ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 504 ฉินสือโอวผู้ชั่วร้าย

หลังจากดื่มไปสองแก้ว ฉินสือโอวเดินออกจากบาร์อย่างเกียจคร้าน ชาวประมงกลุ่มหนึ่งเดินตามรอบๆ เขาด้วยความมึนเมา พวกเขาพูดคุยเสียงดัง ปล่อยเนื้อปล่อยตัว เต็มไปด้วยความกล้าหาญของชาวประมง
ในเมืองไม่มีปัญญาเมาแล้วขับ หลังจากฉินสือโอวขับรถกลับไปถึงบ้าน แต่เห็นออดี้คิว 5 คันใหม่คันหนึ่งจอดไว้หน้าประตู
ยังไม่มีป้ายทะเบียนรถ เมื่อเห็นรถ เขาก็สร่างในทันที บ้าเอ้ย นี่น่าจะเป็นรถที่ขยะคนนั้นมอบให้วินนี่ใช่ไหม? ทำไมมาจอดไว้หน้าประตูตนเองล่ะ?
เมื่อขับรถผ่านไป เห็นชายในชุดสูทตนหนึ่งยืนคุยกับวินนี่อีกฝั่งของคิว 5 ฉินสือโอวจอดรถและปรับกระจกรถลงเพื่อดูละคร นีลเซ็นที่นั่งอยู่เบาะหลังพูดเตือนว่า “บอส มีคนแย่งแฟนของคุณ”
“ไม่เป็นไร ฉันไม่เชื่อว่าเขาจะมีดีอะไร” ฉินสือโอวเบะปากและดูละครต่อไป
เมื่อเห็นรถคาดิลแลควัน ชายในชุดสูทถอยหลังสองก้าวเพื่อเว้นระยะห่างกับวินนี่ ฉินสือโอวมองว่าเขายังคงหลงเสน่ห์วินนี่หัวปักหัวปำ ใบหน้าของวินนี่ก็มักเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
คาดว่ารอยยิ้มของวินนี่เองที่ทำให้ชายในชุดสูทเข้าใจผิด คงคิดว่าสาวงามมีใจ จึงไล่ตามอย่างไม่หยุดหย่อน
ฉินสือโอวมองอยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูด เขารู้สึกไม่น่าสนใจแล้ว จึงลงจากรถไป
ชายในชุดสูทมองเขาด้วยความระมัดระวัง ฉินสือโอวทำท่าหาวแล้วพูดว่า “อย่ากลัวเลยเพื่อน ฉันไม่ตบนายหรอก กำลังจีบสาวเหรอ? ต่อสิ”
“นายเป็นใคร?” ชายในชุดสูทถาม
เมื่อฉินสือโอวได้ยินประโยคนี้ก็ชะงัก ให้ตายเถอะ เขาปัญญาอ่อนเหรอ? กล้าจีบวินนี่ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้เบื้องหลังของเธอ เขาสามารถตัดสินจากคำถามนี้ของผู้ชายคนนี้ว่า เขาไม่รู้สถานการณ์ของวินนี่
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงพูดขึ้นว่า “เพื่อน ฉันพูดภาษาจีนดีกว่า ดูเหมือนว่านายจะยังไม่รู้จักสาวสวยนะ นายรู้ไหมว่าเธอแต่งงานแล้ว? มีสามีแล้ว”
ชายในชุดสูทพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “แล้วยังไงล่ะ? ฉันไม่รังเกียจหรอก”
รอยยิ้มบนใบหน้าของวินนี่เริ่มจางหายไป
ฉินสือโอวชะงักอีกครั้ง เขาคิดว่าคิดพูดของชายในชุดสูทฟังดูประหลาด แต่เขายังมึนจากเมื่อครู่ ไม่รู้ว่าปัญญาอยู่ตรงไหน
ชายในชุดสูทยังคงมองไปที่วินนี่ด้วยสายตาหวานชื่น “คุณเซโรวาครับ ผมรักคุณจริงๆ คุณให้โอกาสผมได้ไหม? ผมกล้าพนันเลยว่าถ้าคุณรู้จักผมมากกว่านี้ ต้องตกหลุมรักและอยากแต่งงานกับผมแน่นอน”
ฉินสือโอวรู้ปัญหาของชายในชุดสูทแล้วล่ะ ให้ตายเถอะหลงตัวเองจริงๆ ต้องมีความมั่นใจแค่ไหนจึงจะสามารถพูดได้ว่าตนไม่รังเกียจวินนี่?
วินนี่ไม่อยากปั้นหน้าแล้ว เธอพูดว่า “คุณหม่าคะ ฉันรู้ว่าคุณดี คุณเก่ง และโดดเด่น แต่มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉัน ฉันไม่เพียงแต่แต่งงานแล้วเท่านั้น แต่ยังมีลูกแล้วด้วย คุณไม่รังเกียจฉันเหรอ?”
“แค่คุณไม่ยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาอีก มันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร” ชาวชุดสูทพูดอย่างไม่เต็มใจเท่าไร
วินนี่ถอนหายใจ เธอชี้ไปที่ฉินสือโอวแล้วพูดว่า “คนนั้นคือสามีของฉัน คุณบอกฉันให้เลิกติดต่อกับสามีฉันต่อหน้าเขา คุณไม่กลัวเขาต่อยคุณเหรอ?”
ครั้งนี้เป็นตาของชายในชุดสูทบ้างที่ชะงัก เขาถามด้วยความประหลาดใจว่า “คุณแต่งงานกับคนจีนเหรอ?”
ฉินสือโอวรู้สึกว่าชายคนนี้นับวันยิ่งน่ารังเกียจ ทำไมแต่ละคำที่ออกมาจากปากของเขาฟังไม่เข้าหูอย่างนี้ล่ะ? แต่ยังไงเขาก็เป็นนักท่องเที่ยว ฉินสือโอวตัดสินใจที่จะสุภาพกับเขา เจรจาด้วยเหตุผลก่อนจะใช้กำลังละกัน “นี่ นาย นายรีบไปจากที่นี่เถอะ ฉันไม่อยากเจอนายที่หน้าประตูบ้านฉัน”
“ฉันแค่มาตามหาความสุขของฉัน เกี่ยวอะไรกับนายล่ะ” ชายในชุดสูทพูดอย่างนิ่งเฉย
ฉินสือโอวยักไหล่และพูดว่า “เตือนครั้งสุดท้ายนะ ถ้านายไม่ยอมไป ฉันจะให้ลูกของเรากัดนายให้ตาย”
ชายในชุดสูทและฉินสือโอวเป็นคนคนละโลกกัน ไม่สามารถเจรจากันได้
ฉินสือโอวไม่ให้โอกาสเขาตอบ ยกนิ้วขึ้นมาวางในปากแล้วทำเสียงนกหวีด
เสียงนกหวีดนี้นำมาซึ่งความคึกคัก ปอหลัวที่กำลังดูแลโรงเก็บของวิ่งเข้ามา หู่จือและเป้าจือวิ่งมาอย่างบ้าคลั่ง พวกมันส่งเสียงเห่าในขณะที่วิ่ง “โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง!”
สีหน้าของชายในชุดสูทเปลี่ยนไปเมื่อเห็นสัตว์ป่าฝูงหนึ่งวิ่งออกมา เขารีบถอยหลัง แต่ฉินสือโอวชี้มือไปทางเขา ปอหลัวกะพริบตาสองที จากนั้นก้มหน้าแล้วกระโจน…
กวางมูสมีพลังมาก เขากวางของมันทำให้ชายในชุดสูทล้มคว่ำกับพื้น หลังจากหู่จือและเป้าจือวิ่งออกมาแล้ว พวกมันก็กระโดดใส่ชายในชุดสูท เขาตกใจและกรีดร้องไม่หยุด และอยากหนีไปจากที่นี่โดยเร็ว
ฉินสือโอวมองแล้วหัวเราะเสียงดัง วินนี่เข้าไปห้ามเด็กทั้งสาม หู่จือยังอยากกัดเขาอีกคำ แต่วินนี่เจ็บมันไว้และตบไปที่ก้นของมันสองที จากนั้นเธอแกล้งทำเป็นโมโหและพูดว่า “อย่าดื้อ รีบกลับบ้านเร็ว!”
อย่างนี้ ชายในชุดสูทจึงสามารถลุกขึ้นยืนได้ เขาจัดเสื้อที่เปื้อนฝุ่นเล็กน้อย และพูดว่า ‘ฉันจะแจ้งตำรวจ’ จากนั้นก็รีบขับคิว 5 จากไป
ฉินสือโอวเมาเล็กน้อย และในตอนนี้เขากำลังฮึกเหิม เมื่อได้ยินประโยคที่ชายหนุ่มฝากเอาไว้ เขาตะโกนบอกนีลเซ็นว่า “ขับรถชนมัน! ไปชนมัน!”
วินนี่รีบโบกมือห้าม นีลเซ็นอยากทำตามจริงๆ เบิร์ดค่อนข้างหนักแน่น เขากดนีลเซ็นไว้ และตะโกนว่า “ไปไกลๆ เลย คนขี้เมา! ถ้าจะขับรถให้ฉันขับดีกว่า ฮ่าๆ …”
สามารถคาดหวังอะไรจากทหารสองคนที่เมาเหล้าล่ะ รถคาดิลแลควันคำราม และกลับรถตามคิว 5 ไปในทันที
วินนี่หมดหนทางแล้วจริงๆ และใช้ปลายรองเท้าเตะน่องของฉินสือโอวเบาๆ หนึ่งที และเริ่มตำหนิเขาว่า “ดูคุณสิ สร้างแต่ปัญหาให้ฉัน!”
ฉินสือโอวกอดวินนี่ และพูดโดยใช้อารมณ์อย่างเด็กๆ ว่า “เขาคิดจะแย่งเมียผม ผมไม่ควรสั่งสอนเขาหน่อยเหรอ?”
“ควรอย่างยิ่ง คุณน่ะ ไม่รู้จักโต! ไปกันเถอะ กลับไปดื่มชาสักหน่อย”
“ไม่ ผมจะจูบคุณที่นี่”
“กลับไปก่อนดีไหม? ฉันซื้อเสื้อผ้าใหม่มาด้วย”
“ได้ครับ”
ฉินสือโอวดื่มชาไปแค่ครึ่งถ้วย ก็มีสายหนึ่งโทรเข้ามา “ฉิน นี่โรเบิร์ตนะ เกิดอะไรขึ้น? ทำไมนีลเซ็นและเบิร์ดเมาแล้วขับล่ะ? ยิ่งไปกว่านั้นคือชนเข้ากับผู้โชคร้ายด้วย!”
เมื่อครู่ฉินสือโอวฮึกเหิมเพราะฤทธิ์เหล้า และยังไม่ได้เมาจนไม่ได้สติ เมื่อได้ยินเรื่องนี้เขาสร่างในทันที เขาขมวดคิ้วและถามว่า “เกิดเรื่องอะไรไหม?”
โรเบิร์ต แคริแลนด์ผู้เป็นสารวัตรใหญ่ของเมืองแฟร์เวลพูดว่า “ขอบคุณพระเจ้า คนไม่เป็นอะไร แต่รถของนายและเขาคนนั้นเสียหายเล็กน้อย ด้านหน้าสีถลอก ท้ายรถยุบ”
“ฉันจะเข้าไปเดี๋ยวนี้แหละ”
ฉินสือโอวบอกเรื่องนี้กับวินนี่ วินนี่เปลี่ยนเสื้อแขนยาวแล้วไปกับเขา ครั้งนี้ไม่น่าจะเป็นรถคันอื่น ถ้าไม่ใช่รถพอร์ช 918 ก็เอฟ 650 ไม่สะดวกกลับรถในสถานีตำรวจ ดังนั้นวินนี่จึงเลือกขับรถพอร์ช 918
“เมื่อครู่ผมโง่ไปหน่อย ไม่น่าดื่มเลย” ฉินสือโอวพูดอย่างร้อนใจ เพราะการประสบอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับเป็นเรื่องใหญ่ในแคนาดา
หลังจากวินนี่สตาร์ทรถ เธอก็เอื้อมมือไปจับมือหนา เธอยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร คุณเป็นคู่หมั้นที่ดีแล้วค่ะ”
ไม่เป็นไรจริงๆ รถคาดิลแลควันและคิว 5 จอดอยู่หน้าประตู แค่มีรอยขีดข่วนเล็กน้อยเท่านั้น และในตอนนี้รถไม่น่าจะชนกัน
เมื่อเข้าไปในสถานีตำรวจเล็กๆ เบิร์ด นีลเซ็นและตำรวจหลายคนกำลังพูดคุยกัน “ไอ้คนเม็กซิกันนั่นอยู่ห่างจากผมไปสิบเมตร เขาถือ M16 อยู่ในมือ ผมจำไม่ผิดแน่ๆ เพราะในตอนนั้นปากกระบอกปืนกำลังหันมาทางผม…”
…………………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset