ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 517 ภารกิจสายฟ้าแลบในคืนเดือนมืด

หลังจากที่ออกจากศาลเจ้า ฉินสือโอวหน้าบูดบึ้งไม่มีความสุข ราวกับเป็นผู้ลี้ภัยที่เพิ่งหลบหนีออกมาจากความอดอยาก ไม่ง่ายเลยที่จะเจอไก่ย่างอันโอชะแบบนี้ แต่ปรากฏว่ากลับกินไก่ย่างที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้ ช่างน่าเศร้าจริงๆ เลย
เทซึกะ โคตะรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของอารมณ์เขา จึงถามว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น
ฉินสือโอวรีบปรับอารมณ์ของเขาแล้วอธิบายว่าวันมะรืนก็จะมีงานประมูลแล้วจึงรู้สึกประหม่า ไม่รู้ว่าจะประมูลราคาแบบไหนออกมา
เทซึกะ โคตะไม่ได้คิดอะไรมาก จึงหัวเราะเสียงดังออกมา “คุณฉิน วางใจเถอะ แน่นอนว่าต้องมีราคาสูงเป็นประวัติการณ์ เพราะอย่างน้อย บริษัทของเราก็ตัดสินใจที่จะใช้เงินมูลค่าต่ำสุดก็ 2 ล้านเพื่อประมูลปลาทูน่าที่มีค่าตัวนั้นมา”
บัตเลอร์เคยอธิบายให้เขาฟังว่า ปลาทูน่าตัวนี้จริงๆ แล้วเป็นปลาที่ฉินสือโอวเป็นคนจับมา แต่เขาไม่อยากเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนามจึงใช้ชื่อนีลเซ็นแทน
หลังจากที่ออกจากตลาดสึกิจิ เทซึกะ โคตะก็กลับบริษัทเลย ส่วนฉินสือโอวกับบัตเลอร์กลับโรงแรม
ระหว่างทางฉินสือโอวหน้านิ่วคิ้วขมวด “ต่อให้เขารู้ว่าปลาทูน่านั้นเป็นของฉัน แต่ก็ไม่น่าจะดูแลเอาใจใส่ฉันขนาดนี้ไหม? ฉันคิดว่ามันไม่ปกติมากๆ เลยล่ะ”
ดวงตาบัตเลอร์กะพริบปริบๆ ไปมาแล้วก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “แน่ล่ะ เขามีจุดประสงค์อื่นแน่นอน อย่างเช่น นายมีฟาร์มปลาที่ใหญ่มากแห่งหนึ่ง เทซึกะ โคตะอาจจะอยากทำธุรกิจร่วมกันกับนายก็เป็นได้”
ฉินสือโอวรู้สึกว่ามันไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เขามองไปที่บัตเลอร์ด้วยความไม่เชื่อใจ มักจะมีความรู้สึกว่าชายผิวสีมีอะไรปิดบังเขาอยู่เสมอ
แต่เขากับบัตเลอร์ก็ไม่ได้สนิทกันถึงขั้นที่ว่ามีอะไรก็คุยจนหมดเปลือก ในเมื่อชายผิวสองสีไม่ยอมพูด เขาก็ไม่สามารถถามอะไรต่อได้
พอกลับถึงโรงแรม นีลเซ็นเดินมาทักทายแล้วบอกว่า “คนของสมาคมการประมงระหว่างประเทศโทรมาตอนกลางวันครับ พรุ่งนี้เขาจะไปตรวจสอบปลาทูน่าตัวนั้น หลังจากนั้นก็จะกำหนดสถิติระดับโลกและให้โบนัสกับพวกเรา”
ฉินสือโอวยังคงคิดถึงกระถางธูปเล็กใบนั้น จึงไม่ได้สนใจอะไรมาก ตอบอือไปคำเดียว สีหน้าแสดงความกังวลคิดพิจารณาว่าจะจัดการกับกระถางธูปใบนั้นอย่างไรให้สำเร็จ
นีลเซ็นเห็นเขาไม่มีความสุข จึงถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น ฉินสือโอวอธิบายง่ายๆ ให้เขาฟังว่า “วันนี้ฉันเห็นของที่ฉันชอบมาก แล้วฉันก็อยากจะสัมผัสกับสิ่งนั้น แต่กลับมีคนคุมมันไว้ไม่ให้ฉันได้ลูบคลำถูกมัน”
“สาวงามในปฐพี?” วินนี่มองเขาอย่างหวาดระแวง
ฉินสือโอวกวาดตามองบน “ไม่ใช่ เป็นกระถางธูปใบหนึ่ง! ถ้าเป็นสาวงามนะจัดการง่ายนิดเดียว แค่ผมให้เงินไปปึกหนึ่ง เธอก็ให้ผมลูบคลำอย่างว่านอนสอนง่ายแล้ว เฮ้อ แต่กระถางธูปกลับไม่ใช่แบบนั้น พระที่คอยดูแลมันดูท่าแล้วจะตัดจากทางโลก ให้เงินไปก็คงไร้ประโยชน์”
เบิร์ดถามขึ้น “กระถางธูปอยู่ที่ไหนเหรอครับ?”
ฉินสือโอวจึงเล่าเรื่องศาลเจ้าบูจิให้ฟังเบื้องต้น หลังจากนั้นก็ถอนหายใจเหนื่อยหน่าย เบิร์ดกับนีลเซ็นกลับมองตากันและกันแล้วก็ออกจากโรงแรมนั้นไป
วินนี่สงสัยว่าทำไมเขาถึงอยากสัมผัสกระถางธูป ฉินสือโอวอธิบายได้เพียงว่านี่เป็นนิสัยแปลกประหลาดของเขา ทุกครั้งที่พอไหว้พระเสร็จก็จะต้องสัมผัสกระถางธูป เพราะนี่เป็นตำนานในบ้านเกิดของเขาว่าถ้าหากได้สัมผัสแล้วก็จะได้รับการคุ้มครองจากพระพุทธเจ้า
ด้านหนึ่งฉินสือโอวก็อธิบายไปมั่ว ไม่ช้าเบิร์ดก็กลับมาพร้อมแผนที่รายละเอียดของชินจูกุในมือของเขา
หลังจากนั้นประมาณหนึ่งชั่วโมงนีลเซ็นก็กลับมาเช่นกัน เขาซื้อสมุดจดบันทึกซึ่งเต็มไปด้วยสัญลักษณ์เส้นต่าง ๆ
พอเบิร์ดคุยกับนีลเซ็นได้สักพัก เขาก็ยื่นแผนที่มาตรงหน้าฉินสือโอว “บอส ดูอากาศสิ ค่ำวันนี้จะมืดสนิทไม่มีพระจันทร์แน่ แล้วพวกเราก็เข้าไปในศาลเจ้า ให้ผมคอยหลอกล่อความสนใจของคนในวัด ส่วนนีลเซ็นก็คอยดูที่ทาง แล้วบอสก็ไปสัมผัสกระถางธูปนั่นแค่นี้ก็เรียบร้อย”
“พวกเธอบ้าไปแล้วเหรอ? คุ้มเหรอ?” วินนี่แบมือถาม
ฉินสือโอวดีใจมาก “คุ้ม แน่นอนว่าคุ้มมาก! พูดต่อ เบิร์ด ว่ามาต่อเลย!”
“โอเคครับ นี่เป็นสิ่งที่นีลเซ็นเพิ่งสำรวจมา ภายในศาลเจ้ามีกล้องวงจรปิดอยู่แปดตัว แต่กล้องแต่ละตัวไม่ได้ตั้งค่าให้ส่องจุดที่เหลื่อมล้ำกัน นั่นหมายความว่ามันจะมีมุมที่กล้องส่องไม่ถึง ส่วนผมมีแผนที่บริเวณรอบข้างศาลเจ้า เพียงแค่เดินตามเส้นแดง กล้องวงจรปิดจะถ่ายไม่โดนพวกเราแน่นอน”
 วินนี่เอามือกุมขมับอย่างเหนื่อยใจ “พระเจ้า ฉินบ้าไปแล้ว พวกนายก็ยังจะบ้าตามนายอีก”
ฉินสือโอวตบโต๊ะ “ตามนี้แหละ เพื่อน หลังจากที่เรื่องสำเร็จแล้วพวกนายเอาโบนัสไปคนละหนึ่งหมื่นเลย!”
“โห บอสยังมีสิ่งอื่นที่อยากสัมผัสอีกไหม? ครั้งละหนึ่งหมื่น พวกเราจะเตรียมการให้เป็นอย่างดีเลย”
“ออกไปเลย”
เบิร์ดออกไปซื้อชุดดำ กางเกงดำ รองเท้าดำให้ทั้งสามคน เป็นชุดที่มีฮู้ดติดมาด้วย พอสวมใส่เรียบร้อยก้มหน้า เก็บมือไม่ให้โผล่ แล้วยืนอยู่ในมุมมืดยามค่ำคืนย่อมไม่มีใครเห็นแน่
นีลเซ็นไปดูลาดเลาอีกสองสามรอบ เพื่อวิเคราะห์จำนวนคนในวัดและสถานการณ์ที่แต่ละคนทำหน้าที่อยู่
ฉินสือโอวรู้สึกตื่นเต้นมาก เขารู้สึกว่ามันมีบรรยากาศเหมือนปฏิบัติภารกิจลับ และถึงกับตั้งชื่อให้กับภารกิจยามค่ำคืนนี้โดยเฉพาะเลยว่า ‘ภารกิจสายฟ้าแลบในคืนเดือนมืด’
พอเป็นแบบนี้วินนี่ก็พลอยเป็นไปด้วย จับมือฉินสือโอวอย่างตื่นเต้นและอยากจะร่วมภารกิจด้วย
เขาไปทำภารกิจนะ ฉินสือโอวปฏิเสธ เพราะสิ่งนี้จะมีข้อผิดพลาดไม่ได้เลย
วินนี่บอกว่า “ต้องเอาฉันไปด้วย ฉันไปอยู่กับเบิร์ดได้ ดึงดูดความสนใจคนอื่น ไม่อย่างนั้นถ้าพวกคุณไป ฉันจะแจ้งตำรวจ!”
“ไป ไป ไป!”
“ให้ฉันไปหลบหรือเข้าร่วมด้วย?”
“เข้าร่วม เข้าร่วม เข้าร่วมด้วยสิ โอย ผมเจ็บของผมนะ!”
“เดี๋ยวกลับมาแล้วเค้าจะถูให้นะคะ”
“เยี่ยม ถ้าอย่างงั้นไปกันเลย”
ตอนตีหนึ่ง เบิร์ดเช่ารถมาคันหนึ่งขับไปที่จอดรถในตลาดสึกิจิ หลังจากนั้นก็ทำตามแผน เบิร์ดเอาตัวเองเป็นเหมือนขั้นบันได นีลเซ็นเหยียบเขาแล้วปีนข้ามกำแพงไปก่อน แล้วก็ลากเอาฉินสือโอวข้ามไปด้วย เบิร์ดกับวินนี่รออยู่ด้านนอกคอยรับช่วงต่อ
นีลเซ็นนำทาง ฉินสือโอวเดินตามเขาอย่างเงียบเชียบในศาลเจ้า
ในศาลทั้งหมดมีเพียงแสงไฟในห้องโถงใหญ่และห้องข้างเคียง ห้องอื่นไฟดับหมดแล้ว เพราะยังไงก็แล้วแต่นี่ก็เวลาเที่ยงคืนแล้ว
หลบจากแนวกล้องวงจรปิด ทั้งคู่เดินย่องไปจนถึงส่วนโถง เข้าไปข้างในผ่านทางหน้าต่าง แล้วก็เห็นผู้ดูแลศาลมีอายุคนหนึ่งสวดมนต์อยู่หน้าเทพเจ้า
ฉินสือโอวก่นด่าเงียบๆ นี่มันไม่ใช่วัดเส้าหลินสักหน่อย ดึกขนาดนี้แล้วยังมีพระสวดอะไรอยู่หน้ารูปปั้นเทพเจ้าเนี่ย?
นีลเซ็นได้เตรียมตัวไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว เขาส่งข้อความหาเบิร์ด นอกประตูอยู่ดีๆ ก็มีเสียงประตูกระทบกันดัง ‘ปัง ปัง ปัง’ เป็นเบิร์ดและวินนี่ที่ลงมือทำ
พอได้ยินเสียงประตูกระทบกัน ผู้ดูแลศาลที่อยู่ห้องข้างๆ ก็วิ่งออกมา ตะโกนออกมาเป็นภาษาญี่ปุ่นอะไรสักอย่าง
ฉินสือโอวนิ่งตะลึงไป เขาลืมสิ่งนี้ไปได้อย่างไร พวกเขาฟังภาษาญี่ปุ่นไม่รู้เรื่อง!
ปรากฏว่าเสียงวินนี่ดังขึ้นมา น้ำเสียงน่ารักไม่รู้ว่าตะโกนอะไรอยู่ เสียงที่ตื่นตระหนกและมันหมายถึงอะไรบางอย่างจริงๆ
ฉินสือโอวไม่รู้ว่าที่เธอตะโกนมีความหมายว่าอะไร แต่ผู้ดูแลศาลเกิดความลังเล ตะโกนออกไปสองสามประโยคแล้วก็เดินไปเปิดประตู
หลังจากนั้นผู้ดูแลศาลทั้งหมดก็วิ่งออกมาจากห้องด้านข้าง วินนี่เดินเข้าไปในศาลเจ้า เบิร์ดสีหน้าเยือกเย็นเดินตามเธอเข้ามา คอยรั้งวินนี่ไว้ ปากก็ก่นด่าว่า “คุณวิ่งสิวิ่ง สมควรตายจริงๆ …”
ตรงทางเข้าเสียงดังเอะอะมาก คนดูแลศาลในโถงล้วงเอามือถือออกมาโทรศัพท์อย่างใจเย็น หลังจากนั้นก็วิ่งออกมาอย่างที่นีลเซ็นคิดเอาไว้ วิ่งไปที่ลานกว้างด้านหน้าตะโกนเป็นภาษาอังกฤษว่า “ฉันแจ้งตำรวจแล้ว! แจ้งแล้ว!”
นีลเซ็นส่ายหัวและฉินสือโอวก็รีบวิ่งเข้าไปในส่วนโถงโดยไม่พูดอะไร เอามือที่ตื่นเต้นจนสั่นไปหมดแปะไปที่กระถางธูปเล็กนั่น
ทันใดนั้น ความรู้สึกสบายตัวสุดๆ ที่ทำให้ตัวเขาสั่นเทิ้มแผ่กระจายไปทั่วร่าง เทียบกับตอนที่กอดวินนี่ตอนขึ้นจุดสุดยอดยังสบายยิ่งกว่า! ยิ่งตอนนี้พลังงานในกระถางธูปกระถางเล็กมีมหาศาล จึงทำให้เขาสบายจนจะคุมตัวเองไม่ได้ ราวกับว่ากล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายสั่นเทาไปหมด!
……………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset