ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 114 งานยุ่งๆก่อนช่วงมรสุม

บทที่ 114 งานยุ่งๆก่อนช่วงมรสุม
โดย
Ink Stone_Fantasy

พอลและคนอื่นๆยิงปืนเล่นไปพร้อมกับแลกเปลี่ยนประสบการณ์การใช้ปืน เวลาบ่ายสองครึ่งเมื่อยิงปืนเล่นจนพอใจแล้วพวกเขาจึงถอดเสื้อผ้าลงไปอาบน้ำในลำธาร กลุ่มชายวัยฉกรรจ์สวมกางเกงชั้นในเล่นกันเสียงดังอยู่ในลำธาร ทำเอาฉินสือโอวถึงกับหัวเราะออกมา
เมื่ออาบน้ำเสร็จ พวกเขาก็ต้องเดินทางกลับแล้ว ฉินสือโอวไม่เห็นว่ามีใครพูดถึงหมูป่าเลยสักคน เขาจึงถามขึ้นมาว่า “พวกนายไม่เอากลับไปด้วยเหรอ?”
พอลหยักไหล่แล้วตอบว่า “เอากลับไปทำไมกันเล่า วางไว้ที่นี่แหละ เดี๋ยววันนี้ก็มีพวกสัตว์ตัวอื่นมาช่วยเราจัดการเอง”
ฉินสือโอวตอบกลับไปว่า “ไม่เอาน่า ทิ้งไว้ก็เสียของเปล่าๆ งั้นฉันเอากลับไปด้วยแล้วกัน”
คนอื่นๆ ก็พากันโบกมือปัดๆ แล้วพูดกับเขาว่า “เอากลับไปเถอะ เอากลับไป แต่นายอย่าให้พวกฉันต้องช่วยลากเจ้านี่…”
ไม่รอให้พวกเขาพูดจบ ฉินสือโอวยื่นเอากระเป๋าที่ใส่อาวุธปืนส่งให้กับนีลเซ็น มือสองข้างของเขาจับหมูป่าไว้แล้วตะโกนออกมาหนึ่งครั้ง เขายกมันขึ้นมาแบกเอาไว้ที่บนไหล่ แล้วก้าวเร็วๆไปตามถนนบนภูเขา
ฉันมองหน้าแก แกมองหน้าฉัน คนทั้งกลุ่มหันมามองหน้ากันแล้วกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ ลุงหนวดที่กำลังอดปืนAK พูดขึ้นว่า “ต่อไปถ้ามีใครพูดกับฉันว่าคนผิวเหลืองร่างกายอ่อนแอ ฉันคงจะต้องเอาปืนAK ยิงปากมันซะ”
วัยรุ่นคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “อาจจะเป็นเพราะฉินเล่นกังฟูเป็นหรือเปล่า? กังฟูจีน!”
คนอื่นๆพยักหน้าเห็นด้วยอย่างนั้น พวกเขาพูดคุยหัวเราะเดินตามมาข้างหลัง
พอดีกับที่คราวนี้เขาเลือกขับรถกระบะมา ฉินสือโอวโยนหมูป่าขึ้นไปวางไว้บนด้านหลังของรถกระบะ แล้วนั่งพิงเพื่อพักผ่อนสักครู่หนึ่ง พอลและคนอื่นๆเดินหายใจหอบแฮกลงมา เขามองฉินสือโอวที่กำลังนั่งพักอยู่ด้วยใบหน้าตกตะลึง แล้วพูดขึ้นว่า “นายก็เหนื่อยเป็นเหรอ?”
ฉินสือโอวหัวเราะพร้อมตอบกลับไปว่า “แน่นอนสิ เพื่อน ฉันก็เป็นคนนะ”
“อ้อ งั้นเหรอ ฉันนึกว่านายเป็นยอดมนุษย์เสียอีก” พอลหัวเราะแซว
ทั้งสองคนแลกช่องทางการติดต่อกัน พอลให้ที่อยู่อีเมลและโทรสารแก่เขา เมื่อถึงเวลาก็ให้เขาเอาใบวีซ่าถาวรของแคนาดาและเอกสารอื่นๆถ่ายส่งไปให้เขาจัดการเรื่องใบคุณสมบัติของสมาชิก จากนั้นพวกเขาก็จับมือกัน แล้วทั้งสองคนจึงแยกย้ายกันไปคนละทาง
ฉินสือโอวกลับไปที่ฟาร์มปลา ส่วนพอลและคนอื่นๆขับรถเข้าเมืองเพื่อไปที่ท่าเรือ จากนั้นค่อยโดยสารเรือเฟอร์รี่กลับนครเซนต์จอห์น
เมื่อกลับถึงฟาร์มปลา ฉินสือโอวเรียกชาร์คและซีมอนสเตอร์ให้มาช่วยจัดการกับหมูป่า แต่กลับหาชาร์คไม่เจอ ซีมอนสเตอร์ที่กำลังซ่อมแซมหลังคาบ้านอยู่ บอกกับเขาว่า “เขาพาเด็กๆไปที่ทะเลสาบเฉินเป่าแล้ว ไปเก็บพวกเห็ดหอมภูเขากันน่ะ”
ฉินสือโอวพยักหน้าตอบว่า “นายโทรหาที่บ้านของชาร์คกับของนายที บอกว่าเย็นวันนี้ให้มากินเลี้ยงหมูทั้งตัวกัน”
ชาร์คหัวเราะออกมา “นอกจากงานเลี้ยงปลาทั้งตัว แล้วยังมีงานเลี้ยงหมูทั้งตัวอีกเหรอครับ?”
ฉินสือโอวลากหมูป่าลงมา หู่จือและเป้าจือวิ่งเข้ามาหา ทั้งวิ่งทั้งกระโดดทั้งส่งเสียงวนอยู่รอบตัวหมูป่า เจ้าฉงต้ามองมาที่หมูป่าอย่างตะลึงงัน มันอาจจะเคยมีความทรงจำเกี่ยวกับเจ้าสิ่งนี้ มันเพียงแต่มองมาจากที่ไกลอย่างกลัวๆ ไม่กล้าเดินเข้ามาใกล้
เมื่อเห็นว่าหมูป่าไม่ขยับตัว มันถึงได้ขยับเข้ามาอย่างช้าๆ ใช้อุ้งเท้าจิ้มๆลงไปก่อน เมื่อรู้ว่าหมูป่าตัวนี้ตายแล้ว มันก็กระตือรือร้นขึ้นมาทันที มันยืนท่าเดียวกับคนพร้อมคำรามออกมา ต่อมา มันก็ใช้ปากของมันงับเข้าที่จมูกของหมูป่าแล้วลากไปทางด้านหลัง ทั้งดึงทั้งฉีกราวกับว่ามีความอาฆาตแค้นกันมาก่อน
“คิดว่าเจ้าหมีตัวนี้อาจจะเคยโดนหมูป่าเอาเปรียบมาก่อนล่ะมั้ง” ฉินสือโอวพูดล้อมัน
ฉินสือโอวใช้มีดหั่นเนื้อหมูออกมาเป็นชิ้นๆ เขาจัดการแยกเครื่องในออกมาไว้ต่างหาก เนื่องจากชาวแคนาดาไม่ทานเครื่องในของสัตว์ ชาวคริสเตียนส่วนใหญ่ล้วนแต่ไม่ทานกัน
เจ้านี่ไม่เหมือนกันกับปลา มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อทางศาสนา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ไปอธิบายให้ชาร์คและคนอื่นๆฟังว่าเจ้าสิ่งนี้มันรสชาติดียังไง
เลือดของหมูป่าคาวมาก ทำทานไม่ได้ หัวและขาของหมูเมื่อสับออกมาแล้วก็เอาไปถลกหนังและกำจัดขน เมื่อจัดการจนสะอาดแล้วก็นำมาหมักไว้กับเครื่องพะโล้ หลังจากนี้จะทำเป็นขาหมูและหัวหมูต้ม
เหลือขาหลังอยู่หนึ่งข้างและขาหน้าอีกสองข้าง ล้วนแต่ถูกจัดการถลกหนังเรียบร้อยแล้ว กระดูกซี่โครงและกระดูกสันหลังนำมาทำเป็นสเต๊ก เนื้อส่วนที่ไม่มีไขมันก็ถูกจัดการแยกออกมา จากนั้นนำมาทาเกลือและตากแดดไว้ข้างนอก แล้วก็เอาไปเก็บไว้ในตู้เย็น อยากทานอีกเมื่อไรก็ค่อยหยิบมาทำอาหารทานอีกที
หลังจากจัดการกับท่อนขาหมูเรียบร้อยแล้ว ฉินสือโอวก็ล้างให้สะอาดแล้วนำไปต้มในหม้อแรงดันสูง ถึงจะบอกว่ากินหมูทั้งตัว แต่ที่จริงแล้วเขาคิดไว้ว่าจะทำหมูย่างและหม้อไฟเนื้อหมู ที่เกาะแฟร์เวลแห่งนี้น่าจะไม่มีให้ทาน
ตุ๋นขาหมูไว้ในหม้อแรงดันสูงได้ประมาณหนึ่งชั่วโมง ฉินสือโอวเติมน้ำเพิ่มไปแล้วสองครั้ง ตอนนี้ซุปที่อยู่ข้างในถูกทำให้เป็นสีขาวหมดแล้วทุกครั้งที่เปิดหม้อก็จะมีกลิ่นหอมเข้มข้นของเนื้อพรั่งพรูออกมา หอมจนทำให้หู่จือ เป้าจือ และฉงต้าอยากจะกินบ้าง
กระรอกน้อยเสี่ยวหมิงไม่ชอบกลิ่นนี้ มันวิ่งมาเอาราสเบอร์รี แล้วจึงวิ่งกลับไปขึ้นต้นไม้
ตอนที่ต้มน้ำเป็นครั้งที่สาม ฉินสือโอวเตรียมหอม กระเทียม ขิงและเครื่องเทศชนิดต่างๆอย่าง โป้ยกัก หุยเซียง โกวชี พุทราแดง และพริกไทยใส่ลงไปในหม้อ
ชาร์คเดินเข้ามาในครัว เข้าสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วถามขึ้นมาว่า “กลิ่นหอมจริงๆ นี่คืออะไรเหรอ?”
“เนื้อหมูป่า”ฉินสือโอวยิ้มแล้วตอบกลับไป
ชาร์คเบิ่งตาโตแล้วพูดกับเขาว่า “บอส คุณมีฝีมือจริงๆ เนื้อหมูป่าก็ตุ๋นให้หอมได้ขนาดนี้เลยเหรอ”
พาวลิส เชอร์ลี่ย์คนสี่คนเดินเข้ามาทักทายเขา “ฮาย ฉิน ดูสิ พวกเราเก็บเห็ดมาได้เยอะเลย”
ฉินสือโอวลองมองดู ในมือของทุกคนต่างก็ถือตะกร้าอยู่ ในนั้นเต็มไปด้วยเห็ดหอมภูเขาจำนวนมาก อีกอย่างที่มีเยอะเหมือนกันก็คือเห็ดน้ำหมากและเห็ดถั่ว นอกจากนี้ก็ยังมีเห็ดโคนต้นลี่อีกนิดหน่อย อันหลังรสชาติสดอร่อยมาก แต่หน้าตาออกจะประหลาดไปหน่อย…
เชอร์ลี่ย์ยกถุงขึ้นมาราวกับเป็นของมีค่า แล้วพูดขึ้นว่า “ดูสิ ว่าพวกเรายังเจออะไรอีก”
“ว้าว เห็ดหัวลิง ทำไมเยอะขนาดนี้ล่ะ?” ฉินสือโอวแสร้งถามด้วยท่าทางราวกับว่าเขาแปลกใจมาก
ที่แคนาดาจะเรียกเห็ดหัวลิงว่าเห็ดแผงคอสิงโต ลักษณะเปลี่ยนไปนิดหน่อย ดูคล้ายกับขนสิงโตนิดๆ แต่ก็ยังนับว่าเป็นเห็ดหัวลิงอยู่
เมื่อเห็นท่าทางแปลกใจของฉินสือโอว เชอร์ลี่ย์ก็หัวเราะออกมา แล้วพูดอีกว่า “บนเกาะเล็กๆมีต้นบีชกับต้นโอ๊คมองโกเลียที่ใบร่วงหมดต้น พวกเลยเราเจอเจ้าพวกนี้ รสชาติมันอร่อย ใช่ไหมคะ?”
ฉินสือโอวพยักหน้า เขาตอบว่า “ใช่แล้ว พวกหนูหามาได้พอเหมาะดีเลย เจ้าพวกนี้ถ้าใส่ลงไปตุ๋นในหม้อสักหน่อย ก็จะได้รสชาติที่อร่อยสุดๆไปเลย”
เห็ดหัวลิงต้มทานเดี่ยวๆไม่ค่อยอร่อยเท่าไรนัก ต้องนำมาอบกับน้ำมันพืชสักนิดหน่อย อีกทั้งน้ำซุปของขาหมูป่าต้มยังมีน้ำมันค่อนข้างมาก ถ้าเอามาต้มรวมกันกับเห็ดหัวลิง ก็จะเข้ากันได้อย่างดี
และแล้วก็มาถึงช่วงเวลาค่ำคืน งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นภายในห้องรับแขกของบ้าน อากาศข้างนอกเริ่มจะไม่ดีสักเท่าไรแล้ว ลมแรงพัดเอาคลื่นทะเลขึ้นมากระทบฝั่งอย่างต่อเนื่อง ท้องฟ้ามืดครึ้มอึมครึม ถึงแม้จะไม่มีฝนตก แต่คาดว่าอีกไม่นานก็คงมีปรอยฝนรินลงมา
ฉินสือโอวเตรียมยกเอาหม้อหุงข้าวไฟฟ้าหม้อใหญ่ขึ้นมาไว้บนโต๊ะ เทซุปขาหมูตุ๋นลงที่ต้มเสร็จแล้วลงไป ซุปหม้อนี้เติมแป้งข้าวโพดลงไปด้วยนิดหน่อย ทั้งข้นทั้งหอม ดูคล้ายกันกับครีม คาดว่าแม้กระทั่งไขกระดูกก็คงถูกตุ๋นออกมาด้วย
เนื้อหมูของก่อนหน้านั้นก็ถูกหั่นออกเป็นแผ่น ฉินสือโอวเอาเห็ดหอมภูเขาที่เพิ่งเก็บมา รวมทั้งผักทุกชนิดที่ซื้อมาออกมาด้วย เขาแนะนำทุกๆคนว่าต้องปรุงน้ำจิ้มสำหรับหม้อไฟอย่างไร จากนั้นจึงเริ่มใส่เนื้อลงไปต้ม
ชาร์คย่างเนื้ออยู่ข้างนอก ซี่โครงหมูที่ถูกตัดเป็นชิ้นๆถูกย่างจนเหลืองกรอบ ไขมันกระเด็นออกมาข้างนอกไม่หยุด เนื้อย่างจิ้มทานกับยี่หร่าและเกลือก็ได้รสชาติกำลังพอดี
ระหว่างที่กำลังทานหม้อไฟกันอยู่ ทุกคนต่างก็ทยอยกันพยักหน้า โดยเฉพาะลูกๆของชาร์คที่กินได้เต็มปากเต็มคำจนน้ำมันหยดออกมา ตอนนี้ฉินสือโอวเริ่มมีอิทธิพลต่อการใช้ตะเกียบของชาร์คและซีมอนสเตอร์แล้ว อีกทั้งยังเป็นขนาดใหญ่อีก แถมยังใช้ได้คล่องแคล่วอีกด้วย แบบนี้เป็นประโยชน์กับการกินหม้อไฟ ถ้าใช้มีดและส้อมกินสิ่งนี้จะทำให้เปลืองแรงมากกว่า
พวกเขากินไปด้วย คุยกันเรื่องงานในฟาร์มปลาไปด้วย ชาร์คเคี้ยวเนื้อไปพร้อมๆกับพูดขึ้นว่า “บอส ถ้าอีกสองวันมีฝนตก งั้นเราก็รอให้ลมเบาลงหน่อยแล้วกัน พวกเรายังต้องไปพวกซื้อปูก้ามดาบกับปูเสฉวนสักหนึ่งล็อต”
“คราวนี้เป็นปูเสฉวนที่เกิดจากบนบก สิ่งสำคัญคือต้องจัดการชำระสิ่งสกปรกในน้ำบริเวณริมชายฝั่งทะเล ส่วนปูก้ามดาบเป็นปูที่เกิดในทะเล ไม่ค่อยชอบขึ้นมาใกล้น้ำตรงริมชายฝั่ง ต้องดูแลแยกกัน”
“นอกจากนี้ ตอนนี้ก็เดือนหกแล้ว อีกไม่เกินครึ่งเดือนพวกเราก็สามารถจับปลาในอวนขึ้นมาลองดูสภาพการณ์เจริญเติบโตของลูกพันธุ์ปลาได้แล้ว เหมือนว่าลูกพันธุ์ปลาล็อตนี้จะดีมากเลยทีเดียว โตเร็วมากๆ ก่อนหน้านี้ผมจับตกปลาค็อดขนาดสี่สิบเซนติเมตรได้ตัวหนึ่ง นี่ถือเป็นเรื่องดีเลยล่ะ”
ฉินสือโอวฉีกเอาเนื้อเป็นเส้นๆที่ย่างเกือบจะสุกออกเพื่อป้อนเป็นอาหารให้แก่หู่จือ เป้าจือ และฉงต้า เขาส่ายหัวแล้วตอบชาร์คไปว่า “นั่นไม่จำเป็นหรอก ปีนี้ได้ปลามามากแล้ว ฉันนับจำนวนดูแล้ว ปล่อยให้พวกมันโตของมันเองเถอะ พอถึงเดือนเก้าค่อยจับขึ้นมาอีกทีก็ยังทัน”
………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset