ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 482 ฟาร์มปลาที่สวยงามตระการตา

หลังชาเลนเจอร์ 350 ทำการเติมน้ำมันที่ซัสแคตเชวัน พร้อมกับจอดพักเครื่องครู่หนึ่งแล้ว ก็เริ่มออกบินอีกครั้ง เพราะยังต้องบินข้ามไปยังอีกฟากของเมืองแคนาดาอีก…
แต่ใจคนมักเป็นแบบนี้ประจำ ก็คือหากว่ามีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้วล่ะก็ จะรู้สึกว่าทำอะไรก็ราบรื่นไปหมด เวลาก็ผ่านไปไวมาก ฉินสือโอวงีบไปสักพัก เครื่องบินก็ไปถึงเซนต์จอห์นแล้ว นีลเซ็นที่ขับเรือแฟร์เวลมาได้ไปรอรับอยู่ที่ท่าเรือเรียบร้อยแล้ว
 “เฮ้ บอส สวัสดีปีใหม่ครับ”
 “นีลเซ็นที่รัก สวัสดีปีใหม่ ขอให้ปีนี้หาศรีภรรยาที่สวยงามเจอนะ” ฉินสือโอวโอบกอดเขาอย่างอบอุ่น
นีลเซ็นยิ้มพร้อมพูดว่าขอให้เป็นตามนั้นเถอะ เบิร์ดเดินตามหลังมา เพื่อนรักทั้งสองคนก็เริ่มพูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติขึ้นมา
เบิร์ดโชว์พวกกระดาษตัดรูป ภาพวาด เครื่องเซรามิกที่เขานำมาจากจีนให้นีลเซ็นดู แล้วพูดอย่างเสียดายว่า “เสียดายตุ๊กตาน้ำตาล กับตุ๊กตาแป้งข้าวเหนียวพังไปแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันต้องให้นายได้ชื่นชมฝีมือหัตถกรรมที่ยอดเยี่ยมของจีนอย่างแน่นอน! มันมหัศจรรย์มากเลย!”
ระหว่างพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน นีลเซ็นก็ได้ขับเรือยอชต์มุ่งหน้ากลับไปสู่ฟาร์มปลา
ฉินสือโอวยืนอ้าแขนทั้งสองข้างอยู่บนหัวเรือ เพื่อรับลมทะเลอันหนาวเย็น แล้วพูดตะโกนออกมาว่า “ฟาร์มปลาของฉัน ฉันกลับมาแล้ว!”
พอฉลองปีใหม่แล้ว ฉินสือโอวก็รู้สึกว่าฤดูใบไม้ผลิมาถึงแล้ว ความจริงหากนับตามฤดูกาลแล้ว ก็เข้าฤดูใบไม้ผลิแล้วจริงๆ แต่ว่าตอนเช้าในฤดูใบไม้ผลิของนิวฟันด์แลนด์นั้นหนาวมาก บนน้ำทะเลลอยไปด้วยแผ่นน้ำแข็งมากมาย เป็นน้ำแข็งที่ลอยมาจากกรีนแลนด์ที่อยู่ทางเหนือ
แผ่นน้ำแข็งสีขาวโพลนน้อยใหญ่ พวกมันลอยล่องอยู่บนผิวน้ำ มีสีขาวใสเหมือนคริสตัล แสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมานั้น ขอแค่ส่องลงมาได้ถูกมุมก็จะมีสีรุ้งที่สวยงามเปล่งประกายออกมา
ฉินสือโอวนึกย้อนไปถึงเดือนเมษายนปีที่แล้วที่เขาเพิ่งมาถึงที่ฟาร์มปลานี้ ตอนนั้นก็มีแผ่นน้ำแข็งเช่นกัน แต่ไม่เยอะเท่าตอนนี้
เมื่อเรือยอชต์เข้าใกล้ท่าเรือ ปอหลัวที่กำลังวิ่งเล่นแก้เบื่ออยู่ที่ชายหาดก็กระดิกหูอย่างตื่นตัวแล้วเงยหน้าขึ้นมา มันจ้องมองไปที่เรือยอชต์ที่กำลังขับใกล้เข้ามาเรื่อยๆ สักพักก็มองเห็นฉินสือโอว
มันจึงดีใจขึ้นมาทันที ส่งเสียงออกทางโพรงจมูกแล้ววิ่งเลียบไปทางท่าเรือ สุดท้ายก็ทำท่าปลากระโดดที่สวยงาม กระโดดจากท่าเรือลงไปในทะเล แล้วขยับขาทั้งสี่ว่ายน้ำเข้าไปหาอย่างดีใจ
นับตั้งแต่การไปตกกุ้งที่อ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ครั้งล่าสุด ฉินสือโอวก็ไม่ได้ใช้เวลากับปอหลัวอีกเลยเป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้ว
เขาให้เบิร์ดปล่อยเรือพายลงมา พายเรือเล็กนั้นไปหาปอหลัวแล้วกอดมันเป็นคนแรก ยื่นมือออกไปขยี้หัวที่ปกคลุมไปด้วยขนหยุบหยับของมัน พายเรือพามันเข้าฝั่ง
หลังจากกลับถึงฟาร์มปลาแล้ว ฉินสือโอวก็เริ่มเก็บของ แฮมเล็ตที่มาหาอย่างกะทันหัน เมื่อได้เห็นหน้าเขาแล้วก็พูดขึ้นมาอย่างดีใจว่า “เฮ้ ฉินที่รัก กลับบ้านไปฉลองปีใหม่แล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง? มันยอดไปเลยใช่ไหม?”
ฉินสือโอวพูดอย่างพอใจว่า “ใช่ครับ อย่างที่คุณรู้ ผมกลับบ้านไปฉลองตรุษจีน ก็เหมือนวันปีใหม่ของพวกคุณนั่นแหละ เยี่ยมยอดขนาดนั้นเลยครับ”
 “ยังมีเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากกว่านั้นอีกนะ สัปดาห์ที่สี่ของเดือนมีนาคมน่ะเป็นวันเฉลิมฉลองวันครบรอบเมือง ว่าอย่างไร เตรียมสนุกสุดเหวี่ยงได้เลย!” แฮมเล็ตพูดพร้อมสะบัดหมวกในมือไปมา
การที่ฉินสือโอวเลือกที่จะกลับมาตอนนี้ก็เพราะเหตุนี้ด้วยเหมือนกัน สัปดาห์ที่สี่ของเดือนมีนาคมของทุกปีเป็นวันเฉลิมฉลองวันครบรอบเมืองของเมืองแฟร์เวล สมัยก่อนชาวยุโรปกลุ่มแรกที่มาที่เกาะแฟร์เวลก็มาถึงตอนปลายเดือนมีนาคม แต่ว่าเป็นวันที่อะไร คนที่มาเป็นคนอังกฤษหรือว่าคนฝรั่งเศสนั้น ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ชัดเจน
สำหรับเมืองเล็กๆ ที่มีธรรมเนียมเก่าแก่อย่างเมืองแฟร์เวลนี้นั้น งานเฉลิมฉลองวันครบรอบเมืองนั้นสำคัญยิ่งกว่าวันคริสต์มาสเสียอีก ทุกๆ บ้านจะทำการแขวนโคมและตกแต่งเชือกสีรุ้ง ทุกคนต่างก็มีส่วนร่วมด้วย ถึงตอนนั้นแล้วจะมีถ่ายทอดในรายการโทรทัศน์ด้วย ช่องโทรทัศน์ของเซนต์จอห์นถึงขั้นมีการอัดเทปในวันงานเก็บไว้ด้วย
แน่นอนว่าฉินสือโอวก็จะไปร่วมด้วย งานเลี้ยงที่ใหญ่โตอย่างนี้ก็คือการไปเล่นนั่นเอง ไม่เกี่ยงว่าคุณจะเล่นอะไร แต่อยู่ที่คุณจะเล่นอย่างมีความสุขหรือเปล่า แม้ว่าคุณจะไปวิ่งเปลือยในเมือง แต่ขอแค่เล่นได้อย่างสนุกสนาน ก็ไม่มีใครมาหัวเราะคุณได้
เมื่อได้รู้ว่าคนทุกคนในฟาร์มปลาจะไปร่วมงานด้วย แฮมเล็ตก็จากไป ฉินสือโอวถามว่าต้องให้เงินช่วยเหลือไหม แฮมเล็ตบอกว่าไม่เป็นไร เพราะงานสนับสนุนการท่องเที่ยวสามสี่ไตรมาสของปีที่แล้ว ทำให้ตอนนี้ทางเมืองมีเงินมากพอ สถานะทางการเงินก็ดีขึ้นอย่างมาก
หลังจากนั้นพวกชาร์ค ซีมอนสเตอร์ แลนซ์กับชาวประมงอีกกลุ่มใหญ่ก็พากันมาหาฉินสือโอว พวกเขาเองก็รู้ธรรมเนียมเหมือนกัน เมื่อรู้ว่าเป็นการฉลองปีใหม่ของประเทศจีน ครั้งนี้พวกเขาจึงพากันมาไหว้ปีใหม่ ฉินสือโอวได้นำของขวัญมาฝากพวกเขาด้วย ดีเลยจะได้ถือโอกาสแจกให้พวกเขาเลย
กลับบ้านมาวันที่สอง ฉินสือโอวตื่นแต่เช้ามาออกกำลังกาย ตอนวิ่งอยู่ที่ชายหาดเขาเห็นฝูงนกจมูกหลอดหางสั้นกำลังบินไกลออกไปบนผิวน้ำทะเล จำนวนที่มีมากเป็นหมื่นตัวนั้น กำลังรวมตัวกันสยายปีกบินไปบนฟ้า มองไปราวกับเป็นกลุ่มเมฆดำ มองดูแล้วอลังการมาก
ตอนแรกฝูงนกจมูกหลอดหางสั้นได้ออกลูกไว้ประมาณหกพันกว่าตัว แล้วให้ไข่นกฟักตัวอยู่บนชายหาด ฉินสือโอวนึกว่าพวกมันคงแข็งตายกันหมดแล้ว
แต่สุดท้ายกลายเป็นว่า เขาดูถูกความพยายามในการขยายพันธุ์ของพวกสัตว์มากเกินไป
นกจมูกหลอดหางสั้นที่ยังไม่โตพวกนี้จะไปที่ชายหาดเพื่อหาพี่ๆ น้องของตัวเองทุกวัน ขอแค่มีนกที่ฟักตัวออกมาจากไข่แล้ว พวกมันก็จะคาบกลับไปที่กองหญ้าแห้งในป่าด้วยทันที แล้วไปจับปลาเล็กมาป้อนให้เป็นอาหาร
หลังจบฤดูหนาว ฝูงนกจมูกหลอดหางสั้นจึงขยายจำนวนขึ้นมามากอย่างคาดไม่ถึง ลูกนกจำนวนสองสามพันตัวมีชีวิตรอดขึ้นมา จนถึงวันนี้พวกมันก็สามารถบินตามฝูงได้แล้ว
วินนี่เองยังเคยอัดวิดีโอไว้ด้วย หากไม่ใช่เพราะต้องกลับบ้านไปฉลองปีใหม่กับฉินสือโอวแล้วล่ะก็ ตอนนี้เธอคงจะถ่ายทำสำเร็จจนสามารถอัปโหลดขึ้นอินเทอร์เน็ตได้แล้ว
เห็นนกจมูกหลอดหางสั้นบินออกไปไกล ฉินสือโอวรู้สึกแปลกใจ เพราะเขตน้ำทะเลใกล้ๆ นั้นมีปลาที่อุดมสมบูรณ์ เหล่านกจมูกหลอดหางสั้นจึงไม่ค่อยจะบินไปหาอาหารไกลขนาดนั้น
หลังจากนั้นประมาณสองวัน นกจมูกหลอดหางสั้นที่มักจะออกหากินตอนเช้าและกลับมาตอนค่ำ ได้บินไปหาอาหารที่ฟาร์มปลาในจุดที่ไกลออกไป
ไม่นาน ระยะการบินของพวกมันก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ นอกเหนือจากนั้นยังมีลูกนกบางตัวบินมาด้วย ส่วนมากเป็นนกบูบีเท้าแดง
แรกเริ่มฉินสือโอวรู้สึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงปล่อยพลังโพไซดอนไปในน้ำแล้วเขาก็เข้าใจ ลูกนกพวกนี้ตามฝูงปลามานั่นเอง!
หลายวันมานี้ ที่ฟาร์มปลามีฝูงปลาฝูงใหญ่ว่ายเข้ามา ใช้คำว่าฝูงใหญ่มาเปรียบเปรยคงไม่ถูกต้องสักเท่าไร เพราะขนาดแผ่พลังโพไซดอนออกไปไกลแล้ว ก็ยังสามารถเจอปลาพวกนี้อยู่เลย ปลาพวกนี้ชุกชุมมาก เยอะราวกับดาวบนท้องฟ้า เมื่อพวกมันรวมตัวกันแล้ว แม้มหาสมุทรที่กว้างใหญ่ก็เหมือนกับจะไม่ใหญ่พอให้พวกมันอยู่
ฉินสือโอวยืนอยู่ที่ท่าเรือมองไปอีกฟากของฟาร์มปลา บนผิวน้ำทะเลเต็มไปด้วยสีดำมืดครึ้ม และอึมครึม เพราะนกทะเลหลายพันตัวที่กำลังบินขนาบไปกับผิวน้ำ ขอแค่พวกมันอ้าปากลงน้ำ ก็สามารถจับปลาขึ้นมาได้แล้ว ปลาเยอะเหลือเกิน!
เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว ฉินสือโอวตะลึงจนอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงออกมา แลนซ์เดินมาข้างเขาแล้วพูดว่า “สุดยอดมากเลยใช่ไหมครับ? ฝูงปลาไข่น่ะครับ เวลานี้ของทุกปีพวกมันก็จะมาที่ฟาร์มปลานิวฟันด์แลนด์ พวกมันกับฝูงนกจมูกหลอดหางสั้นนั้นล้วนเป็นสองสิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์ของฟาร์มปลาเลย ขนาดว่าพวกผมเคยเห็นภาพนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่ทุกครั้งที่เห็นก็ยังรู้สึกตกใจเหมือนตอนเห็นครั้งแรกอยู่เลย!”
 “นี่ไม่ใช่น่าตกใจนะ แลนซ์ แต่เป็นความตระการตาต่างหาก! สิ่งมีชีวิตที่สวยงามตระการตาอย่างนี้ พวกเราไม่ควรจะแค่ตกตะลึงแต่ควรจะรู้สึกเคารพด้วย!” ฉินสือโอวพูดพึมพำออกมา
ปลาไข่ อีกชื่อคือปลาสเมลท์ พวกมันเป็นหนึ่งในปลาที่เกิดในแม่น้ำ เติบโตในทะเลเหมือนกับปลาเเซลมอนแปซิฟิก ฤดูใบไม้ผลิของทุกปี ปลาชนิดนี้จะหยุดกินอาหาร แล้วว่ายต้านน้ำจากเขตน้ำใกล้ขึ้นไป เพื่อไปวางไข่ที่แม่น้ำที่มีแหล่งพืชน้ำ
แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด ตลอดชีวิตของปลาไข่จากทางเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติกนั้นจะอาศัยอยู่แต่ในมหาสมุทร วิธีการวางไข่ของพวกมันนั้นมีจุดเด่นมาก หรือจะพูดว่าเป็นความตระการตาที่อนาถ…
…………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset