ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 589 ธนาคารแห่งประเทศแคนาดา

เห็นฉินสือโอวก้มตัวโค้งเอวเล่นขี่สกีบอร์ดไฟฟ้าอย่างสง่างาม เหมาเหว่ยหลงจ้องมองอ้าปากค้างรอจนเขาขึ้นฝั่งแล้วก็ไม่อ้าปากไม่ได้ “โฮ่งๆๆๆ…”
“ไม่ได้ๆ ไม่เหมือนอะ” ฉินสือโอวส่ายหัว “แต่ไม่เป็นไร ฉันจะหาครูให้แกสองตัว”
เขาพูดพลางผิวปาก หู่จือและเป้าจือที่กำลังขุดหลุมอยู่ที่หาดได้ยินเสียงผิวปากก็ส่ายหัวกระดิกหางวิ่งกลับมาทันที
ฉินสือโอวลูบหัวของเจ้าตัวแสบทั้งสองแล้วเสียงหมาเห่าก็ดังขึ้นเกรียวกราว “โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง!“
เหมาเหว่ยหลงโกรธจนคันรากฟัน ทางด้านฉินสือโอวยังคงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “มาๆๆ ฟังเข้าใจแล้วหรือยังว่าเสียงหมาเห่าเป็นอย่างไร? ยังฟังไม่เข้าใจอย่างนั้นก็เรียนต่อไป ฉันบอกเคล็ดลับให้แกอย่างหนึ่ง แกต้องใช้ลมจากกะบังลมกลั้นไว้แล้วค่อยๆ ปล่อยจากอกขึ้นมาให้ลมหายใจไหลพุ่งไปที่คออย่างอิสระ…”
“ไสหัวไป!” เหมาเหว่ยหลงตะคอก
ฉินสือโอวทำเป็นพยักหน้าอย่างจริงจัง “ใช่แล้ว ต้องมีพลังและโทนเสียงแบบนี้แหละ มา เห่าให้ฉันฟังหน่อย”
เหมาเหว่ยหลงไล่ผลักเขาล้มลงบนหาดทราย หลิวซูเหยียนพาตั๋วตั่วที่ใส่ชุดว่ายน้ำเดินมา เห็นชายสองคนตีกันก็รีบปิดตาตั๋วตั่วไว้
ตั๋วตั่วสะบัดหัวน้อยๆ ด้วยความอยากดูหลิวซูเหยียนเลยตีที่ก้นเบาๆ “ไม่ควรดู เด็กดูแล้วจะเป็นตากุ้งยิง”
ฉินสือโอว “…”
สนุกพอแล้วฉินสือโอวก็เอาสกีบอร์ดไฟฟ้าให้เหมาเหว่ยหลง เปรียบเทียบกับเขาแล้วฝีมือการเล่นสกีน้ำของเหมาเหว่ยหลงดีมาก ไม่มีจิตสำนึกแห่งโพไซดอนก็สามารถเคลื่อนที่ไปมาระหว่างคลื่นในทะเลได้
พอคุ้นเคยกับสกีบอร์ดไฟฟ้าแล้วเหมาเหว่ยหลงก็อุ้มตั๋วตั่วขึ้นมาเล่นสกี เขาไม่ต้องออกแรงอย่างนี้การเล่นสกีน้ำก็ง่ายขึ้นเยอะเพียงแค่รักษาความสมดุลของร่างกายและควบคุมทิศทางของสกีบอร์ดไฟฟ้าก็พอ
ฉินสือโอวลากฉงต้ามาให้มันนอนคว่ำบนชายหาดแล้วตัวเองก็ไปนั่งอยู่บนตัวมันอย่างสบาย สบายมากเหมือนนอนอยู่ที่โซฟา
หลิวซูเหยียนเดินมาช้าๆ เธอย่อขานั่งลงอย่างสง่าแล้วพูดเสียงทุ้ม “เสี่ยวโอว ฉันมีเรื่องอยากให้คุณช่วยหน่อย”
“มีอะไรเหรอ?” ฉินสือโอวมองไปทางเธอ
หลิวซูเหยียนยิ้มอ่อน “คืออย่างนี้ ฉันเห็นว่าในเมืองมีรับสมัครครูสอนภาษาจีน มีพลเมืองที่เรียนภาษาจีนกลางอยู่ใช่ไหม? ถ้าได้ ฉันอยากลองสมัครงานนี้ หลายวันมานี้ฉันเรียนรู้ภาษาอังกฤษของแถบนี้รวมถึงตัวย่อและคำที่ใช้แทนกันได้ของนิวฟันด์แลนด์จากวินนี่ ฉันว่าฉันสามารถทำงานนี้ได้”
ฉินสือโอวพูด “งานนี้น่าเบื่อมาก เธออยู่ที่ฟาร์มปลารู้สึกเบื่อเหรอ? ที่จริงเธอไม่จำเป็นต้องทำงานหรอก เธออาจจะไม่เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับโคโกโร่ ขอเพียงฉันยังมีกินพวกเธอก็ไม่ต้องอด”
หลิวซูเหยียนพยักหน้าแล้วพูด “ฉันเข้าใจ ฉันเข้าใจแต่ฉันอยากลองงานนี้ดู” เธอพูดพลางยิ้มอย่างขมขื่น “ฉันรู้ ก่อนหน้านี้ฉันมีอดีตที่ไม่ดีมากมาย ตอนนี้คบกับเสี่ยวหลงฉันก็อยากเปลี่ยนแปลงเรื่องพวกนี้”
เห็นความตั้งใจจริงของหลิวซูเหยียนแล้ว ฉินสือโอวก็ไม่พูดอะไรมากบอกว่าจะถามแฮมเล็ตให้ ถึงตอนนั้นแล้วจะบอกเธออีกที
หลิวซูเหยียนยิ้มอย่างซาบซึ้งปรบมือพลางมองไปเหมาเหว่ยหลงที่อุ้มตั๋วตั่วฉวัดเฉวียนอยู่บนผิวน้ำในทะเล บนหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ
ค่ำวันนั้นฉินสือโอวโทรหาแฮมเล็ตสอบถามเรื่องที่ในเมืองรับสมัครครูสอนภาษาจีน แฮมเล็ตบอกว่าเพื่อให้สื่อสารกับนักท่องเที่ยวจีนได้ดีพวกเขาก็เลยจ้างครูคนจีนจากสถาบันการศึกษาเมืองเซนต์จอห์นมาสอนภาษาจีนตั้งแต่ปีที่แล้ว
ฉินสือโอวแนะนำหลิวซูเหยียนให้แฮมเล็ตอีกฝ่ายรีบบอกว่าไม่มีปัญหาเงินเดือนคือแปดร้อยห้าสิบดอลลาร์สอนที่ห้องเรียนห้าคาบต่ออาทิตย์วันละคาบสุดสัปดาห์และวันหยุดสามารถพักผ่อนได้
สรุปเรื่องนี้เสร็จฉินสือโอวก็ไปคุยกับเหมาเหว่ยหลง เหมาเหว่ยหลงตบที่ไหล่เขาอย่างเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่งแล้วพูด “คำพู ดที่ซาบซึ้งใจ…”
“คำพูดที่ซาบซึ้งใจแกเก็บไว้ในใจเถอะ ฮ่าๆ” ฉินสือโอวหัวเราะพลางลักเขาออกแล้วเดินขึ้นบันได จากนั้นนึกขึ้นได้ว่าอีกสองวันจะมีงานจัดแสดงสินค้าอุปกรณ์ดับเพลิงที่เมืองมอนทรีออลก็พูดเพิ่ม “ถ้าแกซาบซึ้งใจจริงๆ ก็ไปงานแสดงสินค้าที่เมืองมอนทรีออลเป็นเพื่อนฉันหน่อย ฉันอยากซื้ออะไรหน่อย”
เมืองมอนทรีออลเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของควิเบกมีฉายาว่า ‘เมืองแห่งความโรแมนติก’ เครื่องบินลำแรกของฉินสือโอวก็ซื้อที่นี่ เมืองนี้เป็นศูนย์กลางการเงินของแคนาดาตะวันออก แต่ในเมืองไม่พลุกพล่านวุ่นวาย กลับมีกลิ่นอายความสวยงามและหรูหราของความเป็นระเบียบเรียบร้อยและเจริญรุ่งเรืองมากกว่า
ที่แคนาดาเมืองมอนทรีออลเป็นตัวแทนของความสุขและความสวยงามของความทรงจำและความฝัน มันให้ความรู้สึกถึงความโอหังของอารยธรรมโลกใหม่และประวัติศาสตร์ยุโรปที่เก่าแก่ทำให้เมืองนี้มีเอกลักษณ์และเสน่ห์
แต่ฉินสือโอวจนปัญญาทุกครั้งที่มาที่มอนทรีออลเพราะภาษาถิ่นของที่นี่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษแต่เป็นฝรั่งเศสยากลำบากมาก เขาต้องหาคนไว้คอยสอบถามไม่อย่างนั้นก็จะฟังไม่เข้าใจว่าเขาพูดอะไรกัน
พื้นฐานเศรษฐกิจของเมืองมอนทรีออลมาจากธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิตเช่นธุรกิจสิ่งทอและผลิตเสื้อผ้าที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในอเมริกาเหนือ อีกอย่างการบินและอวกาศ การวิจัยผลิตยา ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจโปรแกรมของเมืองก็เจริญรุ่งเรืองมาก
ฉินสือโอวและเหมาเหว่ยหลงนั่งเฮลิคอปเตอร์จากเกาะแฟร์เวลไปเมืองมอนทรีออลตอนนี้การเดินทางทุกประเภทของเขาสะดวกสบาย ก่อนหน้านี้ที่ไม่มีเครื่องบินรู้สึกว่าเกาะแฟร์เวลห่างไกลจากแผ่นดินใหญ่จะทำอะไรก็ยุ่งยากพอมีเครื่องบินแล้วแป๊บเดียวก็แก้ปัญหาการจราจรได้
เมืองก็ย่อมเป็นมอนทรีออล สำนักงานใหญ่ของธนาคารมอนทรีออล สำหรับสมาชิกบัตรแบล็กอาเม็กซ์อย่างฉินสือโอว ธนาคารให้ความสำคัญมาก พอรู้ว่าเขาจะมาร่วมงานแสดงสินค้าอุปกรณ์ดับเพลิงก็ตั้งใจส่งคนมาต้อนรับเขา
ฉินสือโอวให้เบิร์ดเอาเฮลิคอปเตอร์ไปจอดที่สนามบินนานาชาติมอนทรีออล เพิ่งจะออกจากสนามบินก็มีสจ๊วตมาหาพวกเขาแล้วพาไปที่ห้องรับรองแขกระดับสูง
“ธนาคารมอนทรีออลส่งคนมาจริงๆ ด้วย ในประเทศเราไม่ต้องหวังเลย” เหมาเหว่ยหลงอุทาน
ฉินสือโอวคิดอยู่แล้วว่าต้องมีบริการนี้ ในหนึ่งปีตัวเองใช้จ่ายเงินเกินห้าสิบล้านดอลลาร์แคนาดา แค่ที่จ่ายภาษีก็ยี่สิบกว่าล้านแล้ว พวกเขาไม่ให้ความสำคัญกับตัวเองได้เหรอ?
ผลสุดท้ายก็มาถึงห้องรับรองแขกระดับสูงคนขาวสวมชุดสูททางการที่รออยู่ด้านในยิ้มพลางพูด “สวัสดีครับคุณฉิน ผมคือปีเตอร์ลาสผู้อำนวยการฝ่ายจัดเก็บข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศแคนาดา เป็นตัวแทนธนาคารของเราในการต้อนรับคุณมาที่เมืองมอนทรีออลที่สวยงาม”
ฉินสือโอวจับมือกับปีเตอร์ลาสตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง นี่มันอะไรกัน ไม่ใช่ธนาคารมอนทรีออลที่ส่งคนมารับตัวเอง? ทำไมกลายเป็นผู้อำนวยการฝ่ายของธนาคารแห่งประเทศแคนาดา?
ธนาคารแห่งประเทศแค่นาดาก่อตั้งเมื่อปี 1869 เป็นธนาคารที่มีทุนและทรัพย์สินมากที่สุดในแคนาดาและก็เป็นสถาบันบริการทางการเงินครบวงจรชั้นหนึ่งในอเมริกาเหนือ ปีที่แล้วอยู่อันดับที่ 282 จาก 500 อันดับในการจัดอันดับบริษัทที่ร่ำรวยที่สุดของโลก
เป็นอันดับต้นๆ ของธนาคารพาณิชย์และวาณิชธนกิจ[1]ที่แคนาดา ธนาคารแห่งประเทศแคนาดาเป็นเลิศในธุรกิจจัดจำหน่ายหลักทรัพย์และการควบรวมกิจการและเป็นแนวหน้าของโลกในธุรกิจคัสโตเดียน[2]
ในขณะเดียวกันที่นี่ก็ถือหุ้นบริษัทประกันภัยให้บริการประกันภัยชีวิต ความมั่นคง สุขภาพ การท่องเที่ยวและการประกันภัยต่อแก่ทั้งลูกค้าส่วนบุคคลและองค์กร ธนาคารแห่งนี้มีชื่อเสียงมากที่แคนาดาถูกยกให้เป็น ‘บริษัทที่ได้รับความเคารพมากที่สุดในแคนาดา’ ติดต่อกันสี่ปี
แต่ฉินสือโอวไม่มีความเกี่ยวข้องกับที่นี่ เขาใช้บริการที่ธนาคารมอนทรีออลตลอด
………………………………………
[1] วาณิชธนกิจ ธุรกรรมทางการเงินที่ให้บริการโดยธนาคารการลงทุน
[2] ธุรกิจคัสโตเดียน ธุรกิจรับฝากทรัพย์สิน

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset