ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 339 รสชาติแห่งความสุข

เมื่อพูดถึงการทำปลารมควัน ฉินสือโอวก็นึกถึงปลาทูน่าครีบน้ำเงินขึ้นมา ปลาชนิดนี้เหมาะที่จะทำปลารมควันเป็นอย่างมาก เนื้อปลานั้นทั้งแน่นและนุ่ม ก้างปลาก็มีไม่กี่ชิ้นเท่านั้น ให้แม่นำปลาที่ถูกหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วเอาไปรมควันให้เรียบร้อย จากนั้นก็นำไปทอดไว้เป็นอาหารเช้าในช่วงฤดูหนาว ไม่ต้องสวยงามมากก็ได้
ฉินสือโอวให้นีลเซ็นให้ขับเรือยอชต์ไปยังน่านน้ำลึกครู่หนึ่ง เขาเตรียมที่จะตกปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ผลที่ได้คือพ่อของเขาและคนอื่นๆ สนุกสนานกันอย่างมาก ฉินสือโอวมองดูโทรศัพท์มือถือที่บอกเวลาว่าตอนนี้ห้าโมงเย็นกว่าๆ เมื่อคำนวณเวลากลับฝั่งเข้าไปแล้ว น่าจะได้ทานอาหารเย็นช่วงประมาณหนึ่งทุ่มกว่า
พ่อของฉินสือโอวได้เข้ามาหยุดการตกปลาของเขา โดยพูดขึ้นว่า “พวกเรากลับกันก่อนเถอะ ปลาที่ตกได้วันนี้น่าจะพอสำหรับทำอาหารแล้วล่ะ”
ในถังน้ำแข็งนั้นเต็มไปด้วยปลาตัวใหญ่หลายตัว รวมทั้งหมดราวสามสิบกว่าตัว มีปลาค็อดสิบตัว ปลาซาบะและปลาแฮร์ริ่งรวมกันอีกสิบกว่าตัว นอกนั้นเป็นปลาจำพวกปลากะพงทะเล ปลาลิ้นหมา ปลาแซลมอนแปซิฟิกและปลาเหล็กใน จัดวางเรียงกันแต่ละชนิด
ฉินสือโอวมองไปยังท้องฟ้าที่เริ่มมืด จากนั้นจึงสั่งให้นีลเซ็นหมุนเรือกลับฝั่ง
เรือยอชต์แล่นไปช้าๆ ฉินสือโอวนอนอยู่ที่ท้ายเรือนอนดูดาวกับวินนี่ วินนี่ที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของเขา จู่ๆ ก็หัวเราะขึ้นมา
ฉินสือโอวแอบลูบเนินหน้าอกของเธอเบาๆ วินนี่จึงตีเข้าไปที่มือใหญ่ทันที พลางพูดขึ้นมาอย่างโมโหว่า “คุณอย่าทำตัวรุ่มร่ามสิ คุณลุงคุณป้าอยู่ด้านหลังพวกเรานะ”
“คุณหัวเราะอะไรน่ะ?” ฉินสือโอวเปลี่ยนเรื่อง อันที่จริง หากถูกพ่อกับแม่จับได้ เขาก็คงจะรู้สึกทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน
เมื่อได้ยินคำถามของเขา วินนี่ก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง หลังจากนั้นก็หันไปมองฉินสือโอวด้วยแววตาลึกซึ้ง พลางพูดขึ้นว่า “ฉันรู้สึกว่าพ่อแม่ของคุณชอบฉัน พวกเขาจะต้องรับฉันเป็นลูกสะใภ้แน่ๆ”
ฉินสือโอวจูบเบาๆ ลงไปบนริมฝีปากสีเชอร์รีแดงเข้มเบาๆ แล้วยิ้มออกมา “มีใครไม่ชอบคุณด้วยเหรอ? วินนี่ แม่บอกกับผมว่า คุณจะต้องเป็นภรรยาที่ดี และเป็นแม่ที่ดีแน่นอน”
“และก็เป็นสะใภ้ที่ดีด้วย” วินนี่เสริม
เมื่อถึงบ้านพัก พวกเขาก็ไปยังห้องครัวทันที เมื่อเห็นว่าพ่อแม่กับแม่ของเขารออยู่ในห้องครัวก่อนแล้ว ฉินสือโอวจึงโบกมือไปมาพร้อมพูดขึ้นว่า “พ่อแม่ ผมจะให้พ่อกับแม่ทำอาหารได้ยังไง? ให้ผมกับวินนี่ทำเถอะครับ”
พ่อแม่ของฉินสือโอวนั้นเป็นคนจีนรุ่นเก่าที่ดื้อดึงและขยันทำงาน คนแก่ทั้งสองดันลูกชายตัวเองออก แล้วตอบกลับท่าทีอารมณ์ไม่ดีว่า “อย่างแกน่ะเหรอ? ให้กลับไปเรียนอีกสักสองปีออกมาก็ยังคงทำให้ขายขี้หน้าอยู่ดี อาหารเย็นมื้อนี้ให้พ่อแม่แม่ทำเถอะ แต่ว่าอาหารทะเลแกเป็นคนทำนะ พ่อกับแม่ทำไม่ได้จริงๆ ”
พี่สาวที่พาเสี่ยวฮุยไปเก็บผักสดในสวนผัก เมื่อกลับเข้าบ้านมาก็พูดขึ้นมาด้วยความประหลาดใจว่า “ผักที่แคนาดานี้แปลกเสียจริง นี่เดือนสิบแล้ว แต่มะเขือยาวยังอ่อนอยู่เลย ทุกคนดูถั่วฝักยาวและถั่วแขกนี้สิ หักนิดเดียวก็มีน้ำออกมาแล้ว”
ความสามารถของโพไซดอนนั้นเป็นสิ่งที่ดี มันทำให้ผักต่างๆ นั้นมีอายุที่ยาวนานมากขึ้น ดังนั้นแม้ว่าจะเข้าฤดูใบไม้ผลิแล้ว แต่คื่นช่ายก็ยังคงเขียวชอุ่ม มะเขือเทศก็ยังคงเป็นสีแดงสด ถั่วฝักยาวยังคงเลื้อยเต็มราวไม้ และแตงกวาก็ยังคงมีน้ำมาก
ซีมอนสเตอร์เข้าไปในเมืองเพื่อซื้ออาหารทะเลพวกปูราชินีและเมนล็อบสเตอร์กลับมา ของทะเลพวกนี้มีในฟาร์มปลาเช่นกัน แต่ว่าตอนบ่ายที่ออกไปตกปลานั้น เขาไม่สะดวกที่จะจับพวกปูและหอยกูอีดั๊ก ฉินสือโอวจึงถือโอกาสเข้าไปซื้อในเมืองแทน
ชาร์คเริ่มจุดเตาย่างตามปกติที่เขาทำและเริ่มทำการย่างบาร์บีคิวตามเเบบฉบับของชาร์ค ฉินสือโอวเข้าไปในฟาร์มแล้วจับหมูป่าออกมาตัวหนึ่ง พ่อของเขารู้จักสัตว์ชนิดนี้ เมื่อเห็นเจ้าลูกหมูแววตาของเขาก็เป็นประกาย “หึ หมูป่า ของดีนี่”
ฉินสือโอวตอบกลับว่า “พ่อ พ่อต้องชอบแน่ สองวันก่อนพวกเราไปออกไปล่าหมูกับกวางมาบนภูเขา บนภูเขาลูกนี้เป็นที่อยู่ของพวกมัน”
“ช่างเถอะ พ่อแกน่ะถ้ายังเอาตัวเองไปล่ากวางล่าหมูป่าอีก ไม่โดนหมูป่าไล่กลับก็ดีแล้ว” แม่ของเขาไม่ลืมที่จะพูดขัดออกมา
พ่อของเขาหัวเราะหึๆ ในขณะที่มือของตัวเองกำลังช่วยฉินสือโอวปรุงอาหารจากเนื้อหมูป่าจำนวนหนึ่ง ส่วนหนึ่งของเนื้อหมูป่านำไปย่างและอีกส่วนนำไปผัด แล้วพูดกับเนื้อหมูป่าในใจว่า ‘ฉันเอาน้ำมันหมูจากหมูบ้านจากที่บ้านมาพอดี ถ้าใช้น้ำมันนั้นทำอาหาร จะต้องอร่อยมากแน่นอน’
ฉินสือโอวสอนพ่อใช้แก๊ส รอจนพ่อของตัวเองใช้เป็น เขาก็ไปจัดการกับอาหารทะเล
สิ่งที่ดีที่สุดในแคนาดาอย่างหนึ่งก็คือการที่รัฐบาลใส่ใจการดำรงชีวิตของประชาชนเป็นพิเศษ เช่นการวางท่อส่งแก๊สและท่อน้ำประปา ฟาร์มปลานั้นอยู่ห่างจากเมืองเล็กๆ ไม่ไกลมาก แต่รัฐบาลยืนยันที่จะจัดการเรื่องการวางท่อให้ทั้งหมด พวกเขาจะไม่ยอมให้ผู้ที่เสียภาษีรู้สึกได้รับความไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะฟาร์มปลาที่ถือว่าเป็นผู้เสียภาษีรายใหญ่
เนื้อหมูป่าแต่ละชิ้นที่ย่างในระดับมีเดียมแรร์ หากใครอยากจะกินก็ค่อยนำมาย่างให้สุกอีกครั้ง แบบนี้จะช่วยรักษาอุณหภูมิและประหยัดเวลามากขึ้น
ปลาลิ้นหมาตัวหนึ่งถูกนำไปนึ่ง ส่วนอีกตัวนั้นถูกนำไปย่าง ฉินสือโอวใช้สาเกสำหรับทำอาหารผสมเข้ากับพริก มะแข่น ซีอิ๊วขาวและซีอิ๊วดำหมักปลาทั้งสองตัว
ส่วนปูนั้นแค่ใช้หัวหอมใหญ่และขิงแผ่นวางไว้ในหม้อนึ่งก็ใช้ได้แล้ว อาการเบื่ออาหารของเสี่ยวฮุยนั้นหายไปทันที เขายืนมองอยู่ฝามองนึ่งที่ใช้นึ่งปูตัวใหญ่ตัวเล็กมากมายมีน้ำไหลออกมาจากฝาหม้ออยู่ในห้องครัว
ซีมอนสเตอร์เอาเมนล็อบสเตอร์ตัวใหญ่ๆ มาทั้งนั้น ตัวหนึ่งมีน้ำหนักน้อยที่สุดสองกิโลกรัม พวกเขาใช้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวในการซื้อเมนลอบสเตอร์ เพราะว่าเจ้าเมนล็อบสเตอร์นี้ไม่เคยมีขายในเกาะแฟร์เวลมาก่อน แม้จะเป็นการซื้อขายแบบยกลังก็ตาม กุ้งมังกรหนักสองกิโลกรัมหนึ่งตัวราคาอย่างต่ำอยู่ที่แปดสิบดอลลาร์แคนาดา ชาวเมืองที่ไม่ได้มีธุรกิจร่ำรวยไม่สามารถซื้อพวกมันได้เลย
แต่ว่า พวกนักท่องเที่ยวนั้น ยินดีที่จะจ่ายเงินให้กับอาหารที่ทำจากกุ้งมังกรในร้านอาหารดีๆ ที่ราคาเจ็ดถึงแปดร้อยดอลลาร์แคนาดา ทำให้สินค้าขาดตลาด
ซีมอนสเตอร์ไปซื้ออาหารทะเลจากร้านอาหารของคุณลุงฮิคสัน เขาจึงรู้ว่าครอบครัวหลานชายของฉินหงเต๋อนั้นอยู่ที่นี่ คุณลุงฮิคสันนำอาหารทะเลที่ดีที่สุดของทางร้านออกมาให้ รวมถึงเพรียงตีนเต่าที่พึ่งจับมาเมื่อไม่กี่วันก่อนอีกด้วย
“บอกฉินสือโอวนะว่าวันนี้ลูกค้าของฉันค่อนข้างเยอะ คงจะไปหาไม่ได้ พรุ่งนี้ฉันจะไปเยี่ยมพวกเขาแทน” คุณลุงฮิคสันฝากซีมอนสเตอร์ไปบอกฉินคนพ่อ
“ลุงมาอยู่ที่นี่ เมื่อดูจากสองสามวันที่ผ่านมาก็ใช้ชีวิตได้ดีไม่ติดขัดอะไร แต่น่าเสียดายที่ลุงเหมือนกับพ่อของตัวเอง เป็นคนแก่ที่หัวดื้อล่ะนะ” ฉินคนพ่อถอนหายใจออกมา แล้วทำอาหารต่อด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
สำหรับปู่รองที่เขาเคยได้ยินแต่ชื่อไม่เคยเจอหน้านั้น ฉินสือโอวมักรู้สึกเกิดความสงสัยขึ้นตลอดเวลา เมื่อเห็นสีหน้าของพ่อตัวเอง เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเรื่องนี้มีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ ฉินสือโอวเกิดความสนใจขึ้นมาทันที เขาจึงเดินตามพ่อของตัวเองไปเพื่อถามเกี่ยวกับเรื่องนี้
ในขณะที่ฉินคนพ่อกำลังเตรียมทำเนื้อผัดพริก เขาก็เรียกให้ฉินสือโอวไปอยู่อีกด้านหนึ่ง แล้วพูดออกมาว่า “เมื่อก่อนน่ะ พ่อไม่ค่อยเข้าใจอะไรมาหรอกนะ แต่ว่าพ่อเคยได้ยินย่าแกพูดให้ฟังบ้างบางครั้ง ปู่ทั้งสี่คนของแกนอกจากปู่แท้ๆ ที่เป็นพ่อของพ่อแล้วน่ะ คนที่เหลือก็เป็นคนที่สุดยอดอย่างมาก หากใช้คำที่เขาพูดกันในปัจจุบัน ก็คงบอกได้ว่าพวกเขาเป็นตำนาน
“ผมมีปู่สี่คนงั้นหรือ? ทำไมตั้งแต่เด็กผมไม่รู้เรื่องนี้เลยล่ะ?” ฉินสือโอวถามกลับพร้อมกับตาที่เบิกกว้างขึ้น
พ่อของเขาส่ายหัวไปมา และไม่ได้พูดอะไรอีก
การคำนวณเวลาก่อนหน้านี้ถือว่าทำได้ไม่เลว เมื่อถึงเวลาหนึ่งทุ่มครึ่ง ท้องฟ้าก็ได้มืดสนิทแล้ว ได้เวลาที่พวกเขาจะทานอาหารเย็นพอดี
ในช่วงฤดูนี้หากว่านั่งทานอาหารเย็นที่สวนจะทำให้หนาวไปหน่อย ยังดีที่ห้องอาหารในบ้านนั้นค่อนข้างใหญ่ เมื่อไฟทุกดวงถูกเปิด ที่นั่งได้ถูกวางตำแหน่งเรียบร้อย พวกเด็กๆ เข้ามาแล้วร้องเล่นกันไปมาอย่างสนุกสนาน จนเมื่อพวกผู้ใหญ่เริ่มเสิร์ฟอาหาร ก็เป็นการบ่งบอกให้ทุกคนเตรียมตัวทานอาหาร
อาหารจานหลักในมื้อนี้คือแผ่นไข่ทอดที่ทอดจากกระทะไฟฟ้าฝีมือของแม่ฉินสือโอว แผ่นไข่ทอดพวกนั้นถูกโรยด้วยหัวหอมสีขาวสลับเขียวที่ด้านบน แม่ของเขายังทำแผ่นไข่ทอดไว้อีกหลายแบบ มีทั้งแบบที่ทาด้วยน้ำเชื่อมสีขาวราวกับคริสตัล ทาด้วยซอสพริกสีแดงดูเผ็ดร้อน และทาด้วยซอสหวานสีน้ำตาล ที่มีกลิ่นหอมเตะจมูก
วินนี่และพี่สาวช่วยกันเสิร์ฟอาหาร อาหารเหล่านี้เป็นอาหารง่ายๆ ที่ทำกันขึ้นมาเอง แต่ว่าอุดมสมบูรณ์อย่างมาก
ของร้อนแปดอย่างของเย็นแปดอย่างพวกกับซุปสี่ถ้วย ที่มีทั้งซุปลูกชิ้นเนื้อ ซุปเนื้อตุ๋นมะเขือเทศ ซุปไก่ตุ๋นเห็ดหอม และซุปปลาเพิร์ช
เมื่อเห็นอาหารมากมายแบบนี้ ชาร์คกับนีลเซ็นและคนอื่นๆ ต่างก็หยิบมือถือของตัวเองออกมาถ่ายรูป พลางอุทานออกมาว่า “พระเจ้า ผักที่อยู่ในสวนไม่กี่ชนิด สามารถทำอาหารได้มากมายขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?”
“บอสครับ ผักจากเทศกาลผักครั้งที่แล้ว ผมคิดว่านั่นคือสุดขีดจำกัดของพวกมันแล้วเสียอีก ที่แท้ผมก็ตื่นตระหนกไปเอง”
“เมื่อก่อนตอนที่ฉันอยู่ที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ มีพี่ชายพ่อครัวชาวจีนคนหนึ่งพึ่งย้ายมา ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่ฉันก็ได้เห็นความมหัศจรรย์ของอาหารจีน ขอบคุณพระเจ้าที่วันนี้ทำให้ได้เห็นมันอีกครั้ง”
“กินข้าว กินข้าว! อีวิลสันหิวแล้ว!”
เมื่ออาหารมาเสิร์ฟจนเต็ม ทุกคนต่างก็นั่งประจำที่แล้ว เหล่าสุนัขและฉงต้าก็เบียดเข้ามาด้วยเช่นกัน วินนี่จึงหยิบจานข้าวของพวกมันมาวางไว้ที่ใต้โต๊ะ เด็กๆ ต่างพากันล้อมวงเข้ามา รอเวลาทานอาหารเย็นอย่างมีความสุข
ฉินสือโอวหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปภาพบรรยากาศทั้งหมด นี่สินะรสชาติแห่งความสุข
………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset