ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 440 ความจงรักภักดีของชาวประมง

เรือประมงได้เงินก้อนแรกจากการเก็บเกี่ยวแซลมอนแอตแลนติกสองอวนติด แซลมอนสี่ตันกว่า ส่วนใหญ่ขายได้ประมาณหกหมื่นถึงแปดหมื่นดอลลาร์
ปลาชนิดนี้เอาไปขายให้บริษัทประมงที่ท่าเรือไม่ได้ เพราะราคาจะถูกกดจนต่ำเกินไป ถ้าไปส่งให้ตลาดก็จะขายได้เจ็ดสิบแปดสิบดอลลาร์ต่อหนึ่งกิโลกรัม
แต่พวกชาวประมงไม่มีช่องทางไปขายตลาด พวกเขากอบโกยปลามาเยอะแต่ขาดที่แช่แข็งกับเครื่องมือขนส่ง ซึ่งปลาพวกนี้ไม่สามารถรอจนถึงตลาดบนบกได้ ไม่งั้นจะถือว่ามันเสียแล้ว
ฉินสือโอวไม่อยากให้พวกพ่อค้าคนกลางได้กำไรโดยศูนย์เปล่า เขาใช้โทรศัพท์ดาวเทียมโทรหาบัตเลอร์ชายไว้หนวดที่ตลาดอาหารทะเลนิวยอร์ก ถามเขาว่าสนใจอยากรับซื้อแซลมอนแอตแลนติกไหม
บัตเลอร์ตอบอย่างลำบากใจ “ฉิน ส่วนใหญ่ผมทำแต่พวกอาหารทะเลที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงน่ะ แซลมอนแอตแลนติกก็ไม่เลว แต่ปลาชนิดนี้มีในตลาดเยอะแล้ว ต่อให้ผมไปซื้อกับคุณที่นั่นก็คงให้ราคาสูงไม่ได้ เพราะผมต้องจ้างเรือจากนิวยอร์กลำหนึ่งมาคอยขนส่งอีก ซึ่งค่าใช้จ่ายแพงมาก!”
ในเมื่อไม่มีทางเลือกฉินสือโอวจึงแค่ยักไหล่เอ่ยขอบคุณไป
แต่ไม่รู้ว่าทำไมบัตเลอร์ถึงใส่ใจฉินสือโอวเป็นพิเศษ เขาลังเลเล็กน้อยก่อนกล่าวว่า “เอาอย่างนี้ คุณจะกลับท่าเรือเมื่อไร? เดี๋ยวผมติดต่อนักธุรกิจอาหารทะเลของควิเบกบางส่วนให้คุณ พวกเขาอาจไม่ได้ให้ราคาสูง แต่ก็ดีกว่าพวกบริษัทประมงหน้าเลือดแน่นอน”
ฉินสือโอวดีใจมากจนพูดขอบคุณซ้ำๆ
บัตเลอร์ตอบอย่างสุภาพว่าคุณทำเป็นคนอื่นคนไกลไปแล้ว จากนั้นก็กล่าวอีกว่า “ฉิน สิ่งที่คุณทำในพายุคราเคนนั่นมันสุดยอดมาก คุณเป็นนักรบที่กล้าหาญจริงๆ ผมเองก็ยินดีไม่น้อยที่สามารถช่วยคุณได้ แล้วก็ ถ้าฟาร์มปลาคุณจับปลาแลมป์เพรย์ได้อีกก็อย่าลืมติดต่อผมมานะ”
ฉินสือโอวถามเขาว่าที่นี่มีล็อบสเตอร์ยักษ์ด้วยอยากได้ไหม บัตเลอร์หัวเราะขมๆ ปฏิเสธ เมนล็อบสเตอร์มีถิ่นกำเนิดจากอเมริกาที่นิวยอร์กซึ่งอยู่ใกล้รัฐเมน ขนาดของกุ้งย่อมไม่น้อยอยู่แล้ว
แม้อุตสาหกรรมล็อบสเตอร์บริเวณชายฝั่งจะโดนแบคทีเรียเล่นงานจนแทบล้มละลาย แต่ล็อบสเตอร์บริเวณน้ำลึกก็ยังมีจำนวนมาก เขาเลยสามารถซื้อจากเรือที่ไปจับตรงน้ำลึกแทนได้ ดังนั้นถ้าให้ซื้อล็อบสเตอร์จากแคนาดา คงไม่คุ้มเท่าไร
คุยธุรกิจเสร็จ ฉินสือโอวก็วางสาย การโทรครั้งนี้ไม่เสียเปล่าจริงๆ อย่างน้อยก็ได้ช่องทางคนขายอาหารทะเลของควิเบกมาส่วนหนึ่ง
ปัจจุบันด้วยพลังแห่งโลกาภิวัตน์ ช่องทางที่มีประสิทธิภาพจะเป็นรากฐานไปสู่ความสำเร็จ ไม่งั้นทำไมซูเปอร์มาเก็ตของวอลมาร์ตกับคาร์ฟูร์ถึงมีอิทธิพลนัก? เพราะพวกเขาได้ครอบครองช่องทางแหล่งค้าขายจำนวนมากนั่นเอง
ช่องทางเป็นสิ่งที่ถ้าไม่มีคนรู้จักช่วยแนะนำก็ยากที่จะบุกเบิก เพราะการร่วมงานกับนักธุรกิจไม่ใช่แค่เรื่องของผลประโยชน์ สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือความคุ้นเคยร่วมมือกันอย่างมีความสุข ต่อให้ได้กำไรน้อยหน่อยก็ไม่ใช่ปัญหา
สิ่งสำคัญสำหรับช่องทางคือยี่ห้อ ถ้ายี่ห้อถูกทำลายก็เป็นอันจบ ดังนั้นพวกธุรกิจอาหารทะเลจึงรับชาวประมงแปลกหน้าน้อยมาก
หลังเก็บเกี่ยวแซลมอนแอตแลนติกไปสองอวน พวกชาวประมงก็จะก็บกรงดักกุ้งต่อ ฉินสือโอวลงไปดูใต้ทะเลมาก่อนแล้ว และไม่เห็นล็อบสเตอร์แถวนั้นเลย จึงน่าจะจับอะไรไม่ได้มากนัก
ซึ่งก็เป็นความจริง เหล่าชาวประมงที่รอเก็บเกี่ยวล็อบสเตอร์ด้วยความคาดหวัง จากกรงสิบกรง จับได้ทั้งหมดแค่สองตัว ถึงไม่ใช่ตัวเล็กราวสี่ห้าปอนด์ได้ แต่ก็ทำพวกเขาผิดหวังมากอยู่ดี
ฉินสือโอวทำใจให้สงบมั่นคง เขาจะได้ไม่รู้สึกหดหู่อะไร โดยการถือชาร้อนแก้วหนึ่งไปนั่งเล่นเกมที่ห้องบังคับการ
ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนดังจากด้านนอก ฉินสือโอวได้ยินคิดว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเลยรีบออกไปดู
ปรากฏทันทีที่เปิดประตู บูลก็รีบวิ่งถือกรงดักกุ้งเข้ามา ตะโกนว่า “กัปตัน มาดูเร็วเข้า! โชคของปลาพระจันทร์ไม่ได้ขี้โม้จริงๆ ด้วย มาดูโชคของเราสิครับ!”
ฉินสือโอวมองตามแล้วก็อดตะลึงไม่ได้ ในกรงดักกุ้งมีอะไรอยู่? มันเป็นล็อบสเตอร์ตัวหนึ่ง แต่นี่มันบ้าไปแล้ว
ล็อบสเตอร์ตัวนี้มันเป็นสีขาว! ขาวเหมือนหิมะเลย!
ฉินสือโอวลองตบๆ กรง ล็อบสเตอร์ข้างในก็กางก้ามออกพลางหดตัวไปด้านหลัง ชัดเจนแล้วว่าเจ้าตัวนี้มันมีชีวิตจริงๆ ไม่ใช่ของปลอมที่ใครเอามาใส่ไว้เล่นๆ
กุ้งภายในกรงมีความยาวประมาณสี่ห้าเซนติเมตร หน้าตาเหมือนเมนล็อบสเตอร์ทั่วไป แต่เปลือกเป็นสีขาว และดวงตาสีดำเป็นประกาย มองภายนอกก็ดูเหมือนงานศิลปะ
ฉินสือโอวเพิ่งจะเคยเห็นล็อบสเตอร์สีขาวเป็นครั้งแรก พวกบูลก็ไม่ต่างกัน เหมือนบ้านนอกเข้ากรุงกัน
ชาร์คที่เป็นคนมีประสบการณ์ความรู้มากมาย พอมองล็อบสเตอร์แล้วก็พูดว่า “ผมเคยได้ยินมาว่า ล็อบสเตอร์พวกนี้เป็นล็อบสเตอร์แบบพิเศษ ว่ากันว่าพวกพิเศษนี้อัตราการรอดชีวิตคือหนึ่งในร้อยล้าน พวกเราโชคดีมากเลยนะเนี่ย ที่ได้เจอมัน!”
ฉินสือโอวเจอตู้ปลาเลยเอาล็อบสเตอร์ขาวไปเลี้ยงในนั้น เจ้าตัวนี้มันจะสวยเกินไปแล้ว เดี๋ยวเลี้ยงไว้ดูทีหลังน่าจะดี
หลังได้เห็นล็อบสเตอร์ขาว ในใจฉินสือโอวพลันรู้สึกประทับใจ แล้วนึกถึงล็อบสเตอร์ลายดาวที่ฟาร์มปลา
ล็อบสเตอร์ลายดาวเป็นชื่อที่เขาตั้งให้ล็อบสเตอร์กลุ่มแรกในฟาร์มปลา ช่วงที่พวกมันกำลังโตสีบนเปลือกหลังก็ยิ่งสวยงาม เหมือนดวงดาวที่มองจากกล้องโทรทรรศน์
เขาถามอย่างไม่แน่ใจว่า “พวกนายเคยเห็นล็อบสเตอร์ชนิดที่มีเปลือกหลังลายสีสวยๆ ไหม?”
พวกชาร์คงุนงง พร้อมส่ายหน้าไม่เข้าใจที่ฉินสือโอวพูด
ฉินสือโอวอธิบายพร้อมเอารูปกาแล็กซีมาเปรียบเทียบให้ดู พวกเขายังคงส่ายหัวสื่อว่าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย
ไม่มีอะไรต้องปิดบัง ในฟาร์มปลามีล็อบสเตอร์แบบนี้อยู่ไม่น้อย ไม่ช้าก็เร็วเดี๋ยวพวกเขาก็ได้เห็นเอง ฉินสือโอวบอกไปตามจริงกับแลนซ์ แต่แลนซ์ก็ยังยืนยันคำเดิม แล้วถามเขาว่า “กัปตัน นี่คุณเพิ่งไปสูบกัญชาที่ห้องบังคับการมาใช่ไหมเนี่ย?”
“เฮ้อ! เดี๋ยวฉันให้พวกนายไปดูที่ฟาร์มปลาฉันทีหลังก็แล้วกัน!” ฉินสือโอวถือล็อบสเตอร์ขาวเดินจากไป เขาเริ่มเดาออกแล้วว่า การเปลี่ยนสีบนเปลือกหลังของกุ้งพวกนั้นน่าจะมาจากพลังโพไซดอน
ทั้งวันนั้นยังคงลงอวนต่อเรื่อยๆ ล็อบสเตอร์จับได้ไม่มากนักแต่ได้ปลาทะเลมาเยอะแทน และช่วงบ่ายก็ได้ปลาทะเลสิบกว่าตันมาใส่ถังน้ำแข็ง ส่วนใหญ่เป็นปลาพอลลอคกับแฮดดัคเหมือนเดิม นอกนั้นคือปลาค็อด
ฉินสือโอวเห็นว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ค่อยดีแล้ว ปลาในเซนต์ลอว์เรนซ์ไม่ได้อุดมสมบูรณ์แบบที่ตัวเองคิดไว้ จึงรีบส่งกองกำลังจากบ้านมา โดยเรียกไอซ์สเกตกับบอลหิมะคู่หูนำโชคฟาร์มปลามาที่อ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ เพื่อให้พวกมันมาช่วยหากุ้งหาปลา
ทว่าระยะทางจากเซนต์จอห์นมาเซนต์ลอว์เรนซ์ค่อนข้างไกล ต่อให้ฉลามจะว่ายอย่างรวดเร็ว และลัดเลาะไปตามชายทะเลได้ ก็ยังต้องใช้เวลา ช่วงเย็นฉินสือโอวจึงต้องพึ่งตัวเองไปก่อน
แม้จับล็อบสเตอร์ได้ไม่เยอะ แต่ตอนกลางวัน เรือฮาวิซทก็เก็บเกี่ยวได้ไม่เลว ทำเงินได้แสนกว่าโดยไม่มีปัญหา
ดังนั้น พวกชาวประมงจึงยังมีพลังล้นเหลือกันตอนคัดแยกปลาช่วงเย็น
ฉินสือโอวไม่มีอะไรทำ แต่เขาก็ไม่อยากไปลำบากในห้องแช่แข็ง เลยตั้งเตาย่างบนดาดฟ้าช่วยย่างปลาหมึกให้ชาวประมงกิน
นอกจากนี้อวนที่จับมาได้ยังมีหอยแครงอีกจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นหอยแครงสีขาวธรรมดา ปริมาณของพวกนี้ยังไม่คุ้มพอขาย ฉินสือโอวจึงเอามาใส่เตาด้วย แล้วผสมซอสพริกกับวุ้นเส้นอบกิน
ลมทะเลหนาวเย็นพัดผ่าน แต่พวกชาวประมงกลับรู้สึกอบอุ่นไปทั้งกาย ยิ่งพวกเขาติดตามฉินสือโอวมานาน ก็ยิ่งรับรู้ถึงข้อดีมากมาย
รายได้สูง มีเกียรติ มีของกิน ชีวิตชาวประมงจะยังมีอะไรดีกว่านี้ได้อีก
……………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset