ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 384 หอยนางรมลอยที่มุ่งหมาย

บรรยากาศในห้องรับแขกค่อนข้างแปลกไปนิดหน่อย ฉินสือโอวเข้าใจแล้ว วินนี่ต้องมีปัญหาอะไรสักอย่างกับที่บ้านแน่ๆ ไม่เช่นนั้นผู้หญิงที่สวยสง่าและบริสุทธิ์อยู่เสมออย่างเธอ คงไม่พูดกับคนในครอบครัวอย่างนี้แน่นอน
ตอนนี้ทุกๆ คำพูดของวินนี่ ล้วนแต่เป็นมีดแหลมเชือดเฉือน แต่ฉินสือโอวรู้ว่า นี่ไม่ได้มาจากตัวตนที่แท้จริงของเธอ แต่เป็นสิ่งที่เธอตั้งใจแสดงออกมา เพื่อทำให้คนในครอบครัวรู้สึกไม่พอใจ เพื่อทำร้ายคนในครอบครัว และทำร้ายตัวเธอเอง
ฉินสือโอวไม่รู้ว่าทำไมพอวินนี่กลับมาบ้านแล้วถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ แต่เขารู้ว่าในเวลานี้ ในฐานะที่เป็นคนรักของเธอ เขาต้องคอยอยู่ข้างๆ วินนี่
ดังนั้น หลังจากที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมาแล้ว เขาจึงถือถ้วยชาไปนั่งลงข้างๆ เธออย่างเงียบๆ แล้วยื่นมือออกไปลูบมือของวินนี่
ในตอนนี้เขาถึงเพิ่งสังเกตเห็นว่า มือของวินนี่กำลังสั่นเล็กน้อย ทั้งยังเย็นเฉียบจนน่ากลัว
ฉินสือโอวผิวปากเบาๆ หู่จือกับเป้าจือก็เงยหน้าขึ้นอย่างร่าเริง พวกมันกะพริบตาปริบๆ แลบลิ้นสะบัดหางกระดิกหู แสดงความสามารถด้านการออดอ้อนออกมาทันที
เห็นสุนัขทั้งสองตัวทำท่าทางเช่นนี้ วินนี่ก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันที มือแต่ละข้างกอดสุนัขเอาไว้ข้างละตัว เธอดึงพวกมันขึ้นมาเล่นด้วยกันบนโซฟาแบบไม่สนใจใคร
มาริโอ้ยืนขึ้นแล้วบอกว่าจะไปรับพ่อกับแม่ของเขามา หลังจากนั้นก็ออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนมิแรนด้าอยากจะพูดอะไรกับวินนี่สักอย่าง ถึงตั้งท่าจะพูดอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ในใจของฉินสือโอวก็เกิดความรู้สึกสงสัยขึ้นมา ครอบครัวนี้มีเรื่องอะไรกันแน่นะ? ทำไมถึงได้เหมือนกับบทละครของฉงเหยาขนาดนี้?
อาร์ม็องยกหัวข้อเกี่ยวกับการตกปลาขึ้นมา เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉิน คุณทิ้งตำนานไว้ที่ท่าเรือเมืองกลอสเตอร์ด้วยนะ ตอนผมจากมากลุ่มนักตกปลาพวกนั้นตกปลาทูน่าครีบน้ำเงินไม่ได้เลยสักตัว ตอนนี้คุณไม่เพียงแต่เป็นกัปตันดวงดี แต่คุณยังเป็นกัปตันเทพแห่งการพนันด้วย”
ฉินสือโอวยักไหล่น้อยๆ แล้วตอบกลับไปว่า “ที่จริงผมแค่ล้อเล่นเฉยๆ ดูท่าว่าคนพวกนั้นน่าจะดวงไม่ดีจริงๆ นั่นล่ะ ปลาทูน่าครีบน้ำเงินในชายหาดน้ำตื้นจอร์จกับอ่าวเคปค้อดมีอยู่ไม่น้อยเลยนะ แล้วตอนอยู่ที่นั่นคุณตกได้บ้างไหมครับ?”
คนพวกนั้นคงจะตกปลาได้อยู่หรอก จิตสำนึกแห่งโพไซดอนของฉินสือโอวอยู่ที่นั่นตั้งพักใหญ่ๆ พอคนของสมาคมตกปลาพวกนั้นได้เจอกับปลาทูน่าครีบน้ำเงิน เขาก็ไล่พวกมันไป แล้วพวกนั้นจะตกปลาได้ยังไงกันล่ะ
ทั้งสองคนคุยกันเกี่ยวกับเรื่องการตกปลาอยู่ครึ่งชั่วโมง ที่ด้านนอกประตูก็มีเสียงรถยนต์ดังขึ้นมา จากนั้นวินนี่ก็ลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งออกไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ ฉินสือโอวเองก็รีบลุกขึ้นเช่นกัน แล้วก็เป็นอย่างที่คิดไว้ คุณปู่กับคุณย่าของวินนี่มาถึงแล้ว
คำว่าคุณปู่กับคุณย่าในภาษาจีนแตกต่างกับภาษาอังกฤษที่จะใช้คำว่า Grandpa และ Grandma เรียกรวมกันทั้งปู่กับตา และย่ากับยาย เพื่อที่จะแยกให้เกิดความชัดเจน คนจีนจึงคุ้นชินกับการเรียกให้แตกต่างกัน
แค่ครู่เดียว ตามเสียงหัวเราะใสๆ ของวินนี่ ผู้ใหญ่ทั้งสองท่านก็เดินเข้ามาข้างใน
ทั้งสองคนน่าจะมีอายุราวๆ เจ็ดสิบกว่าปี ท่าทางมีกำลังวังชา คุณปู่เป็นผู้ชายจีนแท้ๆ ส่วนคุณย่าก็เป็นชาวอารยัน ผมสีบลอนด์ตาสีฟ้า เมื่อทั้งสองคนเจอฉินสือโอวก็พากันพูดภาษาจีนออกมาอย่างลื่นไหล แถมสำเนียงยังได้มาตรฐานกว่าเขาเสียอีก
ตอนนี้ก็เป็นเวลาช่วงบ่ายแล้ว มิแรนด้ากับฟอกส์จึงเข้าครัวไปเตรียมน้ำชายามบ่าย กับชีสเค้กขึ้นชื่อของวินนิเพ็กพร้อมทั้งชาแบบเย็น ฉินสือโอวดื่มน้ำชาและหัวเราะพูดคุยไปพร้อมกับคนชราทั้งสอง พวกเขาคุยกันอย่างสนุกสนาน
ผู้อาวุโสทั้งสองต่างก็วางตัวดีทั้งคู่ พวกท่านให้เกียรติผู้น้อยอย่างฉินสือโอวอย่างถึงที่สุด เรื่องที่คุยกันล้วนแต่เอนเอียงไปทางเรื่องของเขากับประเทศจีน ทำให้เขารู้สึกซาบซึ้งจริงๆ
ตอนที่กำลังคุยกันฉินสือโอวถึงได้รู้ว่า ที่จริงแล้วชื่อภาษาจีนของคุณปู่ก็คือซือลั่วหวา ต่อมาจึงกลายเป็นนามสกุลของครอบครัวนี้ คุณย่าของวินนี่มีชื่อว่า แคเรน เซโรวา เมื่อยี่สิบปีที่แล้วท่านเคยเป็นศาสตราจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยชิงหวา พอเกษียณแล้วก็กลับมาอยู่ที่บ้านเกิดในเมืองวินนิเพ็ก
เมื่ออยู่ต่อหน้าคุณปู่กับคุณย่า วินนี่ก็ไม่ได้มีท่าทีที่พร้อมโจมตีอย่างนั้นแล้ว เธอกลับมาเป็นนางฟ้าที่สวยสง่าอีกครั้ง และพอพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์กับฉินสือโอวใบหน้าสวยงามของเธอก็ยังขึ้นสีแดงระเรื่ออีกด้วย ทำเอาฉินสือโอวเดาทางไม่ถูกแล้ว
พวกเขาทานมื้อค่ำกันที่บ้าน ทุกคนในครอบครัวก็ทำอาหารเย็นด้วยกันอย่างคึกคัก ช่วงเวลาเดียวที่ไม่มีความสุขในตอนเตรียมอาหาร ก็คือตอนที่ฟอกส์ถอดเครื่องประดับออก จากนั้นอาร์ม็องก็พูดกับเธอด้วยรอยยิ้มว่า “คุณใส่มันทำอาหารก็จะยิ่งดูสวยนะ”
ฟอกส์แย้มรอยยิ้มหวานแล้วพูดกับเขาว่า “ถ้าเปื้อนขึ้นมาจะทำยังไงล่ะคะ? นี่เป็นของขวัญที่คุณให้มานะ”
วินนี่ก็ยิ้มหวานออกมาเช่นกัน เธอพูดขึ้นมาว่า “หวานกันจริงๆ เลยนะ น่าอิจฉาจริงๆ ค่ะ”
ฉินสือโอวเห็นได้ชัดเลยว่า หลังจากที่เธอพูดจบ รอยยิ้มของอาร์ม็องกับฟอกส์ก็ดูกระอักกระอ่วนขึ้นมาทันที
แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่า เขาคบกับวินนี่มานานขนาดนี้ แต่เหมือนว่าจะไม่เคยมอบของขวัญที่เป็นพวกเครื่องประดับให้เธอเลยสักชิ้น มีแค่พวกสัตว์เลี้ยงเท่านั้น
แม่เอ็ง ฉันนี่โง่เง่าจริงๆ ฉินสือโอวแอบหัวเสียอยู่ในใจ แต่คิดว่าวินนี่ก็น่าจะไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เปลี่ยนเป็นผู้หญิงคนอื่นในความเป็นจริง ถ้าเขาไม่ได้ให้ของขวัญเลยสักชิ้น ก็อย่าหวังจะไปจีบใครเลย
ครอบครัวของวินนี่ยอมรับฉินสือโอวได้อย่างรวดเร็ว อาหารเย็นมื้อนี้ก็คือผลงานของเขา เมนูที่เขาทำก็คือหมูผัดเห็ดหอมกับปลาเทราต์ผัดน้ำแดง
เป็นเพราะคุณปู่ซือลั่วหวา ครอบครัวของวินนี่จึงค่อนข้างคุ้นชินกับอาหารจีน จนมีแม้กระทั่งเกี๊ยว ทว่าก็ยังผสมเอกลักษณ์ของแคนาดาเข้าไว้ด้วย กลายเป็นเกี๊ยวทรัฟเฟิลนั่นเอง
อาหารมื้อเย็นเป็นการผสมผสานกันของอาหารจีนและอาหารตะวันตก อาหารตะวันตกมีเนื้อวัวตุ๋นซอสไวน์แดง หอยทากอบเนย หอมทอดโรยอบเชย เนื้อสเต๊กผัดพริกไทยดำซอสวานิลลาไซรัป เนื้อกวางมัสก์ตุ๋น เนื้อสันในตุ๋นซอสไวน์ส้มกับลูกแพร์ ส่วนอาหารจีนฉินสือโอวเป็นคนลงมือทำอาหารทั้งสองเมนู นอกจากนี้ยังมีผัดถั่วแขก ผัดบร็อคโคลี เนื้ออกเป็ดรมควัน ผัดขึ้นฉ่ายเป็นต้น
หลังทานอาหารเสร็จก็นั่งคุยกันอยู่สักพัก ทุกๆ คนก็เตรียมตัวแยกย้ายกันไปพักผ่อน ฉินสือโอวย่อมนอนห้องเดียวกันกับวินนี่ไม่ได้อยู่แล้ว ทั้งมิแรนด้ายังเตรียมห้องนอนแขกไว้ให้เขาแล้วด้วย
แต่ปรากฏว่า ขณะที่ฉินสือโอวกำลังจะเอ่ยปากขอบคุณ วินนี่ก็พูดขึ้นมาอย่างเรียบๆ ว่า “ไม่ต้องวุ่นวายขนาดนั้นหรอกค่ะ แม่ ให้ฉินไปนอนที่ห้องของหนูก็ได้”
“แล้วลูกล่ะ?” มิแรนด้าหลุดถามออกมาทันที หลังจากนั้นเธอก็นึกได้ว่าตัวเองถามอะไรไม่เข้าท่า คราวนี้บรรยากาศก็ดูแปลกๆ ขึ้นมาอีกครั้ง
สุดท้ายวินนี่จึงจูงมือฉินสือโอวเดินออกไป พวกฉงต้ากับหู่จือยังอยากดูละครอยู่จึงกวาดตาเล็กๆ ของพวกมันไปมา ฉินสือโอวทำหน้าดุพร้อมทั้งตวาดใส่พวกมันหนึ่งครั้ง สัตว์เลี้ยงทั้งสี่ตัวก็กลัวจนขึ้นสมองพวกมันจึงรีบพากันตามเขาขึ้นไปข้างบน
“จะให้พวกมันนอนที่ไหนล่ะ?” มาริโอ้ถาม
“ก็ต้องเป็นห้องของหนูอยู่แล้ว พวกมันเป็นลูกของหนูนี่คะ” วินนี่ตอบทั้งๆ ที่ไม่ได้หันหน้ากลับไป ฉินสือโอวรู้สึกว่าคำพูดนี้ของเธอยังมีความหมายอย่างอื่นซ่อนอยู่
ถึงแม้ว่าจะนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน ทว่าฉินสือโอวก็ไม่ได้ทำตัวรุ่มร่าม หลังจากวินนี่ขึ้นมาบนเตียงแล้วก็มุดเข้าไปในอ้อมกอดของเขา ใบหน้างดงามของเธอมีความอ่อนล้าปรากฏอยู่บนนั้น ราวกับว่าเรื่องทั้งหมดเมื่อกลับมาที่บ้านได้ดูดพลังเธอไปจนหมดแล้ว
“คุณโอเคไหมครับ?” ฉินสือโอวถามด้วยความเป็นห่วง
วินนี่ฝังหน้าลงไปในอ้อมกอดของเขาแต่ไม่ยอมพูดอะไรออกมา สักพักหนึ่งถึงถามเขาขึ้นมาว่า “ฉิน ฉันเหมือนกับคนบ้าเลยใช่ไหมคะ?”
ฉินสือโอวกดจูบลงไปบนผมเงาสลวยของเธอ แล้วพูดพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ ว่า “ผมก็เป็นผู้ชายประสาทๆ เหมือนกัน พวกเรายังคู่กันอยู่ดี”
วินนี่เงยหน้าขึ้นไปมองเขา ดวงตากลมโตวาววับเป็นประกาย ทันใดนั้นเธอก็ยิ้มออกมาแล้วพูดกับเขาว่า “ฉันเหนื่อยจัง คนบ้า เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะอธิบายให้คุณฟังนะคะ”
“ถ้าอยากนั้นก็นอนกอดผมให้สบายเถอะครับ” ฉินสือโอวพูดพร้อมบีบปลายจมูกเธออย่างเอาอกเอาใจ
วินนี่นอนกอดเขาอยู่อย่างเงียบๆ แค่ครู่เดียวลมหายใจของเธอก็เปลี่ยนเป็นจังหวะสม่ำเสมอกันขึ้นมา ดูเหมือนว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวัน คงจะทำให้เธอหมดแรงไปเยอะจริงๆ
ฉินสือโอวนอนไม่หลับ เขาส่งจิตสำนึกแห่งโพไซดอนกลับไปที่ฟาร์มปลา เพื่อเตรียมของขวัญให้วินนี่
ยังไงผู้หญิงก็ชอบเครื่องประดับที่มีความแวววาวอยู่แล้ว ฉินสือโอวมุ่งไปที่หอยนางรมลอยพวกนั้น ในตัวของพวกมันมีไข่มุกสีดำที่แสนล้ำค่าอยู่
……………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset