ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 566 ทานเสร็จก็กลับ

ฉินสือโอวลงจากรถพร้อมกับพาวลิส ทันใดนั้นมีสาวฮอตสุดเซ็กซี่สวมต่างหูขนาดใหญ่คนหนึ่งชายตามองไปที่เขาด้วยความเสน่หา “โอ้โห สุดหล่อ คุณแสดงฝีมือของคุณให้ฉันเห็นได้ไหม?”
“หญิงโสเภณีอย่างเธอ อยากจะเห็นฝีมือด้านไหนของเขาดีล่ะ?” ชายหนุ่มที่มีรอยสักเต็มตัวคนหนึ่งตะโกนขึ้นตอนที่เขากำลังผ่านทางข้างๆ
สาวฮอตกลับไม่โกรธอะไร เธอเอื้อมมือไปลูบหน้าอกของฉินสือโอว แล้วใช้สายตายั่วยวนพูดขึ้น “แน่นอนว่าต้องเป็นฝีมือการขับรถของคุณสิ ส่วนอยู่ในรถทำอะไรได้บ้าง ก็แล้วแต่คุณเลย”
ฉินสือโอวถอยหลังกลับอย่างไว เขาโอบพาวลิสแล้วพูดว่า “ขอโทษนะ พอดีฉันแค่พาน้องชายของฉันมาเปิดหูเปิดตาเท่านั้น ฉันไม่สนใจแข่งรถหรอก”
เบลคจึงเดินเข้ามาแล้วแตะที่สะโพกของสาวฮอตคนนั้น เธอจึงกลับส่งสายตายั่วยวนไปที่เขาแทน แต่ถูกเขาผลักออก บิลลี่ลากฉินสือโอวออกมาแล้วพาเขาไปดูการแข่งขันที่กำลังจะเริ่มขึ้น
ฉินสือโอวมองไปที่บรรยากาศรอบๆ แล้วพูดขึ้น “แม้ว่ามันจะต่างจากในหนัง แต่พูดตามตรง พวกนี้นี่น่าทึ่งมาก! ทั้งการแข่งรถ สาวสวย แชมเปญ ฮ่าฮ่า หนุ่มสาวเหล่านี้เล่นสนุกกันจริงๆ ”
บิลลี่พูดด้วยน้ำเสียงที่เหยียดหยาม “ถ้าเทียบกับที่ไมอามีแล้ว นี่ก็เป็นแค่งานเล็กๆ นายดูรถคลาสสิคพวกนั้นสิ ยังวิ่งบนถนนได้? อีกอย่างอย่าไปมองสาวๆ สวยๆ ที่นี่ให้เสียเวลาเลย ล้วนมีแต่พวกผอมแห้งแรงน้อยทั้งนั้น พวกเธอมาที่นี่ก็เพื่อมาจับคนรวยเท่านั้นแหละ”
ใต้แสงไฟสปอตไลต์ที่เริ่มส่องขึ้นในเวลานี้ รถที่อยู่จุดเริ่มต้นในสนามก็ยังมีไม่เยอะ รถมิตซูบิชิที่ดูไม่ออกว่าแต่งมาสองคันออกตัวด้วยเสียงที่ดังมาก กลุ่มคนที่ถือเบียร์อยู่ฝั่งนั้นก็ส่งเสียงร้องตะโกนส่งเสียง ยิ่งทำให้บรรยากาศดุเดือดมากขึ้น!
ท่ามกลางกลุ่มคนเหล่านั้น มีดีเจสองคนสวมชุดหูฟังขนาดใหญ่กำลังสแครชแผ่นซีดีพร้อมกับโยกย้ายร่างกายอย่างพลิ้วไหว ชุดลำโพงไร้สายกระจายอยู่โดยรอบ ทำให้เสียงเพลงอึกทึกไปทั่วทุกที่
ฉินสือโอวและพาวลิสยืนอยู่ที่จุดเริ่มเส้นสีเขียวที่เกรย์เบลล์ รถที่จะแข่งต้องออกตัวจากจุดนี้ มีคนเห็นว่าฉินสือโอวลงจากรถพอร์ชจึงร้องตะโกนขึ้นใส่เขา “สุดหล่อ ไม่อยากลองลงแข่งสักรอบเหรอ? ฉันพนันเลยว่าคุณต้องชนะแน่!”
ฉินสือโอวมองไปรอบๆ มีคนกำลังถือธนบัตรอยู่ ดูก็รู้แล้วว่าคืนนี้ต้องมีการเล่นพนันแน่นอน ถ้าเป็นแบบนี้คงลำบากเข้าแล้ว เขาถามเบลคว่าตำรวจจะมาคุมไหม ตามที่เขารู้ ออนแทรีโอกับควิเบกไม่อนุญาตให้มีการเล่นพนัน
เบลคขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น “ตายละ พวกเขาเล่นบ้าอะไรกัน! โดยปกติแล้วเพื่อนที่รู้จักบางคนที่แข่งรถที่นี่ จะไม่มีบุคคลภายนอกมาเปิดบ่อนพนัน ถ้ามีการเล่นพนันจริงๆ ตำรวจไม่นั่งดูเฉยๆ แน่”
แม้ว่าเบลคจะพูดเช่นนั้น แต่ฉินสือโอวแค่กังวล เขาไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้มากนัก เพราะการที่จะหาโอกาสดูการแข่งรถติดขอบสนามแบบนี้ไม่ได้มีมาง่ายๆ อีกอย่างฉินสือโอวยังไม่อยากรีบกลับด้วย
แน่นอนว่าพาวลิสก็ยังไม่อยากกลับเช่นกัน เขากำลังจ้องมองรถยนต์หลากหลายประเภทอย่างตาเป็นมันอยู่
ด้านหลังมีรถขับเข้ามาอีก จำนวนรถในนั้นที่เข้ามาจะขาดรถสปอร์ตยอดนิยมอย่างรถพอร์ช ลัมโบร์กินี จากัวร์ ลาเฟอร์รารี่ไม่ได้เลย
ในขณะที่ฉินสือโอวและบิลลี่ปรึกษาพูดคุยกันเรื่องรถเหล่านี้ ก็มีดอร์จชาเลนเจอร์ขับเข้ามาแล้วลดหน้าต่างลงแล้วมีคนโผล่หัวออกมาตะโกนขึ้น “สเต็มเมอร์? เฮ้เพื่อน ทำไมนายมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?”
เมื่อเห็นชายคนนั้น บิลลี่ก็หัวเราะขึ้น ยกกำปั้นของเขาเข้าที่หน้าต่างรถ จากนั้นเขาก็ยิ้มแล้วพูด “เดิร์ก ไอ้น้องชาย นายไม่อยู่เล่นสนุกที่ไมอามีแล้วเหรอ แล้วขับรถมาถึงออตตาวาในที่ชนบทแบบนี้ นายมาทำอะไร?”
เดิร์กหัวเราะเสียงดังลั่นขึ้น “นี่นายไม่รู้เหรอ? วันนี้ทีมสัตว์ป่าของพวกฉันจะเข้าร่วมการแข่งขันกับทีมไอซ์แมนจากออตตาวา ได้ยินว่าบ่อนที่นี่เปิดใหญ่มาก นายจะไม่ไปเล่นหน่อยเหรอ?”
พอได้ยินเช่นนั้นบิลลี่ก็ยักไหล่ใส่ “ไม่ล่ะ นายก็รู้ว่าฉันไม่ชอบการพนัน ถ้าฉันสนใจการพนันเมื่อไร ฉันจะไปลาสเวกัสแล้วกัน”
เดิร์กหัวเราะดังลั่นขึ้นอีก “ใช่สิๆ นายไม่ชอบการพนัน แต่นายชอบผู้หญิงต่างหาก วันนี้พวกฉันพาสาวเม็กซิกันมาด้วย สวยเด็ดเผ็ดมากเลยล่ะ! ยังไง จะมาสนุกด้วยกันหน่อยไหม?”
บิลลี่โบกมือแล้วยิ้มอย่างขมขื่น “ลืมมันไปเถอะ ฉันออกจากวงการนี้แล้ว ตอนนี้ฉันแค่ต้องการหาผู้หญิงน่ารักๆ สักคนมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข”
คนที่อยู่ในรถคิดว่าเขาพูดเล่น จึงหัวเราะเยาะใส่แล้วขับรถออกไป ท่อไอเสียสี่ท่อขนาดใหญ่ของดอร์จชาเลนเจอร์พ่นควันดำออกมาพร้อมกับเสียงแล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอย
เมื่อการพนันเริ่มขึ้นก็ทำให้ความสำคัญของกิจกรรมการแข่งรถในคืนนี้เริ่มลดลง รถสปอร์ตโหดๆ แต่ละคันเริ่มส่งเสียงขึ้นในขณะที่กำลังแล่นลงถนน ทันทีหลังจากนั้นเสียงก็เงียบหายไป
ฉินสือโอวเริ่มกังวลว่าจะถูกตำรวจคุมตัว สรุปคือในขณะที่การแข่งขันเริ่มขึ้น การพนันใต้โต๊ะก็เริ่มขึ้นทันที หลังจากตำรวจจราจรในพื้นที่ออตตาวามาถึงก็ช่วยรักษาความสงบเรียบร้อยและไม่ได้ก้าวก่ายการแข่งขัน
แบบนี้ก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว ฉินสือโอวจึงซื้อเครื่องดื่มราคาแพงมามากมาย เช่น โคล่าและเกเตอเรดมา แล้วทั้งสี่คนทั้งดื่มทั้งพูดคุยเรื่องแข่งรถด้วยกัน
อย่างที่บิลลี่พูด ในระหว่างนั้นมีหญิงโสเภณีเข้าหาพวกเขาไม่หยุด แต่ฉินสือโอวผลักพวกเธอออกโดยอัตโนมัติ เบลคจึงลากพวกเธอมาให้บิลลี่แทน ผลคือบิลลี่ก็ไม่ลังเลที่จะผลักออกไปเช่นเดียวกัน
“นี่เพื่อน นายไม่ได้ทำผิดใช่ไหม?” เบลคมองไปที่บิลลี่อย่างตกตะลึง
บิลลี่ยิ้มพร้อมกับดื่มเครื่องดื่ม “ฉันเปลี่ยนไปแล้วนะ ฉันไม่สนใจอะไรกับชีวิตที่ยุ่งเหยิงแบบนี้แล้ว เรียนรู้จากฉินไม่ดีกว่าเหรอ? ดูเขากับวินนี่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้วนายไม่อิจฉาบ้างเหรอไง?”
เบลคบ่นพึมพำว่าฉันไม่อิจฉาหรอก จะหาผู้หญิงที่ถูกใจสักคนก็แค่ลากขึ้นรถแล้วไปเลยง่ายกว่า ฉินสือโอวจึงแอบด่าเบาๆ ผู้หญิงดีๆ ที่ไหนจะมาดูแข่งขันแบบนี้ พวกเธอมาที่นี่ก็เพื่อมาอ่อยเท่านั้นแหละ”
ท่ามกลางเสียงดนตรีที่ดังอึกทึก การแข่งขันก็สิ้นสุดลง ฉินสือโอวดูเวลาและเห็นว่าดึกมากแล้วจึงพาพาวลิสกลับ
ทำให้เมื่อรถกำลังแล่นขึ้นบนทางหลวงในเมืองอยู่นั้นก็พบเข้ากับจุดตรวจของกลุ่มตำรวจจราจรเพื่อตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์เท่านั้นไม่ได้มีการตรวจอย่างอื่น
ยังดีที่ฉินสือโอไม่ได้ดื่มมา เขาดื่มเพียงเครื่องดื่มธรรมดาที่ไม่ใช่เบียร์หรือแชมเปญ เมื่อเขาเป่าแอลกอฮอล์เสร็จก็แล้วไป
มีรถยนต์หลายคันจอดอยู่ทั้งสองข้างทางถนน มีวัยรุ่นหนุ่มสาวนั่งอยู่บนถนนด้วยใบหน้าขมขื่น พวกเขาถูกตำรวจจราจรออตตาวากักตัวไว้
เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้แล้ว ฉินสือโอวก็อดไม่ได้ที่จะหลุดหัวเราะออกมา ดูเหมือนว่าตำรวจออตตาวาไม่ใช่ไม่สนใจเรื่องการแข่งรถ แต่แค่ไม่ได้จู่โจมโดยตรง แต่กลับแทงข้างหลังแทน เล่นไม้นี้เลยเจ็บแสบมาก
การประมูลก็เข้าร่วมแล้ว แข่งรถก็เคยดูแล้ว ฉินสือโอวจึงไม่เสียดายเลยที่จะต้องเตรียมตัวกลับเมืองแฟร์เวล
ฉินสือโอวซื้อหนังสือพิมพ์มาหนึ่งฉบับตอนรับประทานอาหารเช้า เขาก็ตกใจทันทีที่เห็นพาดหัวของหนังสือพิมพ์ “101 ล้าน! รอทโกทุ่มเงินจำนวน 101 ล้านซื้อผลงานศิลปะชิ้นนี้!”
ใต้ตัวหนังสือที่พาดหัวข่าวเป็นภาพๆ หนึ่ง เป็นภาพจิตรกรรมที่ฉินสือโอวเห็นในงานจัดแสดงนิทรรศการเมื่อวานนี้ ไม่แปลกใจเลยที่ภาพนี้จะถูกประมูลราคาสูงถึง 101 ล้าน…
ฉินสือโอวยากที่จะเชื่อจึงรีบไปอ่านรายงาน หนังสือพิมพ์บอกว่าภาพเขียนสีน้ำมันนี้มีชื่อว่า “Orange, Red, Yellow” เป็นผลงานชิ้นเอกของศิลปินนักวาดภาพนามธรรมมาร์ก รอทโก ภายหลังมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความลึกลับ ความกระชับ ความกระตือรือร้นที่เต็มไปด้วยแรงปลุกปั่นของผลงานสีพระอาทิตย์ขึ้นนี้ กล่าวกันว่าจิตรกรปลุกเร้าอารมณ์ต่างๆ ที่ปกปิดอยู่ในใจของผู้คนและการแสวงหาความลึกลับและความเป็นนิรันดร์ผ่านภาพนี้
ด้านข้างของภาพ “Orange, Red, Yellow” ยังมีอีกภาพวาดอีกหนึ่ง “White Center (Yellow, Pink and Lavender on Rose)” ซึ่งเป็นภาพที่มีจุดสีแดงสีเหลืองและสีม่วงบนกระดาษวาดสีขาว ภาพวาดนี้เป็นเจ้าของสถิติการประมูลงานศิลปะสมัยใหม่ครั้งก่อน
ภาพนี้วาดโดยฟรานซิส เบคอน ฉินสือโอวมองดูราคา จากนั้นเขาก็โยนหนังสือพิมพ์ทิ้งอย่างตกใจ พอทานอาหารเสร็จก็รีบกลับ! ภาพนี้มีมูลค่าถึง 86,300,000 ดอลลาร์เลยเหรอ?!
……………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset