ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 310 น้องเล็กเฮยป้าหวัง

ซื้อตั๋วให้ฉลามขาวยักษ์ได้นั่งเครื่องบินฟรีไปแล้วรอบหนึ่ง ในที่สุดฉินสือโอวก็ได้ระบายโทสะจากการถูกยุแหย่ออกมาแล้ว
ฉลามขาวยักษ์ตัวนั้นถูกฟาดจนหน้าตาฟกช้ำดำเขียว หน้าช้ำดำเขียวของแท้ แก้มที่อยู่ติดกับริมฝีปากทั้งสองข้างก็บวมเป่งขึ้นมา ก็เมื่อสักครู่นี้ปากใหญ่ของฉินสือโอวใส่แรงลงไปซะเต็มพลัง ถึงจะมีหางหนักถึงหนึ่งร้อยแปดสิบกิโลกรัมก็ไม่มีปัญหา
จากประสบการณ์การบินตอนก่อนหน้า น่าจะเป็นครั้งแรกในชีวิตของฉลามขาวยักษ์ที่ได้สัมผัสความตื่นเต้นจากการบิน พวกมันไม่เหมือนกับปลากระโทงสีน้ำเงินหรือโลมา ความรู้สึกในการบินขึ้นไปบนผิวน้ำต้องไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีแน่ๆ หลังจากตกลงมาในน้ำมันก็ตกใจจนแทบบ้า ไม่กล้าแม้แต่จะมองไปที่ฉินสือโอว พอตกลงมาก็ว่ายน้ำหนีไปอย่างรวดเร็ว
ฉินสือโอวยิ้มเย็น พ่อเอ็งเถอะ เก่งนักไม่ใช่เหรอ? มาสิ เข้ามาแหย็มกับฉันอีกสิ ฝ่ามือมังกรทั้งสิบของฉันรสชาติไม่เลวเลยใช่ไหม? ถ้ามีครั้งหน้า ฉันจะให้แกได้ลิ้มรสฝ่ามือยูไล
หมุนไปมาอยู่กับที่จนพอใจแล้ว ฉินสือโอวกำลังจะดำน้ำ แต่ทันใดนั้นก็สัมผัสได้ถึงแรงดันน้ำที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เขามองดูด้วยความสับสน ตัวละครท่าทางดุร้าย กับสายตาอำมหิตกำลังว่าน้ำเข้ามาทางนี้…
ฉลามขาวยักษ์! ฉลามขาวยักษ์ทั้งหมด!
คราวนี้เป็นฉินสือโอวที่กลัวจนฉี่แทบราดบ้างแล้ว เขาเคยดูถูกสติปัญญาของสัตว์จำพวกปลามาก่อน แต่เจ้าพวกนี้กลับไม่ได้ด้อยไปกว่าสิงสาราสัตว์ที่อยู่บนพื้นดินเลยแม้แต่น้อย เช่นเดียวกันกับฝูงหมาป่า ฝูงฉลามก็เชี่ยวชาญในการต่อสู้เป็นกลุ่มเช่นกัน!
ไม่ต้องพูดแล้ว รีบหนีเถอะ เขาเอาชนะฉลามขาวยักษ์ได้หนึ่งตัว แล้วจะเอาชนะพวกมันทั้งฝูงได้ไหม? ที่สำคัญคือ มันเปลืองแรงเสียเปล่า ไม่คุ้มค่ากันเลยสักนิด
ถ้าเทียบกันเรื่องความเร็ว ฉลามทั่วไปยังด้อยกว่าฉลามขาวที่ได้รับพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนอยู่มากนัก ฉินสือโอวสะบัดหางไม่กี่ครั้ง ก็ทิ้งห่างฉลามขาวยักษ์พวกนี้ไปจนไม่เหลือร่องรอย
แค่อึดใจเดียวก็ว่ายออกมาได้ไกลถึงสี่ห้ากิโลเมตร ฉินสือโอวมองไปรอบๆ อืม ไม่มีร่องรอยของฉลามขาวยักษ์แล้ว เขาปลอดภัยแล้ว
เขาลดความเร็วลงแล้วว่ายน้ำไปช้าๆ ปรากฏว่าไม่กี่นาทีต่อมา เขาก็ได้กลิ่นได้กลิ่นคาวเลือด
ฉลามมีความสามารถในการรับกลิ่นที่เร็วมาก ฉลามขาวก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าฉลามขาวยักษ์ ฉินสือโอวได้กลิ่นคาวเลือดอยู่ทางนี้ แต่ความจริงแล้วจุดที่ปลาตัวนั้นมีเลือดออก ยังอยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร
เดิมทีฉินสือโอวไม่คิดจะสนใจ แต่กลิ่นคาวเลือดก็ยิ่งรุนแรงขึ้นยิ่งกว่าเดิม นี่มีความเป็นไปได้อยู่แค่ไม่กี่อย่างถ้าไม่ใช่ฝูงปลาขนาดใหญ่ถูกล่า ก็คงเป็นปลาขนาดใหญ่สุดยอดที่ถูกล่า ไม่ว่าจะเป็นด้านไหน ฉินสือโอวก็รู้สึกสนใจทั้งนั้น
เขาลงมาในมหาสมุทรทำไม? ไม่ใช่เพื่อมาหาปลาเข้าไปในฟาร์มปลาหรอกเหรอ? ฝูงปลาหรือปลาใหญ่ ก็เป็นของดีทั้งนั้น
เขาหมุนตัวกลับไป ฉินสือโอวว่ายน้ำตามกลิ่นเลือดไปอย่างรวดเร็วด้วยความคึกคักดีใจ
แต่ปรากฏว่า พอเขาไปถึงที่ตรงนั้น เขากลับต้องจ้องมองด้วยสายตาโกรธแค้นทันที เฮงซวยจริงๆ เขาว่ายกลับมาทางเดิมอีกแล้ว! ใช่แล้ว ภาพที่อยู่ตรงหน้าของเขา ก็คือฝูงฉลามขาวยักษ์ฝูงนั้น!
แต่ว่าเหตุการณ์ตอนนี้แปลกไปนิดหน่อย ฝูงฉลามขาวยักษ์พวกนี้ทำร้ายพวกเดียวกันเองเสียอย่างนั้น กลิ่นคาวเลือดที่ฉินสือโอวได้กลิ่น ก็มาจากฉลามขาวยักษ์ตัวหนึ่งที่ติดอยู่ในอวนจับปลานั่นเอง
ฉลามตัวนั้นถูกอวนจับปลารัดไว้ มันดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง อีกทั้งฉลามขาวยักษ์ตัวอื่นๆ ก็ล้อมอยู่รอบด้านอย่างเย็นชา พอได้โอกาสก็จะเข้าไปกัดทึ้งมัน จนฉลามขาวยักษ์ตัวนั้นหลั่งเลือดออกมา เลือดสีแดงฉาน ย้อมจนผืนน้ำตรงนี้กลายเป็นสีแดง!
ฉินสือโอวสำรวจดู เขาพบว่าฉลามขาวยักษ์ที่ถูกอวนจับปลาพันไว้ก็คือตัวเดียวกันกับที่ถูกเขาตีแล้วจับนั่งเครื่องบินไปเมื่อก่อนหน้านี้ ตอนนี้มันไม่เพียงแต่จนตรอก แต่ยังสิ้นหวังอย่างน่ารันทด มันแทบจะถูกพวกเดียวกันรุมทึ้งกินอยู่แล้ว!
อาจจะเป็นเพราะจิตสำนึกแห่งโพไซดอน ฉินสือโอวจึงทนเห็นภาพเหตุการณ์ที่ฝูงปลาทำร้ายกันเองไม่ได้ อีกทั้งเขาก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่ฉลามขาวยักษ์ตัวนี้ต้องตกอยู่ในสภาพอับจนแบบนี้ด้วยเช่นกัน น่าจะเป็นเพราะเมื่อสักครู่ฉลามพวกนี้ไล่ตามเขา แต่ฉลามขาวยักษ์ถูกเขาซัดมาก่อนหน้านั้น ทำให้ว่ายน้ำตามไม่ทันทั้งยังมุดเข้าไปในอวนจับปลาแทน
ฉลามขาวยักษ์มีชื่อเสียงในเรื่องการเข่นฆ่าพวกเดียวกันเอง ฉินสือโอวเคยดูข่าวมาก่อน ตอนที่เรือประมงลำหนึ่งเก็บอวนจับปลาขึ้นมาก็พบว่าด้านในมีฉลามขาวยักษ์หนึ่งตัวที่ถูกกัดทึ้งจนตาย อีกทั้งเมื่อดูจากรอยฟันแล้ว ก็เป็นพวกเดียวกันกับมันนั่นเองที่เป็นผู้ลงมือ
ตอนนี้ ฉินสือโอวไม่ได้กำลังดูข่าว แต่เป็นโลกความจริงที่โหดร้าย…
เมื่อตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วแล้ว จิตสำนึกแห่งโพไซดอนของฉินสือโอวก็ระเบิดออกมาอีกครั้ง น้ำทะเลหมุนวนอย่างรวดเร็ว คลื่นแต่ละระลอกวนเข้าหากัน ฟองคลื่นที่กำลังคลุ้มคลั่งก็สาดเข้าใส่ร่างของฉลามขาวยักษ์ ทั้งยังค่อยๆ ก่อตัวเป็นคลื่นน้ำวนใต้ทะเลที่ม้วนเอาฉลามขาวยักษ์เข้าไปทั้งฝูง
ตามกระแสน้ำที่หมุนวนอย่างบ้าคลั่ง ฝูงฉลามขาวถูกพัดวนจนไม่รู้ทิศทางเหมือนกันกับพวกฉลามวัว ในตอนสุดท้ายฉินสือโอวปะทุอารมณ์ออกมา คลื่นทะเลก็สาดซัดอย่างเชี่ยวกราก พัดพาเอาฝูงฉลามขาวออกไปเช่นกัน
ฝูงฉลามขาวยักษ์จากไปแล้ว ที่ยังเหลืออยู่ก็คือฉลามขาวยักษ์ที่ถูกอวนจับปลารัดไว้จนใกล้จะหมดลมหายใจอย่างน่าเวทนาตัวนั้น ฉินสือโอวส่งพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนเข้าไป เขาว่ายวนอยู่สองรอบ ระหว่างนั้นก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะช่วยหรือไม่ช่วยมันดี
ช่วยชีวิตฉลามขาวยักษ์ทำได้ไม่ยาก แต่ฉินสือโอวกลัวว่ามันจะแก้แค้นเขาหลังจากที่เขาช่วยมันไว้แล้ว เขาไม่อยากจะเป็นเหมือนนายตงกัว[1] แล้วก็ไม่อยากเป็นเหมือนชาวนาที่ช่วยงูเห่าเอาไว้เช่นกัน
เขาดึงพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนกลับมา กำลังวังชาของฉลามขาวยักษ์ตัวนี้ฟื้นคืนมาบ้างแล้ว มันมองมาที่ฉินสือโอวอย่างน่าสงสาร แล้วขยับหางอย่างไร้เรี่ยวแรงอยู่สองครั้ง พยายามดิ้นรนพลิกตัวจนปรากฏให้เห็นหน้าท้องสีขาว
มองเห็นมันทำท่าทางแบบนี้ ฉินสือโอวก็คิดไปถึงตอนที่ได้เจอกับฉงต้าแรกๆ ในตอนนั้นเพื่อที่จะได้รับความเชื่อใจจากเขา ฉงต้าก็โชว์หน้าท้องของมันแบบนี้เหมือนกัน
คราวนี้ฉินสือโอวก็ใจอ่อนแล้ว เขาถอนหายใจออกมา แล้วใช้ฟันอันแหลมคนฉีกอวนจับปลาที่พันอยู่บนตัวฉลามขาวยักษ์จนขาดออกจากกัน
ฉลามขาวยักษ์สะบัดร่างกายไปพร้อมกัน แล้วจึงหนีออกมาจากอวนจับปลาที่ทบกันเป็นชั้นๆ ได้ในที่สุด
“ไปซะ ถ้าครั้งหน้ายังอวดเก่งใส่ฉัน ฉันจะจับแกขึ้นเครื่องบินเทียมอีก” ฉินสือโอวคิดอยู่เงียบๆ ในใจ แล้วหมุนตัวว่ายน้ำกลับไป
แต่ปรากฏว่า พอเขาเริ่มว่ายน้ำ ฉลามขาวยักษ์ก็ตามเขามาทันที หน้าตาฟกช้ำดำเขียว บาดแผลเต็มตัว แถมยังทำท่าทางเหมือนกันกับหนุ่มน้อย ตามมาด้านหลังเขาอย่างเชื่องๆ
ฉินสือโอวไม่อยากพามันกลับไป เขาใช้หางปัดไปที่ปากของมัน เพื่อให้มันว่ายน้ำหนีไป แต่แล้ว ฉลามขาวยักษ์ก็พลิกตัวโชว์หน้าท้องสีขาวอีกครั้ง…
เวรเอ๊ย ทำไมถึงเหมือนฉงต้าขนาดนี้ เป็นพวกขี้โกงเหมือนกันไม่มีผิด ฉินสือโอวตกตะลึงจนตาค้าง
เขามีวิธีที่จะสลัดมันออกไป เพียงขยับหาง เขาก็ว่ายน้ำพุ่งออกไปราวกับลูกธนู
ฉลามขาวยักษ์พยายามว่ายตามเขามาอย่างสุดชีวิต ทว่าว่าร่างกายของมันได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง และต่อให้ไม่ได้รับบาดเจ็บก็ยังตามฉินสือโอวไม่ทัน แค่ไม่กี่นาทีก็ถูกเขาทิ้งไว้ข้างหลังอย่างไม่เห็นฝุ่น
หลังจากสะบัดฉลามขาวยักษ์หลุดแล้ว ฉินสือโอวรู้สึกดีใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่พอเขาก็คิดๆ ดูอีกที ก็แอบกลับไปดูสถานการณ์อย่างเงียบๆ อย่าบอกว่าพอเขาช่วยฉลามขาวยักษ์ออกมาแล้ว กลิ่นเลือดก็ไปล่อฝูงฉลามมาจนเจ้านั่นถูกพวกนั้นทึ้งกินหรอกนะ
เขากลับขึ้นไปทางที่เขาเพิ่งว่ายน้ำผ่านมา ก็เห็นฉลามขาวยักษ์ทุ่มกำลังว่ายน้ำตามมาอย่างสุดชีวิต ดวงตาสีดำมองไปที่พี่ใหญ่ จมูกของมันงอนขึ้นเต็มที่ ดมกลิ่นที่ฉินสือโอวทิ้งเอาไว้แล้วว่ายตามไปอย่างไม่หยุด บนใบหน้าของมันไม่มีท่าทีดุร้ายหลงเหลืออยู่แล้ว เหมือนกับสุนัขที่ถูกเจ้าของทอดทิ้ง มันทั้งโดดเดี่ยวและสับสน
ฉินสือโอวเงยหน้าขึ้นไปบนฟ้าแล้วถอนหายใจออกมา เขาทำได้แค่ว่ายน้ำลงมา เมื่อเห็นเขาแล้ว ฉลามขาวยักษ์ก็ว่ายน้ำเข้ามาด้วยความตื่นเต้นดีใจทันที ดูแล้ว มันคงนับเขาเป็นลูกพี่แล้วล่ะ
ยากที่จะเลี่ยง ฉินสือโอวทุบตีมันก่อน จากนั้นก็ช่วยชีวิตมันไว้ ฉลามขาวยักษ์คงจะเลื่อมใสเขาอย่างถึงที่สุดแล้วล่ะ
เขาก็จนปัญญาในที่สุด ฉินสือโอวต้องพาฉลามที่มีขนาดใหญ่กว่าสิบสองสิบสามเมตรตัวนี้ไปด้วยแล้ว ชื่อก็ตั้งเรียบร้อยแล้วด้วย เรียกมันว่าเฮยป้าหวัง (ทรราชสีนิล) แล้วกัน ถึงมันจะไม่ได้มีท่าทางอย่างนั้นเลยก็ตาม
หลังจากออกเดินทาง ฉลามขาวยักษ์เฮยป้าหวังเป็นผู้นำทางแทนส่วนฉินสือโอวก็ตามอยู่ด้านหลัง ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้านี่จะพาเขาไปที่ไหน
ว่ายน้ำมาได้สิบกว่านาที โขดหินโสโครกที่ดูยุ่งเหยิงก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา เฮยป้าหวังก็ ‘ฟึบ’ แล้วมุดเข้าไป มันมีความสุขอย่างไม่มีอะไรมาเทียบได้ เห็นได้ชัดว่าที่นี่คือถิ่นของมัน
ฉินสือโอวที่ตามมาด้านหลังอย่างไร้ชีวิตชีวา เมื่อมาถึงเขตโขดหินโสโครกพอเบิกตามอง ตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที…
…………….…………………………………..

[1] นายตงกัว จากนิทานนายตงกัวที่เก็บหมาป่ามาเลี้ยงแต่สุดท้ายก็ต้องตกอยู่ในอันตรายเพราะหมาป่า

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset