ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 583 วันที่ไม่ต้องออกทะเล

ปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลงไม่ได้มีผลกระทบเพียงวันเดียว พื้นที่ทะเลของนิวฟันด์แลนด์ได้รับผลกระทบต่อเนื่อง หลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาทางทะเลของเมืองเซนต์จอห์นออกประกาศเตือนเรื่องระดับคลื่นน้ำทะเลเป็นพิเศษ บอกให้พวกชาวประมงอย่าออกทะเลในช่วงนี้เป็นดีที่สุด
แบบนี้ฉินสือโอวและพวกชาวประมงก็ใช้ชีวิตได้อย่างผ่อนคลาย ไม่เหมาะแก่การออกหาปลาก็ไม่มีใครมาขโมยปลาในฟาร์ม อย่างนั้นพวกเขาก็ได้มีเวลาว่าง
ชาร์คติดต่อบิลเพื่อคุยเรื่องปัญหาการเลี้ยงหอย หลักๆ คือเรื่อง ‘ไข่ไก่แห่งท้องทะเล หอยแมลงภู่ที่กินได้’ ‘นมวัวแห่งมหาสมุทร หอยนางรม’ ‘ความอร่อยที่หนึ่งใต้หล้า หอยตลับ’
หอยทั้งสามชนิดค่อนข้างได้รับความนิยมไม่เพียงแต่รสชาติดีแต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูงประกอบด้วยโปรตีน ไอโอดีน แร่ธาตุและวิตามิน
ยังมีองุ่นอีกนิดหน่อยที่ยังไม่ได้ปลูกแลนซ์กับซีมอนส์เตอร์ไม่ได้ออกทะเลเลยพาพวกชาวประมงไปปลูกองุ่นที่เหลือและสูบน้ำด้วย ฉินสือโอวถือโอกาสเติมจิตสำนึกแห่งโพไซดอนไปในองุ่นพวกนี้
เถาองุ่นที่เคยเหี่ยวเฉาเพราะการปลูกพอได้รับจิตสำนึกแห่งโพไซดอนเข้าไปก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาอย่างรวดเร็วสีสันที่ซีดจางก็กลางเป็นเขียวขจี
พวกชาวประมงไม่เข้าใจยังนึกว่าเป็นเพราะกล้าองุ่นที่เลือกมาแข็งแรงดีชื่นชมกันต่างๆ นาๆ ฉินสือโอวที่มองอยู่ส่ายหัว
การสร้างสวนองุ่นนั้นยุ่งยากกว่าการปลูกแบบโรงเรือนมากต้นกล้าองุ่นปลูกขึ้นแล้วแต่ยังไม่เสร็จเรื่อง ฉินสือโอวจ้างคนเข้าไปติดตั้งพัดลมที่สูงสามสี่เมตรสิบห้าตัว
พัดลมพวกนี้ใช้ประโยชน์ตอนกลางคืนเอาไว้เป่าไล่หมอกและความชื่นที่เข้ามาในสวนป้องกันพวกมันควบแน่นบนองุ่นเพราะจะส่งผลต่อรสชาติขององุ่น
ฉินสือโอวแค่จ่ายเงินส่วนงานที่เหลือเขาไม่ต้องเข้าไปยุ่งเขาไปที่สถานีเรดาห์ดำเนินการสัญญาทั้งหมดของฟรังโกอย่างราบรื่นแล้วก็ขับรถพาพวกเหมาเหว่ยหลงทั้งสามคนเข้าเมืองไปซื้อของ
เหมาเหว่ยหลงบอกว่าไม่อย่างนั้นฉันจะมาเป็นชาวประมงกับแกที่นี่ ฉินสือโอวหัวเราะยกใหญ่ “แกล้มเลิกซะเถอะ ไม่ใช่ว่าคุณชายใหญ่ทนลำบากไม่ได้นะแต่สมองน้อยๆ ของแกจะรู้จักปลาได้กี่ชนิด? ลอบส์เตอร์ตัวผู้หรือตัวเมียดูอย่างไร? ความรู้ทั่วไปพวกนี้แกรู้ไหม? แกไม่รู้แกก้มาเป็นนกตัวหนึ่งเท่านั้น”
เหมาเหว่ยหลงอายจนโกรธบอกว่าตัวเองไม่เข้าใจก็ถามได้เรื่องพวกนี้ใช้เวลาไม่นานก็เรียนรู้เป็นแล้ว
ฉินสือโอวเบะปากพูด “อย่าดูถูกท้องทะเลนะ ฉันเรียนรู้มาปีหนึ่งแล้วยังรู้อะไรได้ไม่มากเลย แกว่าทำไมฉันต้องให้เงินเดือนพวกชาร์คซีมอนส์เตอร์และแลนซ์สูงขนาดนั้น? เพราะพวกเขาเป็นชาวประมงเก่าประสบการณ์เยอะนี่เป็นสิ่งจะเป็นในการออกทะเลและจับปลาไงล่ะ”
เหมาเหว่ยหลงถอนหายใจแล้วพูด “อย่างนั้นฉันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว?”
ฉินสือโอวปลอบเขา “อย่าพูดอย่างนี้ ก็มีประโยชน์อย่างเช่น แกดื่มเหล้าเป็นเพื่อนฉันได้ไง”
“ไปให้พ้น!” เหมาเหว่ยหลงโมโห
ฉินสือโอวหัวเราะ เหยียบคันเร่งรถก็ขับมาใกล้เมืองแล้ว ไปร้านสะดวกซื้อช่วยพวกเหมาเหว่ยหลงทั้งสามคนซื้อของ
ฉินสือโอวเข้าร้านสะดวกซื้อไปแล้วเห็นว่าฮิวจ์ไม่อยู่ มีเพียงภรรยายืนอยู่ที่เคาน์เตอร์จ่ายเงินเลยถามว่าเขาไปไหน
คุณนายฮิวจ์ยิ้มอ่อน “พวกเขาไปเก็บฟันม้าทางตะวันตกเฉียงเหนือ น้ำลงเมื่อเร็วๆ นี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในรอบไม่กี่สิบปีในการเก็บฟันม้า ตอนนี้นักท่องเที่ยวในเมืองเยอะความต้องการมาก เมื่อวานพวกเขาเก็บฟันม้าขายได้กว่าหนึ่งพันสามร้อยดอลลาร์”
ฟันม้าคือเพรียงตีนเต่าเพราะมีลักษณะคล้ายฟังของม้าคนในท้องถิ่นเลยเรียกมันว่าฟันม้า
เหมาเหว่ยหลงเคยกินไปตอนเขามาเมื่อครั้งที่แล้วเขาจดจำรูปร่างที่น่าเกลียดและรสชาติที่อร่อยจะทำให้ตะลึงนั่นได้ หัวเราะพลางพูด “ไม่ได้การล่ะฉันไปขุดสิ่งนั้นสักหน่อย บัตรเครดิตฉันวงเงินเต็มแล้วตอนนี้ขาดแคลนเงินอย่างมาก”
ฉินสือโอวเตือนเขา “อย่าพูดมั่ว ทำสิ่งนั้นน่ะอันตรายมาก อย่าเอาชีวิตของแกไปล้อเล่นกับเงินเพียงเล็กน้อย”
เหมาเหว่ยหลงพูด “แกไม่ได้ยินแม่ค้าพูดเหรอ ในเมืองมีคนมากมายที่ไปขุดเพรียง จะมีอันตรายเหรอ?”
ฉินสือโอวพูด “แกไปเปรียบกับพวกเขาได้เหรอ? อย่าคิดว่างานที่คนที่นี่ทำไม่เกี่ยวกับการประมง ที่จริงแล้วเป็นชาวประมงเก่าทั้งนั้นเด็กเจ็ดแปดขวบพวกนั้นว่ายน้ำเก่งกว่าแกอีก แกใจเย็นๆ หน่อยเถอะ”
เหมาเหว่ยหลงไม่ยอมถอดใจพูดโน้มน้าวเขา “ไปดูหน่อยถ้าซื้อมากินได้สักหน่อยก็ดีไม่ใช่เหรอ?”
เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา ฉินสือโอวจ่ายเงินเสร็จก็เหยียบคันเร่งขับไปที่โรงงานเคมีชุนเทียนเก่าสถานที่เหล่านี้เป็นของเขาแล้วหลังจากได้ฟาร์มปลาแกธเธอริงมา เขาก็เข้าออกได้ทั้งเกาะแฟร์เวล
โรงงานสามารถเคมีที่เคยรุ่งเรืองมีคนพลุกพล่านทั้งสองกลายเป็นร้างไม่ได้เปิดทำการมาหนึ่งปีโรงงานสารเคมีสูญเสียความนิยมอย่างรวดเร็ว หน้าประตูและในลานมีวัชพืชขึ้นเต็มไปหมดประตูใหญ่ที่โอ่อ่าถูกลมทะเลและไอน้ำทำให้เป็นสนิทเขรอะ
พวกหมาอัลเซเชียนตัวใหญ่องอาจที่แต่ก่อนอยู่ในลานหายไปแล้วที่หายไปด้วยอีกอย่างคือคนเฝ้าประตู ประตูที่มีในโรงงานตั้งแต่ด้านนอกถึงด้านในแขวนกุญแจไม่ได้แล้วบอกถึงความวังเวงด้านใน
เหมาเหว่ยหลงไม่เข้าใจความเป็นมาของโรงงานเคมี หลังจอดรถเขามองโรงงานเคมีชุนเทียนแล้วถาม “โรงงานนี้ไม่มีใครใช้เหรอ? ถ้าฉันเช่าแล้วเปิดขึ้นมานายคิดว่าเป็นไง?”
ฉินสือโอวหัวเราะใหญ่ “ไม่เป็นไงหรอก เชื่อฉันสิว่านายจะถูกคนในเมืองฉีกกิน!”
เขาเล่าเรื่องความขัดแย้งของชาวเมืองกับโรงงานเคมีให้เหมาเหว่ยหลงฟังพอฟังจบเหมาเหว่ยหลงก็ส่ายหัวอย่างครุ่นคิด “เปิดโรงงานเคมีไม่ได้แต่ทำธุรกิจอย่างอื่นได้ขอแค่รักษาไม่ให้มีมลพิษก็พอแล้ว ไม่ใช่เหรอ?”
“โรงงานที่ไหนไม่มีมลพิษล่ะ?” ฉินสือโอวพูดอย่างมีเหตุผล
เหมาเหว่ยหลงไม่อธิบายก่อนหน้านี้เขาทำงานที่สำนักงานอุตสาหกรรมก็ต้องเข้าใจธุรกิจด้านนี้มากกว่าเป็นธรรมดา
ลานจอดรถหน้าโรงงานมีรถจอดอยู่ไม่น้อยและยังมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวรอบๆ กันเป็นครอบครัว มักจะมีคนปีนขึ้นไปเก็บเพรียงตีนเต่าจากที่ลาดชันแล้วนักท่องเที่ยวก็จะขึ้นไปซื้อ
เพราะเป็นเพียงอาชีพเสริม พวกชาวประมงเลยไม่ค่อยสนใจเรื่องราคานัก ตัวที่ใหญ่หน่อยครึ่งกิโลกรัมหนึ่งร้อยดอลลาร์ ตัวเล็กก็หนึ่งห้าสิบดอลลาร์ต่อครึ่งกิโลกรัม ราคาต่ำกว่าตลาดข้างนอกหลายเท่าตัว มิน่าพวกนักท่องเที่ยวถึงต้องแย่งกันซื้อ
ฉินสือโอวเห็นพวกฮิวจ์นั่งสูบบุหรี่อยู่ใต้ต้นไม้ก็เดินเข้าไปถามสถานการณ์ฮิวจ์เปลือยท่อนบนหายใจหอบพูด “แม้จะไม่ต้องกังวลเรื่องคลื่นซัดแต่ไอ้พวกฟันม้าที่สมควรตายพวกนี้ยึดติดแน่นเหลือเกิน! พระเจ้า ข้อมือฉันจะขาดแล้ว!”
ฮิวจ์เห็นเหมาเหว่ยหลงก็ทักทายแล้วถามพวกเขาเคยเจอกันและยังเคยเล่นบาสเกตบอลด้วยกัน “พวกนายอยากมาเก็บฟันม้าเหรอ? ทางฉันมีอยู่นิดหน่อยแต่ไม่เยอะ พวกนายเอาไปกินก่อนเถอะ”
ฉินสือโอวถอดเสื้อกีฬาออกเผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่งดงามแล้วพูดพลางหัวเราะ “ไม่ต้องหรอกพวก เดี๋ยวพวกเราลงไปเก็บกันเองก็ได้”
แม้ว่าจะสามารถเก็บเพรียงตีนเต่าได้ทุกปีแต่เพราะคลื่นทะเล จำนวนเพรียงตีนเต่าที่เก็บได้แต่ละปีเลยไม่เยอะ ตุนสะสมไว้ไม่กี่สิบปี ด้านล่างของทางลาดชันมีเพรียงตีนเต่าอยู่ไม่น้อย เพรียงที่ชาวเมืองเก็บกันอยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัยด้านบน ยังมีอีกมากที่อาศัยอยู่ด้านล่าง
ฉินสือโอวยืมเชือกเส้นหนึ่งผูกไว้ที่เอวจากนั้นให้เหมาเหว่ยหลงปล่อยเชือกให้เขา เขาปีนผนังที่สูงชันลงไปช้าๆ แล้วควักมีดออกมาเริ่มแคะเพรียง
…………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset