ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 445 สมรภูมิใหญ่โต

หลังตรวจสอบปลากุ้งแล้วว่าไม่มีปัญหาก็นำขึ้นรถบรรทุกแช่แข็ง แล้วเกย์กับฟิลิปป์ก็ส่งเช็คให้ฉินสือโอวเป็นจำนวน 1.25 ล้าน!
คราวนี้คงให้คนช่วยแยกเช็คไม่ได้ ฉินสือโอวโทรหาวินนี่ให้เธอช่วยโอนเงินเข้าบัญชีของแลนซ์สามแสน
ครึ่งชั่วโมงต่อมา พวกชาวประมงก็มารวมตัวกันอีกครั้ง ผลัดกันดูโทรศัพท์ของแลนซ์ เพราะเขาเชื่อมบัญชีบัตรเครดิตไว้กับมือถือนั่นเอง
“โอเค โอเค พวกนายไปแบ่งเงินกันเองนะ วันนี้จะไปดูระบำเปลื้องผ้าอีกหรือเปล่าเนี่ย?” ฉินสือโอวยิ้มล้อ
บูลตาเป็นประกาย เอ่ยว่า “ไม่ล่ะกัปตัน พวกเราไม่ไปบาร์หรอก! เราออกทะเลอีกรอบดีไหมครับ? พระเจ้าคงรู้แล้วว่าพวกเราไม่ได้มาตกปลาตกกุ้ง แต่มาปล้นธนาคารต่างหาก!”
แลนซ์ตบบ่าบูล พูดน้ำเสียงจริงจังว่า “กัปตันเขาต้องการพัก แกเข้าใจไหมเนี่ย ไปพัก!”
กล่าวจบเขาก็หันมายิ้มประจบกับฉินสือโอว “พักคืนหนึ่งแล้วไปออกทะเลต่อพรุ่งนี้ใช่ไหมครับ?”
พวกเขาตามฉินสือโอวไปรอบเดียวเทียบเท่ากับทำงานให้กัปตันคนอื่นตลอดฤดูตกปลา รายได้ดีแบบนี้ใครจะไม่คึกกัน
ที่จริงก็เป็นไปไม่ได้ที่จะออกต่ออยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ายังต้องรีบไปเข้าร่วมพิธีไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากพายุคราเคนที่ท่าเรือบาสก์อีก แถมร่างกายพวกชาวประมงก็ล้าเสียจนกินอะไรไม่ลง
เหลือเวลาอีกสองวันก่อนถึงวันงาน พวกชาวประมงจะแต่งชุดไม่เรียบร้อยแบบนี้ไปไม่ได้แน่ เสื้อดาวน์ขนเป็ดที่บูลสวมยังปักคำว่า ‘ปุ๋ยดีเกิดจากโลก’ อยู่เลย คราบเปื้อนฝุ่นบนหน้ายังหนากว่าสีเทาของเสื้อดาวน์เสียอีก
ถึงอย่างไรท่าเรือสโนว์ดิคก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่ง พลังในการบริโภคจึงมีพอสมควร ฉินสือโอวลองหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต พบว่าที่นี่มีร้านแฟรนไชส์เสื้อผ้าคุณภาพดีอยู่ เช่นร้านอาร์มานี่สูทและร้านราฟเลอแรน
จะเข้าร่วมพิธีก็ต้องสวมสูทรองเท้าหนัง ฉินสือโอวเลือกมาส่วนหนึ่ง แล้วพาทุกคนไปที่ร้านราฟเลอแรน
ที่ประเทศจีน ฉินสือโอวรู้สึกว่าพวกอาร์มานี่มีบรรยากาศของความชั้นสูง แต่พอมาแคนาดาก็พบว่าคนแคนาดาไม่ได้สนใจแบรนด์นี้ของยุโรปเท่าไร
เพราะของที่อาร์มานี่จำหน่ายในแคนาดานั้นต่างจากของประเทศยุโรป ทางรัฐสภาแคนาดามีการรายงานจำนวนการขายสินค้าฟุ่มเฟือยออกมาว่า ปีที่แล้วอาร์มานี่ได้จำหน่ายสินค้าในแคนาดาไปทั้งหมดสี่ร้อยล้านดอลลาร์แคนาดา ขณะเดียวกันตัวกิจการได้ใช้เงินลงทุนไปถึงสองร้อยสี่สิบล้านดอลลาร์แคนาดา
มาลองคำนวณดู อาร์มานี่ขายสินค้าในแคนาดาได้ทั้งหมดสี่ร้อยล้านชิ้น ค่าบริการโฆษณาและอื่นๆ อีกสองร้อยสี่สิบล้าน พวกเขาย่อมต้องการทำเงิน งั้นราคาเสื้อผ้าพวกนี้มันเท่าไรกันล่ะ?
ราฟเลอแรนเป็นแบรนด์ของอเมริกา และค่อนข้างมีอิทธิพลในแคนาดา ปีที่แล้วขายได้หนึ่งพันห้าร้อยล้าน ค่าบริการไม่เกินหกแสนล้าน แต่ผู้บริโภคระดับสูงในแคนาดาต่างรู้จักแบรนด์นี้ทั้งนั้น
ฉินสือโอวพากลุ่มชาวประมงที่การแต่งกายและมารยาทในการสนทนาสุดบ้านนอกเข้าไปในร้านราฟเลอแรน ทีแรกเขาค่อนข้างกังวล ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นร้านเสื้อผ้าชั้นนำที่เปิดในห้างใหญ่ ไม่ใช่ร้านขายของข้างทาง รูปลักษณ์ของพวกเขาไม่ค่อยเข้าเท่าไร
ทว่าก็ด้วยความต่างของร้านขายเสื้อผ้าชั้นนำ ทัศนคติการบริการย่อมไม่เหมือนกัน ถึงแม้กลุ่มพวกหน้าตาบ้านนอกจะเข้ามาในร้าน แต่ทั้งพนักงานชายหญิงต่างก็ต้อนรับพวกเขา แถมยังสุภาพมีความอดทนอีกด้วย
ฉินสือโอวให้พวกชาวประมงเลือกสูท บูลพูดเสียงเบาว่าของพวกนี้แพงเกินไป พวกเราไปดูเซลล์แมนที่ขายเสื้อผ้าผู้ชายดีกว่า
เซลล์แมนเป็นตลาดขายเสื้อผ้าราคาถูกสำหรับผู้ชายที่ใหญ่ที่สุดในแคนาดา
ฉินสือโอวโบกมืออย่างอารมณ์ดี บอกว่านี่จะเป็นชุดทำงานพวกเขา ในอนาคตถ้าพวกนายอยากมาทำงานกับฉัน ทางฟาร์มปลาก็จะออกใบเสร็จให้ ถือเป็นค่าอุปกรณ์ชิ้นแรก
ได้ยินดังนั้น ต่างก็สะพรึง หัวใจเต้นรัวด้วยความประหม่ากัน พวกชาวประมงรีบทำใจกล้าเข้าไปกวาดตามองเลือกอย่างระมัดระวัง แล้วเลือกสูทสีดำสามพันสองร้อยดอลลาร์มา
สามพันสองร้อยดอลลาร์ถือว่าไม่แพง คิดเป็นเงินหยวนก็ไม่เกินหมื่นหก
และที่พวกชาวประมงเลือกมาก็เป็นสูทที่ถูกที่สุดของร้านราฟเลอแรน คุณภาพดีพร้อมได้ส่วนลด 20%
ในเมื่อตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว ฉินสือโอวก็จ่ายเงิน เขาไม่ได้คิดว่าพวกชาวประมงจำเป็นต้องใส่ของราคาแพง เพราะถึงอย่างไรพวกเขาก็ยังไม่ได้ทำผลงานอะไรให้เขา
แต่เขาก็ซื้อให้ชาร์คตัวหนึ่งในราคา 14,000 ดอลลาร์ เหตุผลคือพวกแลนซ์กับชาวประมงเพิ่งมาทำงานกับเขา แต่ชาร์คร่วมงานกับเขามาจะครบปีแล้ว ด้วยความตั้งใจอุตสาหะ ทั้งฟาร์มปลาก็เป็นเขาที่คอยจัดการ
ทุกคนซื้อเสร็จแล้ว เหลืออีวิลสันที่ยังซื้อไม่ได้ เพราะรูปร่างสูงใหญ่กำยำของเขา
สาวแนะนำสินค้าเห็นฉินสือโอวลำบากใจ เลยช่วยอีวิลสันวัดความสูง ความกว้างบ่า อก เอว สะโพก ขา แล้วบอกว่า “ถ้าคุณรอได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะส่งสูทที่เหมาะกับสุภาพบุรุษท่านนี้จากนิวริชมอนด์มาให้ค่ะ”
ฉินสือโอวพยักหน้า เอาตามนั้น
ตอนจ่ายเงินรูดบัตร ฉินสือโอวหยิบบัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสออกมาอีกครั้ง อยากจะอวดเสียหน่อย หลักๆ คืออยากรู้ว่าคนอื่นๆ จะคิดอย่างไรเมื่อเห็นบัตร…
อยากอวดก็อวดไม่สำเร็จเสียแล้ว พวกชาวประมงดันไม่มีใครรู้จักบัตรนี้เลย หรือไม่พวกเขาก็ไม่ได้สนใจว่าฉินสือโอวจะใช้อะไรจ่าย เพราะรู้อยู่แล้วว่ากัปตันอายุน้อยคนนี้เป็นเศรษฐีหน้าใหม่
จ่ายเงินเสร็จ ฉินสือโอวให้ทิปกับพนักงานแนะนำสินค้าคนละสี่ร้อยดอลลาร์ พวกเขามารยาทในการบริการนี่ไม่ต้องพูดถึง มีความเป็นมืออาชีพเสียจนเขาต้องชมเชย
ถ้าให้พูดอย่างเข้มงวดกว่านี้ พวกเขาที่เข้ามาในร้านราฟเลอแรนทั้งที่แต่งตัวไม่เหมาะสมกัน และเป็นการไม่ให้เกียรติคนอื่น แต่ฉินสือโอวก็ไม่มีทางเลือก ชาวประมงจะเอาชุดสะอาดมาจากไหน?
ดังนั้นเขาถึงกับคิดว่า ถ้าคนในร้านปฏิเสธพวกเขา เขาก็คงใช้บัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรสมากดดันคนไม่ได้อยู่ดี มันไม่ใช่การอวด แต่ดูโง่แทน
ปรากฏทุกคนกลับปฏิบัติอย่างเท่าเทียม บริการดีมีความใส่ใจ จะให้ทิปไปก็สมควรแล้ว
ร้านแฟนไซส์ราฟเลอแรนทำงานมีประสิทธิภาพมาก วันที่สองสูทที่เพิ่มความยาวความกว้างมาให้เรียบร้อย เสื้อเชิ้ต เนกไท รองเท้าหนังก็ส่งมาถึง ไม่ใช่แค่นั้น คนที่ร้านยังส่งเสื้อในและถุงเท้ามาให้ด้วย มีคุณภาพไม่พอ การบริการยิ่งยอดเยี่ยมจริงๆ
เมื่อทุกคนเตรียมตัวพร้อมแล้ว ฉินสือโอวก็จ้างเรือยนต์ลาดตระเวนมาลำหนึ่ง พาพวกชาวประมงไปท่าเรือบาสก์ก่อน
งานไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากพายุคราเคนจะเริ่มพรุ่งนี้ ฉินสือโอวมาก่อนล่วงหน้าหนึ่งวันเพื่อเตรียมตัว เพราะถึงวันจริงเขาต้องขึ้นไปกล่าวในฐานะเรือฮาวิซท เพื่อแสดงความระลึกถึงกัปตันและต้นหนเรือแนสแกส
ปรากฏตอนที่เรือลาดตระเวนพวกเขามาถึงท่าเรือบาสก์ ตลอดทางท่าเรือมีนักข่าวกลุ่มใหญ่เข้ามารายล้อม สาดแสงแฟลชใส่แชะๆ อย่าว่าแต่ชาวประมงที่นิ่งอึ้งเลย ฉินสือโอวก็ชะงักไปเช่นกัน
นี่มันสมรภูมิอะไรกัน?
ทว่าตัวเด่นในงานหลักนี้ไม่ใช่พวกเขา แต่เป็นชายอายุน้อยหน้ายาวกำยำคนหนึ่ง
อายุประมาณยี่สิบแปดยี่สิบเก้าปี ผมสั้นสีบลอนด์อ่อน ดูมีนิสัยองอาจ ตัวผอมสูงยืนตรงอยู่บนท่าเรือ ทั้งดูผอมบางแต่ก็เต็มไปด้วยชีวิตชีวา น่าเสียดายที่ใบหน้าของหนุ่มคนนี้ยาวไปหน่อย ทำให้เสน่ห์ลดลง
ฉินสือโอวเห็นแล้วก็รู้สึกคุ้นๆ หน้า เหมือนเคยเห็นที่ไหนสักแห่ง แต่พวกชาร์คกับแลนซ์ที่อยู่ด้านข้างเห็นหน้าตาคนคนนั้นก็อุทานเสียงดังพร้อมกัน
“บ้าน่า เจ้าชายเฮนรีนี่นา!”
“พระเจ้าช่วย เจ้าชายเฮนรี!”
“คนราชวงศ์อังกฤษก็มาด้วยงั้นหรือเนี่ย? ทายาทผู้มีสิทธิ์สืบทอดบัลลังก์คนที่สี่ของอังกฤษด้วยนะ?”
……………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset