ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 314 ถูกที่ถูกทาง

ปาร์ตี้น้ำชาก็คืองานชุมนุมที่คนหมู่มากมาทำความรู้จักกัน และงานเลี้ยงตอนเย็นก็เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ และสร้างความประทับใจให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
สิบสองคนต่อหนึ่งโต๊ะ โต๊ะทั้งยี่สิบกว่าตัวในภัตตาคารล้วนแต่เป็นชาวจีนที่มาเข้าร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้
งานดินเนอร์ของสมาคมช่วยเหลือคนแคนาดาเชื้อสายจีนและชาวจีนโพ้นทะเลมีบรรยากาศดีมาก ผู้ที่มาเข้าร่วมงานไม่ได้มีเพียงแต่เจ้าของห้างร้าน นักธุรกิจที่ร่ำรวย หรือนักการเมืองท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังมีคนธรรมดาทั่วไป ไปจนถึงกระทั่งแรงงานข้ามชาติจากจีนที่เข้ามาทำงานในแคนาดา
จุดประสงค์ของงานก็คือ คนจีนสามัคคีกลมเกลียว คนจีนช่วยเหลือกันและกัน คนจีนทั้งหมดพร้อมใจพัฒนา นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำขวัญเท่านั้น ในที่แห่งนี้มีนักธุรกิจชาวกว่างตงที่เพิ่งจะซื้อโรงงานผลิตกระดาษแห่งหนึ่งได้พูดคุยตกลงกันกับหัวหน้าคนงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบส่งออกแรงงาน โดยที่ทางโรงงานจะให้สิทธิพิเศษพิจารณาคนงานจากจีนที่เขาเป็นคนแนะนำเข้ามาเป็นอันดับแรก
ฉินสือโอวเองก็อยากจะฝึกการแสดงออกบ้าง แต่เมื่อคิดดูดีๆ แล้วสิ่งที่ฟาร์มปลาต้องการล้วนแต่เป็นชาวประมงที่มีความชำนาญ อีกทั้งอำนาจของคนพวกนี้ยังใช้ที่เมืองแฟร์เวลไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลที่จะล้มเลิกความคิดเรื่องการประจบประแจงคนพวกนี้
คุณูปการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขามีต่องานนี้ ก็คือการนำหอยเบี้ยสีทองมาเป็นสินค้าเพื่อการประมูล
เปลือกหอยสมบัติถูกทำให้เป็นสินค้ารายการสุดท้าย ก่อนหน้านั้นล้วนแต่เป็นของประมูลทั่วๆ ไป ก็เหมือนกับที่เอี๋ยนตงเหล่ยได้บอกไว้ คุณจะนำตัวอักษรพู่กันจีนที่เขียนเองหรือรูปที่ลูกของคุณวาดมาเป็นสินค้าประมูลก็ได้ทั้งนั้น
ฉินสือโอวย่อมไม่สนใจสินค้าประมูลพวกนี้อยู่แล้ว แต่เมื่อมาถึงช่วงกลางของงานก็มีพ่อค้าแร่เงินคนหนึ่งที่นำกระดิ่งคู่หงส์เคียงมังกรมาเสนอ ทำให้เขารู้สึกสนใจมากทีเดียว
สำหรับกระดิ่งหงส์เคียงมังกร ฉินสือโอวมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แค่ละครเรื่อง ปักกิ่งเลิฟสตอรี่เท่านั้น ในละครผู้ชายอบอุ่นอย่างอู๋ตี๋ซื้อกระดิ่งมาหนึ่งคู่หลังจากนั้นก็ก่อให้เกิดเรื่องราวน้ำเน่าขึ้นมา ในตอนต้นก็จะแนะนำระฆังคู่นี้ก่อน ว่าเป็นเครื่องรางความรักของหนุ่มสาวยูนนาน
กระดิ่งหงส์เคียงมังกรคู่นี้เป็นของทำมือแท้ๆ พิธีกรจับกระดิ่งทั้งคู่ให้แยกกันสั่น มันก็จะส่งเสียงที่ไม่เหมือนกันออกมาสองแบบ แต่ตอนที่มันอยู่ด้วยกัน ก็จะสามารถส่งเสียงแบบที่สามออกมาได้ น่ามหัศจรรย์มาก
ฉินสือโอวเห็นว่าวินนี่ชอบ จึงร่วมประมูลกระดิ่งคู่นี้
ผู้ที่มาเข้าร่วมการประมูลครั้งนี้ส่วนมากเป็นคนวัยกลางคน ล้วนแต่แต่งงานมีลูกกันหมดแล้ว พวกเขาย่อมไม่สนใจของชิ้นเล็กที่เกี่ยวกับความรักแบบนี้
ดังนั้น เมื่อฉินสือโอวตะโกนเสนอราคาห้าพันหยวนให้กับของที่มีราคาประมูลเริ่มต้นที่หนึ่งพันห้าร้อยหยวนออกไป พวกเขาก็รู้แล้วว่าฉินสือโอวต้องการชนะการประมูลกระดิ่งคู่นี้ จึงไม่ได้จริงจังกับมันนัก แล้วปล่อยให้เขาประมูลมันไปได้อย่างง่ายดาย
ในตอนสุดท้ายหอยเบี้ยสีทองก็ถูกนำขึ้นเวที เมื่อหอยสมบัติสีแดงสวยสดปรากฏตัวขึ้น บรรยากาศอบอุ่นในห้องอาหารที่ถูกสร้างไว้เมื่อก่อนหน้านี้ก็ตึงเครียดขึ้นมาทันที
หลังจากที่พิธีกรประกาศราคาขั้นต่ำห้าพันหยวนออกมา เถ้าแก่หลายคนที่ชอบของสะสมก็เริ่มแข่งกันเสนอราคาทันที จากราคาขั้นต่ำก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึงสิบเท่าจนมีราคาถึงห้าหมื่น สุดท้ายตกลงราคาขายอยู่ที่เจ็ดหมื่นสองพัน กลายเป็นสินค้าประมูลที่มีราคาสูงที่สุดในงาน และถูกศาสตราจารย์จากโทรอนโตคว้าไป
เงินจำนวนนี้ก็ถูกนำเข้าสู่กองทุนช่วยเหลือเช่นกัน เอี๋ยนตงเหล่ยมอบเกียรติบัตรสีแดงสดให้กับฉินสือโอว ถ้าใช้เกียรติบัตรอันนี้ เขาจะสามารถดำเนินการกู้เงินดอกเบี้ยต่ำได้ถึงห้าแสน
สำหรับฉินสือโอวแล้ว นี่เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์แห่งเกียรติยศเท่านั้น เงินห้าแสนไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับเขา ซื้อลูกพันธุ์ปลาหนึ่งล็อตก็มากกว่าห้าแสนแล้ว
แต่แน่นอนว่า เกียรติบัตรใบนี้ก็ยังมีข้อดีอยู่หนึ่งอย่าง เจ้าของโรงแรมวินสตัน วูดเดน โบ๊ทใจป้ำ ยกเว้นค่าที่พักให้พวกเขา ทั้งยังให้พักอยู่ที่นี่ได้นานเท่าไรก็ได้
พอนึกถึงกิจกรรมที่จะได้ทำตอนนอนร่วมเตียงกันในคืนนี้ ฉินสือโอวก็ตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหว แต่ปรากฏว่าขณะที่เขากำลังดีใจสุดขีดก็เกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้นแทน เพื่อนร่วมชาติของเขาล้วนแต่ชื่นชอบการรินเหล้าเพื่อเป็นเกียรติ พวกเขาอยากจะคบค้าสมาคมกับฉินสือโอวอย่างถึงที่สุด ดังนั้นจึงเข้ามาชนแก้วกับเขาอย่างไม่ขาดสาย
ด้านฉินสือโอวเองก็ยินดี เขาดื่มไปหลายแก้วอย่างเลี่ยงไม่ได้ แก้วแล้วแก้วเล่า สุดท้ายเกิดอะไรขึ้นบ้าง เขาเองก็ไม่รู้เช่นกัน แต่เมื่อตื่นมาตอนเช้า ตัวเขาก็นอนเปลือยกายอยู่บนเตียง ส่วนวินนี่ยอดดวงใจกลับไม่อยู่ตรงนี้…
เปิดผ้าม่านออกมองดูแสงอาทิตย์สดใสที่อยู่ด้านนอก ฉินสือโอวก็ตีตัวเองเบาๆ หนึ่งที แล้วด่าตัวเองว่า “แกนะแก ไอ้เวรเอ๊ยแกนี่ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ ! ดื่มทำไม? เมื่อคืนนี้แกดื่มเข้าไปทำไม? ชีวิตนี้ไม่เคยเห็นเหล้ามาก่อนเหรอ? โอกาสดีขนาดนี้แท้ๆ พลาดไปได้ยังไง!”
‘แก๊ก’ ประตูถูกผลักออกมา วินนี่ถือเอาถาดหนึ่งอันเข้ามาในห้อง เห็นฉินสือโอวทำหน้าเศร้าซึม เธอก็กลั้นยิ้มไว้ไม่ได้ “เช้าขนาดนี้คุณแก้ผ้ายืนติดหน้าต่างทำไมคะ? จะโชว์ว่าตัวเองหุ่นดีเหรอ?”
ฉินสือโอวไม่มีคำพูดที่จะแสดงออกถึงความเศร้าของตัวเองเลยจริงๆ เหมือนหมีดำที่พ่ายแพ้การต่อสู้ เขานั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่บนโซฟา ใช้มือปิดหน้าไม่พูดไม่จาอยู่อย่างนั้น
วินนี่นั่งลงข้างๆ เขา เธอยื่นนมสดกับโดนัทแล้วถามเขาว่า “คุณเป็นอะไรคะ? มาค่ะ ทานอะไรหน่อยนะ ฉันคิดว่าคุณน่าจะตื่นตอนหกโมงเช้า ก็เลยตั้งใจลงไปเอาอาหารมาให้คุณ”
“ผมกินไม่ลง”ฉินสือโอวพูดพึมพำเสียงต่ำ
วินนี่ตีหน้าขรึม แล้วแกล้งถามอย่างโกรธเคือง “นี่เป็นอาหารเช้าที่มาจากความรักของฉัน แต่คุณบอกว่ากินไม่ลงเหรอคะ?”
พอฉินสือโอวได้ยินอย่างนี้ ก็รีบรับนมวัวมาดื่มลงไปหนึ่งอึก พอทานมื้อเช้าเขาก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาบ้างแล้ว เขามองไปที่วินนี่ แล้วถามเธอด้วยความคาดหวัง “ที่รักครับ เมื่อคืนนี้ ผมไม่ได้ทำอะไรคุณใช่ไหม?”
วินนี่นับนิ้วด้วยใบหน้าจริงจังแล้วพูดกับเขาว่า “ทำหลายอย่างเลยล่ะค่ะ คุณทับตัวฉัน คุณกอดฉัน คุณจูบฉันด้วย…”
ฉินสือโอวตาเป็นประกายขึ้นมาทันที เขาถามเธอด้วยความรู้สึกฮึกเหิมว่า “ผมทำแบบนั้นเหรอ?”
วินนี่ส่งยิ้มพราวเสน่ห์แล้วพูดกับเขาว่า “คุณต้องทำแบบนั้นอยู่แล้ว ฉันประคองคุณ ตัวคุณเลยแนบทับกับตัวฉัน ฉันเหนื่อยแทบตายแน่ะ หลังจากนั้นคุณก็กอดฉัน ฉันลากคุณมา ถึงจะพาคุณมาที่เตียงได้ สุดท้ายคุณก็จูบราตรีสวัสดิ์ แล้วก็นอนหลับไปแบบว่าง่ายๆ”
ฟังวินนี่พูดจบ ฉินสือโอวก็ตะลึงจนตาค้าง แล้วถามเธออย่างทึ่มๆ ว่า “หมดแล้วเหรอ?”
วินนี่หน้าแดง เธอก้มหน้ายักไหล่ แล้วพูดขึ้นมาว่า “หมดแล้วค่ะ”
“แล้วเสื้อผ้าผมล่ะ? ใครเป็นคนถอด?”
“ไม่รู้สิคะ คุณถอดเองหรือเปล่า”
“เป็นไปไม่ได้ ผมเมาทีไรก็ไม่เคยถอดเสื้อนอนเลย! คุณเป็นคนถอดแน่ๆ ต้องใช่แน่! คุณต้องรับผิดชอบผม!”
“ไม่ใช่นะ ฉันไม่ถอดเสื้อผ้าคุณหรอก อาจจะเป็นพนักงานก็ได้นะคะ คิกๆ ”
“ไม่ได้ คุณต้องรับผิดชอบผม!”
พอฉินสือโอวพูดจบ ก็ทิ้งโดนัทที่กัดไปแล้วครึ่งหนึ่ง แล้วโผเข้าหาวินนี่ แพะหายแล้วต้องล้อมคอก เมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้น งั้นเช้านี้ก็ชดเชยมันซะเลย!
………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset