ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 590 นี่คืออุปกรณ์ดับเพลิง?

ฉินสือโอวและปีเตอร์ลาสเพิ่งจะพูดคุยทักทายกันโทรศัพท์ของเขาก็ดัง ปลายสายมีเสียงแหลมใสดังขึ้นเป็นพนักงานผู้ช่วยที่โรงแรมมอนทรีออลส่งมากำลังตามหาเขาที่สนามบิน
วางสายเสร็จฉินสือโอวก็พูดกับปีเตอร์ลาสพลางยักไหล่อย่างจนใจ “ขอโทษนะครับ เพื่อนผมกำลังรอพวกเราอยู่ เกรงว่าผมคงต้องขอตัวก่อน”
ปีเตอร์ลาสส่งนามบัตรให้เขาพร้อมยิ้มอ่อนๆ “อย่างนั้นดูแล้วโอกาสที่ผมเลือกวันนี้คงไม่ค่อยถูกเท่าไร หวังว่าต่อไปจะมีโอกาสได้เยี่ยมเยียนคุณอีกนะครับ”
ฉินสือโอวแลกนามบัตรกับเขาตามมารยาทแบบนี้เป็นการตอบรับคำขอของอีกฝ่ายอย่างอ้อมๆ และนี่ก็บรรลุเป้าหมายของปีเตอร์ลาสแล้ว ถ้าจะบอกว่าเจอกันครั้งแรกก็สามารถดึงลูกค้ารายใหญ่อย่างฉินสือโอวมาฝ่ายตัวเองได้ก็ไม่สมจริง
เดินออกมาจากห้องรับรองเหมาเหว่ยหลงตบไหล่ฉินสือโอวพร้อมพูดอย่างปลื้มใจ “ไม่เบาเลยนะไอ้น้อง มีชาวต่างชาติสนใจแกเยอะขนาดนี้ แกไม่ทำให้ประเทศที่ชุบเลี้ยงแกมาและรัฐบาลที่เฝ้ารอแกผิดหวังจริงๆ”
ฉินสือโอวกำลังทะเลาะกับเขาสาวสวยผมทองร่างสูงที่สวมชุดทำงานเสื้อเชิ้ตสีขาวและกระโปรงทรงสอบดูสวยฉลาดและเซ็กซี่คนหนึ่งก็เดินมาอย่างสง่า นี่คือผู้ช่วยสาวที่ธนาคารมอนทรีออลจัดแจงมา
ดูแล้วธนาคารไม่ได้แค่ส่งคนมารับเขาไปที่โรงแรมแต่ช่วยหาคู่นอนที่โรงแรมให้เขาด้วย
น่าเสียดายที่ฉินสือโอวมีเพื่อนและลูกน้องมาด้วยเลยไม่สามารถก่อเรื่องอะไรกับสาวสวยคนนี้ได้
มอนทรีออลเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าที่สุดในอเมริกาเหนือถนนส่วนใหญ่ในเมืองตรงและแคบเรียงตามพิกัดผังเมือง
รถตู้ลอดผ่านถนนเซนต์ลอว์เรนซ์มาถึงเมืองเก่าเป็นจุดชมวิวหลักของเมืองมอนทรีออลมีสิ่งก่อสร้างที่เป็นสัญลักษณ์มากมาย
เมืองเก่าอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองถูกล้อมรอบถนนเรเดอวัสบูลวาลด์ที่โด่งดัง ทัศนียภาพงดงามมันคือเส้นแบ่งเขตไปทางเหนือจะเป็นสิ่งก่อสร้างโบราณแบบดั้งเดิมและแม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์ไปทางใต้จะเป็นเขตศูนย์กลางธุรกิจสมัยปัจจุบัน
สำนักงานใหญ่ของธนาคารมอนทรีออลก็อยู่ที่นี่ผู้ช่วยสาวชี้ให้ฉินสือโอวดูนั่นคืออาคารหลักรูปไม้กางเขนที่สวยงามอยู่ตรงข้ามจตุรัสแมรีที่เลื่องชื่อด้านข้างคือตึกระฟ้าไปทางใต้อีกหน่อยจะมีดาวน์ทาวน์ที่มีร้านค้าหาบเร่แผงลอยนับไม่ถ้วน
งานจัดแสดงเริ่มแล้วพวกฉินสือโอวไปพักผ่อนที่โรงแรมพักหนึ่งก็ตรงไปที่โอลิมปิกคอมเพล็กซ์ซึ่งเป็นที่จัดแสดง
สถานที่จัดแสดงก็อยู่ในเขตเมืองเก่ารถตู้ขับออกมาไม่ถึงห้านาทีก็ถึงแล้วสะดวกต่อการไปมาของฉินสือโอวมากแบบนี้พอดูจนเหนื่อยแล้วเขาก็สามารถกลับไปพักผ่อนแล้วค่อยกลับมาที่งานเมื่อต้องการบริการอย่างใส่ใจที่สุด
แต่ไหนแต่ไรแคนาดาเป็นประเทศที่ไม่ได้มีคนเยอะแม้ว่าจะมีงานจัดแสดงสินค้าก็ไม่ได้มีคนมาดูเยอะเท่าไร ตัวอย่างเช่นงานจัดแสดงสินค้าอุปกรณ์ดับเพลิงนานาชาติครั้งนี้มีห้าสิบประเทศและเขตปกครองมาจัดแสดงสินค้าของพวกเขาผลสุดท้ายนอกจากผู้ผลิตอุปกรณ์ดับเพลิงแต่ละประเทศแล้วคนที่มาดูมีไม่เยอะ
โอลิมปิกคอมเพล็กซ์ที่ใหญ่โตแบ่งเป็นไม่กี่สิบส่วนแยกเป็นการจัดแสดงสีกันไฟ ประตูกันไฟ อุปกรณ์ดับเพลิง ระบบกันไฟเป็นต้นทั้งหมดเป็นตัวแทนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับสูงสุดของโลกในปัจจุบัน
ฉินสือโอวเดินเที่ยวชมอยู่สักพักพนักงานนำชมที่นัดหมายไว้ก็พาไปที่เขตแสดงอุปกรณ์ดับเพลิงแบบโจมตี
เขตแสดงสินค้านี้อยู่ที่ชั้นสองเมื่อขึ้นมาจะเห็นรถถังที่ทรงอานุภาพสูงตระหง่านอยู่ตรงข้ามบันได ขนาดใหญ่โตมโหฬาร กระบอกปืนแข็งแกร่งทำให้ทุกคนที่ขึ้นมาต้องตกตะลึงกันยกใหญ่
“เช็ด!” ฉินสือโอวเห็นรถถังที่ตกแต่งด้วยสีเขียวก็ตกตะลึงนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นรถถัง มันช่าง… ยอดเยี่ยมเหลือเกิน!
ลำโพงห้องจัดแสดงชั้นสองกำลังเปิดเสียงที่ทรงพลัง “…ตามความเจริญก้าวหน้าของแต่ละประเทศบนโลกไม่ว่าจะประเทศไหนเมืองไหนก็มีประชากรหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ สิ่งก่อสร้างก็สูงขึ้นเรื่อยๆ”
“…แทบจะทุกครั้งที่เกิดไฟไหม้จะมีการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ถ้าดับไฟได้เร็วขึ้นก็เป็นการลดการบาดเจ็บล้มตายสูญเสียทรัพย์สิน นี่เป็นการสร้างความต้องการที่สูงขึ้นสำหรับเครื่องมือและอุปกรณ์ดับเพลิง และสิ่งที่เป็นตัวแทนความต้องการนี้ก็คืออุปกรณ์ดับเพลิงแบบโจมตี…”
เสียงดังชัดเจนประกอบกับฉากไฟลุกไหม้ที่กำลังฉายอยู่ที่จอบนผนังรอบๆ แบบนี้เรียกความฮือฮาได้อย่างดี ฉินสือโอวอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้แล้วก็รู้สึกว่าโอกาสเกิดเหตุร้ายในชีวิตนั้นมีมากมาย
ห้องจัดแสดงชั้นสองเป็นกำลังหลักของงานแม้ว่าของที่ชั้นหนึ่งจะมีความก้าวหน้าแต่ก็ไม่มีอะไรดึงดูดคนธรรมดาได้ ใครจะอยากสังเกตดูขวานดับเพลิงลิเธียมผสม? ใครจะอยากค้นคว้าเครื่องส่งสัญญาณเตือนควัน? ของบนชั้นสองพวกนี้ถึงจะมีแรงจูงใจต่อคนทั่วไปได้ นี่ไม่ใช่ห้องจัดแสดงอุปกรณ์ดับเพลิงแต่เป็นห้องจัดแสดงอาวุธ!
ใช่แล้วของที่ชั้นสองดูแล้วไม่เหมือนของใช้ดับเพลิงแต่เหมือนของที่ใช้รบมากกว่า ที่อยู่ตรงกลางคือรถดังดับเพลิงไม่กี่คันด้านหลังมีปืนครกดับเพลิงและยังมีรถบรรทุกแปดล้อที่บรรจุบาซูก้าดับไฟ
ถ้าของพวกนี้ไม่สามารถทำให้คนตะลึงได้อย่างนั้นรถมิสไซล์ดับเพลิงคงทำให้ผู้ชมตื่นเต้นได้?
ฉินสือโอวเดินดูผ่านๆ ไปก่อนรอบหนึ่งเขามองดูยี่ห้อของเครื่องมือดับเพลิงในงานก็ทำให้ตัวเองภูมิใจ อุปกรณ์ดับเพลิงแบบโจมตีส่วนมากล้วนติดสัญลักษณ์ธงแดงห้าดาว ถัดมาเป็นสินค้าของอเมริกาลุงแซมก็เปลี่ยนจากเทคโนโลยีทางทหารมาเป็นทางพลเรือนแล้ว ตอนนี้เฮลิคอปเตอร์ดับเพลิงเพียงรุ่นเดียวเป็นของพวกเขา
ตั้งแต่ต้นจนท้ายฉินสือโอวเริ่มดูจากมิสไซล์ดับเพลิงก่อน เจ้านี่มีประโยชน์ต่อฟาร์มปลาที่สุด
เพราะความเร็วเรือค่อนข้างช้าพื้นที่ของฟาร์มปลากว้างใหญ่ เมื่อพบว่ามีคนมาขโมยปลาแล้วขับเรือไปกว่าสี่ร้อยกิโลเมตรก็ตั้งเจ็ดแปดชั่วโมง
เจ็ดแปดชั่วโมงเลย ตอนนั้นพวกเรือประมงคงขโมยปลาเสร็จจนกลับบ้านไปกินข้าวแล้ว…
มีมิสไซล์ดับเพลิงก็ง่ายแล้วฉินสือโอวคิดภาพที่หรรษาที่สุดนั้นคือเฮลิคอปเตอร์ดับเพลิงออกตัวไปหนึ่งชั่วโมงก็เข้าใกล้เรือขโมยปลาแล้วยิงมิสไซล์ดับเพลิงจากนั้นใช้บาซูก้าดับเพลิงเก็บกวาดติดตั้งกระสุนปืนใหญ่ดับเพลิงได้ยิ่งดี กระบวนการแบบนี้เรือยักษ์หนักหมื่นตันก็ยังต้องยอมจำนน
มิสไซล์ดับเพลิงที่ใหญ่ที่สุดใหญ่เท่ากับมิสไซล์ที่ใช้บนเครื่องบินและภาคพื้นยาวสองเมตรกว่าเส้นผ่านศูนย์กลางสามสิบกว่าเซนติเมตรหัวกระสุนทั้งสี่ติดตั้งที่รถปล่อยกระสุนพุ่งทะยานไปอย่างองอาจฉินสือโอวดูแล้วเดือดพล่านอย่างไม่อาจต้านทาน
รถมิสไซล์ดับเพลิงรุ่นนี้ผลิตในประเทศจีนฉินสือโอวถามเหมาเหว่ยหลงด้วยความสงสัย “ทำไมประเทศเราวิจัยอุปกรณ์ดับเพลิงแบบโจมตีเยอะขนาดนี้? ฉันเห็นประเทศอื่นๆ มีไม่เยอะ”
เหมาเหว่ยหลงมักจะเห็นคนวงในอยู่บ่อยๆ รู้เรื่องนี้อยู่บ้างเขาพูดเบาๆ “อุปกรณ์ดับเพลิงแบบนี้ล้วนใช้อาวุธที่คัดออกแล้วมาทำ เปลี่ยนจากใช้ทางทหารเป็นทางพลเรือน นายก็รู้ช่วงยุคเก้าสิบประเทศเราทำของพวกนี้เยอะจะคัดทิ้งไปเลยก็สิ้นเปลืองใช้ผู้เชี่ยวชาญในการวิจัยไม่เยอะแค่ครึ่งเดียวของพวกอาวุธชั้นยอดออกมาเป็นของพวกนี้”
ฉินสือโอวรู้สึกว่าไม่ถูกพลางพูด “ไม่น่าใช่นะ ประเทศอื่นไม่มีอาวุธที่คัดออกเหรอ? รัสเซีย อเมริกา ประเทศทางยุโรปก็มีทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ?”
……………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset