ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 386 จิงเกิลเบลส์

“ทุกคนล้วนแต่เคยทำผิดพลาดกันทั้งนั้น แต่เมื่อผ่านมันมาได้แล้วมองย้อนกลับไป มันก็อาจจะไม่ใช่ความผิดพลาดก็ได้” ฉินสือโอวกอดวินนี่ไว้แล้วพูดกับเธอด้วยความห่วงใย
ไม่จำเป็นต้องอธิบายต่อ เขาพอจะเดาเรื่องราวที่เหลือได้ เมื่อก่อนอาร์ม็องคบอยู่กับเพื่อนของวินนี่ แต่ตอนนี้เขาคบอยู่กับพี่สาวของวินนี่ เห็นได้ชัดว่าคงจะเกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้นแน่แล้ว
พูดง่ายๆ ก็คือ อาร์ม็องเลิกกับเพื่อนของวินนี่เพื่อมาคบกับพี่สาวของเธอ แถมยังแต่งงานกันอีก
วินนี่พูดด้วยความเศร้าสลดว่า “ฉันไม่ควรพาพวกเขามาที่บ้านเลย ไม่อย่างนั้นอาร์ม็องก็คงไม่ได้มาเจอฟอกส์!”
ฉินสือโอวพูดปลอบเธอว่า “ที่จริงน่าจะเป็นเรื่องดีนะครับ ถึงความสัมพันธ์กับเพื่อนจะสำคัญมาก แต่จะเทียบกับพี่สาวแท้ๆ ได้ยังไงกันล่ะครับ? เลือดย่อมข้นกว่าน้ำอยู่แล้ว”
วินนี่เม้มปากเล็กน้อย แล้วพูดกับเขาว่า “ฉันน่ะเหรอที่ผูกพันกับฟอกส์? เหลวไหลน่า! แล้วคุณก็เข้าใจผิดแล้ว พวกเราไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ กันสักหน่อย เรามีแม่คนละคนกันต่างหากล่ะ!”
นั่นก็นับว่าเป็นพี่สาวของตัวเองนะ ฉินสือโอวเกาหัวแกรกๆ วินนี่เล่าให้เขาฟังคร่าวๆ ว่าเมื่อก่อนพ่อของเธอมีชีวิตรักที่ล้มเหลวอยู่ช่วงหนึ่ง พอหย่ากับภรรยาคนก่อนแล้วก็มาแต่งงานกับมิแรนด้าแม่ของเธอ หลังจากนั้นพวกเขาก็ให้กำเนิดเธอขึ้นมา
เมื่อพูดถึงฟอกส์พี่สาวของเธอ วินนี่ก็ไม่เหลือเค้าของนางฟ้าใจดีแล้ว เธอเริ่มทำท่านับนิ้วแบบเด็กผู้หญิงใจแคบแล้วพูดขึ้นมาว่า “ตั้งแต่เด็กๆ ฟอกส์ก็เป็นเหมือนกับลูกสาวของคนข้างบ้าน เธอได้คะแนนดี เธอน่าเอ็นดู เธอรู้กาลเทศะ เธอสวย เหอะ เธอน่ะดีที่สุดแล้วล่ะ ส่วนฉันน่ะเหรอ? ฉันก็เป็นเด็กผู้หญิงนิสัยเสียยังไงล่ะ!”
ฉินสือโอวตะลึงจนอ้าปากค้าง เขาพูดด้วยความงงงันว่า “เป็นไปได้เหรอ? คุณเป็นนางฟ้าที่สวยสง่าที่สุดเลยนะ ผมได้เจอคุณครั้งแรกก็หลงเสน่ห์ของคุณแล้ว”
ดวงตากลมโตของวินนี่หลุกหลิกไปมา เธอพูดอย่างอายๆ ว่า “ตอนทำงานกับตอนอยู่ที่บ้าน ก็ต้องไม่เหมือนกันอยู่แล้วล่ะค่ะ โอเคค่ะ ที่รัก ถ้าบอกว่านี่คือตัวตนที่แท้จริงของฉัน คุณจะเกลียดฉันไหมคะ?”
ฉินสือโอวกอดเธอเอาไว้ แล้วพูดกับเธอว่า “จริงๆ ผมรักคุณจะตายอยู่แล้ว ที่รัก เมื่อก่อนคุณเป็นเหมือนนางฟ้าเลย บางครั้งผมก็รู้สึกว่าคุณเหมือนไม่มีอยู่จริง ตอนนี้ถึงได้รู้สึกเหมือนกับว่าคุณก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน”
เขาหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ เมื่อก่อนวินนี่เหมือนหญิงสาวชนชั้นสูงในทีวีอย่างไรอย่างนั้น สูงส่งสง่างาม รู้จักการให้อภัย สวยเพียบพร้อม จิตใจดีงาม สมบูรณ์แบบจนไกลเกินเอื้อม กลับมาบ้านครั้งนี้ เขาได้เห็นวินนี่ที่ต่างไปจากเดิม เป็นวินนี่ที่ดูสมจริงยิ่งขึ้น
เดี๋ยวก็อารมณ์ร้าย เดี๋ยวก็รู้สึกอิจฉา เดี๋ยวก็เอาแต่ใจ ฉินสือโอวกลับรู้สึกว่าวินนี่ที่เป็นแบบนี้ดูน่ารักกว่าเดิมเสียอีก
กอดรัดกันอยู่ครู่หนึ่ง ฉินสือโอวก็ลุกขึ้นนั่ง เขาเริ่มสวมบทสามีผู้มีคุณธรรม “วินนี่ ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ผมก็สนับสนุนคุณทั้งนั้น แต่ผมก็ต้องพูดกับคุณด้วยว่า คุณไม่ควรจะโกรธพ่อแม่ของคุณ พวกท่านรักคุณนะครับ”
วินนี่จ้องเขาอย่างขุ่นเคือง แล้วพูดกับเขาว่า “รักเหรอคะ? คุณรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงได้โกรธพ่อกับแม่ของฉัน? ฤดูร้อนปีนั้นหลังจากที่อาร์ม็องมาบ้านของฉันและได้รู้จักกับฟอกส์แล้ว พวกเขายังไม่ได้คุยกันทันที จนกระทั่งฉันกลับไปมหาวิทยาลัย พวกเขาถึงได้เริ่มคุยกัน”
“พวกเขาคุยกันอยู่ปีครึ่งถึงได้ยืนยันสถานะความสัมพันธ์ คนในครอบครัวของฉันทุกคนก็รู้ว่าพวกเขาสองคนกำลังคบกันอยู่ มีแค่ฉันคนเดียวที่ไม่รู้อะไรเลย!”
วินนี่กอดอกแล้วพูดอย่างไม่พอใจ “คุณรู้ไหมว่าหลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้นแล้วฉันกลายเป็นคนยังไง? พวกเพื่อนๆ ของฉันก็คิดว่าฉันเป็นแม่เล้ากันทั้งนั้น เป็นนังสารเลวที่ช่วยพี่สาวของตัวเองแย่งแฟนเพื่อน! เพราะอย่างนั้นเพื่อนในมหาวิทยาลัยของฉันทุกคนถึงได้หนีห่างจากฉันไป! ทำไมพอเรียนจบแล้วฉันถึงมาเป็นแอร์โฮสเตสน่ะเหรอ? เพราะว่าขอแค่ฉันได้ออกบิน ฉันถึงจะได้เจอพวกเขาให้น้อยลงยังไงล่ะ!”
ยิ่งพูด วินนี่ก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดทวิตเตอร์กับเอ็มเอสเอ็นให้ฉินสือโอวดู ในรายชื่อของผู้ติดตามของเธอกลับไม่มีเพื่อนผู้หญิงสมัยเรียนมหาวิทยาลัยอยู่แม้แต่คนเดียว
ฉินสือโอวเห็นว่าในดวงตาของวินนี่เริ่มมีน้ำใสคลอขึ้นมาแล้ว เขารีบกอดเธอเอาไว้ แล้วพูดกับเธอว่า “หวานใจของผม นี่มันเป็นเรื่องของโชคชะตา ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องของฟอกส์ คุณก็คงจะไม่ตัดขาดกับเพื่อนๆ ถ้าคุณไม่ได้ทะเลาะกับเพื่อนๆ คุณก็คงจะไม่ได้มาเป็นแอร์โฮสเตส และถ้าคุณไม่ได้เป็นแอร์โฮสเตส พวกเราก็คงไม่ได้เจอกันนะ”
“แต่ฉันไม่มีทางให้อภัยพวกเขาเด็ดขาด!” วินนี่พูดด้วยความโกรธแค้น
สองมือของฉินสือโอวกอบกุมใบหน้างดงามของเธอเอาไว้ เขาจุ๊บลงไปบนริมฝีปากของเธอเบาๆ แล้วบอกกับเธอว่า “ผมเป็นแฟนของคุณนะ ต่อไปก็จะกลายเป็นสามีของคุณ ไม่ว่าคุณจะเลือกอะไร ผมก็พร้อมจะยอมรับมัน พอฉลองคริสต์มาสเสร็จเราก็กลับฟาร์มปลากันนะ ผมก็จะไม่ให้อภัยพวกเขาเหมือนกัน”
ได้ยินฉินสือโอวพูดแบบนี้ วินนี่ก็เริ่มรู้สึกสับสนอีกครั้ง เธอพูดอย่างอ้ำๆ อึ้งๆ ว่า “ที่จริง ถ้าคุณกับพวกเขาจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันสักหน่อยก็ไม่เป็นไรนะคะ”
“ไม่หรอก ใครบอกให้พวกเขาทำให้ภรรยาของผมโมโหกันล่ะ?” ฉินสือโอวพูดกับเธออย่างแน่วแน่
ได้ยินฉินสือโอวยืนยันอย่างนี้ วินนี่ก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาทันที ขณะที่พวกเขากำลังล้างความรู้สึกผิดพวกนี้ มิแรนด้าก็มองมาที่พวกเขา วินนี่จึงหันหลังกลับไปกอดฉินสือโอวแล้วเริ่มจูบกับเขาทันที
มิแรนด้ารับรู้ความโกรธเคืองของลูกสาวคนเล็กได้อย่างชัดเจน เธอจึงได้แต่ส่ายหัวอย่างจนปัญญา
เวลาผ่านไปเร็วเหมือนสายน้ำไหลรินจนล่วงเลยเข้าสู่วันที่ 24 เดือนธันวาคม คืนคริสต์มาสอีฟก็ย่างกรายมาถึงแล้ว
แท้จริงแล้วคืนคริสต์มาสอีฟไม่ใช่แค่คืนก่อนวันคริสต์มาสธรรมดาๆ เท่านั้น อย่างน้อยก็ที่อเมริกาเหนือที่หมายถึงวันที่ 24 ทั้งวัน เพียงแต่ว่าในตอนกลางคืนจะสามารถสร้างบรรยากาศของเทศกาลได้ง่ายยิ่งกว่า กิจกรรมขนาดใหญ่ทั้งหมดจึงไปรวมกันอยู่ในเวลากลางคืน หลังจากนั้นจึงถูกเรียกว่าคริสต์มาสอีฟ
คืนวันนี้ก็เป็นเหมือนกับวันส่งท้ายปีเก่าของชาวคริสต์ เหมือนกับการเดินทางในช่วงก่อนหรือหลังวันตรุษจีนของชาวจีน ในสองวันนี้ชาวยุโรปและอเมริกานับพันนับหมื่นคนก็จะเร่งรีบเดินทางด้วยความเหน็ดเหนื่อยเพื่อกลับมารวมตัวกันที่บ้าน
ในคืนคริสต์มาสอีฟทุกคนจะแลกของขวัญกัน ที่อิตาลี ของขวัญจะถูกแลกในเช้าวันเดียวกันกับคืนคริสต์มาสอีฟ แต่ที่อังกฤษ ไอร์แลนด์ สวีเดน เดนมาร์ก นอร์เวย์ ฟินแลนด์ โปรตุเกสไปจนถึงโปแลนด์ โดยทั่วไปแล้วของขวัญวันคริสต์มาสมักจะถูกแลกในคืนคริสต์มาสอีฟหรือไม่ก็ในเช้าวันคริสต์มาส
เริ่มตั้งแต่ตอนเช้า ฉินสือโอวเดินทางไปพร้อมกับมาริโอ้และอาร์ม็องเพื่อตัดสนเข็มแดงต้นเล็กมาหนึ่งต้น จากนั้นก็ขับกระบะขนกลับบ้าน มิแรนด้ากับคนอื่นๆ เตรียมไฟประดับไว้แล้ว ของขวัญชิ้นเล็กก็ถูกนำมาแขวนไว้ข้างบน นอกจากนี้ก็ยังแขวนขนมหวานชิ้นเล็กๆ กับเทียนไขไว้อีกด้วย
ต่อมา คนในบ้านก็ต้องเตรียมอาหารมื้อใหญ่ของคืนคริสต์มาส
ในคืนคริสต์มาสอีฟและคืนวันคริสต์มาสชาวแคนาดามักจะดื่มด่ำกับอาหารมื้อใหญ่ ทานอาหารมื้อค่ำอย่างอุดมสมบูรณ์ติดต่อกันทั้งสองคืน ไม่ค่อยเหมือนกันกับอเมริกา อาจจะเป็นเพราะได้รับอิทธิพลมาจากอังกฤษ เนื่องจากคืนคริสต์มาสอีฟกับคืนวันคริสต์มาสตามแบบฉบับดั้งเดิมก็เป็นเช่นนี้
อาหารมื้อใหญ่ที่เป็นสัญลักษณ์ของคืนวันคริสต์มาสก็คือไก่งวงอบ ส่วนในคืนคริสต์มาสอีฟก็จะมีโจ๊กข้าวโพดเป็นสัญลักษณ์
โจ๊กข้าวโพดมีวิธีทำที่หลากหลาย ครอบครัวของวินนี่กำลังโรยครีมลงไปด้านบนของโจ๊ก เวลาตักก็จะวางผลไม้ลงไปในชามด้วยทุกใบ รสชาติหวานอร่อยแถมยังให้ความรู้สึกสดชื่น เป็นเอกลักษณ์มาก
อาหารมื้อนี้ไม่ใช่การที่ทุกคนมาล้อมกันทานอาหารอยู่บนโต๊ะอาหาร แต่จะวางอาหารไว้บนโต๊ะ แล้วทุกๆ คนก็จะมานั่งรวมกันอยู่หน้าเตาผิง หลังจากนั้นก็พูดคุย เล่นเปียโน ร้องเพลง เต้นรำอะไรทำนองนั้น จุดสำคัญก็คือการสร้างบรรยากาศของวันเทศกาลขึ้นมา
ฟอกส์สีไวโอลินได้ดีมาก ส่วนอาร์ม็องก็เล่นหีบเพลงแบบดั้งเดิมของฝรั่งเศสได้ ทั้งสองคนจึงบรรเลงเพลงคลาสสิคอย่างเพลงไซเลนท์ ไนท์ร่วมกัน
มองดูสามีภรรยาคู่อื่นร้องเพลงเล่นดนตรีประสานเสียงกัน ทางด้านฉินสือโอวก็เริ่มมีเหงื่อเย็นๆ ผุดขึ้นมา เนื่องจากการเล่นดนตรีไม่ใช่เรื่องที่เขาถนัดเลย
วินนี่กับฟอกส์เป็นคู่กัดกัน วินนี่ที่รักษาความสง่างามและมารยาทเอาไว้ตลอดเวลา เมื่อมาอยู่ต่อหน้าฟอกส์ก็กลายเป็นเหมือนไก่ชนตัวเล็กๆ เธอพร้อมจะสู้อยู่ตลอดเวลา
ไม่ต้องให้ฉินสือโอวลงมือ วินนี่นั่งลงตรงหน้าเปียโน นิ้วทั้งสิบของเธอขยับอย่างพลิ้วไหว เพลงคลาสสิคอย่างเพลงจิงเกิลเบลส์ก็ถูกบรรเลงขึ้นมา
ครั้งแรกที่ฉินสือโอวฟังเพลงนี้อย่างตั้งใจ ก็คือตอนที่เขาขึ้นเรียนในชั้นมัธยมต้น ไม่ใช่ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสแต่เป็นวันปีใหม่
ในตอนนั้นชั้นเรียนของเขาร่วมกันจัดกิจกรรมวันปีใหม่ขึ้นมา ทางด้านนอกหิมะเพิ่งจะหยุดตกคุณครูก็เปิดเพลงคลาสสิคเพลงนี้
ตอนนี้ได้ฟังวินนี่กำลังบรรเลงเพลงนี้ ฉินสือโอวยืนอยู่ตรงหน้าต่างมองออกไปยังชั้นหิมะขาวสะอาดที่อยู่ด้านนอก ความรู้สึกของเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วก็ย้อนกลับมา
………………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset