ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 498 กล่องสมบัติมหัศจรรย์

ปลาทูน่าเป็นเหมือนงานศิลปะ ถ้าต้องการให้มันมีราคา ก็ต้องไปที่งานประมูล และงานประมูลที่มีระดับสูงที่สุดก็คือ การประมูลปลาทูน่าในฤดูใบไม้ผลิที่จัดขึ้นที่ตลาดสึกิจิโตเกียวในญี่ปุ่นทุกเดือนเมษายน
ตามปกติแล้ว ราคาของปลาทูน่าอยู่ระหว่าง 50-100 ดอลลาร์แคนาดา ราคาในแต่ละส่วนก็แตกต่างกัน
หลังจากการประมูล ราคาของปลาทูน่าไม่ได้คิดตามส่วนแล้ว แต่อิงตามราคาทั่วไป โดยทั่วไปเริ่มต้นที่ 1 หมื่น ฤดูใบไม้ผลิในปี 2012 สถิติราคาที่สร้างขึ้นในตลาดสึกิจินั้นเป็นปลาทูน่าสีน้ำเงินที่มีน้ำหนัก 222 กิโลกรัม
ปลาตัวนั้นมาจากพื้นที่ทะเลโอมา จังหวัดอาโอโมริ ประเทศญี่ปุ่น ในท้ายที่สุดก็ขายในราคาที่สูงถึง 15.54 ล้านเยนหรือ 2.2 ล้านดอลลาร์แคนาดา!
ก่อนหน้านี้ สถิติสูงสุดของปลาทูน่าครีบน้ำเงินคือ 56.49 ล้านเยน และปลาตัวนั้นก็มีน้ำหนักถึง 269 กิโลกรัม ซึ่งแตกต่างกันเกือบสามเท่า
เหตุผลที่ทำให้ราคาสูงจนน่ากลัวนั้น เกี่ยวข้องกับสภาพและเงื่อนไขของประเทศญี่ปุ่น
งานประมูลก็คือการโฆษณาอย่างหนึ่ง เพื่อส่งเสริมให้ชาวประมงจับปลาทูน่าครีบน้ำเงินได้ ชาวญี่ปุ่นได้ออกกลอุบายนี้อย่างไร้ยางอาย ทำให้ปลาตัวหนึ่งมีราคาสูงเกินควร เพื่อดึงดูดชาวประมงให้จับปลาได้มากขึ้น
สำหรับการอยู่รอดของปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหรอ? ชาวญี่ปุ่นที่ชอบมองอะไรแคบๆ นั้นไม่สนใจหรอก!
นอกจากนี้ ราชาปลาทูน่าที่เข้าร่วมในการประมูลครั้งแรกก็มักจะถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของ ‘การตลาดที่ดี’ ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับชาวญี่ปุ่น
และแน่นอนว่าปลาที่ทำให้ราคาประมูลสูงเฉียดฟ้านั้นต้องเป็นราชาปลา ปลาชนิดอื่นๆ ก็เข้าร่วมกันประมูลเหมือนกัน แต่ราคามีความสมเหตุสมผลมากกว่า อย่างมากก็แพงกว่าปกติร้อยละ 20 – 50 เท่านั้น
ปลาทูน่าครีบน้ำเงินตัวนี้ของฉินสือโอวมีความยาวถึงสี่เมตรครึ่ง และมีน้ำหนักมากกว่า 500 กิโลกรัม ไม่ว่าจะเป็นด้านรูปร่างหรือด้านคุณภาพ ต้องดีกว่าราชาปลาก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน ดังนั้น ถ้าเขานำปลาตัวนี้ไปที่ญี่ปุ่น มันจะต้องเป็นราชาปลาของปีนี้แน่นอน
ชาร์คและซีมอนสเตอร์ประเมินราคาของปลาทูน่าตัวนี้ที่ 1 ล้าน บางคนอาจสงสัยว่าทำไมปลาตัวใหญ่กว่าแต่กลับมีราคาที่ต่ำลง
เพราะฉินสือโอวโชคไม่ดี ตลาดอาหารทะเลของโตเกียวเพิ่งมีการปฏิรูปเมื่อปีที่แล้ว ราคาการประมูลปลาทูน่าถูกจำกัด ในอนาคต ราคาปลาทูน่าครีบน้ำเงินขนาด 200 กิโลกรัม สามารถขายได้ในราคา 1 – 2 แสนดอลลาร์แคนาดาก็เกินพอแล้วล่ะ
ไม่ว่าจะราคา 1 ล้านหรือราคา 5 ล้าน สำหรับปลาตัวหนึ่งแล้ว ล้วนแต่เป็นราคาที่สูงมาก ชาร์คและคนอื่นๆ เริ่มเตรียมการ และหันหัวเรือทันทีเพื่อตกปลาตัวนี้
ฉินสือโอวให้พวกเขากลับไปเตรียมตัว ส่วนเขานั้นถือโทรศัพท์มือถือกำลังคุยกับคนรู้จักในคิวคิว ตราบใดที่เขาไม่ลงมือ คนเหล่านี้ไม่มีทางจับปลาทูน่าตัวนั้นได้ ฟาร์มปลาต้าฉินไม่ใช่ชายหาดน้ำตื้นจอร์จ น้ำลึกเกินไป ปลาไม่สามารถมองเห็นเหยื่อได้
ในตอนเที่ยงวินนี่ไม่ได้กลับมา ฉินสือโอวไปที่ห้องเรือนกระจก เขาเด็ดพริกมาหนึ่งกำมือ แล้วเอาไปผัดไข่ไก่ และตอนนี้เขาสนใจไข่ห่านมากกว่า แต่ห่านขาววางไข่เพียงไม่กี่ฟอง และปกป้องเป็นอย่างดี เรื่องนี้ต้องว่ากันอีกนาน
หลังจากเด็ดพริกเสร็จและเดินออกมาแล้ว จู่ๆ ร่างหนึ่งก็วิ่งผ่านมา จากนั้นตามด้วยเสียง ‘โบ้ม’ ไก่ป่ารัฟฟ์ดสีสันหลากหลายตัวหนึ่งถูกโยนลงบนพื้น
ไก่ป่ารัฟฟ์ดเป็นไก่ป่าชนิดเดียวกับไก่ป่าเฮเซล เมื่อเทียบกันแล้ว ตัวหลังดูโง่กว่า ไก่ป่ารัฟฟ์ดดูฉลาดและมีความระมัดระวังมากกว่า เพียงแค่เหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ มันก็จะซ่อนตัวในทันที ซึ่งจับตัวได้ยากมาก
คนที่โยนไก่ป่ารัฟฟ์ดลงมาคือบุช มันบินวนบนท้องฟ้าหลายรอบอย่างภาคภูมิใจ จากนั้นเก็บปีกของมันแล้วยืนบนไหล่ของฉินสือโอว
ทั้งบุชและนิมิตส์เวลาทำอะไรต่างรู้ดีแก่ใจ ไม่ว่าพวกมันจะยืนอยู่บนไหล่หรือบนแขนของฉินสือโอว พวกมันต่างก็จะจับแขนของเขาเบาๆ ไม่อย่างนั้นไหล่ของฉินสือโอวพังไปแล้วล่ะ
เมื่อเห็นไก่ป่ารัฟฟ์ดตัวนี้ ฉินสือโอวรู้สึกดีใจมาก เขายกบุชขึ้น แล้วหัวเราะและพูดว่า “เด็กดี แกรู้จักล่าสัตว์ป่าแล้วเหรอ? เก่งมาก! เยี่ยมจริงๆ!”
นิมิตส์ไม่สามารถจับกระต่ายและไก่ป่าได้ เพราะมันเกี่ยวข้องกับกำลังขาของมัน เท้าของนกฟรีเกตไม่ค่อยมีแรง พวกมันไม่กล้าล่าสัตว์ป่าด้วยความเร็วสูง เพราะขณะที่สัตว์ป่าดิ้นรนอาจทำให้เท้าของมันหักได้
แต่อินทรีหัวขาวก็จะไม่ต้องกังวลในส่วนนี้ พวกมันเป็นน่าล่าแห่งทะเล บกและท้องฟ้า พลังเท้าของมันเป็นอันดับหนึ่งในหมู่สัตว์ปีก!
สัตว์ปีกไม่สามารถแสดงความรู้สึกได้ เพราะกล้ามเนื้อส่วนหน้าของพวกมันไม่สามารถขยับไปในแนวขวางได้ ดังนั้นจึงทำให้บุชดูเคร่งขรึมอยู่ตลอดเวลา
ฉินสือโอวเกาหัวบุชอยู่พักหนึ่ง แล้วเขาก็เก็บไก่ป่ารัฟฟ์ดเข้าไปในตู้เย็นอย่างมีความสุข
เมื่อวินนี่กลับมาในตอนเย็น ฉินสือโอวเอาไก่ป่ารัฟฟ์ดออกมาให้เธอดู และบอกเธอว่าบุชเป็นคนล่ามันมา
วินนี่เองก็รู้สึกประหลาดใจมาก เธอวางบุชลงบนตักและลูบขนของมัน แล้วชื่นชมมัน ในขณะเดียวกันกับมองไปที่ฉงต้า ซึ่งหมายความว่า แกมันเอาแต่กิน สู้บุชไม่ได้เลย
ฉงต้าไม่เคยสนใจสายตาของคนอื่น อย่างไรก็ตาม มันหน้าด้านอยู่แล้ว จากนั้นมันขยับจมูก แล้วมองไปทางห้องครัว ฉินสือโอวกำลังตุ๋นไก่ป่ารัฟฟ์ด
ไก่ป่าเป็นสัตว์ป่าที่มีรสชาติดี ไม่ว่าจะนำไปย่าง ปิ้ง ตุ๋นหรือผัดก็อร่อย แต่แน่นอนว่าวิธีที่ดีที่สุดก็คือตุ๋นเพื่อกินน้ำซุป รสชาติเข้มข้นแถมเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ
ในมื้อเย็น บุชได้กลายเป็นฮีโร่ เพราะทุกๆ คน เพราะทั้งเออร์บัก เด็กๆ ทั้งสี่ ฉินสือโอวและวินนี่ ต่างก็ได้ดื่มซุปไก่รสชาติดี เสือ เสือดาว หมีและหมาป่าก็ได้กินกระดูกไก่ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะความดีความชอบของมันจริงๆ
เมื่อได้รับคำชมเชยจากทุกคน บุชสะบัดหางของมันอย่างภาคภูมิใจ เมื่อฉงต้ากินอิ่มแล้วก็นอนอยู่ข้างๆ มัน มันรู้สึกไม่ค่อยพอใจ จึงใช้ปากของมันจิกฉงต้าเพื่อไล่มันไปที่อื่น ราวกับว่าเมื่อต้องอยู่ร่วมกับหมีขี้เกียจอย่างฉงต้าจะทำให้มันต่ำลงยังไงอย่างงั้น
หลังจากได้ดื่มน้ำแกงรสชาติดี ฉินสือโอวและวินนี่ก็ตรงไปที่นิวยอร์กในวันรุ่งขึ้น ครั้งนี้บิลลี่มารับเขาเหมือนเดิม เขาขับออดี้ อาร์ 18 มา ผู้หญิงคนข้างๆ ได้เปลี่ยนไปเป็นนางแบบหุ่นดีตัวเล็ก
“แลนด์โรเวอร์คันก่อนหน้านี้ของนายล่ะ?” ฉินสือโอวถาม
บิลลี่โบกมือ “ไม่ชอบเลยเปลี่ยนรถกับพี่ชายน่ะ นี่เป็นรถของเขา”
“ถ้าอย่างนั้นนายก็เสียเปรียบแล้วล่ะ” ฉินสือโอวหัวเราะ “อาร์ 8 ถูกกว่าแลนด์โรเวอร์ของนาย”
บิลลี่มองไปรอบๆ เห็นว่านางแบบที่เขาพามากำลังเล่นโทรศัพท์มือถือ จึงพูดกับฉินสือโอวด้วยเสียงเบาว่า “ไม่ ฉันไม่ได้เสียเปรียบ เห็นผู้หญิงคนนั้นไหม? ฉันรับเธอมาพร้อมกับอาร์ 8 คันนี้”
เมื่อได้ยินที่เขาพูด ฉินสือโอวสำลักน้ำในทันที วินนี่รีบมาลูบหลังให้เขา และพูดว่า “คุณเป็นคุณพ่อแล้วนะ ทำไมยังสำลักน้ำเหมือนเด็กๆ ล่ะ?”
ฉินสือโอวหัวเราะแห้งๆ สองที เพราะไม่รู้จะอธิบายยังไง
บิลลี่มองวินนี่ที่กำลังเป็นห่วงฉินสือโอว เห็นความรักที่ทั้งสองมีต่อกัน ก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาในทันที
หลังจากขับไปถึงอาคารทิฟฟานี่ เขาหยุดรถแล้วดื่มน้ำ แล้วแสร้งทำเป็นสำลักน้ำ แต่นางแบบที่เขาพามาด้วยไม่แม้แต่จะมองเขา กลับทำท่าตื่นเต้นกับสัญลักษณ์สีน้ำเงินคลาสสิกของทิฟฟานี่
ผู้หญิงไม่มีภูมิต้านทานต่ออัญมณีเงางามเหล่านี้ตั้งแต่เกิด เช่นเดียวกับผู้ชายที่ไม่มีภูมิต้านทานในอาวุธทรงพลัง
วินนี่ก็เหมือนนางแบบคนนั้น เมื่อถึงหน้าประตูทิฟฟานี่ ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความโหยหา เธอจับมือของฉินสือโอวอย่างไม่รู้ตัวและถามขึ้นว่า “เรามาที่นี่ทำไม?”
ฉินสือโอวจูบเธอหนึ่งทีแล้วพูดว่า “คุณเอากุญแจที่ผมเคยให้คุณมาไหม? เรามาเพื่อเปิดกล่องสมบัติมหัศจรรย์”
………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset