ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 358 ปลาไหลทะเลน้อย

ไม่ให้ใช้ยาทีอีเอ็มนอกจากจะปกป้องตัวอ่อนของปลาไหลอื่นแล้ว ยังเพราะว่าฉินสือโอวไม่อยากจะทำให้หมาป่าทะเลพวกนี้สูญพันธุ์ไปหมด
จริงอยู่ที่หมาป่าทะเลจับปลากินเป็นอาหาร แต่ว่าไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกเวลา โดยส่วนใหญ่แฮ็กฟิชและปลาแลมป์เพรย์มักจะกินซากสัตว์ที่ตายเป็นอาหารมากกว่า เห็นชัดว่าปลาที่ตายแล้วเข้าไปง่ายกว่า
ปกติหลังจากที่เจอปลาตาย พวกมันจะเข้าไปในตัวปลาจากเหงือกปลาหรือไม่ก็ลำตัว เริ่มกินจากข้างในตัวปลาออกมา สุดท้ายก็จะเหลือผิวหนังและกระดูกเอาไว้
พูดอีกนัยหนึ่งคือ หมาป่าทะเลเหมือนกับปูก้ามดาบและปูเสฉวนบก ล้วนเป็นนักทำความสะอาดใต้ทะเล
ชาร์คและซีมอนสเตอร์ไปจัดการปลาพวกนั้น ฉินสือโอวบังคับจิตสำนึกแห่งโพไซดอนเข้าไปยังฟาร์มปลา เขากำลังเตรียมค้นหาแบบงมเข็มในมหาสมุทร แล้วก็นึกถึงครั้งที่เจอปลาปากแตรเมื่อสิบกว่าวันก่อนนี้ เหมือนกับว่าเคยเจอพวกมันมาก่อน
ตอนนั้นเขามองดูคร่าวๆ คิดว่าเป็นปลาไหลธรรมดาเลยไม่ได้ใส่ใจ ดูเหมือนตัวเองจะประมาทไป
คิดได้ดังนี้ จิตสำนึกแห่งโพไซดอนจึงลอยออกไปอย่างรวดเร็วตามความทรงจำ เมื่อก่อนใต้ทะเลในบริเวณน่านน้ำตื้นของฟาร์มปลาของมิสเตอร์รอทมีฝูงแฮ็กฟิชหนึ่งอาศัยอยู่ทั่วไปที่นี่
แฮ็กฟิชพวกนี้อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มืดสนิทใต้ทะเลนานเกินไป ดวงตาเลยเสื่อมสภาพไปอย่างสมบูรณ์ แม้ว่าพวกมันจะยังมีดวงตาอยู่ก็ตาม แต่ว่าก็ดวงตาทั้งสองถูกบดบังด้วยเมือก ทำให้มองอะไรไม่เห็น
แต่ไม่ได้แปลว่าพวกมันบอด ถ้าหากบอดก็คงไม่มีทางถูกขนานนามว่าเป็นหมาป่าทะเลแน่ ต้องรู้ว่าสายตาและประสาทดมกลิ่นของหมาป่านั้นดีมาก เป็นนักไล่ล่ามือดี
ส่วนหัวของแฮ็กฟิชพวกนี้มีอวัยวะรับรู้ มีเซลล์ประสาทรับความรู้สึกทั่วตัว เพราะของพวกนี้ทำให้พวกมันสามารถระบุทิศทางและแยกแยะวัตถุได้ ก็เหมือนกับอีแร้งที่สามารถจะค้นหาเหยื่อที่กำลังจะตายเจอ อวัยวะรับรู้ของแฮ็กฟิชรับรู้ผ่านอัตราการเผาผลาญของปลา สามารถช่วยให้พวกมันหาปลาที่กำลังจะตายและที่ตายลงแล้วได้
แม้ว่าพวกมันจะไม่มีดวงตา แต่ว่าเจ้าพวกนี้เจ้าเล่ห์มาก บางครั้งพวกมันจะตามเรือประมงไปหาอาหาร มุดเข้าไปกินปลาในตาข่ายจับปลาเป็นอาหาร แต่ตอนที่ชาวประมงนำตาข่ายขึ้น ก็จะหนีออกจากตาข่ายอย่างรวดเร็ว
บริเวณที่แฮ็กฟิชพวกนี้อาศัยอยู่ยังมีปลาใหญ่ความยาวครึ่งเมตรกว่าตายไปหลายตัว ไม่รู้ตายธรรมชาติหรือถูกพวกมันฆ่าตายกันแน่ เห็นท้องของปลาใหญ่พวกนี้ยังขยับอยู่ ไม่ต้องเข้าไปก็รู้ว่าข้างในมีอะไร
แค่คิดก็รู้สึกน่าขยะแขยง ฉินสือโอวตัวสั่น ปรสิตแบบนี้น่าขยะแขยงเกินไปแล้ว
ที่น่าขยะแขยงคือลักษณะของแฮ็กฟิช ไม่บอกเรื่องที่พวกมันคล้ายงูทะเล ไม่บอกเรื่องรูปร่างของปากของพวกมัน เฉพาะรูปลักษณ์ภายนอก ต่อมบนร่างกายทั้งสองข้างของพวกมันสามารถสร้างน้ำเมือกที่มีส่วนผสมของไฟเบอร์จำนวนมาก เมือกพวกนี้เคลือบอยู่บนตัวพวกมันเหมือนกับทากาวน้ำเอาไว้ชั้นหนึ่ง…
ตอนที่จิตสำนึกแห่งโพไซดอนมาถึง บังเอิญมีปลาแมคเคอเรลยาวประมาณสี่สิบกว่าเซนติเมตรว่ายมา
เหล่าแฮ็กฟิชรู้สึกได้ถึงปลาแมคเคอเรล แฮ็กฟิชห้าหกตัวลอยมาในทันที รอจนปลาแมคเคอเรลเข้ามาใกล้ แฮ็กฟิชพวกนี้ก็เข้าไปใกล้ทันที เมือกที่อยู่รอบตัวก็เริ่มแสดงบทบาทเข้าไปติดที่เหงือกของเหยื่อ
ที่ดีขึ้นมาหน่อยก็คือ แฮ็กฟิชไม่ได้กินเครื่องในของปลาตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ เมือกพวกนี้จะเข้าไปติดอยู่ที่เหงือกปลาจากนั้นจะทำให้มันขาดอากาศตาย
ฉินสือโอวสังเกตการณ์อยู่ข้างๆ หลังปลาแมคเคอเรลขยับเหงือกไม่ได้สองนาที ก็หงายท้องตายไปเลย
หลังปลาแมคเคอเรลตายไป แฮ็กฟิชที่ติดอยู่ตรงเหงือกปลาก็ม้วนตัวเอง จากนั้นก็ตั้งตัวตรงมุดสลัดออกจากเมือกเหล่านี้อย่างสบายๆ
มีเมือกเข้าไปในจมูกของแฮ็กฟิชตัวหนึ่ง หัวแฮ็กฟิชตัวนั้นยื่นไปข้างหน้าเหมือนกับเวลาที่คนจาม ทำให้เมือกนั้นถูกสลัดออกมาเหมือนน้ำมูก
ถัดมา แฮ็กฟิชพวกนี้มุดเข้าไปในตัวปลาแมคเคอเรลแล้วเริ่มต้นมื้ออาหาร
แฮ็กฟิชตัวอื่นก็ดมกลิ่นตามมา ร่วมแบ่งปันอาหารมื้อนี้ด้วยกัน แต่ว่า แฮ็กฟิชที่มากขึ้นมุดเข้าไปหลับในทรายอย่างช้าๆ ท่าทางไร้ความปรารถนาอะไรอีก
เป็นธรรมดา แฮ็กฟิชที่เหลือต่างก็กินอิ่มกันหมดแล้ว ถ้าพวกมันกินจนอิ่ม ก็จะไม่ขยับเป็นเวลานาน อัตราการเผาผลาญช้ามาก สามารถอยู่ได้เป็นเวลานับเดือนโดยไม่ต้องกินอาหาร
ฉินสือโอวอยากจะรวบรวมพวกแฮ็กฟิชมาเลี้ยง วันหลังจะได้เอามาขายได้ ราคาของแฮ็กฟิชแพงมาก เนื้อเนียนละเอียด และยังมีกรดอะมิโน วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ สูง เหมาะสำหรับผู้สูงอายุและเด็กรับประทาน
เอาอย่างนี้ หาน่านน้ำที่เหมาะสมที่หนึ่ง ฉินสือโอวใช้จิตสำนึกแห่งโพไซดอนครอบคลุมแฮ็กฟิชที่อยู่ในบริเวณน่านน้ำนี้แล้วพามาด้วยทั้งหมด สถานที่ที่เลี้ยงกุ้งเครฟิชเมื่อก่อนก็อยู่ในฟาร์มปลาของมิสเตอร์รอทด้วยพอดี
แฮ็กฟิชขอเพียงกินอิ่มก็ไม่ค่อยขยับตัว เพราะอย่างนั้นขอเพียงฉินสือโอวเอาปลาตายมาเรื่อยๆ ก็จะจัดการปลาพวกนี้ได้ ทั้งยังสามารถเลี้ยงแฮ็กฟิชได้อีก
หาแฮ็กฟิชจนหมดก็ถึงปลาแลมป์เพรย์ วิธีการหาอาหารของทั้งสองไม่เหมือนกัน แฮ็กฟิชมุดเข้าไปในท้องของปลา แต่ว่าปลาแลมป์เพรย์จะอาศัยเกาะอยู่บนตัวปลา
ก่อนหน้านี้ฉินสือโอวเคยสังเกตมาก่อน มีปลาบางตัวตายเพราะเลือดและเนื้อถูกดูดจนหมด ไม่ได้ยุ่งกับเครื่องใน เห็นชัดว่าเป็นผลงานของปลาแลมป์เพรย์
ในอเมริกาเหนือมีปลาแลมป์เพรย์สองชนิด ชนิดหนึ่งเรียกว่า American brook lamprey เรียกอีกอย่างว่าปลาแลมป์เพรย์อเมริกัน อีกชนิดหนึ่งเรียกว่า Reissner lamprey หรือก็คือปลาแลมป์เพรย์แอตแลนติก
ปลาแลมป์เพรย์อเมริกัน อาศัยอยู่ในแม่น้ำน้ำจืด พวกมันไม่ใช่ปรสิต ปลาแลมป์เพรย์แอตแลนติกถึงเป็นผีดูดเลือดที่แท้จริง
ฉินสือโอวสแกนหาในฟาร์มปลาคร่าวๆ เป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืน แต่ก็ไม่พบอะไร เขาจึงเรียกบอลหิมะและไอซ์สเกตมอบภารกิจให้พวกมัน ไปตามหาไอ้พวกปลาแลมป์เพรย์นั่นมา
ที่ตามหาแฮ็กฟิชง่าย เพราะแค่ตามหาปลายตายก็พอแล้ว ที่ไหนมีปลาตายเยอะ นั่นจะต้องเป็นผลงานของแฮ็กฟิชอย่างแน่นอน
ปลาแลมป์เพรย์อาศัยเกาะบนตัวปลา ใช้เวลานานกว่าปลาจะตาย ดังนั้นเวลาหาเลยค่อนข้างช้า
ฉินสือโอวยังอยากจะสั่งการให้กับกลุ่มงูเหลือมทะเลและกลุ่มปลาอื่นๆ แต่ว่าไม่ได้ผลอะไร ปลาและงูทะเลพวกนี้ไม่ได้ฉลาดเหมือนไอซ์สเกตและบอลหิมะ ไม่สามารถเข้าใจคำสั่งที่สั่งจากจิตสำนึกแห่งโพไซดอน
จึงสั่งการให้กับไอซ์สเกตกับบอลหิมะเท่านั้น ฉินสือโอวเองก็กลุ้มใจ ตอนที่เขากำลังจะไปตามหาปลาแลมป์เพรย์เอง ก็ได้รับคำสั่งจากจิตสำนึกแห่งโพไซดอน น้องเล็กสุดของเจ็ดพี่น้องฉลามกบร้องไห้โหมาหา พี่น้องอีกหกคนอยู่ข้างๆ ส่ายหัวส่ายหางไม่รู้ว่าร้อนใจหรือว่ามีความสุขบนความทุกข์คนอื่นกันแน่
ฉินสือโอวมองดูแวบหนึ่ง บัดซบ น้องเล็กนี่แกเป็นอะไรไป ทำไมมีปลาแลมป์เพรย์สองตัวเกาะอยู่บนตัวล่ะ?
ได้มาโดยไม่ต้องเสียแรงจริงๆ
ฉินสือโอวแกะปลาแลมป์เพรย์ออก น้องเล็กฉลามกบก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที มันว่ายวนอยู่ในจิตสำนึกแห่งโพไซดอนหลายรอบ จากนั้นก็กัดฟันด้วยความแค้นแล้วพุ่งไปทางทะเลลึก
พี่น้องอีกหกตัวส่งเสียงดังตามอยู่ด้านหลัง คล้ายกับว่าเป็นกำลังใจให้กับน้องชาย แต่ว่าดูยังไงก็กระบิดกระบวน ตัวหนึ่งอยู่หลังอีกตัวหนึ่ง เหมือนว่าจะกลัวมาก
ฉลามกบน้องเล็กพุ่งเข้าไปกระทั่งถึงใต้ทะเลลึกราวสี่ร้อยกว่าเมตร ที่นี่มีปลาค่อนข้างน้อย ปลาที่มาถึงที่นี่ได้ส่วนใหญ่เป็นปลาใหญ่ ในสถานที่นี้ มีปลาแลมป์เพรย์ฝูงหนึ่งว่ายอยู่ช้าๆ
สัมผัสได้ถึงร่องรอยฉลามกบเจ็ดพี่น้อง ปลาแลมป์เพรย์พวกนี้ก็เงยหน้าขึ้นมาทันที พวกมันกำลังต้องการหาเหยื่อเพื่อเกาะอาศัย
เห็นถึงปลาแลมป์เพรย์พวกนี้พุ่งมาราวกับห่าธนู พี่ใหญ่ที่ว่ายอยู่ด้านหลังสุดกลับหลังวิ่งหนีก่อนทันที
แต่ว่ายไปได้ไม่ไกล ก็พบว่าน้องเล็กสุดก็พุ่งตัวมาอยู่หน้าตัวเอง พี่ใหญ่โมโหทันที ความเชื่อใจระหว่างปลาล่ะ? ไหนบอกไว้ว่าไม่หนีก่อนไง แล้วนี่นายหนีมาอยู่หน้าทั้งที่ไม่ได้หนีก่อน หรือว่านายไปฝึกดำดินรุกคืบมา?
ปลาแลมป์เพรย์พุ่งเข้ามา เป็นการว่ายเข้ากับดักพอดี ฉินสือโอวควบคุมปลาแลมป์เพรย์พวกนี้ส่งไปพร้อมกัน
ไม่เหมือนกับแฮ็กฟิชที่ขี้เกียจ ปลาแลมป์เพรย์มีชีวิตชีวากว่ามาก ฉินสือโอวปวดหัวเล็กน้อย เจ้าพวกนี้ตาบอดแต่ทำไมถึงได้วิ่งเก่งขนาดนี้กัน?
แต่พอลองคิดอีกทีก็เป็นเรื่องธรรมดา ปลาแลมป์เพรย์ไม่เหมือนกับแฮ็กฟิชญาติห่างๆ ของมัน มันเป็นปลาที่อพยพย้ายถิ่น อาศัยอยู่ในทะเล พอตัวเต็มวัยก็จะว่ายไปวางไข่ที่แม่น้ำ เป็นผู้เชี่ยวชาญปาคัวร์ที่ไปมาระหว่างทะเลแม่น้ำทุกปี นี่สามารถเปรียบเทียบกันได้เหรอ?
ที่จริงแล้วปลาแลมป์เพรย์และแฮ็กฟิชไม่ลงรอยกัน เหยื่อของพวกมันไม่เหมือนกัน นี่ได้กำหนดความขัดแย้งของพวกมัน
ลักษณะภายนอกของแฮ็กฟิชน่ากลัวเกินไป อย่าคิดว่าปลาทะเลโง่ พวกมันก็ถูกลักษณะของแฮ็กฟิชที่ไม่มีตาไม่มีจมูกทำให้กลัวได้ วิ่งหนีตั้งแต่ไกลละ
แต่ว่าแฮ็กฟิชไม่ได้ใส่ใจ พวกมันสามารถรับรู้ได้ถึงปลาที่ป่วยและตาย ปลาเหล่านี้หนีไม่พ้นหรอก แต่ปลาแลมป์เพรย์ต้องการ พวกมันต้องการการหลอกลวง เรื่องนี้ก็จะต้องพูดถึงลักษณะและนิสัยในการหาอาหารของพวกมันแล้ว
ปลาแลมป์เพรย์ไม่เหมือนกัน ภายนอกของพวกมันเหมือนปลาไหล ร่างกายเรียวยาว ไม่มีเกล็ด แต่ว่าปากของพวกมันน่ากลัวมาก ไม่มีกราม เป็นเพียงปากกลมๆ ข้างในเต็มไปด้วยฟันที่แหลมคม
ขอเพียงปลาแลมป์เพรย์ไม่อ้าปาก พวกมันก็เป็นสาวน้อยหนุ่มน้อยดีๆ พวกปลาไม่ได้กลัวพวกมัน จะว่ายผ่านตัวพวกมันไป เวลานี้ปลาแลมป์เพรย์ก็จะใช้โอกาสนี้เกาะขึ้นไปก็พอ
ดังนั้น ปกติสถานที่ที่มีแฮ็กฟิชจะไม่มีปลาแลมป์เพรย์ สถานที่ที่มีปลาแลมป์เพรย์ก็ไม่มีแฮ็กฟิชเช่นกัน ปลาแลมป์เพรย์เกาะบนปลาตัวหนึ่ง ยังไม่ทันได้ดื่มเลือดเลย แฮ็กฟิชก็พุ่งเข้ามาใช้เมือกติดอยู่ตรงเหงือกปลาแล้ว…
ฉินสือโอวนำทั้งสองฝ่ายมาอยู่ด้วยกัน คิดจะสร้างความขัดแย้งหนึ่งขึ้น!
………………………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset