ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 350 กล่องในห้องโดยสารเรือ

ฉินสือโอวเข้าเว็บไซต์บ้านของเรืออับปางโดยตรง นี่เป็นเว็บบอร์ดเกี่ยวกับเรืออับปางที่ดีที่สุด มีประโยชน์มากกว่ากูเกิลอีก ข้อมูลมีความถูกต้องแม่นยำมากกว่ารายงานของสื่อขนาดใหญ่อีก ข้างในนี้มีข้อมูลที่เรียบเรียงโดยบริษัทเก็บกู้ซากเรืออับปางมืออาชีพเป็นจำนวนมาก
ถ้ามีเงินทำอะไรก็สะดวก เว็บไซต์บ้านของเรืออับปางต้องการทำกำไร จึงมีการกำหนดระบบสมาชิกธรรมดา สมาชิกวีไอพีและสมาชิกซูเปอร์วีไอพี ฉินสือโอวสมัครสมาชิกซูเปอร์วีไอพีทันที ค่าสมาชิกรายปีคือ 3650 ดอลลาร์สหรัฐ
เพียงเท่านี้เขาก็สามารถค้นดูข้อมูลเกือบทั้งหมดได้ นอกจากนี้ เขายังสามารถรับบริการทั้งหมดของเว็บบอร์ดได้ อย่างเช่น ค้นหาโดยเรียงลำดับข้อมูลจากระดับความสำคัญของข้อมูลที่ทีมงานเว็บบอร์ดกำหนดเอาไว้
สำหรับซากเรืออับปางธรรมดา เว็บบอร์ดนี้ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากมาย แต่สำหรับเรือไททานิกแล้วมีประโยชน์อย่างมากเลยล่ะ ข้อมูลของมันแทบจะเยอะที่สุดในบรรดาเรืออับปางทั้งหมดเลย
เปิดไฟล์ข้อมูลที่มีสัญลักษณ์สำคัญที่สุดกำกับไว้ นี่เป็นไฟล์ PDF ขนาด 120M ข้างในมีรูปภาพจำนวนมาก ข้อมูลชุดนี้ถือได้ว่าเป็นไฟล์เก็บข้อมูลเรือไททานิกเลย
ไฟล์ข้อมูลนี้ทำการแนะนำซากเรือลำนี้ในทุกๆ ด้าน หนึ่งในนั้นก็มีเรื่องของการเก็บกู้ด้วย และในส่วนนี้มีการเขียนเปิดหัวอย่างนี้
‘เริ่มตั้งแต่ปี 1996 เรือลำนี้ได้ถูกเก็บกู้โดยบริษัทเก็บกู้มากมายและนักประดาน้ำหลายท่าน แต่เนื่องจากตัวเรือผุกร่อนอย่างรุนแรงบวกกับตอนที่ประสบภัยทางทะเลตัวเองก็ได้ถูกทำลายอย่างรุนแรง ดังนั้น นักเก็บกู้จึงทำได้เพียงแค่ทำการเก็บกู้รอบนอกตัวเรือเท่านั้น แต่สำหรับส่วนใจกลางเรือเช่น ห้องกัปตันเรือ ห้องโดยสารชั้นหนึ่ง ห้องเก็บสัมภาระและห้องเก็บของต่างๆ ยังไม่มีคนเก็บกู้ได้สำเร็จ’
ฉินสือโอวดีใจเมื่อเห็นประโยคนี้ ดูเขาต่อไป เขาไม่ได้แค่ดีใจแต่คือดีใจจนจะบ้าแล้ว
เรือไททานิกเป็นซากเรือลำหนึ่งที่มีมูลค่าเป็นที่สุด ตอนนั้นมันบรรทุกเศรษฐีชาวอเมริกาและชนชั้นสูงชาวอังกฤษจำนวนมาก คนพวกนี้มีคนจำนวนมากที่อพยพจากอังกฤษไปยังแผ่นดินใหม่ ดังนั้นต่างก็พากันมาทั้งลูกเล็กเด็กแดง บนเรือมีทรัพย์สินสมบัติมากแค่ไหนคงไม่อาจนับได้
แต่ว่า ข้อมูลชุดนี้มีการบันทึกถึงการประมูลสมบัติที่เก็บกู้ขึ้นมาจากเรือไททานิกไว้ครั้งหนึ่ง ตอนนั้นมีของประมูลจำนวนทั้งหมด 5500 ชิ้น รวมถึงเครื่องปั้นดินเผาที่ประณีต ชุดถ้วยชามเงินและซากเรือหนัก 17 ตันที่มีหน้าต่างของห้องผู้โดยสารที่สมบูรณ์
มูลค่าที่ได้จากการประมูลในครั้งนั้น เป็นเงินทั้งสิ้น 18900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เวลานั้นคือปี 2005 ตามอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐต่อเงินหยวนในตอนนั้นบวกกับอัตราเงินเฟ้อปีละ 2% การประมูลครั้งนี้น่าจะได้เงิน 2 หมื่นล้านหยวนเลย!
และนี่ยังเป็นเพียงมูลค่าของสมบัติรอบนอกเรือไททานิกเท่านั้น!
หลังทำความเข้าใจแล้ว ฉินสือโอวก็ไม่ลังเลอีก จิตสำนึกแห่งโพไซดอนทำการควบคุมต่อเรือไททานิก
สแกนภายในซากเรือ สแกนวนไปสองรอบ ฉินสือโอวทำความเข้าใจมันบ้างแล้ว
รอบนอกของเรือไททานิกได้ผุกร่อนหมดแล้ว ตอนที่ประสบภัยพื้นที่พวกนี้ได้รับการทำลายที่รุนแรงที่สุด น้ำทะเลก็เริ่มกัดเซาะจากที่นี่นั่นแหละ แต่ที่รุนแรงที่สุดคือถูกทำลายโดยฝีมือคน มันแทบจะกลายเป็นเศษซากปรักหักพังหมดแล้ว
เข้าไปในห้องโดยสาร สถานการณ์เริ่มดีขึ้นมาบ้าง แม้ว่าสิ่งของจะรกกระจุยกระจาย แต่ว่ายังคงเก็บรักษาได้สมบูรณ์
แต่ว่าตอนนี้ยังมองไม่ชัดว่ามีอะไรบ้าง ไม่ว่าอะไรต่างก็ถูกสนิมหรือว่าปรสิตใต้ทะเล มูลสัตว์ทะเลและพวกสารคัดหลั่งปกคลุมอยู่
ฉินสือโอวก็จนปัญญา จิตสำนึกแห่งโพไซดอนไม่ใช่ดวงตามองทะลุ เขาไม่สามารถเห็นได้ว่าในนี้มีสิ่งของอะไร
เมื่อเป็นอย่างนี้ ฉินสือโอวจึงมีอาการปวดหัวนิดๆ แล้ว คิดอยากจะทำเงินจากเรือไททานิกไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
และโชคร้ายมากพอดีกับที่ปี 2010 ศาลสูงสุดของประเทศอังกฤษและอเมริกาได้ร่วมกันทำข้อตกลงขึ้น เพื่อปกป้องความสมบูรณ์ของเรือไททานิก ตอนที่จะขายวัตถุซากเรือลำนี้จะต้องขายชิ้นส่วนที่สมบูรณ์ ไม่อนุญาตให้ขายเป็นเศษชิ้นๆ ได้
กฎนี้ถูกทำขึ้นเพื่อปกป้องซากเรือลำนี้โดยอ้อม ไม่มีใครที่มีความสามารถที่จะเก็บกู้เรือไททานิกขึ้นมาทั้งหมดได้ เพราะอย่างนี้แม้ว่าจะมีคนเก็บกู้สมบัติของเรือลำนี้ขึ้นมาได้ ก็ทำได้แค่ขายผ่านช่องทางตลาดมืดเท่านั้น
ตลาดมืดเป็นสถานที่อะไร? มันเป็นสถานที่ที่กดราคาสมบัติ ไม่ว่าบริษัทเก็บกู้หรือส่วนตัวจะเก็บกู้อะไรขึ้นมาได้แล้วเอาไปที่ตลาดมืด ก็ทำได้แค่จัดการกับมันในราคาต่ำ ดังนั้นกำไรที่ได้จึงยังไม่เท่าต้นทุนที่เสียไปกับการเก็บกู้เลย
เวลานานไป ก็ไม่มีใครจะไปเก็บกู้สิ่งของจากเรือไททานิกอีก
งานฆ่าคนมีคนทำ แต่ไม่มีใครทำงานที่ขาดทุนหรอก
หลังฉินสือโอวเยี่ยมชม จึงใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนควบคุมของทรงรีที่ถูกสาหร่ายทะเลพันจนมองไม่ออกอันหนึ่งในปากประตูห้องรับแขก กะว่าจะเอาออกมาดูว่ามีอะไรอยู่
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนเริ่มส่งออก ฉินสือโอวก็รู้สึกหมดแรงมาก ของทรงรีนี้สูงหนึ่งเมตรกว่า เส้นผ่านศูนย์กลางครึ่งเมตรกว่า แต่ว่าหนักเป็นอย่างมาก รอบนอกมีแต่ปรสิต ซากแมลงทะเลและสาหร่ายทะเล เหมือนกับเป็นก้อนหินก้อนใหญ่
ไม่มีทางเลือก ฉินสือโอวได้แต่ยกเลิกความคิดนี้ เขารู้สึกว่าตัวเองโง่เง่ามาก จะมาที่ห้องโถงทำไมกัน? น่าจะไปห้องโดยสารชั้นหนึ่งก่อนสิ คนมีเงินและมรดกของพวกเขาต่างเหลือไว้ที่ห้องโดยสารชั้นหนึ่งนะ
พอถึงห้องโดยสารชั้นหนึ่ง ฉินสือโอวเข้าไปในห้องเบอร์หนึ่งก่อน ขนาดพื้นที่ใหญ่มาก น่าจะ 150 กว่าตารางเมตร นี่ทำให้เขาพูดไม่ออก ให้ตายสิ เศรษฐีในตอนนั้นเยอะจริงๆ อยู่ในห้องโดยสารแบบนี้บนเรือสำราญสุดหรูจะต้องมีเงินเยอะแค่ไหน
ของที่อยู่ในห้องโดยสารเองก็มองไม่ชัด พรมเปอร์เซียที่ประณีต โคมไฟระย้าคริสตัลที่งดงาม เฟอร์นิเจอร์ที่หรูหรา ปัจจุบันถูกกัดกร่อนจนกลายเป็นขยะ
ฉินสือโอววนอยู่ในนี้สักครู่ รู้สึกหดหู่ที่พบว่าของส่วนใหญ่หนักมาก จิตสำนึกแห่งโพไซดอนค้นหาดีๆ ไปรอบหนึ่ง สุดท้ายก็หากล่องใหญ่หนึ่งเล็กหนึ่งสองกล่องที่น้ำหนักเบาในกล่องเหล็กที่ผุกร่อนอย่างรุนแรงกล่องหนึ่ง
จิตสำนึกแห่งโพไซดอนพากล่องเบาทั้งสองออกมา ตอนที่ออกจากห้องโถงรับแขก ก็เจอเข้ากับกล่องไม้หนึ่งที่มุมห้องหนึ่งมีความยาวหนึ่งเมตรกว่าในกองข้าวของ
กล่องไม้นี้อยู่ในร่องกองข้าวของนี้ ดังนั้นจึงไม่ได้มีสาหร่ายทะเลแมลงทะเลต่างๆ เกาะอยู่ เขาลองดูน้ำหนัก ก็ไม่ถือว่าหนัก ดังนั้นจึงเอาออกมาด้วยกัน
เอากล่องทั้งสามออกมา ฉินสือโอวก็มีอาการอ่อนล้านิดหนึ่งแล้ว จึงเอากลองส่งไปที่ปากของเฮยป้าหวัง ควบคุมให้มันว่ายกลับฟาร์มปลา
อีกด้านหนึ่ง เขาออกคำสั่งให้แรงงานหมึกกล้วยให้พวกมันออกปฏิบัติการทั้งหมด เตรียมการเก็บกู้เรือไททานิก
หลังจากออกคำสั่ง ฉินสือโอวก็เข้าสู่การหลับใหล เขายื่นมือไปกอดวินนี่ข้างกาย อืม กอดภรรยาแล้วหลับรู้สึกดีจังเลย
ออกกำลังกลับมาหลังพระอาทิตย์ขึ้น เฮยป้าหวังก็ใกล้ถึงฟาร์มปลาแล้ว ฉินสือโอวให้วินนี่พาพ่อกับแม่ไปเที่ยวเล่นในเมือง ตัวเองก็อาศัยข้อมูลที่จะออกตรวจตรา ขับเรือเด็คออกทะเลไป
รวมตัวกับเฮยป้าหวัง ฉินสือโอวได้รับกล่องใหญ่สองกล่องเล็กหนึ่งทั้งหมดสามกล่อง เขากังวลเรื่องปัญหาออกซิเดชันจึงไม่ได้เปิดออก นำกลับฟาร์มปลาไป
กลับถึงบ้านพัก เขาเห็นมีสายเรียกเข้าไม่ได้รับสองสาย ล้วนเป็นสายจากภายในประเทศ จึงรีบโทรกลับไป
ในประเทศคนที่รู้เบอร์โทรศัพท์ของเขามีไม่มาก ทุกคนต่างเป็นคนกันเอง ถ้าหากอีกฝ่ายโทรข้ามประเทศจะต้องเป็นเรื่องที่เร่งด่วนแน่
พอรับโทรศัพท์ก็ได้ยินเสียงที่สงบเสียงหนึ่งดังมา “สวัสดีครับคุณฉิน ผมเป็นพนักงานของซินหลางเวยป๋อนะครับ ขออภัยอย่างสูงที่รบกวนคุณนะครับ ผมอยากจะเรียนถามไม่ทราบว่าคุณมีความสนใจที่จะเปิดบัญชีซินหลางเวยป๋อหรือเปล่าครับ?”
ห่าเอ๊ย ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้ ฉินสือโอวต้องการใช้ชีวิตของเขาอย่างสงบ ไม่อยากไปเล่นเวยป๋อหรือทวิตเตอร์หรอก จึงตอบกลับอย่างเกรงใจว่า “ขอบคุณทางบริษัทที่กรุณานะครับ ต้องขอโทษด้วยที่ผมไม่ค่อยถนัดในการปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ดังนั้นคงไม่เปิดบัญชีซินหลางเวยป๋อแล้ว”
พูดคำพูดเกรงใจไม่กี่คำ ฉินสือโอวก็ตัดสายไปทันที พากล่องทั้งสามวิ่งไปถึงห้องใต้ดิน เขาโทรศัพท์หาบิลลี่ ให้เขาส่งอุปกรณ์ต้านอนุมูลอิสระมาชุดหนึ่ง
บิลลี่ได้ยินคำนี้ก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที
………………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset