ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 489 สุภาพบุรุษแก้แค้น

โจทก์กลายเป็นผู้ต้องหา ผู้ต้องหากลายเป็นโจทก์ บรรยากาศในศาลแปรเปลี่ยนไปทันที อัลเบิร์ตโกรธเสียจนหน้าแก่ๆ นั้นแดงเผือกขึ้นมา ส่วนทางฝั่งฉินสือโอวก็เริ่มมีสีหน้าอิ่มอกอิ่มใจขึ้นมา ชาวบ้านที่ฟังอยู่ข้างๆ พากันหัวเราะร่าออกมา
ผู้พิพากษาใช้ค้อนทุบโต๊ะ ตะโกนคำว่า ‘อยู่ในความสงบ’ ออกมาสองที รอจนไม่มีคนพูดคุยกันแล้วจึงประกาศพักศาล
การโต้ตอบที่เออร์บักพูดออกมานั้นดูเหมือนจะแข็งกร้าวดุดัน แต่ก็ยังไม่สามารถวางใจได้ เพราะหากพูดตามหลักการแล้ว ฟาร์มปลาที่ใหญ่อย่างฟาร์มปลาแกธเธอริงนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีปูราชินีเลย และตามหลักความจริง ศาลเองก็คงไม่โง่หาเรือหาปลาไปทำการขุดดินค้นหาว่าที่ฟาร์มปลาแกธเธอริงไม่มีปูราชินีจริงหรือเปล่าง่ายๆ อยู่แล้ว
ส่วนทางฝั่งอัลเบิร์ตที่ฟ้องฉินสือโอวก็หมดทางไปต่อเช่นกัน ถึงแม้เขาจะมีทั้งพยานบุคคลและพยานวัตถุ แต่ทางเรือฮาวิซทมีพยานบุคคลมากกว่า นักท่องเที่ยวทุกคนต่างก็ยินยอมขึ้นให้การเพื่อยืนยันว่าปลาที่จับได้นั้นไม่ได้จับที่ฟาร์มปลาแกธเธอริง
ยิ่งไปกว่านั้น เออร์บักก็ยืนยันอย่างแข็งขันว่าตอนที่เข้าไปในทะเลเขตฟาร์มปลาแกธเธอริงนั้นได้เก็บสายเบ็ดจากเบ็ดตกปลาแล้ว และทางฝั่งนักท่องเที่ยวเองก็พูดแบบเดียวกัน บวกกับทางบริษัทเองก็ได้มีกฎกำหนดไว้แล้ว ว่าหลังจากตกปลาเสร็จแล้วตอนกลับต้องเก็บสายเบ็ดทั้งหมด เพื่อป้องกันตะขอไปเกี่ยวโดนคนด้วย
ดังนั้นการฟ้องของอัลเบิร์ตจึงไม่มีน้ำหนักมากพอ สุดท้ายคดีนี้จึงจบไปเสียดื้อๆ คำตัดสินของศาลก็คือไม่รับคำฟ้องของเออร์บัก และตัดสินให้ฟาร์มปลาแกธเธอริงแพ้คดี
กับผลการตัดสินนี้ อัลเบิร์ตไม่ค่อยพอใจนัก เขาไม่ใช่คนโง่ ความจริงเขารู้แต่แรกแล้วว่าการฟ้องแบบนี้ไม่สามารถทำอะไรฉินสือโอวได้ เขาก็แค่อยากสั่งสอนฉินสือโอวเท่านั้น
แต่สุดท้ายดูเหมือนว่าตัวเขาเองก็ได้รับบทเรียนเช่นกัน วิธีการใส่ร้ายป้ายสีของเออร์บักนั้นช่างเด็ดเสียจริง
หลังจากเลิกศาลแล้ว ฉินสือโอวกับอัลเบิร์ตได้มาเจอกันอีกครั้ง ทั้งสองคนจ้องตากันแล้วยิ้มเยาะออกมาทั้งคู่ การฟ้องร้องที่ไม่มีผลลัพธ์ครั้งนี้ถือว่าได้เป็นการเปิดศึกระหว่างทั้งสองแล้ว
หากว่าเมื่อก่อนฉินสือโอวไม่ได้สนใจว่าจะได้ครอบครองฟาร์มปลาแกธเธอริงหรือเปล่าแล้วล่ะก็ งั้นตอนนี้ก็พูดได้ว่าเขาต้องได้ฟาร์มปลานี้มาครอบครองให้ได้!
แต่นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย ฟาร์มปลาแกธเธอริงได้เริ่มการก่อสร้างรีสอร์ตแล้ว ตอนนี้ได้สร้างไปถึงครึ่งหนึ่งแล้ว จะให้อัลเบิร์ตยอมปล่อยมือคงเป็นไปไม่ได้
ฉินสือโอวไม่กลัว เขาคิดวิธีจัดการอัลเบิร์ตได้แล้ว นั่นก็คือให้กลุ่มทหารงูทะเลที่เก่งกาจกับพวกนักฆ่ากั้งตั๊กแตนเจ็ดสี ให้ทั้งคู่ออกโรง ต้องทำให้อัลเบิร์ตเจ็บแสบจนดูไม่ได้แน่นอน
ก่อนหน้านี้ที่ไม่ยอมใช้วิธีนี้สักที เพราะฉินสือโอวรู้สึกว่าการทำแบบนี้ค่อนข้างเกินไป เหมือนกับเป็นการวางกับดักเพื่อทำร้ายคน
แต่ทำอย่างไรได้ในเมื่ออัลเบิร์ตหาเรื่องทำตัวเอง ถ้าเขายังคงอยู่ที่เกาะแฟร์เวลต้องคิดจะหาเรื่องฉินสือโอวตลอดแน่ ฉินสือโอวถือโอกาสชิงลงมือก่อนเลยแล้วกัน ลงมือจัดการเขาก่อนค่อยว่ากัน
ตามแผนที่ฉินสือโอววางไว้คือ เขาคิดจะสั่งการให้กั้งตั๊กแตนเจ็ดสีลงมือ ที่ฟาร์มปลาแกธเธอริงมีคนงานกว่าร้อยคนพักอาศัยอยู่ชั่วคราวใช่ไหม? งั้นก็ส่งพวกกั้งตั๊กแตนไป ให้พวกเขาไปรบกวนพวกคนงาน
ด้วยพลังทำลายล้างที่น่ากลัวของกั้งตั๊กแตน คิดว่าหลังจากที่พวกคนงานเจอกับพวกมันแล้วคงไม่มีใครยอมอยู่ที่ฟาร์มปลาแกธเธอริงอีกแน่นอน
ส่วนตัวอัลเบิร์ตนั้นก็ยิ่งไม่อยากให้ฟาร์มปลาตัวเองมีกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีมากกว่าพวกคนงานเสียอีก งั้นเพื่อจัดการกั้งพวกนี้ เขาก็ทำได้แค่พ่นยาฆ่ากุ้งปูบนชายหาดเท่านั้น
ขอแค่เขากล้าทำแบบนี้ ฉินสือโอวก็จัดการเขาได้แล้ว โดยการไปยื่นเรื่องฟ้องเขาที่แผนกอุตสาหกรรมการประมงข้อหาทำลายสภาพแวดล้อมของฟาร์มปลา ถึงตอนนั้น ก็สามารถใช้ ‘กฎหมายการดูแลฟาร์มปลา’ ได้แล้ว แม้ศาลจะไม่ส่งเรือไปตรวจสอบฟาร์มปลา แต่กรมอุตสาหกรรมการประมงต้องทำแน่
ถ้าหากทางกรมอุตสาหกรรมการประมงเห็นว่าตอนนี้ฟาร์มปลาแกธเธอริงกลายเป็นพื้นที่รกร้างไม่มีปลาให้จับแล้ว บวกกับที่อัลเบิร์ตเจ้าของฟาร์มปลาคนนี้ที่ไม่ได้มีการปรับปรุงฟาร์มปลาเป็นเวลามากกว่าสามปีแล้วล่ะก็ งั้นอ้างอิงจาก ‘กฎหมายการดูแลฟาร์มปลา’ พวกเขาสามารถเรียกคืนฟาร์มปลาแกธเธอริงเพื่อนำไปออกประมูลต่อไปได้
นี่ก็คือการคุ้มครองฟาร์มปลาและเศรษฐกิจบนมหาสมุทรของรัฐบาลแคนาดา ถือว่าเป็นการออกหมัดหนักอย่างแน่นอน!
ฉินสือโอวรู้สึกว่าแผนนี้ไม่เลว พลบค่ำวันเดียวกันเขาจึงออกไปทำตามแผนอย่างตื่นเต้นดีใจ
ความฝันนั้นสวยงาม ความจริงนั้นโหดร้าย พวกกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีไม่ใช่หมาหมีหมาป่าสี่พี่น้องที่เฉลียวฉลาด พอพวกมันออกจากน้ำได้แล้วก็หลุดจากการควบคุมของฉินสือโอวทันที ตอนนี้ไม่รู้ว่าวิ่งไปอยู่ที่ไหนกันแล้ว
แต่ในเมื่อคิดแผนการคร่าวๆ ออกแล้ว ฉินสือโอวรู้สึกว่าแผนนี้ไม่มีปัญหา ก็แค่ต้องทำการใส่ใจในรายละเอียดให้มากกว่านี้เท่านั้น
การผสมพันธุ์ของเหล่าปลาไข่ได้จบลงแล้ว พวกปลาตัวเมียกลับลงน้ำว่ายไปทางส่วนลึกของฟาร์มปลา แต่เรื่องที่ทำให้ฉินสือโอวดีใจก็คือ ปลาตัวเมียยังไม่ได้ออกจากเขตน่านน้ำของฟาร์มปลา
พลังเทพแห่งท้องทะเลเป็นพลังที่ดีมาก หญ้าทะเลกับพืชทะเลในฟาร์มปลาต่างก็ได้รับพลังเทพแห่งท้องทะเล ถึงแม้ว่าจะน้อยมาก แต่สำหรับพวกปลาแล้วก็ยังถือว่าพวกมันมีแรงดึงดูดที่มากอยู่ หลังจากที่ปลาไข่ได้ลองลิ้มรสหญ้าทะเลรอบๆ เกาะแฟร์เวลแล้ว ก็ถูกดึงดูดให้พวกมันอาศัยต่อ
เมื่อมีฝูงปลาไข่ ฟาร์มปลาก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปนำพวกปลาแฮร์ริ่งกับปลาซาบะเข้ามาแล้ว ปลาไข่เหมาะที่จะเป็นอาหารของปลาค็อด ปลาทูน่ากับปลาแซลมอนแปซิฟิกมากกว่า เพราะว่าปลาประเภทนี้มีนิสัยที่จะว่ายไปเรื่อยๆ ตามกระแสน้ำ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากหากจะให้พวกมันอาศัยอยู่ในน่านน้ำที่กำหนดเพื่อเป็นอาหาร
แต่พลังเทพแห่งท้องทะเลสามารถทำได้
ฝูงปลาไข่อยู่ต่อ ปลาวาฬหลังค่อมยังคงตัดสินใจจากไป แม้ว่าพวกมันจะยังไม่ออกจากฟาร์มปลาต้าฉิน แต่พวกมันได้ว่ายน้ำออกจากเขตทะเลใกล้ๆ ไปที่น่านน้ำลึกแล้ว และกำลังว่ายไปทางทิศเหนือ
บอลหิมะกับไอซ์สเกตว่ายตามฝูงปลาวาฬหลังค่อมไป แม่ปลาวาฬหลังค่อมแทบจะทุกตัวจะว่ายพาลูกปลาวาฬหลังค่อมไปด้วย ความรักของแม่ใจดีลูกกตัญญูแบบนี้แหละที่ดึงดูดเด็กสองตัวนี้ที่ขาดความรักจากแม่
ฉินสือโอวมองภาพนี้แล้วรู้สึกไม่สบายใจ ตอนบ่ายเขาขับเรือเด็คพาอีวิลสันออกทะเลไป ใช้พลังเทพแห่งท้องทะเลโอบล้อมบอลหิมะกับไอซ์สเกต ให้พวกมันมาหาเขาบนผิวน้ำ
เจ้าสองตัวนี้สนใจกุ้งแดงมาก ฉินสือโอวจึงนำแหขนาดเล็กไปด้วย และหว่านไว้ในทะเลตลอดทางสุดท้ายก็ให้อีวิลสันเก็บแหขึ้นมา เขาใช้อ่างล้างหน้าใส่กุ้งแดงแล้วป้อนให้กับบอลหิมะและไอซ์สเกต
บอลหิมะโตจนมีความยาวถึงสองเมตรกว่าแล้ว นับวันหัวของมันก็เริ่มเหมือนหยกที่แกะสลักเป็นทรงลูกบอลเข้าไปทุกที มองไปแล้วทำให้รู้สึกดีมาก ท่าทางตอนอ้าปากขึ้นมาบนผิวน้ำนั้นทั้งดูเงอะงะและน่ารักมาก
ส่วนไอซสเกตก็เริ่มมีร่างกายที่แข็งแรงดุดันเหมือนฉลามเสือทรายขึ้นทุกที ร่างกายเติบโตได้เรียวยาวและแข็งแรงขึ้นมาก ตอนอ้าปากแล้วเผยให้เห็นถึงฟันที่แหลมคมนั้นอย่างกับมีดสั้นที่เรียงรายกันอยู่ แหลมคมจนหาที่เปรียบไม่ได้เลย
ทั้งสองตัวกำลังแย่งกันกินกุ้งแดง เงาที่ดุดันหนึ่งตัวก็กระโดดขึ้นมาจากในน้ำ อย่างกับธนูที่โค้งงอ เงานี้ได้เผยร่างออกบนผิวน้ำ เป็นความสวยงามที่น่าทึ่งทีเดียว
หลังกระโดดโลดโผนกลางอากาศเสร็จ ตกลงไปในน้ำ ปลาโลมาที่ฉีกรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นมาระหว่างไอซ์สเกตกับบอลหิมะ มันอ้าปากที่เรียวยาวนั้นร้องเสียงงีดๆ ออกมา สายตาจับจ้องไปที่กุ้งแดงในมือของฉินสือโอวอย่างมีความสุข
ปลาโลมาปากขวด!
การที่ได้เห็นเจ้าตัวที่เหมือนกับยิ้มอยู่ตลอดนี้อีกครั้ง ฉินสือโอวก็รู้สึกดีขึ้นมา เขายื่นมือไปข้างหน้า โลมาน้อยว่ายเข้ามาใช้ปากของมันแตะไปที่ฝ่ามือของเขา จากนั้นก็ว่ายกลับไปอ้าปากต่อ
สำหรับโลมาน้อยตัวนี้แล้วบอลหิมะกับไอซ์สเกตไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับมันเลย คืนนั้นพูดได้ว่าพวกมันสองตัวได้ช่วยชีวิตโลมาน้อยไว้ ตอนนี้ดูท่าว่าพวกมันคงจะไปทำเรื่องยุ่งเข้าแล้ว เพราะสิ่งที่พวกมันช่วยไว้ก็คือเจ้าตัวที่จะมาแย่งความรักจากเจ้านายตัวหนึ่งนั่นเอง!
……………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset