ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 556 อุปกรณ์ที่ฟาร์มปลา

เมื่อมีการเสนอราคา 35 ล้านออกมา พวกตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ทำได้แค่มองหน้ากันและก่นด่าอยู่ภายในใจทีหลัง
ราคานี้ไม่ได้สูงเกินไป ตอนที่พวกเขามาถึงเพื่อจะครอบครองฟาร์มปลาแกธเธอริงราคาที่คิดไว้ล้วนมากกว่า 50 ล้าน
มูลค่าของฟาร์มปลาเองก็เพียงพอแล้วสำหรับราคานี้ นอกจากอัลเบิร์ตจะช่วยพวกเขาจัดการจุดเล่นน้ำริมหาดซึ่งเป็นจุดที่สำคัญมากได้เป็นอย่างดี และถึงแม้ว่าพวกเขาจะซื้อฟาร์มปลาที่อื่นอีกก็ไม่กล้าทำแบบนี้ การทำความสะอาดปะการังใต้ทะเลไม่ใช่ปัญหา แต่การใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ฟาร์มปลาเป็นเรื่องที่อันตรายจริงๆ
ทว่าตอนนี้ปัญหาคือ กรมประมงเรียกร้องให้ลงทุน 3 ใน 4 ของมูลค่าของฟาร์มปลาภายใน 5 ปีซึ่งจำกัดการประมูลราคาของพวกเขา เห็นได้ชัดว่า 35 ล้านก็ถึงขีดจำกัดของพวกเขาแล้ว 35 ล้าน…
ได้ไม่คุ้มเสีย!
พวกอสังหาริมทรัพย์อยากครอบครองฟาร์มปลาแกธเธอริงเพื่อหาเงินเท่านั้น ถ้าไม่ใช่เพื่อหาเงินแล้วใครจะทำล่ะ?
ดังนั้นหลังจากที่ฉินสือโอวเสนอราคา พวกเขาจึงเหลือบมองกันและกันก่อนจะยักไหล่และโยนป้ายเสนอราคาที่อยู่ในมือทิ้งไป
อัลเบิร์ตร้องไห้อยู่อีกด้าน เขาหวังอย่างมากว่าคู่แข่งพวกนี้จะสามารถทำให้ฉินสือโอวที่ยกมือขึ้นเพื่อเสนอราคาดูโง่เง่าได้ 35 ล้านหักลบภาษีแล้วเขาจะได้เงิน 20 ล้านก็ไม่เลว เพราะภาษีการประมูลนั้นสูงมาก ฉินสือโอวที่เอารูปปั้นสำริดเมดูซาไปก็รู้
20 ล้าน ความจริงนั่นไม่ใช่แค่สีกางเกงตก แต่กางเกงยังล้าสมัยอีกด้วย!
นอกจากฉินสือโอวยังมีเจ้าของฟาร์มปลาหลายคนมาที่ฟาร์ม พวกเขาตั้งใจที่จะนำเงินมาร่วมลงทุนที่ฟาร์มปลาและพูดว่า ความจริง 5 ปีลงทุน 3 ใน 4 ของมูลค่าของฟาร์มปลาไม่มากเท่าไร แต่ปัญหาคือพวกเขาไม่มีอำนาจและไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายขนาดนั้น
ความจริงเรื่องนี้ยังมีวิธีแก้อยู่วิธีหนึ่ง นั่นก็คือตัวแทนอสังหาริมทรัพย์กับพวกเจ้าของฟาร์มปลาต้องร่วมมือกันและจ่ายด้วยกัน พื้นที่หนึ่งเป็นเขตของวิลล่า อีกพื้นที่หนึ่งเป็นของฟาร์มปลา ถึงตอนนั้นเจ้าของฟาร์มปลาก็ลงทุนกับฟาร์มปลา ส่วนตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ก็ขายบ้านเพื่อทำเงินซึ่งถือว่าได้ผลประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย
แต่ปัญหาก็อยู่ที่ตรงนี้ ไม่มีใครคิดว่ากรมประมงจะทำตัวเป็นแมลงเม่าแบบนี้ ไม่ใช่ว่าไม่มีเจ้าของฟาร์มปลาที่มองหาตัวแทนอสังหาริมทรัพย์เพื่อร่วมมือกัน แต่เป็นพวกตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่คิดจะร่วมมือ เงินทุนของพวกเขาแข็งแกร่งและมั่นคงพอ แม้ว่าจะซื้อฟาร์มปลาแต่ก็ไม่ได้คิดที่จะเลี้ยงปลาจริงๆ
ดังนั้นถึงคิดจะร่วมมือตอนนี้ก็ยากแล้ว งานประมูลจะไม่ยอมให้พวกเขามีเวลาไปปรึกษากันเพื่อแบ่งผลประโยชน์ของฟาร์มปลาได้
หลังจากที่ราคา 35 ล้านถูกเสนอออกมาก็ไม่มีใครยกป้ายอีก ผู้พิพากษาผู้ทรงสง่าตะโกน 3 ครั้งและใช้ค้อนทุบที่โต๊ะอย่างหนักแน่นในท้ายที่สุด “ฟาร์มปลาแกธเธอริงปิดประมูลที่ 35 ล้านดอลลาร์แคนาดา โดยคุณฉินจากเมืองแฟร์เวลเป็นผู้ได้ไป!”
ฉินสือโอวลุกขึ้นยืนและก้มศีรษะให้กับผู้คนรอบข้าง ตอนที่เขามองไปยังอัลเบิร์ต สุดท้ายสิ่งที่เหลือไว้ให้เขาก็คือสายตาที่ดูเคียดแค้นเท่านั้น
งานประมูลจบลงแล้ว ฉินสือโอวขึ้นไปเซ็นชื่อลงบนสัญญาการประมูลภายใต้พยานของผู้พิพากษา สิ่งที่เขาต้องทำต่อจากนี้ก็คือจ่ายเงิน
นับจากนี้ไป ฟาร์มปลาแกธเธอริงก็เป็นของเขาแล้ว!
นับจากนี้ไป ชายฝั่งทะเล 100 กิโลเมตรบนเกาะแฟร์เวลก็เป็นของเขาอีกเช่นกัน!
หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกับอัลเบิร์ตอีก ฉินสือโอวทิ้งท้ายไว้ให้เขาประโยคหนึ่งว่า ‘เสียงหัวเราะครั้งสุดท้ายเป็นเสียงหัวเราะแห่งความสุข’ และเดินออกจากศาลไป
พื้นที่ของฟาร์มปลาได้ขยายออกไปอีก ดังนั้นเรื่องที่เขาต้องวางแผนตอนนี้ไม่ใช่การสร้างฟาร์มปลา แต่จะป้องกันไม่ให้เกิดการขโมยปลาได้อย่างไร
เมื่อกลับถึงวิลล่า ฉินสือโอว เบิร์ด ชาร์คและทุกคนต่างประชุมกันเพื่อถามว่าจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร และไม่สามารถขับเฮลิคอปเตอร์เฝ้าระวังที่ฟาร์มปลาได้ตลอดเวลาเหรอ?
“งั้นก็ซื้อเรดาร์สำหรับพลเรือนสิ หลังจากติดตั้งแล้วก็สามารถเฝ้าระวังบริเวณรอบๆ น่านน้ำได้ในรัศมี 360 องศาแล้ว” เบิร์ดเสนอ
ฉินสือโอวไม่ค่อยรู้เรื่องของพวกนี้นัก เขาเป็นเหมือนทหารหุ่นเชิดผู้กระตือรือร้นที่รู้แค่ยิงปืนอย่างไร เรดาร์ เครื่องบิน รถถังและเครื่องยนต์อะไรพวกนี้เขาไม่ค่อยรู้หรอก
เบิร์ดกับนีลเซ็นก็อธิบายให้เขาฟังนิดหน่อยว่าพื้นฐานการใช้เรดาร์จะแบ่งออกเป็น 2 แบบคือสำหรับทหารและสำหรับพลเรือน โดยทั่วไปเรดาร์สำหรับทหารจะประกอบไปด้วยเรดาร์เตือนภัย เรดาร์นำวิถี เรดาร์ที่ใช้แยกระหว่างศัตรูกับฝั่งตัวเองเป็นต้น เรดาร์ที่กล่าวมานั้นล้วนเป็นอุปกรณ์ที่น่าหวาดกลัว
เรดาร์สำหรับพลเรือนจะประกอบไปด้วยเรดาร์การเดินเรือ เรดาร์ตรวจอากาศ เรดาร์ตรวจจับความเร็วและเรดาร์สำรวจฐานเป็นต้น เรดาร์ที่ฟาร์มปลาต้องใช้ก็คือเรดาร์สำรวจฐาน ตอนนี้ที่สหรัฐอเมริการัฐมอนตานาและรัฐเท็กซัส ฟาร์มปศุสัตว์ขนาดใหญ่ส่วนมากก็ใช้เรดาร์ประเภทนี้ดูแลฝูงวัว ฝูงแกะ และปศุสัตว์ชนิดอื่น
ส่วนใหญ่เรดาร์พวกนี้ใช้เทคโนโลยีที่ล้าสมัยของทหารเช่น เครื่องสแกนและเสาอากาศ เทคโนโลยีขั้นสูงบางตัวใช้เทคโนโลยีไมโครอะเรย์ที่สแกนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เรดาร์ประเภทนี้จะปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาเพื่อสแกนที่ระดับผิวน้ำทะเล ไม่เพียงแค่สามารถระบุตำแหน่งของเป้าหมายได้ แต่ยังสามารถสำรวจระยะทางกับความเร็วของมันได้อีกด้วย
“ถ้าจะใช้เรดาร์สำหรับพลเรือน งั้นก็ต้องซื้อเรดาร์สแกนเป้าหมายรุ่นไกอาเอส100 ที่ผลิตโดยบริษัทอเมริกัน จีเอสเอสไอ การผลิตเครื่องมือความแม่นยำ จำกัด เมื่อก่อนตอนที่ผมทำงานเป็นยามชายฝั่ง ที่นั่นก็มีเรดาร์ประเภทนี้อยู่เครื่องหนึ่งซึ่งมีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม รัศมีการสแกน 500 กิโลเมตรก็เพียงพอที่จะใช้ในฟาร์มปลาของพวกเราแล้ว” เบิร์ดแนะนำเป็นครั้งสุดท้าย
ไม่นานหลังจากนั้นฉินสือโอวรู้มานิดหน่อยแล้วว่า บริษัทอเมริกัน จีเอสเอสไอปัจจุบันเป็นโรงงานที่ผลิตเรดาร์ทางธรณีวิทยาแห่งแรกของโลก ผลิตภัณฑ์ของบริษัทนี้มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก ปริมาณการขายเกินกว่า 4000 เครื่องซึ่งมากกว่า 70% ของยอดขายทั่วโลก ที่แคนาดามีอยู่ 1200 เครื่องหรือมากกว่านั้น คิดเป็น 85% ของส่วนแบ่งทางการตลาดของแคนาดา
บนอินเทอร์เน็ตมีข้อมูลที่อธิบายเกี่ยวกับเรดาร์สแกนเป้าหมายรุ่นไกอาเอส100 น้อยมาก ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับยอดขายของเรดาร์มากกว่า
เป็นไปไม่ได้ที่คนซื้อเรดาร์จะเป็นคนธรรมดา ถ้าไม่มีฟาร์มปศุสัตว์ หรือมีฟาร์มปลา ก็ต้องมีพื้นที่ล่าสัตว์ สั้นๆ คือต้องเป็นคนร่ำรวยและมีอำนาจ ถ้าคนพวกนี้ต้องการเรดาร์พวกเขาจะไม่สั่งผ่านอินเทอร์เน็ตแต่จะโทรไปที่บริษัทจีเอสเอสไอและทางบริษัทก็จะส่งพนักงานขายเพื่อจัดหาบริการเฉพาะทางให้
เหมือนว่าเรดาร์รุ่นไกอาเอส100 ราคาของเรดาร์พร้อมทั้งสถานีจะมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์แคนาดา พนักงานคนหนึ่งขายได้ 2 ชุดต่อปีก็สามารถมีชีวิตที่ดีได้แล้ว
ฉินสือโอวโทรไปหาเจนนิเฟอร์ผู้เชี่ยวชาญของบริษัทอเมริกันเอ็กซเพรสและขอให้เธอติดต่อไปที่บริษัทจีเอสเอสไอเพื่อให้ส่งพนักงานมาหาเขา
บริการของบริษัทอเมริกันเอ็กซเพรสน่าประทับใจมาก เขาวางสายไปได้ 10 นาทีก็มีผู้ชายสำเนียงอเมริกาใต้ดูหนักแน่นโทรมาหาเขา ชายคนนี้เรียกตัวเองว่าฟรอนโด สตาร์คเป็นวิศวกรคนหนึ่งของบริษัทจีเอสเอสไอ
ประสิทธิภาพของบัตรอเมริกันเอ็กซเพรสครบครันมาก บริการหลายอย่างที่จัดเตรียมไว้ให้มีประโยชน์ทุกอย่างเช่น ถ้าต้องการซื้อของอะไร คนที่ติดต่อคุณจะไม่ใช่พนักงานทั่วไป แต่จะเป็นวิศวกรกับสถาปนิกที่ไม่ค่อยได้รับให้คำปรึกษาลูกค้า ครั้งนี้เป็นฟรอนโด สตาร์คกับลีฟ ไดม์เลอร์จากทิฟฟานี
ความจริงฉินสือโอวไม่จำเป็นต้องให้ฟรอนโดมาติดต่อกับเขาก็ได้ เพราะสิ่งที่เขาต้องการจะรู้มีแค่ราคากับค่าใช้จ่ายของอุปกรณ์เสริมบางอย่างเท่านั้น ข้อมูลเฉพาะของเรดาร์มีเบิร์ดคอยอธิบายให้เขาฟังแล้ว
อย่างไรก็ตามฟรอนโดก็เป็นคนที่รู้ราคาของเรดาร์และบอกเขาว่า ถ้าเป็นเรดาร์รุ่นไกอาเอส100 – เอสอีเอที่ปรับปรุงให้ใช้ทางทะเลได้ดีขึ้นรวมกับค่าติดตั้งทั้งหมดก็ 1 ล้าน 2 แสน 2 หมื่นดอลลาร์แคนาดาซึ่งไม่รวมกับค่าบำรุงรักษาในภายหลัง ค่าบำรุงรักษาเรดาร์ต้องเก็บเพิ่มอีก
ฉินสือโอวรู้สึกว่าราคานี้ไม่ถือว่าแพง โดยเฉพาะตอนนี้เขายังต้องรับหน้าที่สำคัญในการลงทุนฟาร์มปลาแกธเธอริง แน่นอนว่าการซื้อเรดาร์มาใช้ที่ฟาร์มปลาก็ถือว่าเป็นการลงทุนภายในฟาร์มปลา
เมื่อซื้อเรดาร์แล้ว นั่นก็หมายความว่าฟาร์มปลามีวิธีการค้นหาและวิธีการป้องกันสิ่งที่ต้องทำหรือขาดไป
“ถ้าพวกเราสามารถซื้อขีปนาวุธ ร็อกเก็ตลันเชอร์ ตอร์ปิโดและอื่นๆ ได้อีกก็สะดวกสบายแล้ว ถ้าเรดาร์ค้นหาเป้าหมายเตือนไม่ได้ผลก็กำจัดได้ทันที!” ฉินสือโอวพูดหยอกล้อ
เบิร์ดพยักหน้าอย่างจริงจังและพูดว่า “ตอร์ปิโดคงยากมาก แต่ถ้าขีปนาวุธกับร็อกเก็ตลันเชอร์ไม่มีปัญหา”
………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset