ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 595 เต่ามะเฟืองที่ไว้ตัว

ฉินสือโอวเดินลงมาจากเรือวิจัย 2 จิตก็ไม่อยู่กับร่องกับรอยเหมือนมีภาพเป๋าฮื้อพันธุ์ Haliotis kamtschatkana พวกนั้นแวบมาที่ตาของเขาตลอด เจ้าพวกนั้นดูไปแล้วน่าเกลียดแต่ทำไมถึงดึงดูดตัวเองขนาดนี้?
ฉินสือโอวรู้สึกว่าไม่ควรคิดจากนั้นก็ใช้ความน่าเกลียดมาขยายความเจ้าเป๋าฮื้อพวกนี้เขารู้ว่าโอกาสมาถึงแล้ว ถ้าสามารถเอาออกมาจากเรือลำนั้นหอยเป๋าฮื้อพวกนี้…
แต่นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะเรือจอดอยู่ที่หน้าประตูบ้าเขา ถ้ามีของหายคนบนเรือก็ต้องมาหาเขา
เป๋าฮื้อพันธุ์ Haliotis kamtschatkana ในฝันอยู่ตรงหน้าตัวเองกลับเอามาไม่ได้ ความรู้สึกพวกนั้นช่างทรมานเหลือเกินฉินสือโอวทำได้แค่หาอะไรทำเอาเบ็ดตกปลาพาตั๋วตั่วไปตกปลา
ตอนนี้ตั๋วตั่วกับกระรอกดินกลายเป็นคู่ซี้กันไปแล้ววินนี่ซื้อกระเป๋าเล็กๆ ให้เธอเอาไว้ใส่เจ้ากระรอกดินฃ เวลาออกไปเล่น นอกจากตอนที่เข้าห้องแล้วเธอก็เอาติดตัวไปตลอด
ฉินสือโอวนั้งลงที่ท่าเรือแล้วหยอกตั๋วตั่วด้วยการเอากระรอกดินมาทำเหมือนจะแขวนเป็นเหยื่อปลาโยนลงไปในน้ำ ทีแรกตั๋วตั่วไม่เข้าใจหัวเราะพลางมองดูฉินสือโอวจับเจ้ากระรอกดินพอเข้าใจแล้วก็ตกใจมาก
ตั๋วตั่วยื่นมือมาจับชายเสื้อฉินสือโอวพลางส่ายหน้าดวงตาโตเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างรวดเร็วเหมือนกระต่ายหน้ากลม มือข้างหนึ่งขอเธอทำสัญญาณอย่างรวดเร็วและมองฉินสือโอวอย่างขอร้อง ปากเล็กๆ อาพะงาบๆ ไร้เสียงออกมาก้มหัวอย่างเศร้าโศก
ฉินสือโอวฉินสือโอวเห็นอย่างนี้ตัวเองก็ไม่สามารถหยอกโลลิน้อยต่อได้วางมือลงตรงหน้าเธอกระรอกดินนอนอยู่ด้านในอย่างเชื่อฟัง
ตั๋วตั่วเปลี่ยนจากร้องไห้เป็นหัวเราะเปิดกระเป๋าหนังแข็งให้มันกระโดดเข้าไปจากนั้นตบกระเป๋าอย่างวางใจ เห็นฉินสือโอวมองตัวเองก็ค่อยๆ เอากระเป๋าไปไว้ด้านหลังตัวเองอย่างระวังแล้วถึงนั่งดูเขาตกปลา
เหมาเหว่ยหลงถือเบ็ดตกปลามาพลางถามจากไกลๆ “ไอ้เวร แกรังแกอะไรตุ๊กตาน้อยของฉันหรือเปล่า?”
ฉินสือโอวกรอกตามองบนพลางพูด “ตุ๊กตาของแกอะไร นี่มันเจ้าสาวของลูกชายฉัน ไม่เกี่ยวอะไรกับแก”
เหมาเหว่ยหลงหัวเราะอย่างเหยียดหยาม “แต่แกไม่มีลูกนี่ ดังนั้นคำพูดของแกไม่มีประโยชน์อะไร!”
ตกเบ็ดไม่กี่ครั้งฉินสือโอวก็ได้ปลาเทราต์สายรุ้งสองตัวอย่างรวดเร็วเล็กตัวหนึ่งใหญ่ตัวหนึ่งตัวใหญ่ยาวสี่สิบเซนติเมตรตัวเล็กแค่เจ็ดเซนติเมตร
ฉินสือโอวโยนตัวเล็กกลับทะเลไปแล้วเอาตัวใหญ่ใส่กล่องที่ด้านหลังจากนั้นตกเบ็ดต่อไป
ตกปลาไปได้พักหนึ่งตอนที่ฉินสือโอวกำลังจดจ่อกับการคิดว่าจะเอาเป๋าฮื้อพันธุ์ Haliotis kamtschatkana มาได้อย่างไรตั๋วตั่วก็ใช้มือน้อยๆ ผลักเขาทำตาโตมองกล่องปลาที่อยู่ด้านหลัง
ฉินสือโอวหันมาในกล่องก็ไม่มีปลาเทราต์สายรุ้งแล้วฉงต้าที่กำลังนั่งเขมือบอยู่ตรงนั้นพอเห็นฉินสือโอวหันมาก็ใช้อุ้งเท้าอ้วนๆ ปิดปากยัดปลาเทราต์สีรุ้งตัวอ้วนลงคอไป
“ปลาเกือบสี่กิโลกรัมนายกินไปอย่างนี้เหรอ?” ฉินสือโอวเบิกตามองฉงต้าฉงต้าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ยักไหล่ให้เขาแล้วปีนป่ายไปทางเหมาเหว่ยหลง
ฉินสือโอวรู้สึกว่าฉงต้าทั้งน่ารักทั้งน่าชังเขามองไปทางตั๋วตั่ว ตั๋วตั่วก็ยักไหล่เลียนแบบ
ตอนบ่ายนักวิจัยเริ่มวิจัยเรื่องเต่ามะเฟือง บาลซักมาถามฉินสือโอว “เจ้าหนุ่ม คุณเจอเต่ามะเฟืองพวกนี้ครั้งแรกตอนไหน?”
ฉินสือโอวตอบ “พวกมันมาที่ฟาร์มปลาช่วงนี้เมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นก็มีเต่าแบบนี้แล้วจากนั้นพวกมันอยู่จนถึงฤดูร้อนถึงได้จากไป”
บาลซักทำเสียงจิ้จ้ะ “ไม่น่าเป็นอย่างนั้น พบได้ในทะเลทุกที่แต่หลักๆ จะกระจายอยู่ที่เขตร้อน แม้จะมีบางครั้งที่พบได้ในเขตอบอุ่นแต่ก็ไม่น่าอยู่นานขนาดนี้”
“อาจจะเป็นเพราะฟาร์มปลาของผมมีเสน่ห์?” ฉินสือโอวตั้งใจพูดเล่น
ระหว่างพูดเบ็ดในมือเขาก็ขยับฉินสือโอวออกแรงดึงขึ้นมาอย่างรวดเร็วครู่หนึ่งก็ยกปลาดุกทะเลตัวอ้วนขึ้นมา
บาลซักสอบถามเกี่ยวกับเต่ามะเฟืองอีกฉินสือโอวตอบอย่ากำกวมลากประเด็นออกจากฟาร์มปลาที่จริงนี่เป็นการเล่นตุกติกเพียงหวังว่าบาลซักจะไม่สงสัยความเกี่ยวข้องระหว่างเต่ามะเฟืองกับฟาร์มปลา
ดอล์ฟที่อยู่ทางหลังโทรศัพท์มาให้เขาไปช่วยหาฝูงเต่ามะเฟืองจะได้เริ่มวิจัยเร็วหน่อย
พวกเขาติดจีพีเอสบอกพิกัดไว้ที่ตัวของเต่ามะเฟืองแต่พิกัดพวกนี้ไม่ค่อยแม่นยำได้แค่ประมาณตำแหน่งเอาเท่านั้นพอเข้าใกล้แล้วก็ต้องอาศัยความสามารถตัวเองในการหา
แนวชายฝั่งของฟาร์มปลาต้าฉินยาวเหลือเกินพวกคณะผู้เชี่ยวชาญหาอยู่พักใหญ่ก็หาเต่ามะเฟืองไม่เจอสักตัวได้แต่ใช้วิธีล่อให้มาติดเบ็ด
ฉินสือโอวไม่ได้เรียกเต่ามะเฟืองขึ้นมา นี่ไม่มีประโยชน์ พวกเขามาหาแล้วตรงกันข้ามยิ่งปิดบังยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกว่าไม่ปกติ
พวกผู้เชี่ยวชาญหาเต่ามะเฟืองไม่เจอได้แต่บอกว่าพวกเขาโชคไม่ดีช่วงนี้แมงกระพรุนที่ฟาร์มปลาเยอะพวกเต่ามะเฟืองเลยออกไปจัดการแมงกะพรุนแล้ว
ฉินสือโอวชื่นชอบพวกเต่ามะเฟืองเพราะพวกมันเป็นคนงานที่ยอดเยี่ยมพวกมันทำอะไรสุดความสามารถโดยไม่ต้องบอก
พวกผู้เชี่ยวชาญก็มีแผนพวกเขารู้ว่าอาหารหลักของเต่าคือพวกปลากุ้งปูหมึกหอยกาบปลาดาวปลิงทะเลสาหร่ายแมงกะพรุนก็เตรียมจะเอามาล่อจับเต่ามะเฟือง
ฉินสือโอวรีบยั้งไว้ส่ายหน้าบอกว่าไม่สามารถจับปลาได้เพราะตอนนี้เป็นช่วงห้ามจับปลา
“ตอนนี้เป็นช่วงห้ามจับปลาเหรอ? ไม่ใช่มั้ง? นี่เพิ่งจะเดือนพฤษภาคมนะ”ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งพูดอย่างประหลาดใจ
ฉินสือโอวอธิบาย “ขอโทษทีพวก นี่เป็นช่วงห้ามจับปลาของฟาร์มเรา ช่วงนี้ไม่สามารถจับปลาได้ ขอโทษด้วย ”
พวกผู้เชี่ยวชาญไม่ทำให้เขาลำบากใจพวกเขาก็พิถีพิถันรีบให้คนไปซื้อปลาหมึกกล้วย ปลาหมึกสายกุ้งและปูตัวเล็กๆ กลับมาแล้วขับโปรยอาหารพวกนี้
เจ้าพวกเต่ามะเฟืองที่เห็นแก่กินติดกับแล้วไม่นานพวกมันก็ปรากฏตัวออกมามีไม่กี่ตัวที่ในปากยังเคี้ยวแมงกะพรุนอยู่เลยดูท่าทางสุขใจมาก
เพราะเต่ามะเฟืองต้องว่ายน้ำระยะไกลพวกมันเลยมีความต้องการพลังงานมากขอเพียงมีโอกาสก็จะกิน
บาลซักอธิบายให้ฉินสือโอวฟัง “สถาบันวิจัยสิ่งมีชีวิตในทะเลของมหาวิทยาลัยดู คิดว่านี่เป็นสาเหตุที่เผ่าพันธุ์ของพวกมันอาจจะสูญพันธุ์ภายในสิบห้าปี เจ้าพักนักกินพวกนี้กินอยู่ตลอดเวลา การมองเห็นของพวกมันแย่มากแยกไม่ออกระหว่างแมงกะพรุนและขยะพลาสติก สุดท้ายก็จะกินผิดไปกินถุงพลาสติกทำให้ลำไส้อุดตันและตาย!”
ทุกคนคิดว่าเจ้าเต่ามะเฟืองจะเซ่อซ่าตามเหยื่อปลอมเข้ามาในกับดักที่พวกผู้เชี่ยวชาญทำไว้ ผลสุดท้ายพวกเต่ามะเฟืองว่ายน้ำมาแล้วก็ไม่ได้กินเหยื่อปลอมพวกนั้นว่ายวนสองรอบแล้วจากไปอย่างสง่างาม…
ถ้ามีตัวเดียวที่เป็นแบบนี้ก็ไม่เป็นไรแต่เต่ามะเฟืองไม่กี่สิบตัวล้วนมาแบบนี้แล้วก็จากไปแบบนี้
พวกผู้เชี่ยวชาญไม่เข้าใจว่าแผนการผิดพลาดตรงไหนแต่พวกเขารู้แล้วว่าใช้เหยื่อปลอมจับเจ้าพวกนี้ไม่ได้เลยรีบพายเรือแคนูออกไปจับ
พวกเต่ามะเฟืองดูทึ่มๆ เซ่อๆ ซ่าๆ ที่จริงแล้วฉลาดมากพวกมันสายตาไม่ดีมองเห็นเรือแคนูที่อยู่ไม่ไกลได้ไม่ชัดแต่ผิวหนังที่เป็นเหมือนเครื่องรับสัญญาณสามารถรับรู้ได้รีบมุดไปในน้ำลึกทันที
พวกผู้เชี่ยวชาญพยายามยกใหญ่ผลสุดท้ายก็ยังจับเต่ามะเฟืองไม่ได้สักตัว
จนตอนที่พวกเขาพายเรือแคนูกลับก็มีเต่ามะเฟืองว่ายลอยอยู่บนผิวน้ำอย่างเชื่องช้า
……………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset