ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 502 ปลาที่มีมูลค่านับล้าน

ฉินสือโอวพามิสเตอร์บีนสามตัวป่วนออกไป แล้วปลอบใจเฮยป้าหวังอยู่พักหนึ่ง และเติมพลังโพไซดอนให้มันเล็กน้อย เฮยป้าหวังจึงยอมจากไปอย่างไม่พอใจเท่าไร
เจ็ดพี่น้องฉลามกบซุ่มมองอยู่ใกล้ๆ ตลอด เห็นร่างของเฮยป้าหวังที่เคลื่อนที่อย่างช้าๆ ลูกตาของพวกมันก็หมุนไปมาราวกับกำลังคิดอะไร
พวกมันรู้สึกว่าเฮยป้าหวังเป็นเจ้าโง่ร่างใหญ่ ปล่อยให้โลมาตัวเดียวจัดการอย่างนั้น ไม่น่ากลัวอย่างที่เห็นเลยสักนิด ในเมื่อเป็นอย่างนี้ งั้นเราก็ไปจัดการกับมันหน่อยดีไหม?
มันเดย์ดูพี่น้องของตัวเอง อืม คนเยอะมักได้เปรียบ และตัวใหญ่กว่าโลมาน้อยตัวนั้นทุกตัว พวกมันต่างคิดว่าทั้งความเร็วและแรงกระแทกไม่น่าจะสู้โลมาน้อยไม่ได้ ดังนั้น จึงตามเฮยป้าหวังไปอย่างไม่เกรงกลัวอะไร
เฮยป้าหวังกำลังปวดหัวกับเรื่องเมื่อครู่ แต่เพียงพริบตาเดียว ก็มีเด็กๆ ปรากฏตรงหน้าอีกเจ็ดตัว
อะไรกัน? เฮยป้าหวังมองฉลามกบเจ็ดพี่น้องอย่างตะลึง มันไม่ค่อยฉลาด คิดไม่ถึงว่าพวกมันจะมาหาเรื่องตนเอง
มันเดย์เผชิญหน้ากับเฮยป้าหวังโดยตรง จู่ๆ มันก็รู้สึกถึงแรงกดดันที่สูงมาก ที่แท้การได้เผชิญหน้ากับฉลามยักษ์นั้น แตกต่างจากการแอบมองจากระยะไกลอย่างมาก!
ฉลามยักษ์เกิดมาพร้อมกับออร่าที่ดุดัน กระบวนการเอาชีวิตรอดก็คือกระบวนการสังหาร ความดุดันนั้นทำให้คนมองหวาดกลัว
พวกมันก็เหมือนเสือนักล่า ออกมาพร้อมกับมาดที่ทำให้เหยื่อตกใจจนนิ่งงัน พวกมันแค่อ้าปากเพื่อกลืนเหยื่อก็พอ
เมื่อมันเดย์คิดถึงตรงนี้ เลือดของสัตว์ร้ายที่เพิ่งเดือดในเมื่อครู่ได้เย็นลงหมดแล้ว มันสะบัดหางด้วยความยากลำบาก ก้มหน้าก้มตาเตรียมจะหนี
แต่ซันเดย์มีนิสัยมุทะลุ มันจำได้แต่แผนการเริ่มแรก เห็นพี่น้องของมันกำลังล้อมรอบเจ้าโง่ร่างใหญ่นี้อยู่ ก็เลียนแบบมิสเตอร์บีนและพุ่งเข้าใส่…
เฮยป้าหวังเห็นมันพุ่งเข้ามา ก็เข้าใจในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ‘ให้ตายเถอะ เหยื่อเหล่านี้กล้าโต้กลับเชียวเหรอ?’
เฮยป้าหวังถอยออกไปโดยไม่ได้พูดอะไร การกระทำของมันเป็นแรงบันดาลใจให้ฉลามกบตัวอื่นๆ เฮ้ เจ้าโง่ร่างใหญ่นี้อ่อนหัด…
ความคิดนี้เพิ่งผุดขึ้นมาในหัว เฮยป้าหวังที่ถอยออกไปมีระยะทางที่เพียงพอต่อการพุ่งชน มันอ้าปากกว้าง และพุ่งไปข้างหน้า ปากที่กว้างราวกับหลุมดำนั้น เต็มไปด้วยฟันรูปสามเหลี่ยมคว่ำที่น่ากลัว
พี่น้องทั้งเจ็ดขำท้องแข็ง พวกมันอยากเลียนแบบความคล่องแคล่วของมิสเตอร์บีน แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะ? เมื่อครู่เพราะฉินสือโอวระงับความคิดโจมตีของเฮยป้าหวังเอาไว้จึงทำให้มิสเตอร์บีนสามารถอวดดีได้ แต่เฮยป้าหวังในขณะนี้ เต็มไปด้วยความดุเดือด
ยังไงก็หนีไม่ได้ พี่น้องทั้งเจ็ดเพิ่งจะหันหลัง เฮยป้าหวังก็อยู่ข้างหลังของพวกมันแล้ว พวกมันมีเวลาทำอย่างอื่นที่ไหนกัน? ฝันไปเถอะ รีบหนีกันเถอะ!
พี่น้องทั้งเจ็ดมีประสบการณ์ในการหลบหนีชีวิต ห้ามวิ่งเป็นเส้นตรง ห้ามวิ่งแค่ทางเดียว พี่น้องทั้งเจ็ดเลือกไปคนละทาง พวกมันวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน
เฮยป้าหวังกัดฟันไล่ตามอยู่ข้างหลัง พวกแกมาเพื่อโจมตีฉันไม่ใช่เหรอ? มา มา มา ฉันจะสู้กับพวกแกแปดร้อยครั้ง ไม่สิ ครั้งเดียวก็เขมือบพวกแกได้แล้ว!
สิ่งที่เกิดขึ้นใต้ทะเลไม่สามารถเห็นผ่านจอภาพได้ สิ่งที่เหล่าชาวประมงเห็นก็คือปลารูปร่างใหญ่ตัวนั้นกำลังถูกจุดเล็กๆ ดึงดูดไป
ในที่สุดพวกเขาก็สบายใจแล้วว่า “ให้ตายเถอะ นั่นต้องเป็นปลาวาฬแน่ๆ มันไปล่าปลาค็อดแล้วล่ะ!”
ตามคำพูดที่ว่า ‘เรื่องที่ดีสามารถมีตอนจบที่แย่ได้ และเรื่องที่แย่ก็สามารถมีตอนจบที่ดีได้เช่นกัน (สุขทุกข์เป็นสิ่งไม่เที่ยง)’ การต่อสู้กันระหว่างเฮยป้าหวังและมิสเตอร์บีนและเจ็ดพี่น้องในใต้ทะเลนั้น ทำให้ปลาทูน่าตกใจและหนีมาบนผิวน้ำ
บนผิวน้ำเต็มไปด้วยท่อนปลาที่ไม่รู้จักหลบหนี มันจึงอ้าปากกินปลาเหล่านั้น พนันกันไปสักวันก็แพ้ ไม่นานเบ็ดคันหนึ่งก็ถูกดึงไปจนงอ
“ฟัคคคคคค! มันติดเบ็ดแล้ว!” ชาร์คกดที่ตั้งคันเบ็ดเอาไว้พร้อมกับตะโกนออกมา
เนื่องจากรู้ขนาดของปลาทูน่า ครั้งนี้จึงใช้สายเบ็ด 9A ที่หนาที่สุด สายเบ็ดชนิดนี้ใช้สำหรับตกฉลามในนิวฟันด์แลนด์โดยเฉพาะ มีความหนาเทียบเท่าครึ่งหนึ่งของตะเกียบใช้แล้วทิ้ง
แลนซ์โยนบุหรี่อันเป็นที่รักของมันทิ้ง แล้วควบคุมเรือไปแล่นไปตามเส้นทางหนีของปลาทูน่าด้วยตนเอง
ตาของเขาจับจ้องไปที่จอภาพไม่ปล่อย เขาใช้ประสบการณ์อันโชกโชนคาดเดาเส้นทางหนีของปลาทูน่าอย่างต่อเนื่อง เรือประมงแล่นตามมันไม่ห่าง ดังนั้น ชาร์คจึงไม่ต้องปล่อยสายเบ็ดมักนัก ไม่อย่างนั้นถ้าปล่อยสายเบ็ดจนสุด มันอาจขาดได้
ไม่เพียงแต่ทำงาน แลนซ์ยังสอนฉินสือโอวด้วยว่า “ท่านกัปตันดูสิ ปลาตัวนี้เจ้าเล่ห์มาก มันหลบหนีไปตามเส้นทางรูปตัวเอส ดังนั้นเราต้องรักษาจังหวะกับชาร์คให้ดี เรือแล่นเร็วไม่ได้ ไม่อย่างนั้นปลาอาจหลุดไปได้ และแน่นอนว่าช้าเกินไปก็ไม่ได้ เพราะมันจะใช้สายเบ็ดจำนวนมาก…”
หลังจากพัวพันกันพักใหญ่ ปลาทูน่าคิดว่าตนหนีไปทางเดียวไม่น่าจะมีหวัง จึงหันหลังและวิ่งไปทางตรงกันข้าม
“ปลาเจ้าเล่ห์!” แลนซ์เปลี่ยนทิศทางการเดินเรืออย่างรวดเร็ว พร้อมกับตะโกนออกไปว่า “ชาร์ค เก็บสายเบ็ด!”
ปลาทูน่าอยากมุดไปอยู่ใต้เรือ แต่แลนซ์ถอยเรืออย่างรวดเร็ว เมื่อมันว่ายมาใต้เรือ ก็ถึงเขตน้ำตื้นพอดี
ซึ่งหมายความว่ามันถึงทางตันแล้วล่ะ สุนัขจิ้งจอกที่ฉลาดมากแค่ไหนก็ไม่สามารถเอาชนะพรานเก่าได้
เมื่อเข้าไปในเขตน้ำตื้น ปลาทูน่ายังคงพยายามอย่างบ้าคลั่ง และในตอนนี้มันก็มีความอดทนที่เพียงพอ ถ้าต้องการจับปลาตัวใหญ่อย่างนี้ได้ ต้องใช้เวลา 4-5 ชั่วโมงเลยล่ะ
ชาร์คผ่อนสายเบ็ดและเก็บสายเบ็ดเพื่อต่อสู้กับมัน เมื่อมันเหนื่อยแล้วบูลก็รับมันขึ้นมา นอกจากนี้ยังมีชาวประมงร่างกายกำยำอีกกลุ่มหนึ่งที่เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา
ตั้งแต่สิบโมงเช้าจนจึงบ่ายสองโมง ในที่สุดปลาทูน่าก็เหนื่อยล้า และสายเบ็ดก็ถูกเก็บมาเกือบหมดแล้ว ซึ่งเหลือไม่ถึง 100 เมตรที่ยังอยู่ในน้ำ
ในเวลานี้ ซีมอนสเตอร์และชาวประมงอีกหลายคนลงทะเลจากแพหนังเล็กๆ พวกเขาเปิดอวด เมื่อพวกเขาล้อมรอบปลาทูน่าแล้ว ชาร์คก็ให้แรงทั้งหมดไปในการเก็บสายเบ็ด
ใช้เวลาไม่นาน ปลาทูน่าก็เผยให้เห็นร่างที่แข็งแกร่งและกว้างใหญ่ของมัน แลนซ์ถอนหายใจว่า “เป็นร่างที่สวยอะไรอย่างนี้ พระเจ้าต่างหากที่เป็นจิตรกรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด!”
ฉินสือโอวพูดว่า “รออะไรกันอีก ทำไมไม่จัดการมันด้วยฉมวกล่ะ?”
บูลที่ถือปืนลูกดอกในมือพูดว่า “ไม่ได้ครับ กัปตัน ตอนนี้เราสามารถจับเป็นมันได้ และสามารถจับมันได้โดยไม่ทำร้ายมัน ราคาของปลาตัวนี้จะต้องเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า จากหนึ่งล้านเป็นสองล้าน!”
ฉินสือโอวมองเขาอย่างประหลาดใจ “ถ้าอย่างนั้น นายจะถือปืนลูกดอกไปทำไมกัน?”
“แหะๆ” บูลเกาหัว “ถือแล้วอุ่นใจ ไม่อย่างนั้นผมตื่นเต้นจนโดดลงน้ำไปแล้วล่ะ”
แม้จะหว่านอวนเรียบร้อยแล้ว ปลาตัวนี้ก็ติดกับแล้ว ชาร์คกัดฟันหนุนที่ตั้งคันเบ็ด และกำลังจะดึงปลาทูน่ากลับมา แต่เขาเหนื่อยเกินไป ส่วนปลาทูน่าเองก็รู้ชะตาชีวิตของตนเองแล้ว จึงดิ้นรนอย่างดุเดือด!
ฉินสือโอวขึ้นไปจับที่ตั้งคันเบ็ดไว้แล้วพูดว่า “ให้ผมจัดการเถอะ!”
สายเบ็ดถูกดึงจนตึง ความหนาลดลงครึ่งหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าพลังของปลาตัวนี้น่ากลัวแค่ไหน
ฉินสือโอวกดคันเบ็ดไว้อย่างใจเย็น และหมุนที่ตั้งคันเบ็ดอย่างรวดเร็ว เก็บสายเบ็ดกลับมาได้ครั้งละหนึ่งเซนติเมตร
ในที่สุดปลาทูน่าก็หมดแรง ยี่สิบเมตรสุดท้าย ฉินสือโอวได้ออกแรงมากกว่าเดิม และได้รับชัยชนะในเกมสงครามชักเย่อครั้งนี้ และเขาสามารถดึงปลาทูน่าเข้ามาในอวนได้ในครั้งเดียว!
…………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset