิเคราะห์สถานการณ์และควบคุมการแข่งขัน
การแข่งขันทั้งหมดสิ้นสุดลงแล้ว ทีมเมืองแฟร์เวลเอาชนะไปได้ด้วยคะแนน 79-60 น่าเสียดายที่ไม่มีนักข่าว ฉินสือโอวเลยไม่ได้วางท่าโอ้อวดอีก
ทว่า นี่ก็ไม่สามารถขัดขวางเขาจากการกลายเป็นคนดังได้ แน่นอนล่ะว่า ไม่ใช่ที่แคนาดา แต่เป็นที่จีน
ตอนนี้บรรดานักท่องเที่ยวต่างก็ชอบเล่นเวยป๋อกันทั้งนั้น รูปของฉินสือโอวที่พาเชอร์ลี่ย์และเด็กๆ ที่เหลือไปขายเกี๊ยวถูกหลี่เต๋อหลงโพสลงในเวยป๋อของเขา
จริงๆ แล้วนี่เป็นเรื่องที่ธรรมดามาก เพียงแค่บอกว่าเด็กๆ ที่เมืองแฟร์เวลพากันพึ่งพาตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย จึงออกมาขายเกี๊ยวเพื่อหารายได้ด้วยตัวเอง หลังจากนั้นหลี่เต๋อหลงก็ยังบอกอีกนิดหน่อยว่า ได้พบเพื่อนร่วมชาติโดยบังเอิญ เขาขับรถคาดิลแลควันมาขายเกี๊ยวเป็นเพื่อนเด็กๆ ทั้งสี่คน
ปรากฏว่าโพสต์นี้ของเขาในเวยป๋อก็ดังขึ้นมาทันที สิ่งที่เริ่มดึงดูดผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในตอนแรกก็คือโฉมหน้าที่โดดเด่นและรอยยิ้มหวานๆ ของเชอร์ลี่ย์ จนผู้คนพากันเรียกเธอว่าแม่ค้าขายเกี๊ยวไซซีแห่งแคนาดา
ต่อมา ความร้อนแรงก็ตกมาที่ตัวของฉินสือโอว ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มีคนเริ่มพูดว่าฉินสือโอวไปขายเกี๊ยวอยู่นิวฟันด์แลนด์จนร่ำรวย ถึงได้ขับรถหรูคาดิลแลควัน ทั้งยังมีวิลล่าริมทะเลแบบนี้
ในตอนแรกฉินสือโอวไม่รู้เรื่องนี้ แต่เหมาเหว่ยหลงแชร์โพสต์นี้มา หลังจากนั้นเพื่อนร่วมชั้นเรียนทั้งห้องก็พากันแชร์โพสต์นี้แล้วแท็กชื่อเขามา แล้วถามเขาว่าเขาถูกคนในเน็ตใส่ร้ายหรือเปล่า ทำเอาไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้เลยทีเดียว
สำหรับเรื่องพวกนี้แล้ว ฉินสือโอวไม่ได้ใส่ใจแต่อย่างใด เขารู้ว่านี่เป็นความสนุกเพียงชั่วคราวของทุกคนก็เท่านั้น ผ่านไปสองวันก็ไม่มีใครมาสนใจแล้ว ทว่าเขาประเมินความสามารถในการซุบซิบนินทาของเพื่อนร่วมชาติได้ต่ำเกินไป ต่อมามีนักท่องเที่ยวโพสต์ภาพเขาที่กำลังกอดกับวินนี่อย่างสนิทชิดเชื้อเพิ่มเข้าไปอีก
เสน่ห์ของรถหรูกับวิลล่าริมทะเล ไม่มีทางเทียบกันได้กับสาวสวย โดยเฉพาะสาวลูกครึ่งที่สามารถรวมเอาความสวยมีเสน่ห์ของทุกชาติพันธุ์อย่างวินนี่ไว้ด้วยแล้ว
ไม่มีทางที่จะควบคุมเรื่องพวกนี้ได้เลย พวกคนที่ไม่มีงานมีการทำบางคนก็พยายามค้นหาข่าวที่เกี่ยวข้องกับฉินสือโอวในเวยป๋อ ก็ค้นเจอว่าสมัยเรียนมหาลัยเขาเป็นเพียงนักศึกษาธรรมดาเท่านั้น หลังจากเรียนจบก็เป็นพวกเหมือนขี้แพ้ทั่วไปในประเทศ ต่อมาออกไปขายเกี๊ยวที่เมืองนอก ก็สามารถขับรถหรู เล่นเรือยอชต์ อาศัยอยู่ในวิลล่า แถมยังได้ควงสาวสวยสุดยอด…
แล้วปัญหาอยู่ที่ตรงไหนกันล่ะ?
ฉินสือโอวไม่เข้าใจว่าปัญหามันอยู่ที่ตรงไหนกัน ยังไงซะตอนนี้เขาก็ดังขึ้นมาแบบแปลกๆ แล้ว เขาถูกคนเรียกว่าซีอีโอขายเกี๊ยว ตอนเช้าโทรศัพท์ไปหาที่บ้าน พ่อกับแม่ก็ถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งยังบอกว่าเขาได้ออกทีวี…
“พอแล้วล่ะ ผมหลบๆ ไปก่อนดีกว่า” ฉินสือโอวดูข่าวของประเทศจีนที่เกี่ยวกับตัวเองแล้วก็ได้แต่ส่ายหัวอย่างจนปัญญา
ชีวิตคนเรานี่น่าขบขันโดยแท้ เมื่อก่อนตอนที่ยังอยู่ที่จีน เขาเพ้อฝันว่าอยากจะโด่งดังมาตลอด จะดีที่สุดถ้ามีสาวสวยมาคอยเอาใจเขาด้วย ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงจะสมบูรณ์แบบเลยล่ะ
ตอนนี้ เขาอยากจะดื่มด่ำชีวิตอย่างเงียบๆ เท่านั้น แต่เรื่องน่ารำคาญกลับเข้ามารบกวนเขา กลุ่มสาวสวยเข้ามาพัวพัน เป็นคนดังในเวยป๋อ ดาวดวงใหม่ด้านอาหารทะเลแห่งนครเซนต์จอห์น ทำให้เขารำคาญจนทนไม่ไหว
วินนี่ช่วยเขาเสนอความคิดเห็น เธอพูดกับเขาว่า “ช่วงฤดูร้อนเทือกเขาเคอร์บัลจะสวยมากๆ ทำไมคุณไม่ขึ้นไปเที่ยวบนเขาหน่อยล่ะคะ”
ฉินสือโอวตบก้นเธอ แล้วเอ่ยปากชมด้วยว่า “เป็นความคิดที่ดี คุณเป็นภรรยาที่ดีจริงๆ ถ้าอย่างนั้นก็เอาแบบนี้ละกัน”
หลังจากเอาชนะทีมบาสเกตบอลเมืองบัตเตอร์ฟลายแวลลีย์ได้แล้ว รางวัลที่วินนี่มอบให้ก็คือฉินสือโอวสามารถโดนเนื้อโดนตัวเธอได้แล้ว
ช่วงนี้ฉินสือโอวสามารถทลายปราการชั้นที่สองได้สำเร็จแล้ว สามารถกอดจูบเธอได้ทุกที่ทุกเวลา ในที่ส่วนตัวก็ยังสามารถกอดจูบลูบคลำได้อีกด้วย ทว่าการทะลวงขั้นตอนสุดท้ายกลับยังไม่มีความคืบหน้า
วินนี่แย้มรอยยิ้มหวาน แล้วพูดกับเขาว่า “พอดีเลย นักท่องเที่ยวของเราก็จะขึ้นเขาไปล่าสัตว์เหมือนกัน แค่คุณไปด้วยกันก็พอแล้ว”
ฉินสือโอวกะพริบตาปริบๆ เขาถึงบางอ้อในทันที “คุณจะให้ผมเป็นบอดี้การ์ดให้พวกเขาเหรอครับ?”
เขาไม่ทำเรื่องนี้ เขาไม่อยากจะเข้าไปอยู่ในขอบเขตกล้องถ่ายรูปของนักท่องเที่ยวพวกนี้อีก รูปของเขาตอนอยู่ที่นิวฟันด์แลนด์มาจากไหน ไม่ใช่พวกเวรนี่หรอกเหรอที่เป็นคนถ่าย? ชังน้ำหน้านัก
วินนี่เกลี้ยกล่อมเขาด้วยความหวังดี “บนภูเขาไม่มีสัญญาณ ถึงพวกเขาจะอยากถ่ายรูปคุณ แต่ก็คงเอาลงอินเทอร์เน็ตไม่ได้หรอกค่ะ นอกจากนี้ ยิ่งคุณอยู่ห่างพวกเขา พวกเขาก็จะยิ่งรู้สึกว่าคุณลึกลับ แล้วก็จะยิ่งสนใจเรื่องของคุณ ถ้าคุณเข้าหาพวกเขาเอง พอคุ้นเคยกันแล้วก็คงไม่มีใครอยากรู้อยากเห็นเรื่องเกี่ยวกับคุณแล้วล่ะค่ะ”
“เหอะๆ อย่าทำเหมือนผมเป็นเด็กไปหน่อยเลย ผมไม่ไปเป็นพี่เลี้ยงให้พวกเขาหรอก” ฉินสือโอวปฏิเสธ
วินนี่ยักไหล่น้อยๆ แล้วพูดกับเขาว่า “โอเคค่ะ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันจะพาพวกเขาขึ้นไปบนภูเขาเอง ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็เตรียมใจให้ดีแล้วกันนะคะ”
“เวร แฮมเล็ตไม่ได้บอกไว้หรอกเหรอ ว่าจะไม่ให้ไกด์ผู้หญิงแบบพวกคุณตามขึ้นเขาน่ะ?”
“แต่ฉันต้องทำตัวให้คุ้นชินกับเทือกเขาเคอร์บัลสักหน่อยนี่คะ ฉันยังไม่เคยขึ้นเขาเลยด้วยซ้ำ”
ฉินสือโอวหมดทางไปแล้ว แต่ก็ไม่ควรให้ภรรยาต้องออกไปเสี่ยงหรือเปล่า? ไม่ต้องพูดถึงสัตว์ป่าที่อยู่บนภูเขาหรอก ในสายตาของฉินสือโอว พอไปถึงภูเขาแล้ว นักท่องเที่ยวผู้ชายพวกนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าสัตว์ป่าเสียอีก เมื่อเร็วๆ นี้เขาเพิ่งดูหนังเอวีญี่ปุ่นที่เกี่ยวกับไกด์นำเที่ยวผู้หญิงไปหลายเรื่อง ใจคนเราช่างดำมืดจริงๆ
โชคดีที่ช่วงวันที่สิบเดือนกันยายน ฮัดสัน เบิร์ด เพื่อนสนิทที่แสนจะเทิดทูนของนีลเซ็นเดินทางมาถึงเมืองนี้พอดี
เบิร์ดสวมชุดทหารลายพรางทั้งตัว กล้ามเนื้อบึกบึนดันจนเสื้อนอกนูนขึ้นมา เขาสวมรองเท้าบูต ให้ความรู้สึกองอาจดุดันยามก้าวเดิน เมื่อได้พบกับฉินสือโอวเขาก็ทำความเคารพแบบทหารแล้วพูดด้วยเสียงดังก้อง “เซอร์ ผมฮัดสัน เบิร์ด มารายงานตัวครับ!”
ฉินสือโอวตกใจจนขวัญหนีเขาชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงทำท่าวันทยาวุธกลับไปเหมือนกัน “อันนั้น เบิร์ด เอ้อ ครูฝึกเบิร์ดใช่ไหม?”
“เซอร์ ผมจะมาเป็นนักบินให้กับท่านครับ เรียกผมว่าเบิร์ดหรือบิ๊กเบิร์ดก็ได้ครับ เซอร์!”
“นายเลิกทำวันทยาวุธกับฉันก่อนเถอะ ถ้าเป็นแบบนี้อีกฉันคงต้องเรียกนายว่าลุงแล้วล่ะ”
“เยสเซอร์!”
………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset