ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 561 เก็บเมเปิลไซรัป

ฝูงปลาโอฝูงใหญ่ว่ายเข้ามาในฟาร์มปลา ฉินสือโอวดึงดูดฝูงปลาแฮร์ริ่งมาเพื่อล่อปลาโอฝูงนี้
ปลาวาฬหลังค่อมพักอยู่ครู่หนึ่ง ฉินสือโอวปล่อยพลังแห่งโพไซดอนให้แก่พวกมัน เพียงแค่นี้ฝูงปลาโอที่ไม่แยกจากพวกปลาวาฬก็จะไม่จากไป รวมกับปลาซาร์ดีนแสนอร่อย ปลาโอพวกนี้ก็เหมือนกับแกะที่เข้าปากเสือแล้ว
ฉินสือโอวยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือเพื่อมองไปยังปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ของฝูงปลานับหมื่นที่อยู่ห่างไกลด้วยความที่มุ่งมั่น ฝูงปลาโอกำลังไล่ล่าปลากะตัก ฝูงปลาซาร์ดีนก็มาปรากฏตัวอีก ดังนั้นพวกมันจึงรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในทันที
เป้าหมายแรกที่พวกปลาโอเลือกก็คือปลากะตักดำซึ่งเป็นอาหารที่พวกมันชอบมากที่สุด  หลังจากที่ปลาโอพบร่องรอยของมันก็จะเข้าไปโจมตีจากทุกทิศทาง ดังนั้นปลากะตักดำก็จะหนีไปไหนไม่ได้ทำได้เพียงกระโดดขึ้นไปเหนือผิวน้ำ
นกกับหอยทะเลาะกัน แต่คนตกปลาได้รับประโยชน์ ปลาโอบีบบังคับให้ปลากะตักกระโดดขึ้นไป นกจมูกหลอดหางสั้นที่บินอยู่เหนือผิวน้ำพุ่งลงมาทันทีและจับปลาพวกนั้นได้อย่างแม่นยำ ต้องรู้ว่าปลากะตักยาวแค่ฝ่ามือซึ่งเหมาะสมแล้วที่จะเป็นอาหารของพวกมัน
ดังนั้นปลากะตักจึงกระโดดออกจากมหาสมุทรอย่างต่อเนื่อง ปลาซาร์ดีนจึงกระจัดกระจายไปทั่วทุกที่ที่ถูกปลาโอไล่ล่า ทันใดนั้นบริเวณรอบน่านน้ำก็เกิดความยุ่งเหยิงขึ้น
สโนว์บอล ไอซ์สเกตและบีนถูกดึงดูดมา พวกมันไม่ได้สนใจปลากะตักตัวเล็กๆ เลย แต่ปลาโอตัวสั้นและอวบอ้วนถือเป็นอาหารของพวกมัน
ดังนั้นแค่เริ่มแรกก็น่าสนใจแล้ว ฝูงปลาทั้งตัวเล็กและใหญ่ฝูงหนึ่งเริ่มสงครามอันแสนวุ่นวายขึ้นจนที่ฟาร์มปลาเต็มไปด้วยเสียงโหวกเหวกอย่างหาที่เปรียบมิได้
ฉินสือโอวไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ เพราะมองดูแล้วฟาร์มปลาไม่ได้มีปัญหา เขาก็ขับเรือกลับไป
พื้นที่ของฟาร์มปลาใหญ่ขึ้นก็ไม่ดีเท่าไร เพราะออกทะเลเพื่อมาเที่ยวรอบหนึ่งฉินสือโอวต้องใช้เวลาถึงครึ่งวัน เขาออกไปตั้งแต่ตอนเช้าตรู่ แต่กว่าเรือหาปลาจะเข้าเทียบท่าเรือก็ตอนเที่ยงวันแล้ว
หลังจากขึ้นฝั่งเขาก็เห็นวินนี่พาพวกพาเด็กๆ มาวุ่นอยู่กับต้นเมเปิล 2 ต้นแถวหน้าประตู ภายในมือถือขวดและกระป๋องใบเล็กๆ และใช้ช้อนตักอะไรบางอย่างอย่างตั้งใจ
ใบหน้าของฉงต้าแสดงถึงความตะกละอยู่ด้านหลังของวินนี่ ลิ้นใหญ่เลียริมฝีปากอย่างต่อเนื่อง หางเล็กๆ ที่อยู่ตรงก้นแกว่งอย่างรวดเร็วเรียกได้ว่ากำลังร่าเริง
วินนี่หันกลับไปใช้ช้อนป้ายบางสิ่งบนปากของฉงต้าเป็นครั้งคราว ทุกครั้งเวลาทำแบบนี้ฉงต้าก็จะนั่งลงและเลียริมฝีปากอย่างพึงพอใจ
ฉินสือโอวมองภาพนี้แล้วก็รู้ทันทีว่าวินนี่กำลังทำอะไรอยู่ เธอพาพวกเด็กๆ มาเก็บเมเปิลไซรัปนั่นเอง
ฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงเวลาที่ดีในการเก็บเมเปิลไซรัป ปีที่แล้วฉินสือโอวเก็บไปได้ 2 ถังใหญ่ ผลคือกินได้แค่ไม่กี่เดือน หลังจากนั้นเขาก็เข้าเมืองไปซื้อที่ซูเปอร์มาร์เก็ต
เมื่อเชอร์ลี่ย์เห็นฉินสือโอวก็ยิ้มอย่างสดใสยกมือที่ถือขวดแก้วใบเล็กขึ้น ด้านในเต็มไปด้วยน้ำเชื่อมสีเหลืองอำพันบริสุทธิ์จากธรรมชาติไม่มีสารปนเปื้อนใดๆ ขวดนั้นโยกเยกไปมาเล็กน้อยแต่ไซรัปนั้นแทบจะไม่ขยับ เพราะมันเหนียวมาก
“พวกนายเก็บได้เท่าไรแล้ว? พอสำหรับพวกเรากินได้สักปีไหม?” ฉินสือโอวยิ้มถาม
เชอร์ลี่ย์ส่ายหัวอย่างเศร้าๆ “เดือนหนึ่งจะพอไหมเถอะค่ะ ลุงดูฉงต้าสิ มันตะกละขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่พวกเราคอยดูมันไว้ วันนี้มันก็คงกินน้ำเชื่อมทั้งหมดแล้ว”
ฉงต้าได้ยินที่เชอร์ลี่ย์เรียกชื่อของมันจึงคิดว่ายังมีไซรัปให้มันกิน มันแกว่งหางอย่างรวดเร็วพร้อมกับวิ่งไปหาอย่างว่องไวและเงยหน้าขึ้นมองเชอร์ลี่ย์อย่างคาดหวังก่อนจะส่งเสียงร้องครวญครางออกมาเบาๆ
หู่จือเป้าจือวิ่งไปด้านข้างของวินนี่ พวกมันตะกุยที่ลำต้นของต้นไม้ซึ่งมีคนยืนอยู่และมองขวดน้ำเชื่อมอย่างใจจดใจจ่อ
วินนี่ใช้ช้อนเล็กๆ หยดลงบนลิ้นให้พวกมันนิดหน่อย สัตว์เลี้ยงทั้ง 2 ตัวเลียริมฝีปากอย่างมีความสุขในทันที
นี่เป็นเป็นกิจวัตรประจำของสุนัขเวลากินอะไรบางอย่าง ดังนั้นผลคือน้ำผึ้งถูกเลียจนเปื้อนไปทั่วทั้งปากและติดอยู่ที่หนวดอีกด้วย
เมเปิลทั้ง 2 ต้นก็เก็บน้ำหวานได้ไม่เท่าไร ปีที่แล้วฉินสือโอวคิดว่าแค่ตัวเองกินถ้วยหนึ่งก็พอแล้ว ปีนี้มีคนเยอะขนาดนี้แถมยังมีฉงต้าที่กินเก่งแบบนี้อีก เขาคิดว่าคงต้องขยายขอบเขตการเก็บน้ำเชื่อมแล้ว
ฉินสือโอวเดินไปอยู่ข้างๆ วินนี่เพื่อปรึกษา “เฮ้ ที่รัก พรุ่งนี้เราพาพวกเด็กๆ ไปบนเขาเก็บน้ำเชื่อมไหม ปีนี้พวกเรายังไม่เคยขึ้นไปบนเขาเลยนะ”
วินนี่จูบปากของเขาทีหนึ่งและยิ้ม “โอเคค่ะ ฉันไม่คัดค้าน”
ฉินสือโอวถือขวดกับช้อนไปตักน้ำเชื่อมตรงรอยแตกที่ลำต้นของต้นไม้มานิดหน่อย ชาร์คเดินมาจากที่ไกลๆ และยิ้ม “งั้นพวกเราอย่างเสียเวลาเลย เดียวผมไปหาหลอดมาหลายๆ อันและรีบมาดูดน้ำหวานกินกันเถอะ”
“ไม่!” วินนี่กับเชอร์ลี่ย์ตะโกนออกมาอย่างพร้อมเพรียง ตอนนี้พวกเธอกำลังตักน้ำเชื่อมที่ไหลออกมา และถ้าชาร์คไปเจาะรูที่ต้นไม้น้ำเชื่อมก็จะไหลออกมาและต้องมาทำให้น้ำเชื่อมสะอาดอีก
เวลาปกติสำหรับการแยกเมเปิลไซรัปคือเดือนมีนาคมและเดือนเมษายน เวลานี้อุณหภูมิตอนกลางคืนที่รัฐนิวฟันด์แลนด์จะต่ำกว่า 0 องศาและตอนกลางวันจะอยู่ที่ 7 ถึง 8 องศาซึ่งเหมาะมากสำหรับต้นเมเปิลที่จะเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลและละลายเป็นน้ำเลี้ยงอยู่ในต้น
หากน้ำเลี้ยงไม่ถูกสกัดในเดือนมีนาคมและเดือนเมษายน น้ำตาลในน้ำเลี้ยงจะถูกทำให้บริสุทธิ์และไหลออกมาอัตโนมัติ ตอนนี้วินนี่และคนอื่นๆ ก็กำลังทำงานเพื่อเก็บน้ำเชื่อมโดยตรง
ฉินสือโอวยักไหล่และเอนตัวไปที่ลำต้นของต้นไม้ก่อนจะเริ่มใช้ช้อนคันเล็กตักน้ำเชื่อม
ชาร์คยืนอยู่อีกด้านอย่างไม่มีอะไรทำก็ถามโดยไม่คิดอะไร “เฮ้ บอส คุณอยากจัดงานปาร์ตี้ไหม? ปกติตอนที่ชาวประมงออกจากฟาร์มปลาไปจับปลาก็จะจัดงานปาร์ตี้และอื่นๆ กัน”
คนแคนาดาเรียนรู้เรื่องนี้อย่างละเอียดมาจากคนอเมริกันที่เป็นเพื่อนบ้านซึ่งมีเรื่องอะไรนิดหน่อยก็จัดงานปาร์ตี้ทันที  คนร่ำรวยก็จะดื่มแชมเปญกินอาหารทะเล ส่วนคนที่ไม่มีเงินก็จะดื่มเหล้ากินแฮมเบอร์เกอร์ แต่แน่นอนว่าต้องจัดงานปาร์ตี้
ฉินสือโอวก็ชอบความครื้นเครงจึงพูดว่า “ไม่มีปัญหา แค่หาเวลาและไปจัดที่ฟาร์มปลาแกธเธอริง พอดีฉันได้มันมาแล้ว”
ชาร์คเริ่มวางแผนและเตรียมการ “ตอนนั้นพวกเราสามารถจัดการแข่งขันเช่น แข่งแก้กุญแจมือเป็นอย่างไร? ใครชนะก็ได้เป็นราชาของงานปาร์ตี้และยังมีราชินีคนงามของงานปาร์ตี้ด้วย เมื่อก่อนเป็นคุณครูเชอร์ริลกับคุณครูแฮร์รี่”
ดวงตาของวินนี่ลอยเล็กน้อย ฉินสือโอวจึงพูดด้วยความมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว “แมวไม่อยู่ หนูร่าเริง มีวินนี่อยู่ ราชินีคนงามจะตกไปเป็นของใครได้?”
ชาร์คบีบจมูกและฝืนยิ้ม “นี่ก็ ไม่พูดดีกว่า”
ฉินสือโอวจ้องมองเขาเป็นตาเดียว โง่จริงๆ เขาจะประจบหรือไม่ประจบก็แล้วแต่ แต่ตอนนี้ต้องประจบ!
พูดถึงเชอร์ริล ฉินสือโอวเข้าไปในเมืองไม่บ่อยนักและก็ไปโรงเรียนประถมแกรนท์น้อยมาก ดังนั้นจึงลืมไปแล้วว่ามอบหมายงานให้กับเหมาเหว่ยหลงพึ่งจะนึกขึ้นมาได้ จึงรีบพูดกับวินนี่ “คุณไปคุยเล่นกับคุณครูเชอร์ริลมาเป็นอย่างไรบ้าง?”
“คุยเล่นอะไรเหรอ?” วินนี่ยิ้มหวานในมือก็ใช้ช้อนเหล็กทุบขวดน้ำตาล ฉงต้าคิดว่านี่เป็นเสียงตะโกนเรียกให้มันไปกินก็ผายลมดีใจและรีบวิ่งไป ผลคือวินนี่ตบที่ก้นอันอวบอ้วนของมันหนึ่งที
ฉินสือโอวพูดถึงเรื่องที่เหมาเหว่ยหลงรักเชอร์ริลข้างเดียวนิดหน่อย วินนี่จึงพูดด้วยความอึดอัดใจ “พูดตรงๆ ฉันเข้าใจนิดหน่อยเกี่ยวกับคุณครูแฮร์รี่ แต่เรื่องนี้ยากมาก”
“มันเป็นเรื่องที่เกิดจากมนุษย์อย่างพวกเรา พวกเราก็ต้องช่วยไม่ใช่เหรอ? ใครใช้ให้เขาเป็นพี่น้องของฉันกันล่ะ”ฉินสือโอวพูด
วินนี่หยักหน้าและพาพวกเด็กๆ ไปตามหาจุดที่มีเปลือกไม้แตกและมีน้ำเชื่อมไหลออกมา ฉินสือโอวก็กลับไปที่ห้องครัวนำก้อนน้ำแข็งกับเกล็ดหิมะออกมาจากเครื่องทำน้ำแข็งก่อนจะเทน้ำเชื่อมลงไปด้านบนและรีบเอาไปแข็งก็จะกลายเป็นน้ำแข็งเมเปิลไซรัป
ความจริงน้ำเชื่อมพวกนี้ไม่สามารถกินได้ในทันทีต้องกลั่นให้บริสุทธิ์ก่อนถึงจะกินได้ แต่น้ำเชื่อมที่ไหลออกมาจากต้นเมเปิลพวกนี้ไม่ใช่น้ำเลี้ยง ความเข้มข้นและความหวานของน้ำเชื่อมเพียงพอแล้วเอาไปแช่แข็งนิดหน่อยก็สามารถกินได้
แน่นอนว่าวินนี่เป็นคนป้อนให้ฉงต้ากินซึ่งฉงต้าค่อนข้างคลั่งการกินน้ำเชื่อมมาก แต่หลังจากที่นำไปแช่แข็งเป็นก้อนน้ำเชื่อมแล้วก็สามารถถือในมือและเลียกินได้ วิธีนี้ก็จะทำให้กินได้ช้าลงแล้ว
หลังจากที่วินนี่กับพวกเด็กๆ ตักน้ำเชื่อมที่ไหลออกมาเสร็จแล้ว ชาร์คก็ไปเจาะรูที่ต้นไม้เพื่อเก็บน้ำเลี้ยงและเอาไปกลั่นให้บริสุทธิ์หลังจากนั้นก็จะกลายเป็นน้ำเชื่อม
………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset