ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 383 วินนี่ผู้หญิงร้ายกาจ

เมื่อสะโพกงามงอนถูกฉินสือโอวแอบแต๊ะอั๋ง วินนี่จึงผลักเขาออกด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย หลังจากนั้นก็จับแขนของเขาไว้ แล้วเดินเข้าไปหากลุ่มคนที่เดินออกมาจากบ้านที่อยู่ด้านข้าง เธอยิ้มหวานแล้วพูดกับพวกเขาว่า “มาริโอ้ มิแรนด้าที่รักหนู นี่คือแฟนของหนู ฉินสือโอว!”
พอฉินสือโอวมองดูกลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้า เขาก็ตกประหม่าไปชั่วขณะ
เห็นได้ชัดว่าคนทั้งสองคู่เป็นสามีภรรยากัน คู่หนึ่งอยู่ในวัยกลางคน ฝ่ายภรรยามีหน้าตาคล้ายคลึงกับวินนี่ถึงหกส่วน นี่คงจะเป็นพ่อแม่ของเธอนั่นล่ะ ส่วนอีกคู่มีอายุใกล้เคียงกันกับฉินสือโอว ในนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งที่ฉินสือโอวรู้จัก นั่นก็คืออาร์ม็อง เฮนรี เกรเตียงนั่นเอง พวกเขาเคยพบกันที่รัฐแมสซาชูเซตส์
ฉินสือโอวกำลังจะยื่นมือขวาออกไปจับมือทักทาย ทว่ามือขวาของเขาก็ถูกวินนี่กอดไว้อย่างแน่นหนา เขาทำได้แค่ยื่นมือซ้ายออกมา แต่พอยกขึ้นมาแล้วก็พบว่าไม่ถูกตามหลักมารยาท
ด้วยไหวพริบปฏิภาณที่ฉับไว ฉินสือโอวจึงโค้งคำนับลงไปเก้าสิบองศา “คุณลุง คุณป้า สวัสดีครับ”
คุณพ่อของวินนี่กะพริบตาปริบๆ เขายิ้มออกมาน้อยๆ พร้อมทั้งยื่นมือออกมาด้านหน้าแล้วพูดกับฉินสือโอวว่า “สวัสดีๆ คุณเป็นคนญี่ปุ่นใช่ไหม? คอนนิจิวะ?” ( こんにちは )
ฉินสือโอวจับมือกับพ่อของวินนี่ เขาหัวเราะฝืดๆ แล้วตอบกลับไปว่า “ที่จริง เอ่อ ผมเป็นคนจีนครับ เวลาพวกเราคนจีนมาพบผู้อาวุโสก็ต้องโค้งคำนับเหมือนกัน”
เขาทำได้แค่อธิบายให้ฟังแบบนี้ ช่วยไม่ได้ มารยาทของชาวญี่ปุ่นทำเอาซะชาวต่างชาติงงไปหมด มีหลายคนที่พอเห็นชาวตะวันออกที่มีมารยาทก็จะนึกไปถึงคนญี่ปุ่น เรื่องนี้คนจีนต้องทบทวนตัวเองบ้างแล้วล่ะ
วินนี่เอ่ยแนะนำอย่างมีความสุข “นี่คือคุณพ่อมาริโอ้สุดหล่อ ส่วนนี่คือคุณแม่ มิแรนด้าคนสวยของฉันเองค่ะ”
พอแนะนำพ่อกับแม่ให้เขาได้รู้จักแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็จางลงไปมาก เธอแนะนำต่อว่า “ผู้ชายคนนี้คุณคงจะรู้จักแล้ว อาร์ม็อง เฮนรี เกรเตียง ส่วนผู้หญิงคนนี้ชื่อว่าฟอกส์ เซโรวา ภรรยาของอาร์ม็อง”
ถึงจะไม่รู้ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร แต่ฉินสือโอวก็สัมผัสได้ว่าวินนี่กับฟอกส์ เซโรวาคนนี้มีความขัดแย้งระหว่างกัน
ฟอกส์ เซโรวาดูมีอายุมากกว่าวินนี่อยู่สักสามสี่ปี เธอเป็นผู้หญิงที่สวยโดดเด่นคนหนึ่งเช่นกัน ผมของเธอถูกม้วนไว้ด้านหลัง เขียนคิ้วบางๆ ริมฝีปากสีแดงระเรื่อ รูปร่างสูงสะโอดสะอง ดูสวยงามไปทุกสัดส่วน
เธอไม่ได้สนใจท่าทีเย็นชาของวินนี่ แล้วเข้าไปกอดทักทายฉินสือโอว จากนั้นก็ยิ้มน้อยๆ พร้อมทั้งแนะนำตัวเองว่า “ฉันเป็นพี่สาวของวินนี่ค่ะ คุณเรียกฉันว่าฟอกส์ก็พอแล้ว ยินดีต้อนรับนะคะ ฉิน พอรู้ว่าวินนี่มีแฟนแล้ว พวกเราก็รอที่จะได้พบคุณ วันนี้ได้พบกันแล้ว เป็นเรื่องที่ดีจริงๆ ”
ใบหน้างดงามของวินนี่ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมานิดๆ ดูงดงามจริงๆ แต่ฉินสือโอวรู้สึกว่ามันอันตรายมาก มีแค่นานๆ ทีที่เขาติดเล่นเกินไปเท่านั้นวินนี่ถึงจะยิ้มออกมาแบบนี้
มาริโอ้ตบแปะๆ ที่ไหล่ของฉินสือโอวอย่างสนิทชิดเชื้อแล้วพูดกับเขาว่า “มาเถอะ ลูกชาย วันนี้อากาศหนาว พวกเรารีบเข้าไปในบ้านเถอะ”
มิแรนด้ายืนนิ่งไม่ขยับ พอตอนสุดท้ายเห็นทุกคนกำลังจะเข้าไปในบ้าน เธอก็ทั้งร้อนรนทั้งพูดอย่างอายๆ ว่า “แม่ว่า วินนี่ ลูก ลูกกับฉิน ลูกๆ ของพวกหนูอยู่ที่ไหนล่ะ?”
วินนี่ปิดปากยิ้ม ท่าทางเหมือนกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่วางแผนแกล้งคนได้สำเร็จ เธอโบกมือแล้วตะโกนขึ้นมาว่า “หู่จือ เป้าจือ ฉงต้า ต้าป๋าย มาหาแม่ตรงนี้เร็ว!”
พอเหล่าสัตว์เลี้ยงที่กำลังแอบมองผู้คนเหล่านี้อยู่ที่ด้านหลังรถได้ยินเสียงเรียกของวินนี่ พวกมันก็เฮโลกันเข้ามาทันที
ทำให้มิแรนด้าและคนอื่นๆ ตกอยู่ในความตะลึง พวกเขากำลังเห็นอะไรอยู่เนี่ย? อย่างแรกคือสุนัขสองตัว ด้านหลังมีหมีตัวหนึ่ง ต่อมาก็เป็นโอพอสซัมเวอร์จิเนียอีกหนึ่งตัว เหล่าสัตว์เลี้ยงพวกนี้วิ่งเข้ามาอย่างร่าเริง แล้วรายล้อมรอบตัววินนี่ด้วยความรักใคร่
“นี่คือลูกๆ ของฉินกับหนูค่ะ เป็นยังไงคะ?” วินนี่ถามด้วยความภูมิใจ
ฉินสือโอวเห็นเต็มตา ว่ามุมปากของพ่อตาแม่ยายทั้งสองคนของเขากระตุกขึ้น อีกทั้งสองสามีภรรยาฟอกส์ก็แอบยิ้มออกมานิดๆ
มาริโอ้เดินนำทุกคนเข้ามาในบ้าน ฉินสือโอวเอากระเป๋าใบใหญ่ใบเล็กเข้ามาเก็บข้างในให้เรียบร้อย อาร์ม็องก็ตามไปช่วยเขา พอทั้งสองคนมองหน้ากัน ฉินสือโอวก็ยิ้มออกมาอย่างเก้อเขินแล้วพูดกับเขาว่า “ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นพี่เขยของวินนี่ ก่อนหน้านี้เลยอาจจะเผลอทำตัวไม่ดีไปนิดหน่อย…”
“ฮ่า ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย คุณเป็นคนดีมาก” อาร์ม็องตบไหล่แล้วพูดกับเขาอย่างเป็นกันเอง
โอเค พอเคลียร์เรื่องพี่เขยเรียบร้อยแล้ว ฉินสือโอวก็เอามือปาดเหงื่อ แล้วเดินกลับไปนั่งอย่างสงบเสงี่ยมอยู่บนโซฟา
มิแรนด้ายกชามาให้เขาหนึ่งแก้ว วินนี่แย่งมาแล้วพูดกับเธอว่า “อ้อ แม่คะ ฉินไม่ดื่มชาค่ะ เขาชอบดื่มน้ำผลไม้”
พอได้ยินแบบนี้เข่าทั้งสองข้างของฉินสือโอวก็อ่อนลงจนแทบจะคุกเข่าลงไปอยู่ที่พื้น ไม่ได้คุยกันไว้ว่าจะเป็นนางฟ้าให้กันหรอกเหรอ? วินนี่ที่รักทำไมคุณถึงทำแบบนี้? คุณกลัวว่าพ่อแม่ของคุณจะชอบผมเหรอครับ?
ไม่มัวลีลา ฉินสือโอวรีบรับชามาทันที เขายิ้มเจี๋ยมเจี้ยมแล้วพูดขึ้นมาว่า “วินนี่เขาล้อเล่นน่ะครับ จริงๆ ผมดื่มอะไรก็ได้”
พอพูดจบ เขาก็รีบดื่มชาลงไปหนึ่งอึก
มิแรนด้าพูดกับเขาอย่างลนๆ ว่า “ชาเพิ่งชงเมื่อกี้เอง มันจะลวกปากนะ”
ร้อนลวกปากจริงๆ หน้าของฉินสือโอวก็เริ่มซีดขึ้นมาแล้ว ทว่าเขายังพยายามที่จะกลืนชาอึกนี้ลงไป จากนั้นก็ฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “ยังพอได้อยู่ครับ อากาศหนาว ดื่มชาร้อนๆ สักหน่อยก็ดีต่อร่างกาย”
พวกฉงต้ากับหู่จือเป้าจือก็วิ่งมาข้างๆ เขา เจ้าพวกนี้ชินกับการนั่งบนโซฟา คราวนี้พวกมันเลยอยากกระโดดขึ้นมานั่งบ้าง
ฉินสือโอวแอบด่าพวกมันอยู่ในใจเขากำลังรับมือกับทางนี้อยู่เจ้าพวกบ้านี่มาทำอะไรกันตรงนี้? ใช้จังหวะที่กำลังวางถ้วยชา ฉินสือโอวเตะฉงต้าหนึ่งครั้งแล้วก็เขกกะโหลกหู่จือกับเป้าจือไปอีกตัวละที ถึงหยุดพวกมันไว้ได้ชั่วคราว
วินนี่เข้าไปในครัวแล้วหยิบบิสกิตคุกกี้มาหนึ่งชั้น จากนั้นก็แบ่งมันให้พวกฉงต้ากับหู่จือ ความพยายามก่อนหน้านี้ของฉินสือโอวสูญเปล่าแล้ว เจ้าพวกนี้เริ่มทำท่าแอ๊บแบ๊วออดอ้อนแบบโง่ๆ ด้วยจุดประสงค์ง่ายๆ เพราะอยากได้ของกิน
ฉินสือโอวมองดูบรรยากาศฤดูหนาวอย่างโศกเศร้าอาดูร เขารู้สึกว่าชีวิตของตัวเองน่ารันทดยิ่งกว่าต้นไม้ใบหญ้าพวกนั้นเสียอีก
มิแรนด้านั่งลงข้างๆ วินนี่ เธอมองไปที่วินนี่อย่างอ่อนโยน พูดอย่างเจือความโมโหนิดๆ ว่า “ลูกออกจากบ้านไปครึ่งปีแล้วพอจะกลับก็กลับมาเลยอย่างนั้นเหรอ? โทรศัพท์มาบอกกันก่อนก็ยังดี พวกเราจะได้ไปรับปู่กับย่าของหนูมาก่อน ดูสิ ดูที่ลูกทำ มาถึงหน้าบ้านแล้วค่อยโทรมาบอกกัน ทำไมไม่รู้จักคิดเลยนะ?”
วินนี่ยักไหล่ ใบหน้าสวยงามมีท่าทางดื้อรั้น เธอพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “หนูเคยทำตัวดีๆ เหรอคะ? จะโทรศัพท์มาบอกก่อนทำไมกันเล่า? หนูไม่ได้ไม่รู้ทางกลับบ้านสักหน่อย นี่ยังเป็นบ้านหนูอยู่หรือเปล่าคะเนี่ย?”
ฉินสือโอวกลืนน้ำลายลงไป ท่าไม่ดีเลย นี่ยังเป็นวินนี่ที่เขารู้จักอยู่ไหมเนี่ย? นางฟ้าที่อบอุ่นอ่อนโยน สง่างาม มีเสน่ห์คนนั้นน่ะ?
พูดกันตามตรง วินนี่ในตอนนี้ ให้ความรู้สึกเหมือนกับ ‘ฉันสูบบุหรี่ ฉันดื่มเหล้า ฉันมีรอยสัก ฉันทำแท้งด้วย แต่ฉันเป็นเด็กดีนะถ้านายมีปัญหาก็เก็บเอาไปบอกแม่ของนายเถอะ’
ได้ยินวินนี่พูดแบบนี้ มิแรนด้าก็เริ่มมีสีหน้าเศร้าสลดขึ้นมา “วินนี่ ทำไมลูกพูดอย่างนี้ นี่เป็นบ้านของลูก และจะเป็นบ้านของลูกตลอดไป!”
วินนี่เก็บท่าทางเกเรแบบนั้นกลับคืนมา แล้วกลับมารักษาท่าทางของสาวสวยเพียบพร้อมอีกครั้ง จากนั้นเธอก็หยิบเอาบิสกิตป้อนฉงต้า
มาริโอ้นั่งลงข้างๆ ฉินสือโอวแล้วพูดกับเขาพร้อมรอยยิ้ม “พวกเราเคยได้ยินวินนี่พูดถึงคุณมาบ้างแล้ว คุณเป็นเจ้าของฟาร์มปลาใช่ไหม? เจ้าของฟาร์มปลาอายุน้อยแบบคุณนี่หาได้ยากมากเลยนะ ตอนนี้ฟาร์มปลาที่นิวฟันด์แลนด์เหมือนจะไม่ค่อยรุ่งเท่าไร คุณ…”
“เขาดูแลลูกสาวของคุณพ่อได้อยู่แล้วค่ะ” วินนี่พูดขัดมาริโอ้แล้วพูดกับเขาอย่างเรียบๆ ว่า “ถึงแม้ว่าฉินจะไม่ใช่ผู้บริหารระดับสูง หรือศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย แต่เขาก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเงินค่ะ”
ฉินสือโอวมองวินนี่ด้วยสายตาวิงวอน ที่รัก เราพูดกันไว้ว่าจะมาพบพ่อตาแม่ยายนี่ ทำไมคุณถึงทำให้ผมดูสิ้นไร้ไม้ตอกขนาดนี้ด้วยล่ะ?
……………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset