ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 560 นำมาซึ่งฝูงปลาโอแถบ

หมูป่าย่างครั้งนี้ถือเป็นอาหารค่ำเลี้ยงฉลองที่เก็บเกี่ยวผลผลิตของฟาร์มปลาได้ แม้ว่าจะไม่ค่อยเป็นทางการ แต่โชคดีที่ทุกคนดื่มกินส่งเสียงคุยเล่นกันอย่างมีความสุข
ตอนเย็นวันนั้นเบียร์ 5 ถังถูกดื่มจนหมด ฉินสือโอวไม่มีทางเลือกต้องโทรให้ผับดาราประกายส่งเบียร์ดำมาอีก 2 ถัง สุดท้ายพวกชาวประมงเมาและเป็นอีวิลสันที่ต้องแบกพวกชาวประมงกลับอพาร์ตเมนต์
ภายในฟาร์มปลาแห่งนี้คนที่มีพรสวรรค์หลายคนล้วนมีประโยชน์ทุกคนเช่น อีวิลสันปกติจะไม่มีบทบาทมากเท่าไร แต่สามารถจัดการกับคนเมาได้เหมาะมากกว่าเขา แม้แต่เบิร์ดที่เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้แน่นอนว่าคนเมาล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ต้องแอลกอฮอล์? ทันทีที่เขาดัดมือทั้งสองข้างของคุณไว้ด้านหลัง มันคงแปลกมากถ้าคุณบอกว่าไม่เจ็บ
เมื่อคืนก่อนพวกชาวประมงก็ดื่มกันจนเมาหัวราน้ำ แน่นอนว่าวันนี้ก็เป็นวันอาทิตย์ ดังนั้นฉินสือโอวเพียงแค่ให้พวกเขาลาหยุดสักวัน วันต่อมาก็ไม่ต้องทำอะไรแค่นอนพักผ่อนอยู่ที่บ้านก็พอ
เบิร์ดกับนีลเซ็นจะควบคุมตัวเองได้ดีกว่า ตอนเช้าพวกเขาจะอาบน้ำเย็นและขับเฮลิคอปเตอร์บินมาที่ฟาร์มปลาตามปกติเพื่อไปตรวจสอบว่ามีเรือหาปลาถูกขโมยหรือไม่
ก่อนที่บริษัทจีเอสไอพรีซิชั่นอินสตรูเมนท์แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัดจะมาที่ฟาร์มปลาเพื่อติดตั้งเรดาร์ก็ยังต้องพึ่งพาเฮลิคอปเตอร์ในการลาดตระเวนอยู่
พวกชาวประมงยังไม่ตื่นนอน ฉินสือโอวจึงพาหู่จือเป้าจือออกไปที่ทะเลเพื่อสุ่มตรวจสอบสถานการณ์ที่ฟาร์มปลา
หลังจากที่ฉินสือโอวออกไปที่ทะเลก็จะปล่อยจิตสำนึกแห่งโพไซดอนออกไปเพื่อลงไปยังแนวปะการังเสมอจนเป็นกิจวัตรประจำวัน
ขอบเขตของแนวปะการังที่อยู่ตามชายฝั่งของฟาร์มปลาเพิ่มขึ้นทีละน้อยและหยุดเพิ่มขึ้นที่ส่วนลึกของมหาสมุทร ฉินสือโอวจะใช้พลังแห่งโพไซดอนใส่เข้าไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ปะการังก็จะเปลี่ยนไปมีชีวิตชีวามากขึ้นเป็นพิเศษ แต่การเพิ่มจำนวนยังช้าอยู่นิดหน่อย
เขาไม่สามารถพึ่งพาแสงในการเจริญเติบโตของปะการังและมาเพิ่มจำนวนแนวปะการังได้ อีกไม่กี่วันเขาก็จะใช้เงินเพื่อเริ่มลงมือสร้างแนวปะการังที่ฟาร์มปลา ดังนั้นแนวปะการังก็จะเต็มไปด้วยปะการังฝีมือคนพวกนี้ แนวปะการังก็จะสามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วขึ้น
หลังจากที่ปะการังดูดซับพลังแห่งโพไซดอนแล้วความเร็วในการเจริญเติบโตก็จะเร็วเป็นพิเศษ ความอยากอาหารก็ยิ่งมากขึ้น อาหารของพวกมันคือแพลงก์ตอน แพลงก์ตอนพืชและแพลงก์ตอนสัตว์ล้วนสามารถกินได้ทั้งนั้น ตราบใดที่สภาพแวดล้อมไม่มีปัญหาก็ไม่ค่อยเกี่ยวกับอาหาร
ความเจริญรุ่งเรืองของแพลงก์ตอนไม่เพียงแค่เกี่ยวข้องกับผู้ล่าที่อยู่ด้านล่างอย่างพวกปลาแฮร์ริ่ง กุ้งแดง ปลาซาบะ ยังเกี่ยวข้องกับความเร็วในการขยายพันธุ์ของแนวปะการังด้วย
อย่างไรก็ตามแนวปะการังกับแพลงก์ตอนพืชก็มีความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกัน แม้ว่าพวกมันจะใช้ประโยชน์จากแพลงก์ตอนพืช แต่ก็ให้สถานที่และโภชนาการเพื่อความอยู่รอดแก่แพลงก์ตอนพืชเช่นกัน แพลงก์ตอนและพืชที่อาศัยอยู่ใต้น้ำก็จะเติบโตอยู่บนชั้นผิวของแนวปะการัง
ในบรรดาพืชที่อาศัยอยู่ใต้น้ำ ตะไคร่น้ำเป็นพืชที่ปกคลุมอยู่บนแนวปะการังเยอะที่สุด
สาหร่ายเขียวแกมน้ำเงิน สาหร่ายแดง สาหร่ายสีน้ำตาลและสาหร่ายเขียวเป็นต้น พวกมันจะเกาะติดกับชั้นผิวของปะการังเหมือนผ้าสักหลาดหนาๆ ผืนหนึ่งซึ่งใช้เป็นเกราะและโภชนาการแก่แนวปะการัง ขณะเดียวกันก็สามารถเปลี่ยนสีได้หลากหลายสี
สาหร่ายพวกนี้เจริญเติบโตอยู่มากมายบนแนวปะการังโดยตรงซึ่งเป็นสาหร่ายที่โตบนหิน และยังมีสาหร่ายบางประเภทที่เติบโตท่ามกลางดินทรายและโคลนในทะเล พวกมันเป็นสาหร่ายที่โตบนทราย
ไม่ว่าจะเป็นสาหร่ายประเภทไหน พวกมันก็มีประโยชน์ต่อแนวปะการัง ฉินสือโอวจึงใช้โอกาสนี้ส่งพลังแห่งโพไซดอนให้พวกมันนิดหน่อย แต่นอกจากสิ่งมีชีวิตที่เป็นประโยชน์พวกนี้ ยังมีสิ่งมีชีวิตบางชนิดที่ใช้ทำลายแนวปะการังด้วย
เมื่อก่อนแนวปะการังพวกนี้เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตค่อนข้างน้อย ฉินสือโอวก็ไม่ได้สนใจ แต่คอยตามขยายพันธุ์แนวปะการัง บวกกับบางครั้งเขาไม่ว่างดูแลก็ส่งพลังแห่งโพไซดอนเข้าไปแทนจึงมีสิ่งมีชีวิตพวกนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
เม่นทะเล หอยหิน หอยกาบ หอยแมลงภู่ หอยแครงและอื่นๆ หอยพวกนี้รวมตัวกันอยู่รอบๆ แนวปะการัง
เม่นทะเลจะมีความสามารถในการขยายหนามเพื่อเจาะแนวปะการัง บางครั้งยังปล่อยฟองน้ำลอยออกมาจากเปลือกซึ่งสามารถใช้วิธีนี้ในการทำลายแนวปะการังได้ ส่วนหอยหิน หอยกาบ หอยแมลงภู่ หอยแครงสามารถหลั่งกรดออกมากัดกร่อนแนวปะการังได้เพราะสถานที่ที่พวกมันจะอยู่รอดได้คือหลุมบนแนวปะการัง
ฉินสือโอวคิดถึงเรื่องนี้แล้วรู้สึกกลัว? การเพิ่มขึ้นของแนวปะการังไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ถ้าถูกพวกมันทำลายแล้ว
อย่างไรก็ตามโชคดีที่เขามีวิธีจัดการ เขาจะดึงฝูงนักฆ่าอย่างกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีกลับมา อย่างไรก็ตามฟาร์มปลาแกธเธอริงก็ได้มาแล้ว พวกมันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ที่นั่นอีก
เมื่อเห็นกั้งตั๊กแตนเจ็ดสีสีสันงดงามมาถึงแนวปะการัง เปลือกหอยผีเสื้อสีดำพวกนั้นยืดแขนและขาออกมาล้อมตัวเอาไว้ด้วยความเร็วสูง ปิดเปลือกด้านนอกทันทีเพื่อซ่อนตัวจากยมทูตที่น่ากลัวพวกนี้
ทว่าพวกกั้งตั๊กแตนไม่ได้มองพวกมัน แต่มองหาหอยหิน หอยกาบ หอยแมลงภู่ หอยแครงและอื่นๆและยกค้อนเล็กๆ ขึ้นเพื่อเริ่มปะทะกับสิ่งที่อยู่ภายในรูจนเกิดเสียงแตก
หอยหิน หอยกาบ หอยแมลงภู่และหอยแครงล้วนจัดเป็นสัตว์น้ำจำพวกมีเปลือกทั้งหมด ปกติสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในมหาสมุทรจะไม่สามารถจัดการกับพวกมันได้ แต่กั้งตั๊กแตนเจ็ดสีถือเป็นหายนะของพวกมันอย่างเห็นได้ชัด เมื่อพวกมันมาก็จัดการทุกอย่างได้อย่างราบรื่น
ฉินสือโอวไม่คิดจะฆ่าหอยพวกนี้ทั้งหมด เพราะพวกมันก็จัดเป็นอาหารทะเลที่อร่อยอย่างหนึ่ง หลังจากที่ให้กั้งตั๊กแตนเจ็ดสีไล่พวกมันทั้งหมดไปที่ชายฝั่งและหยุดเดินฆ่าสังหารหมู่แล้ว เขาก็เตรียมหาเวลาพาพวกเด็กๆ มาขุดหอยกิน
เรือหาปลากำลังเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วบนมหาสมุทร ฉินสือโอวมองไปยังจุดที่ห่างไกลเห็นกระแสน้ำพุ่งขึ้นมาก็รีบลงเรือและขับไป คาดว่ามีปลาวาฬฝูงหนึ่งมาปรากฏตัวอยู่ที่ฟาร์มปลา
บนท้องฟ้าจุดที่ฝูงปลาวาฬปรากฏอยู่ พวกนกจมูกหลอดหางสั้นโผบินอยู่รอบๆ ปลาขนาดเล็กสีขาวเงินยาว 10 กว่าเซนติเมตรกระโดดขึ้นมาเหนือผิวน้ำอย่างต่อเนื่อง ฉินสือโอวคิดว่านกจมูกหลอดหางสั้นพวกนี้ก็ถูกปลาขนาดเล็กพวกนี้ดึงดูดมา ผลคือไม่ใช่อย่างที่เห็น
ปลาวาฬฝูงนี้ตัวค่อนข้างใหญ่มาก ปลาวาฬหลังค่อมทั้งหมด 10 กว่าตัวจัดเป็นกลุ่มนิเวศวิทยา รอบๆ ฝูงปลาวาฬมีปลาฝูงใหญ่ฝูงหนึ่งโฉบไปโฉบมาอยู่!
ปลาพวกนี้มีความยาวกว่า 1 เมตร และตัวเล็กจะมีขนาดเพียง 11 ถึง 12 เซนติเมตร โดยส่วนใหญ่จะมีขนาดประมาณครึ่งเมตร ร่างกายของพวกมันมีรูปร่างเป็นแกนหมุนที่ดูแล้วค่อนข้างหนาและแข็ง ผิวของปลาพวกนี้จะเรียบไม่มีเกล็ด ครีบหางปลาพัฒนาไปมากและว่ายน้ำได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้หน้าท้องด้านข้างของปลาพวกนี้จะมีแถบยาวสีดำเป็นริ้วอยู่หลายแถบ ครีบหางเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว ด้านหลังมีสีน้ำตาลอมน้ำเงิน หน้าท้องมีสีขาวเงิน ดูแล้วมีความสวยงามไปอีกแบบหนึ่ง
ไกลสุดลูกหูลูกตา ฝูงปลาวาฬที่ล้อมรอบไปด้วยปลาทะเลชนิดนี้ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากนับหมื่นตัวกำลังว่ายตรงมาที่ฟาร์มปลามากผิดปกติ
ฉินสือโอวรู้ตัวตนของปลาชนิดนี้แล้ว ฟาร์มปลาของเขาก็มีแค่นิดหน่อย นั่นก็คือปลาโอแถบซึ่งในวงศ์ปลาทูน่าครีบน้ำเงิน
ปลาโอก็จัดเป็นปลาทูน่าชนิดหนึ่ง แต่ก็มีมูลค่าน้อยที่สุดในบรรดาปลาทูน่า ตอนที่ถูกชาวประมงจับครั้งนั้นก็จับมาได้หลายตัว ก่อนหน้านี้ฟาร์มปลาของฉินสือโอวมีไม่เยอะ แต่ตอนนี้การปรากฏตัวของฝูงปลาฝูงนี้ก็ถือว่ามาเติมเต็มพื้นที่ว่างในฟาร์มปลาของเขาแล้ว
ปลาโอแถบเป็นปลาชนิดหนึ่งที่ค่อนข้างแปลก พวกมันจะว่ายรวมกันเป็นกลุ่มตามหลังฝูงปลาวาฬ ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน
อย่าดูแค่ขนาดที่ใหญ่โตของปลาวาฬ ความจริงพวกมันไม่ชอบกินปลาที่มีขนาดใหญ่ เพราะพวกมันคิดมากกว่ากินหรือไม่กิน ถ้ากินพวกปลาตัวใหญ่มันจะติดอยู่ในปาก
หน้าที่ของฝูงปลาโอแถบก็คือช่วยฝูงปลาวาฬกินพวกปลาตัวใหญ่ที่เจอ ปลาวาฬจะดูดปลาตัวเล็กเข้าไปกิน บางครั้งก็กินปลาโอแถบที่ฟักออกมาใหม่ แต่เป็นเพราะความเข้าใจผิดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในเวลาเดียวกันปลาวาฬก็จะปกป้องปลาโอแถบ ส่วนใหญ่ผู้ล่าจะเห็นร่างของปลาวาฬที่ตัวใหญ่ก่อนซึ่งจะทำให้รู้สึกกลัว
ปลาทูน่าตัวอื่นๆ ก็เหมือนกัน ปลาโอแถบชอบกินปลาซาร์ดีนและปลาชนิดอื่นๆ ที่ยังเป็นเด็ก ปลาหมึก มอลลัสก์ สัตว์น้ำที่มีเปลือกแข็งขนาดเล็ก และที่พวกมันชอบที่สุดก็คือปลากะตักซึ่งเป็นปลาตัวเล็กสีเงินที่กระโดดอยู่บนผิวน้ำตลอด
ระหว่างที่ไล่ตามฝูงปลากะตัก ฝูงปลาโอแถบและพวกวาฬหลังค่อมก็มาถึงฟาร์มปลาของฉินสือโอว และหลังจากที่พวกมันมาถึง ถ้าคิดที่จะออกไปก็ยากแล้ว…
………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset